ตอนที่ 417 ลำบาก

เพื่ออธิบายโล่ทมิฬด้วยรูปแบบพลังงาของคุณฟู่ มันคือทักษะที่สามารถเปลี่ยนรูปแบบได้  หลิน ฮวงสามารถเปลี่ยนมันเป็นรูปแบบใดก็ได้ที่เขาต้องการ แต่พลังป้องกันมันจะขึ้นอยู่กับพลังชีวิตเขา โดยปกติ เขาจะเปลี่ยนมันเป็นครึ่งวงกลมเพราะนอกจากจะป้องกันการโจมตีได้แล้ว มันยังใช้พลังชีวิตแค่ครึ่งหนึ่งแทนที่จะเป็นเต็มวงกลม ในการต่อสู้จริง มันมักจะชนะ

อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้าปีกเทพประกายก็สังเกตเห็นคุณสมบัติของโล่ทมิฬ และมันก็พุ่งผ่านโล่ไปเพื่อพยายามโจมตีจากด้านหลังเขา สิ่งที่มันไม่รู้คือแม้มันจะรวดเร็ว มันก็อยู่ในอาณาเขตเขา การเคลื่อนไหวของเธอถูกหลิน ฮวงมองเห็นอย่างชัดเจนเนื่องจากเขตแดนระวังภัย เมื่อเธอพุ่งผ่านโล่ หลิน ฮวงและแลนเซล็อตก็โจมตีพร้อมกัน ดาบสมบัติเกรด5 พิฆาตมังกรฟันออกไปพร้อมกับดาบดำของเซียนดาบไร้ปราณี

เขตแดนระวังภัยของหลิน ฮวงพัฒนามาจากเมล็ดพันธ์ชีวิตของเซียนดาบไร้ปราณี มันคล้ายกับอาณาเขตแดงความตายที่มันสามารถโจมตีได้ในทุกทิศทางจากที่ยืนอยู่ หลิน ฮวงมีโอกาสใช้ทักษะนี้แค่เล็กน้อยเพราะเขามักใช้ปืนโจมตีจากระยะไกล ยิ่งไปกว่านั้น มันยังมีข้อบกพร่องในเขตแดนระวังภัยซึ่งมีขนาดเล็กกว่า มันเพียงครอบคลุมรัศมี100เมตรเท่านั้น โดยการใช้ปืน เขาสามารถโจมตีไกลได้เป็นพันๆเมตร เมื่อศัตรูเขาเข้าใกล้ จากนั้นเขาก็จะเปลี่ยนอาวุธเป็นดาบแม้มะนจะแปลกสำหรับเขาที่ต้องรอให้ศัตรูเข้ามาใกล้รัศมี100เมตรก่อนก็ตาม

อย่างไรก็ตาม การใช้เขตแดนระวังภัยคือวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้ ด้วยความที่ปีกเทพประกายนั้นรวดเร็ว มันจึงยากที่จะเล็งยิงให้โดน การใช้เขตแดนระวังภัยเพื่อโจมตีจากที่เขาอยู่ มันคือวิธีที่ได้ผลที่สุด ปีกเทพประกายไม่รู้ว่ามันเพิ่งจะขุดหลุมฝังตัวเอง อย่างไรก็ตาม มันก็สัมผัสได้ถึงอันตรายเมื่อมาถึงด้านหลังทั้งคู่ มันรีบถอยหนีทันที แต่ก็สายเกินไป

ดาบสีทองตัดผ่านเอวมัน ทิ้งรอยดาบลึก10เซนติเมตรไว้บนหน้าท้อง ดาบดำอีกเล่มมุ่งไปที่หัวมัน แต่ทว่า มันกลับทิ้งรอยลึกบนหน้าผากไว้ได้เพียง5มิลลิเมตร เห็นได้ชัดว่าความสามารถโจมตีของหลิน ฮวงนั้นเหนือกว่าแลนเซล็อตในระดับเดียวกัน ตอนนี้เขาเชี่ยวชาญโดมดาราแล้ว ทุกการแกว่งดาบของเขาจะเทียบได้กับเพลิงขาว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเสริมสายฟ้าทะลวงเข้าไปในทุกการโจมตีเพื่อป้องกันความผิดพลาด ปีกเทพประกายมีพลังป้องกันที่อ่อนแอ และมันจะตายหากไม่อาจหลบการโจมตีนี้ได้

ในขณะเดียวกัน แลนเซล็อตเป็นเพียงทองสมบูรณ์ซึ่งสามารถคุกคามปีกเทพประกายได้เพียงเล็กน้อย หากมันสู้กับมอนสเตอร์ที่มีพลังป้องกันสูงอย่างไทแรนด์ โดยไม่ใช้ชีวิตสัมบูรณ์ แลนเซล็อตคงไม่อาจชนะได้ แต่ทว่า เขาก็ไม่ได้ตื่นเต้นกับการโจมตีเพราะเขาเคยอ่านเกี่ยวกับปีกเทพประกายในสารานุกรมมอนสเตอร์มา บาดแผลลึก10เซนติเมตรบนหน้าท้องปีกเทพประกายกลับหายไปภายในไม่กี่วินาที

