ตอนที่แล้วตอนที่ 272 ล้านคมดาบ (FREE)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 274 โลกที่เต็มไปด้วยการลอบโจมตี (FREE)

ตอนที่ 273 ท้าทาย หนานกง เฮา (FREE)


เจ้าหน้าที่ทุกคนมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความไม่เชื่อ

หนานกง มู่ นั้นอยู่ขั้นสูงสุดในระดับสะท้อนสวรรค์ วิชาของเขาก็อยู่ในระดับเดียวกับวิชาล้านคมดาบยิ่งไปกว่านั้นอาวุธของเขาก็เข้ากับวิชามากที่สุด ในทางตรงข้าม ฟาง เจิ้งจือ ไม่มีอะไรเลย

...

ท้ายที่สุด หนานกง มู่ นั้นราวกับโดนโกง

ฟาง เจิ้งจือ เพิ่งเข้าสู่ระดับสะท้อนสวรรค์ 6 เดือนที่แล้วแต่กลับมีพลังมากกว่า หนานกง มู่ แล้วในตอนนี้ มันเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก

ราชาต้วนกำมือแน่น ความสามารถของ ฟาง เจิ้งจือ นั้นน่าตกใจมาก ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปเขาอาจจะต้อง...

ราชาต้วนนึกถึงคำพูดของ ฉือ กูเหยียน ที่ศาลาเต๋าสวรรค์

ถ้า ฟาง เจิ้งจือ จัดการ ฉือ กูเหยียน ลงได้จริงๆละ?

แล้วความเกลียดชังที่เขามีกับ ฟาง เจิ้งจือ ละ ...

"ไม่ มันไม่มีทางเกิดขึ้น!"

เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างกังวลเรื่องเดียวกันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่หมู่บ้านภูเขาทางเหนือยังคงติดอยู่ในใจพวกเขา พวกเขาเองก็จำคำพูดของ ยู่ ยี่ปิง ได้ เขาเป็นคนที่ไม่ฟังใคร ถ้าเขายังคงก้าวหน้าต่อไป แล้วสภาจะเป็นยังไงในอนาคต?

ปิง หยาง ไม่ห่วงเรื่องสภา

นางสงสัยมากว่า ฟาง เจิ้งจือ เรียนวิชานี้ได้ยังไง มันเป็นวิชาลับสุดยอดของกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์ หรือพี่เหยียนได้สอนเขาไปจริง?

คนเดียวที่ไม่แปลกใจคือ เหยียน ซิว

เพราะตอนทดสอบที่เมืองแม่น้ำแห่งความสัตย์เขาเคยตกใจมาแล้ว อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาไม่ได้รู้สึกแปลกใจเลย วิชาล้านคนดาบ?

ถึงแม้วิชาเงาสายลมและวิชาดาบของอาซูร่า จะไม่ทรงพลังเท่า แต่มีใครกันจะสามารถเข้าใจวิชาเหล่านี้จากการมองเพียงไม่กี่ครั้ง

ซิง ฉิงซุย เป็นอีกคนที่ยังคงนิ่งสงบทั้งหมดที่เขาคิดคือการต่อสู้ ยิ่งฝ่ายสงครามแข็งแกร่งมากเท่าไร จิตวิญญานแห่งการต่อสู้ยิ่งทรงพลังมากเท่านั้น

...

บนเวที

เขารู้สึกราวกับสูญเสียบางอย่างไป แต่เขาไม่อยากจะยอมรับมัน

เขาไม่สามารถหยุดอยู่ที่นี่ได้ เขาต้องก้าวไปข้างหน้า เขาต้องเอาชนะ หนานกง เฮา

เมื่อ 4 ปีก่อน หนานกง เฮ่า นั้นเป็นที่ 1 ของการทดสอบระดับสภา

เมื่อสองปีก่อนเขามีโอกาสเข้าร่วม แต่ครั้งนั้น ฉือ กูเหยียน ก็อยู่ด้วย ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมแพ้

หนานกง มู่อยู่ในขั้นสูงสุดของระดับสะท้อนสวรรค์ รวมกับวิชาลับเขียวฟ้า อันดับหนึ่งนั้นอยู่ไม่ไกล

ยังไงก็ตาม ...

เขาได้พบกับ ฟาง เจิ้งจือ

โชคชะตาได้กำหนดให้ชายคนนี้มาเจอกับเขา

"ข้าจะแพ้ไม่ได้!" หนานกง มู่ ก้าวไปข้างหน้าอย่างแน่วแน่ ออร่าอันทรงพลังถูกปล่อยออกมาจากร่างกายเขา

การแสดงออกของ หนานกง มู่ ดุร้ายและโหดร้าย

"ทำไมเจ้าถึงไม่สามารถแพ้ได้?" ฟาง เจิ้งจือ เมินความโหดเหี้ยมบนใบหน้าของ หนานกง มู่

หนานกง มู่ ไม่ได้พูดว่า เขาไม่ต้องการจะแพ้ หรือเขาจะแพ้ไม่ได้ แต่เขาพูดว่าเขาไม่สามารถแพ้ได้!

"ไม่ใช่ธุระอะไรของเจ้า!"

"เราไม่ใช่เพื่อนกันหรอกหรือ?"

"เพื่อน?! ข้าไม่มีเพื่อน! "

"แล้วทำไมเจ้าถึงพูดแทนข้าที่โถงบัลลังก์กันละ?"

"เพื่อตอบแทน! ที่เจ้าช่วยชีวิตข้า! "

"เข้าใจแล้ว แต่เจ้าควรจะตอบแทนมากกว่าสิ่งที่เจ้าได้รับแม้เจ้าจะพูดแทนข้า แต่ก็ไม่ใช่เพราะจะช่วยข้าใช่ไหม? " ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า

"เจ้าต้องการอะไร?" หนานกง มู่ ตะลึง

"บอกมาว่าทำไมเจ้าถึงแพ้ไม่ได้ แล้วข้าจะถือว่าเราไม่ติดค้างกัน" ฟาง เจิ้งจือ ตอบกลับ

"ทำไมเจ้าถึงอยากรู้คำตอบ?"

"ถ้าบอกว่าแค่สงสัย เจ้าจะเชื่อข้าไหม?"

"เอาละๆ เป็นเพาะข้าต้องการเป็นอันดับหนึ่งในการทดสอบระดับจักรพรรดิ"

"ทำไมกัน?" ฟาง เจิ้งจือ ถามอีกครั้ง แม้เขาจะไม่ได้ใกล้ชิด หนานกง มู่ มากนัก แต่เขาก็ไม่คิดว่า หนานกง มู่ จะเป็นคนที่ไขว่คว้าอะไรแบบนั้น

"เพราะข้าไม่สามารถแพ้คนคนหนึ่งได้"

"ใคร?"

"พี่ชายของข้า!" หนานกง มู่ ดูอึกอักเล็กน้อย

"พี่ชายของเจ้า? เขาคือใครรึ? เขาเก่งมากไหม?"ฟาง เจิ้งจือ ถามขึ้นมา เขาไม่รู้ว่าพี่ชายของหนานกง มู่ คือใคร เขาพึ่งออกมาจากภูเขาคังหลิงเมื่อ 4 ปีก่อน

ชาวบ้านไม่มีใครพูดถึงเรื่องพวกนี้

สิ่งเดียวที่พวกเขาสนใจจริงๆคือเรื่องที่มีผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตของพวกเขา ตัวอย่างเช่นพวกเขากังวลเกี่ยวกับราคาเนื้อสัตว์ในเมืองฮวายอัน

อย่างมากสุดก็พูดคุยเกียวกับนโยบายใหม่ๆของกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์

สำหรับ ฟาง เจิ้งจือ นอกจากพยายามให้ ฉือ กูเหยียน มาเป็นคนใช้ แล้วเขาก็ไม่สนใจเรื่องใดๆอีก

"เจ้าไม่รู้ว่าพี่ข้าเป็นใคร?" หนานกง มู่ ประหลาดใจ

"ข้าควรจะรู้จักงั้นรึ?" ฟาง เจิ้งจือ สงสัย

"เจ้าไม่รู้จริงๆ?"

"ใช่"

"เอาล่ะ พี่ชายของข้าคือ หนานกง เฮา!"

"โอ๊ะ?"

"เจ้าไม่ตกใจงั้นรึ?"

"ทำไมข้าต้องตกใจละ?"

"พี่ชายของข้าคือ หนานกง เฮา! ทุกคนในอาณาจักรต่างรู้จักเขา! "

"แต่ข้าไม่รู้จักจริงๆ ข้าไม่เห็นคุ้นตรงไหนนี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้ยินชื่อนี้ด้วยซ้ำ แต่ข้าได้ยินชื่อเจ้าบ่อยอยู่นะ! เจ้าไม่เห็นด้วยงั้นรึ? ฮ่า ๆ ..." ฟาง เจิ้งจือ ล้อเล่น

เจ้าหน้าที่มองไปด้วยความสงสัยเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของ ฟาง เจิ้งจือ

พวกเขาสามารถบอกได้ว่า ฟาง เจิ้งจือ เยาะเย้ย หนานกง เฮา

ใครคือ หนานกง เฮา?

หนานกง เฮา เป็นความภาคภูมิใจของตระกูลหนานกง

ยิ่งไปกว่านั้น…

เขาเป็นพี่ชายของ หนานกง มู่!

ฟาง เจิ้งจือ จะไม่รู้จัก หนานกง เฮา ได้ยังไง? มันเหมือนกับเป็นการบอกว่า เขาไม่เคารพ หนานกง มู่ และตระกูลหนานกง?

ทุกคนคิดว่า หนานกง มู่ ต้องโกรธมาก

อย่างไรก็ตามในความเป็นจริง ...

เมื่อหนานกง มู่ ได้ยิน เขากลับยืนนิ่งอยู่กับที่

"นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้ยินชื่อนี้ด้วยซ้ำ แต่ข้าได้ยินชื่อเจ้าบ่อยอยู่นะ!"

"ได้ยินบ่อย!"

คำพูดนี้ดังขึ้นในหัวของ หนานกง มู่ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาไม่รู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ พูดจริงหรือเปล่า แต่มั่นเป็นครั้งแรกที่มีคนพูดว่ารู้จักแต่ หนานกง มู่ ไม่รู้จัก หนานกง เฮา

มันจะเป็นไปได้ยังไง?!

หนานกง มู่ จับดาบทั้งคู่แน่น มันเป็นปฏิกริยาทางอารมณ์ที่ไม่ถูกกระตุ้นมานานหลายปี

ไม่นาน ท่าทีของ หนานกง มู่ ก็กลับมาเป็นปกติ

ความโหดร้ายหายไปจากใบหน้าของเขา ถูกแทนที่ด้วยความสงบที่คุ้นเคย

"เจ้าพูดให้ข้าถูกใจ?" หนานกง มู่ จ้องไปที่ ฟาง เจิ้งจือ

"แน่นอน!" ฟาง เจิงจือ พยัก

"เจ้าทำแบบนี้ทำไม?"

" ข้าพึ่งบอกเอง พวกเราเป็นเพื่อนกันไง"

"เพื่อน? ใช่ ... พวกเราเป็นเพื่อนกันจริงๆ! " หนานกง มู่ พึมพัมกับตัวเองจากนั้นมือที่กำดาบแน่นก็ค่อยๆคลายลง "ในฐานะเพื่อน ข้าต้องการให้เจาจัดการ หนานกง เฮา ให้ได้!"

"ได้ อย่าให้ข้าเจอเขานะ ข้าจะตบหัวเขา ข้าจะทำให้แม้แต่แม่ของเขาก็จำข้าได้!"   ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า จากนั้นก็พบว่ามีบางอย่างแปลกๆ

หนานกง เฮา ไม่ใช่พี่ชายของ หนานกง มู่ งั้นรึ? ทำไม หนานกง มู่ ถึงอยากจะให้ หนานกง เฮ่า ถูจัดการกัน?

ในขณะที่เขากำลังจะถาม หนานกง มู่ ก็เดินออกไปจากเวทีแล้ว

"ขอขอบคุณ! ข้าแพ้แล้ว! " ดวงตาของ หนานกง มู่ นิ่งสงบ ราวกับภาระอันหนักอึ้งได้ถูกปลดลงจากบ่า

"โอ้...? เจ้าไม่ได้พึ่งพูดว่าเจ้าไม่สามารถแพ้ได้งั้นรึ? " ฟาง เจิ้งจือ มองไปอย่างสงสัย

"ข้าแพ้แล้ว!" หนานกง มู่ มองไปยังทิศที่ตั้งของตระกูลหนานกง เขาพึ่งเดินทางออกจากที่นั่นไม่นานมานี้

ในเวลานั้นเขามีเป้าหมายเพียงอย่างเดียวเท่านั้นคือเอาชนะทุกคนและยืนอยู่บนจุดสูงสุด

แต่ตอนนี้ เขาไม่รู้สึกเสียใจที่ตัดสินใจยอมแพ้

"เจ้าสามารถแพ้ได้แล้วงั้นรึ?" ฟาง เจิ้งจือ ไม่เข้าใจว่า หนานกง มู่ หมายถึงอะไร

เจ้าหน้าที่ทุกคนก็สับสนในสิ่งที่เกิดขึ้น  เกิดอะไรขึ้นกัน? ทำไม หนานกง มู่ ถึงยอมแพ้อย่างทันที? ฟาง เจิ้งจือ ทำอะไรกับเขา?

มันดูเหมือน ...

เดี๋ยวนะ ฟาง เจิ้งจือ พูดว่า เขาจะจัดการ หนานกง เฮา!

"ข้าได้ยินไม่ผิดใช่ไหม? ฟาง เจิ้งจือ ท้าทาย หนานกง เฮา อย่างเปิดเผย? "

"ข้าก็คิดอย่างนั้น เขาพูดว่าจะตบหัว หนานกง เฮา ด้วย? "

"อวดดีจริงๆ! แต่ ... เขาคิดอะไรอยู่? หนานกง เฮา จากตระกูลหนานกง  เขาหาญกล้าเกินไปไหม? "

เจ้าหน้าที่ทุกคนจ้องเขม็งไปที่ ฟาง เจิ้งจือ  พวกเขาไม่สามารถเดาได้ว่า ฟาง เจิ้งจือ กำลังคิดอะไรอยู่

เขาท้าทาย หนานกง เฮา? ต่อหน้าองค์จักรพรรดิ "เจ้าไร้ยางอายนี่ ดูเหมือนนับวันจะหาญกล้ามากยิ่งขึ้น! " ปิง หยาง พึมพัมอย่างตื่นเต้น

"ท้าทาย หนานกง เฮา?" ซิง ฉิงซุย มองไปที่ เหยียน ซิว  เหยียน ซิว ไม่แปลกใจกับคำพูดของ ฟาง เจิ้งจือ

ท่าทีของราชาต้วนกลายเป็นสดใสทันที "ชาวบ้านที่ไม่รูจักที่ต่ำที่สูง! ข้าคิดว่า หนานกง เฮา ต้องเข้าร่วมการทดสอบระดับสภาแน่นอน"

ทุกคนนั้นมีแนวคิดเป็นของตัวเองว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตาม องค์จักรพรรดิไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมาเลย ในฐานะจักรพรรดิเขาไม่จำเป็นต้องเดาว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น

ทั้งหมดที่เขาต้องทำคือการสังเกตการพัฒนาและรอผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น

...

หลังจาก ฟาง เจิ้งจือ ชนะ ตะกร้าฉลากรอบรองชนะเลิศก็ถูกยกขึ้นมา

ฟาง เจิ้งจือ นั้นโชคดีเจอกับคู่แข่งขันที่ได้รับบาดเจ็บหนัก

เหยียน ซิว เจอกับ ซิง ฉิงซุย

เหยียน ซิว ไม่ใช่คนพูดมาก ซิง ฉิงซุย เองก็เช่นกัน หารต่อสู้เริ่มขึ้นทันที

ซิง ฉิงซุย เข้าโจมตีก่อน ไม่น่าแปลกใจเลยแม้แต่น้อย เพราะกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์นั้นมั่นใจในการโจมตี โจมตีและโจมตี ...

เหยียน ซิว ก็พุ่งเข้าไปเช่นกัน

มันเป็นการต่อสู้ด้วยการโจมตี

เป็นการต่อสู้ที่เข้มข้นและน่าตื้นเต้น ห่างไกลจากการต่อสู้ของ ฟาง เจิ้งจือ ลิบลับ

หลังจาก 5 นาทีของการต่อสู้อันเข้มข้น ทั้งสองฝ่ายก็เริ่มช้าลง

เหยียน ซิว ยังคงเยือกเย็นเช่นเคย

ซิง ฉิงซุย หน้าซีด รอยเลือดไหลออกมาผ่านเสื้อสีดำของเขา

"ดูเหมือนว่า ซิง ฉิงซุย นั้นยังไม่หายดี!"

"เขากระดูกหักและดูทรมารจากการบาดเจ็บอย่างหนัก ข้าคิดว่าเขาคงไม่ฟื้นตัวได้เต็มที่ภายใน 6 เดือนแน่นอน"

"ใช่ ซิง ฉิงซุย บาดเจ็บอย่างรุนแรงตอนที่อยู่ในโลกแห่งเซียน น่าเหลือเชื่อที่เขารอดชีวิต ข้าคิดว่าการต่อสู้ใกล้จะจบแล้ว "

"ใช่ๆ นอกจากนั้น ข้าไม่คิดว่า เหยียน ซิว จะแข็งแกร่งกว่า ซิง ฉิงซุย สมแล้วที่เขาเป็นอัจฉริยะ!"

เจ้าหน้าที่ทุกคนกำลังถกเถียงกันเกี่วกับการต่อสู้

ฟาง เจิ้งจือ เชียร์ เหยียน ซิว อยู่ล่างเวที เขาสร้างความเดือดดาลให้ผู้คนรอบๆอย่างต่อเนื่อง

"เขาเป็นผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดในการทดสอบด้านปัญญาจริงๆงั้นรึ?"

"คนแบบนี้เนี่ยนะ ทำข้อสอบได้ทั้งหมด?"

"คนอย่าง เหยียน ซิว ไม่น่ามีเพื่อนแบบนี้เลย!"

ผู้ชมหลายคนดูถูก ฟาง เจิ้งจือ

มีแค่ ปิง หยาง ที่ไม่รู้สึกทึ่งกับสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ ทำ นางได้แต่สวดมนต์ในใจ "ใจเย็น อย่าโกรธ อย่าโกรธ ... ใจเย็น!"

...

การต่อสู้บนเวทีนั้นเกือบจะดุเดือดถึงขีดสุด

จนถึงตอนนี้ เหยียน ซิว และ ซิง ฉิงซุย ยังไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว

ซิง ฉิงซุย ถือดาบสีดำไว้ในมือ จิตวิญญานแห่งการต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เหยียน ซิว ยืนอยู่กับที่ พัดของเขาส่อแสงออกมาท่ามกลางแงอาทิตย์

"สู้!" ซิง ฉิงซุย พึมพัมกับตัวเอง  เขาแทงดาบไปข้างหน้า จิตวิญญานแห่งการต่อสู้ ตอนนี้คมยิ่งกว่าดาบ

อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขาพุ่งเข้าไป เหยียน ซิว ได้หายไปแล้ว

เขาหายไปจากที่ที่เขายืนอยู่

ในความเป็นจริงทั้งโลกดูเหมือนจะหายไป มันถูกแทนที่ด้วยแสงสีขาว ไม่มีสีอื่น

ผู้ชมรอบๆรู้สึกราวกับดวงตาของพวกเขาถูกทิ่มแทงด้วยแสงสีขาว ทุกคนสาปแช่งและสบถในหัวใจของพวกเขา

"พวเราโดนแบบนี้มา 2 ครั้งแล้วใน 1 วัน? พวกเขาไม่ทำแบบนี้ไม่ได้หรือไงกัน?! มัน...ไม่ใช่วิชาของเจ้าสารเลวฟาง เจิ้งจือ งั้นรึ?

เพจหลัก : Double gate TH

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด