ตอนที่แล้วGE34 ช่วงชิงเพลิงกระดูกขาว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE36 เรือเหาะฉีเหม่ย การก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งการต่อสู้

GE35 จู่โจมเทพกษัตริย์เนี่ย สงครามของผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก


เมื่อเพลิงปีศาจแก่นชีวิตที่ต้องใช้เวลากว่า 1000 ปีในการอัญเชิญ หากถูกช่วงชิง ย่อมหนักหนากว่าการที่ระดับลดลง คล้ายกับการได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

ด้วยนิกายของเทพกษัตริย์เนี่ย หลังจากสมบัติวิญญาณถูกทำลาย มันจะถอนเพลิงกระดูกขาวกลับมาทันทีเพื่อป้องกันความเสี่ยง ดังนั้นยามนี้มันชิงชังหนิงฝานมาก ตามประสบการณ์และความเข้าใจของมัน เพลิงปีศาจที่ใช้เวลาอัญเชิญ 1000 ปี ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มหรือผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงก็ไม่อาจช่วงชิงได้

 

หากไม่เพราะเทพกษัตริย์เนี่ยประมาท หากไม่เพราะสร้อยหยินหยางที่มีความสามารถในการดูดกลืนเพลิงที่ท้าทายสวรรค์ หากไม่เพราะกระบี่แยกสวรรค์มีเผาวิญญาณที่เป็นพลังวิญญาณระดับคงชู ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่หนิงฝานจะช่วงชิงเพลิงกระดูกขาวได้

 

เทพกษัตริย์เนี่ยแผดเสียงคำรามราวกับสายฟ้าฟาด มันชกหมัดขนาดยักษ์ที่ทรงพลังเข้าใส่เมืองฉีเหม่ย พื้นดินปรากฏรอยปริแตกมากมาย เมืองฉีเหม่ยถูกทำลาย หมัดนี้เป็นหมัดเกือบจะรุนแรงที่สุดในชีวิตของมัน

 

ด้วยอำนาจของหมัด นอกจากเมืองฉีเหม่ยแล้ว เมืองต่างๆที่อยู่โดยรอบพื้นที่ 1 แสนลี้ทั้งหมดพังทะลาย

 

สำหรับหนิงฝานแล้ว ความตายไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ยามนี้สมองของเขาว่างเปล่า ใกล้หมดสติ มีเพียงความคิดเดียวที่หลงเหลืออยู่ยามนี้

 

นั่นคือช่วงชิงเพลิงกระดูกขาวของเทพกษัตริย์เนี่ย!

 

ยามนี้สร้อยหยินหยางภายในตันเถียนของหนิงฝานกำลังดูดกลืนเพลิงราวกับวาฬกำลังกินฝูงปลา ทะเลเพลิงที่ปกคลุมหนิงฝานค่อยๆหายไปทีละส่วน

 

แม้หนิงฝานจะใช้เพลิงกระดูกขาวไม่ได้ แต่อย่างน้อย เทพกษัตริย์เนี่ยจะไม่ได้ครอบครองเพลิงนี้อีก!

 

*ตึง*!

 

เพลิงกระดูกขาวถูกช่วงชิง เทพกษัตริย์เนี่ยล้มลงกับพื้นอย่างรุนแรง มันกระอักโลหิตสีดำจำนวนมาก โลหิตไหลเชี่ยวกราดไปตามพื้นราวกับแม่น้ำสายยักษ์ มันไหลขึ้นไปทางเหนือของเมืองฉีเหม่ย ที่ซึ่งเป็นโลกหิมะน้ำแข็ง เมื่อโลหิตเคลื่อนถึง หิมะขาวที่งดงามถูกชโลมด้วยโลหิตสีดำสนิท

 

แววตาของเทพกษัตริย์เนี่ยเผยความเสียใจ ประมาท... มันประมาทเกินไป หากมันรู้ว่ามดน้อยอย่างหนิงฝานมีวิธีช่วงชิงเพลิงของมัน มันคงจะจากไปหลังจากทำลายเส้นชีพจรของหานหยวนจี๋ได้

 

‘เหตุใดต้องประมาท เหตุใดต้องแสดงเพลิงกระดูกขาว! เหตุใดต้องใช้กรงเล็บกระดูกจู่โจม!’