มันคือพลังฟื้นฟูของปีกเทพประกาย ด้วยความที่ตัวมันเป็นพลังงานครึ่หนึ่ง มันจึงสามารถรักษาบาดแผลใดๆก็ตามบนร่างกายได้ ตราบเท่าที่มีแสงเพียงพอ มันก็แทบจะเป็นอมตะ แม้ว่าการต่อสู้จะอยู่ในที่มืด ทางเดียวที่จะฆ่ามันได้ก็คือการสูบกลืนพลังงานทั้งหมดในร่าง

“รัศมี100เมตรนั้นเล็กเกินไป...”หลิน ฮวงคิดกับตัวเอง มันใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีสำหรับปีกเทพประกายที่จะออกจากขอบเขตเขา เขาจ้องปีกเทพประกายที่ลอยอยู่ในอากาศเขม็ง หลิน ฮวงกำลังจ้องมองปีกมันพลางคิดถึงทฤษฏีที่เคยอ่านในเครือข่าย

ในขณะเดียวกัน ปีกเทพประกายที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยเมตรก็จับตามองหลิน ฮวงเช่นกัน มันรู้ว่าชายตรงหน้าแข็งแกร่งกว่าคนชุดเกราะดำที่ยืนข้างๆ หากมันไม่อาจหลบการโจมตีเมื่อสักครู่ได้ มันคงตายไปแล้ว แม้มันจะสามารถรักษาตัวเองได้ บาดแผลบนเอวก็ยังให้ความรู้สึกเจ็บปวดอยู่

“เธอไม่กล้าเข้ามาใกล้.....”หลิน ฮวงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ดูเหมือนว่ามอนสเตอร์กลายพันธ์สองครั้งจะไม่มีตัวไหนโง่เลย เนื่องจากเธอเพิ่งตกหลุมพลางเขา มันคงไม่ยอมที่จะตกหลุมพลางเป็นครั้งที่สอง หากเธอยังอยู่ไกลจากเขา มันก็เป็นการยากสำหรับหลิน ฮวงที่จะฆ่าเธอ การโจมตีระยะไกลอย่างเดียวของเขาคือปืน แต่แม้ปีกเทพประกายจะช้ากว่ากระสุน กระสุนปืนก็ยังยากจะทำอันตรายตัวเธอ

สำหรับแลนเซล็อต แม้ชีวิตสัมบูรณ์จะทรงพลัง มันก็เป็นการโจมตีแบบเส้นตรง และทำได้เพียงครั้งเดียว ด้วยความเร็วของปีกเทพประกายที่เหนือกว่าแลนเซล็อต ความเป็นไปได้ที่จะโจมตีโดนเธอจึงเป็น0

“เธออาจหลบหนีไปหากฉันอัญเชิญปีศาจระดับเพลิงฟ้าออกมา”หลิน ฮวงกำลังวางแผนในหัวเขา ตามสารานุกรมมอนสเตอร์ ปีกเทพประกายเป็นมอนสเตอร์ที่ตื่นกลัวและจะหลบหนีหากไม่มั่นใจ หากเธอสามารถหลบหนีไปได้ มันคงยากที่จะตามพบเจอ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมหลิน ฮวงจึงไม่อัญเชิญพวกปีศาจออกมา ปีกเทพประกายอาจหลบหนีหากเธอเห็นมอนสเตอร์ระดับเพลิงฟ้า

“ฉันไม่อาจใช้สามปีศาจได้ ฉันต้องสะกดข่มการเคลื่อนไหวเธอเพื่อให้แลนเซล็อตฆ่า”หลังจากที่คิดอยู่สักพัก ในที่สุดหลิน ฮวงก็ได้แผน เขาอัญเชิญไคลี่ออกมาก่อน เมื่อเห็นไคลี่ที่เป็นกึ่งเทพธิดาเช่นกัน ปีกเทพประกายก็คิดที่จะหลบหนี โชคดี หลิน ฮวงไม่ได้อัญเชิญวิญญาณกระดูกมาก่อนเพราะปีกเทพประกายต้องหลบหนีไปอย่างแน่นอน

“สะกดเธอไว้ อย่าปล่อยให้หนีไปได้”หลิน ฮวงสั่งไคลี่

ไคลี่ยังคงเงียบขณะที่กระพือปีกและบินใส่ปีกเทพประกายราวกับสายฟ้าสีม่วง ในอากาศ เงาสีม่วงและขาวพัวพันกัน พวกเธอกำลังปะทะกันอีกครั้งและอีกครั้ง