 

‘เกลียด! ชิงชัง!’

 

ดวงตาของเทพกษัตริย์เนี่ยแปรเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท!

 

“เด็กน้อย... ข้าจะฆ่าเจ้า! สังหารเจ้าให้ได้... ‘วิถีเทพเส้นชีพจรปีศาจโบราณ...หักกระดูกสร้างกองทัพ’!”

 

เทพกษัตริย์เนี่ยกัดนิ้วของมันจนขาด แต่น่าแปลกที่กลับไม่มีโลหิตพวยพุ่ง

 

แม้จะเป็นเพียงหนึ่งนิ้ว แต่ก็มีขนาดใหญ่เท่าภูเขาขนาดเล็ก เมื่อนิ้วหลุดออกจากร่าง มันเปล่งแสงสีดำสนิทก่อนแปรเปลี่ยนเป็นกองทัพปีศาจนับแสน!

 

พวกมันมีอาวุธครบมือ ทั้งมีด ดาบ และขวาน พวกมันโหดเหี้ยม ดุดัน และป่าเถื่อน ทั้งยังครอบครองพลังในระดับแก่นทองคำขั้นสูงสุด

 

เพียงหนึ่งนิ้วก่อเกิดกองทัพปีศาจแก่นทองคำนับแสน เทพกษัตริย์เนี่ยออกคำสั่งสังหารโดยเริ่มจากศูนย์กลางของแคว้นเยว่ กินพื้นที่เป็นวงกว้างกว่า 1 ล้านลี้ ไปยังเมืองจำนวนมากของผู้ฝึกตน

 

หนิงฝานไม่อาจรับมือกับทักษะของเทพกษัตริย์เนี่ยได้ ยามนี้หนิงฝานดูราวกับว่าวสายขาดที่ร่วงหล่นลงมาจากท้องนภา ตกลงมายังเมืองฉีเหม่ย

 

แต่ถึงอย่างนั้น หนิงฝานไม่จำเป็นต้องรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะยามนี้ ผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก 2 คน ผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง 7 คน และผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ 12 คน กำลังทะยานแหวกนภามุ่งหน้ามาช่วยเหลือ

 

ปีศาจเฒ่าเหล่านี้ล้วนเป็นผู้หยิ่งทะนง พวกมันไม่สนใจสภาพที่น่าอนาถของเมืองฉีเหม่ย ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้เป็นผู้รับใช้ของเทพกษัตริย์แห่งโลกพิรุณ เป็นผู้ฝึกตนฝ่ายธรรมะ แม้เมืองของฝ่ายอธรรมจะถูกทำลาย พวกมันย่อมไม่สนใจ

 

แต่เมื่อได้เห็นกองทัพปีศาจนับแสน พวกมันไม่อาจมองข้าม เพราะเมืองของผู้ฝึกตนอีกมากมายนับไม่ถ้วนจะถูกปีศาจเหล่านี้ทำลาย ที่สำคัญ นิกายฝ่ายธรรมะของพวกมันก็จะได้รับผลกระทบ

 

“ฮึ่ม! ที่แท้เป็นเทพกษัตริย์เนี่ย... เหตุใดเจ้าถึงลงมือทำลายเมืองเล็กเมืองน้อยอย่างไร้เหตุผล เหตุใดเจ้าถึงเคียดแค้นมากถึงขนาดที่ยอมใช้วิถีเทพเส้นชีพจรปีศาจโบราณที่สาบสูญ!... หักกระดูกสร้างกองทัพ... หากเจ้าไม่ทุ่มเทขัดเกลา 100 ปี เจ้าจะไม่สามารถสร้างนิ้วที่ขาดไปได้อีก...”

 

ผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกที่มา 2 คนนั้น ผู้หนึ่งเป็นชายชราผมแดง สวมชุดคลุมสีแดงม่วง ท่าทางดูผ่าเผย ในมือถือ ‘บรรทัดหงส์คำราม’ เป็นสมบัติวิญญาณระดับไร้แบ่งแยก หยกโลหิตบนบรรทัดหงส์คำรามหมุนวนกว่า 10 ล้านรอบ ให้กำเนิดเป็นหมอกโลหิตแดงฉานจู่โจมเข้าใส่กองทัพปีศาจ

 

เมื่อถูกการจู่โจมที่ทรงพลังของผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก กองทัพปีศาจของเทพกษัตริย์เนี่ยสูญสลายกลายเป็นฝุ่นผง

 

กองทัพปีศาจเหล่านั้นถูกสร้างขึ้นด้วยวิถีเทพเส้นชีพจรปีศาจโบราณที่สาบสูญ หากไม่ใช้วิธีการพิเศษเฉพาะบางอย่างย่อมไม่อาจสังหารพวกมันได้

 

การจู่โจมของชายชราผมแดงไม่เป็นผล สีหน้าชายชราแปรเปลี่ยนจริงจัง ระดับพลังของชายชราอยู่เพียงขอบเขตไร้แบ่งแยกที่ 1 ซึ่งแตกต่างกับเทพกษัตริย์เนี่ยราวพิภพกับสวรรค์

 

ส่วนผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกอีกคน แม้จะได้ชื่อเป็นชายชรา แต่ใบหน้ายังอ่อนเยาว์ ผมยุ่งเหยิงไม่ได้จัดแต่งราวกับยาจก หนวดประดับเหยียดยาวเหนือริมฝีปากสมเป็นบุรุษ แม้คนผู้นี้ดูไม่ต่างจากขอทาน แต่หน้าตานับว่าหล่อเหลา

 

เทพกษัตริย์แห่งโลกพิรุณที่ 3 ‘หยุนปู้ชู’ ผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกที่ 2!

 

“วิถีเทพเส้นชีพจรปีศาจโบราณ...หักกระดูกสร้างกองทัพ? ไม่รู้ว่าหากเทียบกับเส้นชีพจรเทพ...เทพแห่งน้ำแข็งโบราณของข้าแล้ว ผู้ใดจะแข็งแกร่งกว่ากัน...”

 

แววตาที่ไม่ใส่ใจต่อสิ่งใดของยาจกเปล่งแสงสว่างจ้า จิตสังหารที่เข้มข้นรุนแรงจนน่าสะพรึงกลัวปรากฏ เขาหัวเราะและเอื้อมมือซ้ายปลดดาบขึ้นสนิมที่คาดไว้ที่เอวออก จากนั้นฟันเข้าที่นิ้วกลางของตน

 

“นิ้วกลางของข้าจะจัดการนิ้วชี้ของเจ้า... ฮ่าฮ่า ถึงไม่รู้ว่าเจ้าไปพบอะไรมาถึงได้บาดเจ็บสาหัสเยี่ยงนี้ แต่หากเจ้าไม่บาดเจ็บ ต่อให้ข้าตัดทั้ง 10 นิ้วก็คงไม่อาจทำอะไรเจ้าได้... ทักษะเทพโบราณ ‘เทพอสูรพิรุณ’!”

 

เมื่อนิ้วกลางถูกฟันขาดยาจกก็เอื้อมมือบีบทำลายนิ้วของตนจนสลายกลายเป็นหมอกโลหิต สายลมน้ำแข็งสวรรค์หมุนวน พื้นที่กินวงกว้างกว่า 1 พันลี้แปรเปลี่ยนเป็นโลกแห่งน้ำแข็ง โลหิตที่เกิดจากนิ้วกลางแผ่ปกคลุมและแปรสภาพเป็นห่าธนูโลหิตกว่า 1 แสนดอกราวกับพิรุณโปรยปราย

 

กองทัพปีศาจนับแสน ห่านพิรุณโลหิตนับแสนโปรยปรายเข้าสังหารกองทัพปีศาจจนยากจะฟื้นคืน

 

อีกด้านที่เบื้องหน้าประตูกระดูกยักษ์ ร่างของเทพกษัตริย์เนี่ยได้รับความเสียหายอีกครั้ง หากไม่เพราะประสบกับการลอบจู่โจม อย่างการช่วงชิงเพลิงกระดูกขาวของหนิงฝาน มันคงไม่บาดเจ็บและพลังปั่นป่วนยุ่งเหยิง ด้วยกองทัพปีศาจของมันย่อมสังหารผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกที่อ่อนแอทั้งสองคนนั้นได้!

 

แต่กองทัพปีศาจของมันก็ถูกทำลายในท้ายที่สุด ทั้งหมดทั้งมวลต้องโทษหนิงฝานเพียงผู้เดียว!

 

เทพกษัตริย์เนี่ยรู้ดีว่าหากมันยังดึงดันมันจะบาดเจ็บมากกว่านี้ มันเกลียดชังหนิงฝานมากขึ้น แต่ยามนี้ มันไม่มีโอกาสให้สังหารหนิงฝานแล้ว ครั้งหน้ามันจะมาเยือนโลกพิรุณแห่งนี้ใหม่ หากมันยังรั้งอยู่ในโลกพิรุณต่อ ‘น้ำแข็งที่แหลมคมดุจกระบี่’ อย่างหยุนปู้ชู เทพกษัตริย์แห่งโลกพิรุณคงได้สังหารมันตายที่นี่

 

เทพกษัตริย์แห่งโลกปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ ถูกทำร้ายด้วยมดตัวจ้อยในขอบเขตประสานวิญญาณ หากนี่เป็นสาเหตุให้มันตกตายในโลกพิรุณ ย่อมเป็นความตายที่น่าอนาถเกินไป

 

เดิมทีเทพกษัตริย์เนี่ยตั้งใจหวนกลับมายังโลกพิรุณในอีก 100 ปีข้างหน้า เมื่อนั้นลานสวรรค์โบราณจะเปิดออก มันจะกลับมาสังหารหนิงฝาน แต่ด้วยสถานการณ์ยามนี้ อีก 100 ปีข้างหน้าอาการบาดเจ็บของมันอาจไม่หายสนิท หากยังได้รับบาดเจ็บเพิ่ม มันจะพลาดโอกาสและมาไม่ทันลานสวรรค์โบราณ

 

เกลียด... มันเกลียดหนิงฝานอย่างที่สุด เป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ...ขอบเขตประสานวิญญาณที่อ่อนด้อย!

 

*ฮ่า!!*

 

เทพกษัตริย์เนี่ยโคจรพลังภายในร่างและเปล่งเสียงคำราม พลังปีศาจที่รุนแรงเข้าผลักดันผู้เชี่ยวชาญของโลกพิรุณให้ร่นถอย

 

ยามนี้เป็นโอกาสให้มันหนี มันก้าวเท้าเข้าไปในประตูกระดูกยักษ์และเตรียมกลับคืนสู่โลกปีศาจ

 

เป้าหมายของมันคือมาเพื่อสังหารหานหยวนจี๋ แต่สุดท้าย แผนการทั้งหมดกลับพังทะลายด้วยฝีมือของเด็กหนุ่มในขอบเขตประสานวิญญาณ

 

ภายในใจของมันยามนี้ ผู้ที่มันต้องการสังหารมากที่สุดคือหนิงฝาน!

 

“เด็กน้อย... อีก 100 ปีข้างหน้า ข้าจะกลับมายังลานสวรรค์โบราณ เมื่อนั้น...จะเป็นวันตายของเจ้า!”

 

ประตูกระดูกยักษ์ปิดลง เทพกษัตริย์เนี่ยหนีไปในที่สุด!

 

แม้ว่าเทพกษัตริย์เนี่ยจะหนีไป แต่ไม่มีผู้เชี่ยวชาญของโลกพิรุณคนใดที่กล้าติดตาม เมื่อ 40 ปีที่แล้ว เทพกษัตริย์เนี่ยปรากฏตัวขึ้นในโลกพิรุณอย่างลึกลับ มันถูกผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก 10 คนและผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงอีก 9 คนไล่ล่า แต่สุดท้าย ผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นถูกสังหารไป 16 และบาดเจ็บสาหัสอีก 3!

 

เหลือเพียงผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกที่บาดเจ็บสาหัส 3 คนหลบหนีออกมาได้... แม้เมื่อครู่เทพกษัตริย์เนี่ยจะบาดเจ็บหนัก แต่หากมันต่อสู้เป็นตาย ผู้เชี่ยวชาญของโลกพิรุณย่อมไม่สามารถต้านทานมันได้

 

“ฮึ่ม! หนีไปจนได้...” ชายชราชุดแดงแค่นเสียง แม้มันจะแสดงท่าทีเช่นนั้น แต่แววตาของมันกลับเผยความสุข เพราะมันไม่อยากต่อสู้เสี่ยงชีวิตกับเทพกษัตริย์เนี่ย

 

ส่วนยาจกอย่างหยุนปู้ชู ขบคิดถึงคำกล่าวของเทพกษัตริย์เนี่ยด้วยสีหน้าสนใจ

 

เพราะคำกล่าวของเทพกษัตริย์เนี่ย กล่าวว่าคนผู้นั้นทำให้มันบาดเจ็บ...แล้วมันเกี่ยวข้องกับคนผู้นั้นได้อย่างไร? คาดไม่ถึงว่าคนผู้นั้นสามารถทำร้ายเทพกษัตริย์เนี่ยผู้ยิ่งใหญ่ได้!

 

หยุนปู้ชูแผ่สัมผัสเทพกวาดไปยังเมืองฉีเหม่ยแล้วส่ายหน้า

 

ภายในเมืองฉีเหม่ย ระดับพลังสูงสุดของผู้ฝึกตนคือขอบเขตประสานวิญญาณ... บางทีผู้ที่ทำให้เทพกษัตริย์เนี่ยบาดเจ็บอาจจากไปแล้ว

 

แต่เมื่อสัมผัสเทพของหยุนปู้ชูกวาดผ่านสัมผัสหนิงฝาน มันประหลาดใจเล็กน้อย เพราะหนิงฝานผู้นี้เป็นผู้ที่ให้ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก

 

“ข้าคงเข้าใจผิดไป...” หยุนปู้ชูส่ายหน้า จากนั้นนำสมบัติระดับไร้แบ่งแยกออกมาแล้วใช้ทักษะรักษากินพื้นที่เป็นวงกว้าง ปกคลุมเมืองฉีเหม่ยในรัศมี 100 ลี้ ทำให้ผู้ที่หมดสติได้รับการฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บ

 

“องค์ชายสาม เหตุใดท่านถึงได้ใช้พลังอย่างเสียเปล่ากับฝ่ายอธรรมเหล่านี้!” ชายชราผมแดงขมวดคิ้ว เทพกษัตริย์แห่งโลกพิรุณคือผู้นำของฝ่ายธรรมะ แต่ยามนี้องค์ชายสามกลับไม่ใส่ใจเรื่องสถานะ

 

“ฝ่ายอธรรมก็เป็นคนของโลกพิรุณเหมือนกัน ฮ่าฮ่า ไปกันเถอะ...”

 

แล้วเหล่าผู้เชี่ยวชาญก็แยกย้ายกันไป

 

ภายในเมืองฉีเหม่ย ผู้ที่ได้รับการรักษาจากหยุนปู้ชูค่อยๆได้สติ เมื่อคนเหล่านั้นเห็นสภาพของเมือง ทุกคนล้วนตกใจ

 

เมืองฉีเหม่ยถูกผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังจู่โจม โชคดีที่ผู้คนยังมีชีวิตรอดมาได้

 

หนิงฝานนอนอยู่ข้างกายหานหยวนจี๋ ขยับกายเคลื่อนไหวไม่ได้ ที่ด้านข้างหนิงฝาน ชายชราเผยแววตาโศกเศร้า

 

“มันเป็นผู้ใด...” ในที่สุดหนิงฝานก็กล่าวถาม

 

“หานเนี่ยเทียน... บุตรบุญธรรมที่ข้ารับมาเลี้ยง... ยามนี้มันสมควรเป็นเทพกษัตริย์เนี่ยแห่งโลกปีศาจ หนิงน้อย...เจ้าช่วยชีวิตข้าไว้ได้ ข้าเลือกรับศิษย์ไม่ผิดจริงๆ...”

 

“แต่ข้าไม่อาจต้านทานการจู่โจมของมันได้ มันแข็งแกร่งเกินไป มันทำลายเส้นชีพจรของท่าน...ข้าหยุดมันไม่ได้...”

 

“ผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณอย่างเจ้าจะไปทำอะไรได้? ฆ่าเนี่ยเทียนหรอ? เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นผู้ใด! แค่เจ้าช่วยชีวิตข้าจากน้ำมือของมันได้ก็ดีมากแล้ว... ข้าเหนื่อย เจ้าเองก็ควรพัก หลังจากนี้ให้เจ้าไปนิกายกุ่ยเชว่... กององครักษ์ปีศาจทมิฬทั้ง 3... เมืองฉีเหม่ย... ทั้งหมดข้ายกให้เจ้า... ยามนี้ข้าไร้ซึ่งพลังแล้ว ข้าขออยู่กับเหม่ยน้อยอย่างสงบ”

 

เส้นชีพจรของชายชราถูกทำลาย หนิงฝานทราบดี พิษเจ็ดหยินที่ชายชราเคยต้องก่อนหน้า แม้ว่ามันจะร้ายแรงแต่ยังมีวิธีขับพิษ สมุนไพรของโอสถที่ใช้ขับพิษอาจหายากและราคาแพง แต่หากหาได้ ปัญหาก็จบ

 

ดังนั้น โอสถผันแปรที่ 4 ที่ชายชราเพิ่งปรุงได้จึงมากพอให้ขับพิษ

 

แต่ด้วยเส้นชีพจรของชายชรายามนี้ พวกมันถูกปราณปีศาจของเทพกษัตริย์เนี่ยทำลาย... ยิ่งปล่อยไว้นานไปยิ่งขับปราณปีศาจออกได้ยาก ยามนี้หนิงฝานเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ เขาย่อมไม่อาจขับพิษได้ มีเพียงต้องบรรลุขอบเขตไร้แบ่งแยก ใช้ทักษะของขอบเขตไร้แบ่งแยกเท่านั้นถึงจะขับปราณปีศาจออกได้

 

หากกล่าวถึงโอสถ อย่างน้อยต้องเป็นโอสถผันแปรที่ 6 จึงจะขับปราณปีศาจออกได้ แต่ยามนี้หนิงฝานยังปรุงมันไม่ได้เช่นกัน

 

“อาจารย์... หากพลังของข้าเพิ่มพูน ข้าจะช่วยท่านฟื้นฟูเส้นลมปราณ”

 

ชายชราไม่กล่าวตอบ

 

“100 ปีหลังจากนี้ เทพกษัตริย์เนี่ยจะกลับมาเยือนโลกพิรุณอีกครั้ง เมื่อถึงยามนั้น ข้าจะทำให้มันเสียใจที่มา พลังของข้าจะเพิ่มพูน ผู้ใดแข็งแกร่งผู้ใดอ่อนแอจะตัดสินกันยามนั้น!”

 

ชายชรานอนนิ่ง เปลือกตาทั้งสองข้าปิดแน่นราวกับ...ตายไปแล้ว!

 

หัวใจหนิงฝานบีบรัด ความทุกข์และโศกเศร้าอัดแน่นเต็มอก หานหยวนจี๋ผู้ยิ่งใหญ่...ตายเสียแล้ว!

 

แต่ขณะที่หนิงฝานเสียใจ ชายชรากลับลืมตาขึ้นแล้วจ้องมองหนิงฝาน

 

“จริงสิ! ที่เจ้าช่วงชิงเพลิงกระดูกขาวของมันได้ เป็นเพราะเจ้าใช้พลังวิญญาณ ‘เผาวิญญาณ’! เจ้าขโมยโลหะวิญญาณของข้า! ข้าสูญเสียแล้ว...ข้าสูญเสียให้เจ้าอีกแล้ว! หนิงน้อย... เจ้านี่มันไร้ยางอายจริงๆ!”

 

ชายชราบ่นกล่าวอยู่ชั่วครู่ก่อนจะหลับตาลงแล้วเงียบไป

 

ชายชราหลับตาลงอย่างมีความสุข... บุตรบุญธรรมหักหลัง เส้นชีพจรถูกทำลาย แต่สุดท้าย ชายชรายังสามารถพูดคุยอย่างมีความสุขได้เฉกเช่นคนสามัญทั่วไป

 

การกระทำของชายชราทำให้หนิงฝานกล่าวไม่ออก!

 

ชีวิตการฝึกตนของหานหยวนจี๋ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ชายชรายังใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย กล้าที่จะรัก กล้าที่จะเกลียด แม้จะเกลียดชังมากเพียงใด แต่ไม่เคยปล่อยให้ความเกลียดชังครอบงำจิตใจ ไม่อย่างนั้น จะสูญเสียทุกสิ่ง...

 

** เสาร์ - อาทิตย์ พักนะครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด