ตอนที่แล้วRUCตอนที่ 9 สิ่งมีชีวิตที่ไม่ปกติ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปRUCตอนที่11 สายปริศนา

RUCตอนที่ 10 แวมไพร์ถังแตก


สายลมเย็นยะเยือกและความกดอากาศต่ำยังคงแผ่กระจายไปทั่วห้องนั่งเล่น แต่โชคดีที่ดูเหมือนกับว่าตัวปัญหาทั้ง2คน(?)จะเลิกหาเรื่องตีกันอีกแล้ว

ฮาวเหลนถอนหายใจแล้วเริ่มเก็บแก้วชาที่เย็นยะเยือก(ที่เริ่มแตกจากอากาศเย็นแล้ว) เขามองไปที่โต๊ะชาที่ตอนนี้แทบจะแหลกแล้วคิดกับตัวเอง

“ชีวิตคนเราเนี่ยน้า 8หรือ9คนใน10คนจะโชคร้าย ส่วนอีกคนนึงที่เหลือไว้ ก็คือโคตรโชคร้าย”

แต่ถึงอย่างนั้น ทั้งลิลลี้และวิเวียนดูเหมือนกับว่าจะเริ่มเชื่อที่อีกฝ่ายพูดแล้ว ถึงแม้บางทีอาจจะยังเชื่อไม่หมดแต่อย่างน้อยพวกเขาก็สัญญาว่าจะไม่หวดกันอีก ตราบใดที่ไม่มีใครไปหาเรื่องก่อน พวกเธอก็อย่างน้อยก็สงบลงได้

นี้เป็นผลมาจากการตะโกนและทุบโต๊ะของฮาวเหลนที่พูดถึงทั้งเรื่องของความเป็นจริง เหตุผลและปนๆกับให้ความยุติธรรมดด้วย ฮาวเหลนรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีในฐานะเจ้าของบ้านและบังคับให้เธอทั้ง22คนอยู่เงียบๆแล้วฟังอีกฝ่ายพูดได้ อีกอย่าง เขาพยายามที่จะพิสูจน์ด้วยว่าที่เขาพูดมานั้นเป็นความจริง ลิลลี้ก็ให้หลักฐานว่าเธอไม่ได้ขู่ฮาวเหลนโดยการเรียกแมวโลวลี้มาเป็นพยาน แถมเธอยังโชว์มือของเธอให้เห็นว่าไม่มีรอยเลือดในมือเธอ หมายความว่าฮาวเหลนไม่ได้ต้องคำสาปของมนุษย์หมาป่า แล้วด้วยความที่เห็นว่าลิลลี้นั้นโง่เอาเรื่อง วิเวียนเลยยอมเชื่อเธอ แล้วเพื่อที่จะพิสูจน์ว่าวิเวียนนั้นทนทานต่อความกระหายเลือดได้จริงๆ วิเวียนเลยขอให้ฮาวเหลนเอาก้อนเลือดเป็ดออกมา

เอาจริงๆฮาวเหลนก็รู้สึกว่าวิธีที่วิเวียนใช้พิสูจน์ตัวเองนั้นมันไม่ได้ทำให้รู้สึกเชื่อเลย แต่น่าแปลกที่ลิลลี้เชื่อสุดใจหลังจากที่วิเวียนพิสูจน์ให้เห็นแล้ว ... เออ คนโง่นี้ก็เชื่ออะไรง่ายเนอะ

และในช่วงเวลาความสงบซักพักนึง ฮาวเหลนเลยถือโอกาสถามเจตนาของวิเวียนที่มาที่นี้ตั้งแต่เช้า และแน่นอนวิเวียนก็ตกใจเหมือนที่เจอเขาครั้งแรก ดังนั้นมันไม่เหมือนกับว่าเธอมาตามหาใครเป็นพิเศษ

วิเวียนพยักหน้าแล้วเอาแผ่นกระดาษหลากสีออกมาจากกระเป๋าของเธอ “ก็ฉันตามที่อยู่ที่เขียนอยู่ในกระดาษนี้มา ฉันหาห้องเช่าอยู่หน่ะ”

ลิลลี้ที่นั่งอยู่ข้างๆเธอนั้นกำลังจ้องมองโต๊ะน้ำชาที่พังอยู่นั้นด้วยหน้าคิดอะไรซักพัก เธอก็แปลงร่างไปเป็นร่างหมาป่าของเธอในทันที แล้วหูของเธอก็ตั้งขึ้น ระวังทุกอย่างรอบตัวเธอ เหมือนเธอกำลังรู้สึกสังหรณ์ในอะไรบางอย่าง!

ฮาวเหลนก็ตกใจเหมือนกัน! แล้วหยิบกระดาษจากมือวิเวียนไป เขาพบว่ากระดาษนั้นมันถูกตัดออกมาจากหนังสือพิมพ์... หนังสือพิมพ์ที่เขาประกาศไปเมื่อหลายวันก่อน! ตอนแรกเขาคิดว่าโฆษณาไปก็คงไม่ได้อะไร แต่กลับกลายเป็นว่ามีลูกค้าเข้ามาถึง2คนเลยทีเดียว

แต่ทำไมผู้เช่าทุกคนของเขาถึงไม่มีใครปรกติเลยซักคนเลยวะ!!

“เออ ที่นี้แหล่ะถูกแล้ว”ฮาวเหลนทำสีหน้าแปลกๆ เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต เขามองวิเวียนตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนที่จะถามเธอว่า “มาหาห้องเช่าอยู่เหรอ?”

“ใช่แล้ว”วิเวียนตอบอย่างมั่นใจ

ฮาวเหลนถามอย่างแปลกๆ “มีตั้งหลายที่ ทำไมถึงต้องเป็นที่ฉันเนี่ย....”

ที่ฮาวเหลนพูดหมายความว่า ทำไมเรื่องประหลาดและพิลึกพิลั่นถึงได้เกิดกับเขาบ่อยขนาดนี้ แต่ดูเหมือนว่าวิเวียนจะเข้าใจเขาผิด เธอเลยตอบอย่างซื่อๆกลับมา “ก็เพราะที่นายถูกแล้วฉันก็ไม่มีตัง ฉันหามาตั้งหลายที่แล้วแต่ฉันเช่าได้แค่ที่นี้เท่านั้น ฉันไม่อยากที่จะไปอยู่ในชนบทรกร้างหรือแบบสุสานแบบที่ฉันเคยอยู่”

ฮาวเหลนอ้าปากค้าง เขาค่อนข้างตกใจเมื่อได้ยินคำว่า “ไม่มีตัง”จากสิ่งมีชีวิตที่ดูหรูโก้เก๋อย่างแวมไพร์

“ไม่ใช่ว่าแวมไพร์มันเป็นแบบราชันต์ในยามราตรีเหรอ? ทำไมแวมไพร์ที่อยู่ตรงหน้าฉันมันพิลึกอย่างนี้วะ?”เขาคิด

“ก็ใช่ที่นี้ก็ถูกจริงๆนั้นละ ถ้าไม่ติดเรื่องที่ตั้งมันเปลี่ยวๆไปหน่อย เธอก็อยู่นี้ได้แหล่ะ”ฮาวเหลนตอบกลับ เขาไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือหัวเราะดี การที่เขาอยู่ใต้ชายคาเดียวกันกับแวมไพร์นั้น มันก็ไม่ต่างอะไรเท่าไรหรอก ในเมื่อเขามีมนุษย์หมาป่าอยู่ในบ้านของเขาแล้วทั้งคน อย่างน้อยที่สุดชีวิตของเขาก็คงมีแต่เรื่องตกใจละมั้ง “แต่ฉันต้องบอกไว้อย่างนะ พวกเธอ2คนต้องอย่ามีเรื่องแล้วก็อย่าหาเรื่องใส่ตัวกันนะ.. แน่นอนว่าฉันจะปกปิดตัวตนที่แท้จริงของพวกเธอเอาไว้ ฉันแค่กลัวว่าพวกเธอจะไปฆ่าปิดปากคนรู้เห็นเข้า”

แต่เอาจริงๆแล้ว การฆ่าคนนั้นเป็นสิ่งที่ฮาวเหลนกังวลน้อยที่สุด เพราะสาวๆทั้ง2คนตรงหน้าเขานั้นแตกต่างจากที่เขาได้ยินเรื่องเล่าหรือตำนานมากมาก ไม่นับเรื่องที่ว่าทั้ง2คนนั้นเป็นพวกผิดแปลกจากเผ่าพันธุ์ตัวเองแล้ว สาวๆพวกนี้ก็ถือว่าไม่เป็นอันตรายเลย

ตอนที่ฮาวเหลนกับวิเวียนถึงขั้นตกลงกันแล้ว จู่ๆลิลลี้ก็ทุบโต๊ะอีกรอบแล้วยืนขึ้น(สงสารโต๊ะ) “เดี๋ยวๆๆๆ ยัยหนูติดปีกจะมาอยู่ที่นี้งั้นเหรอ? ใต้ชายคาเดียวกันด้วยงั้นเหรอ?”เรื่องความรู้สึกช้าสำหรับลิลลี้นั้นไม่มีใครเกินจริงๆ

ปั้ง!!!เสียงทุบโต๊ะอีกรอบดังขึ้น แล้วรอบนี้ดูเหมือนว่าโต๊ะน้ำชาเจ้ากรรมที่เป็นเหมือนกระโถนลงความผิดนั้นทนรับไม่ไหวแล้ว ขอลาจากแล้วทิ้งตัวลงแนบพื้น

“แกคิดว่าฉันอยากจะอยู่ใต้ชายคาเดียวกับเดรัจฉานอย่างแกรึไง?!”วิเวียนเหวี่ยงขึ้นมาทันที เธอดูเป็นคนหัวร้อนง่ายเอาเรื่อง แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ตกลงสัญญากันแล้วว่าจะไม่มีเรื่องกัน เธอเลยไม่ได้ปล่อยไอเย็นอะไรออกมา “ถ้าฉันไม่ถังแตกฉันก็คงไม่มานี้หรอก!”

ฮาวเหลนเริ่มรู้สึกแล้วว่า การปฏิเสธวิเวียนไปน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เขาอาจจะต้องเจอกับอีกหลายเรื่องแน่ๆถ้าปล่อยให้เธอ2คนอยู่บ้านเดียวกัน ดูเหมือนกับว่าพวกเธอคงทำตามสัญญาที่ให้กับเขาได้อีกไม่นานดูจากความหัวร้อนนี้ อีกอย่า ฮาวเหลนเองก็ไม่ได้ร้อนเงินค่าเช่าขนาดนั้นด้วย

แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ตอบรับไปแล้ว การที่เปลี่ยนใจกะทันหันนั้นอาจจะส่งผลต่อชีวิตของเขาได้ ตอนนี้เขาทำได้เพียงแค่ปรอบใจลิลลี้เท่านั้น “เอาหน่า ไม่เป็นไรหรอก วิเวียนก็ดูไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรนี้ แล้วฉันก็ตกลงไปแล้วด้วย...ให้เธออยู่ด้วยกันต่ออีก....โว้ยยยยย ไม่ใช่แบบนี้ดิ! ฉันเป็นเจ้าของบ้านนะ นี้บ้านฉัน ทำไมฉันต้องมาปรึกษาอะไรแบบนี้ด้วยวะ!”

ฮาวเหลนจู่ๆก็นึกขึ้นมาได้ว่านี้บ้านเขา ทำไมเขาต้องมาง้อด้วย

เขาเริ่มที่จะสับสนตัวเองด้วยแรงตึงเครียดระหว่างทั้ง2สาว ตลอดจนเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น

ลิลลี้ยิมแห้งๆ นี้มันต่างจากที่ในตำนานเล่าไว้มาก มนุษย์หมาป่าที่เป็นมิตรและขี้สงสัยหัวเราะแห้งๆและส่ายหน้าของเธอ “แล้วแต่จะตัดสินใจเลยคะ แต่ยังไงฉันก็ไม่ชอบสัตว์มีปีกอยู่ดี!”

“มันก็ต้องเป็นแบบนั้นละ”ฮาวเหลนพยักหน้าแล้วกอดอก เขาวางแผนในหัวแล้วว่าจะทำยังไงให้ผู้เช่าอยู่ที่ไม่ปรกติ2คนนี้อยู่ร่วมชายคาเดียวกันอย่างเป็นสุข ....คำว่าเป็นสุขอาจจะยากไปหน่อย งั้นเอาเป็นว่าให่พวกเธออยู่กันยังไงไม่ให้บ้านพังอย่างนี้น่าจะเวิร์คกว่า ตอนนี้ชีวิตของเขาก็เริ่มเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิ่งแล้วว ถ้าเป็นไปได้เขาก็อยากไล่ทั้ง2คนออกจากบ้านเขาไปด้วยซ้ำแต่ติดปัญหา2อย่าง อย่างแรกเลยถึงแม้ว่า2สาวนี้จะดูเป็นมิตร แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดเลยที่จะไปหาเรื่องกับพวกเธอ การขอให้พวกเธอออกไปหลังจากที่รับปากแล้วดโดยที่ไม่มีเหตผลอันควรนั้นอาจจะเป็นอันตรายกับชีวิตเขาได้ และฮาวเหลนก็ไม่อยากเอาชีวิตไปทิ้งด้วย อีกอย่างคือตัวเขาเองก็คงไม่มีปัญญาไปเทียบอะไรกับแรงควายเหนือมนุษย์ของพวกเธออยู่แล้ว ถ้าเกิดเขาพูดผิดขึ้นมานิดเดียวตัวเขาอาจจะลงไปกองอยู่กับพื้นในสภาพขาด2ท่อนได้

และด้วยเหตุผล2ประการด้านบนนี้ ทำให้เขาสรุปได้ว่า มันเป็นไปไม่ได้เลยที่คนธรรมดาอย่างเขาจะไปต่อรองอะไรกับพวกนั้นได้

ไม่ว่าเรื่องมันจะซับซ้อนแค่ไหนแต่ฮาวเหลนก็ตั้งใจแล้วด้วยแรงคนธรรมดาที่มี เขาพยายามคิดหาวิธีที่เขาจะปกป้องความสงบสุขของเขาให้ปลอดภัยที่สุด แต่ในขณะที่เขาคิดอยู่นั้น ก็มีเสียงร้องขึ้นมา

“ตายละ กระเป๋าตังฉัน!”

วิเวียนกระโดดขึ้นโซฟา ท่าทางสง่างามที่เธอแบกมาตั้งแต่ตอนที่แล้วหายวับไปกับตา เธอทำกระเป๋าตังหาย

“ต้องเป็นเมื่อคืนแน่ๆเลย เมื่อคืนฉันดันไปชนกับยัยนี้เข้า แล้วตอนนี้ฉันก็ไม่รู้แล้วว่ากระเป๋าตังฉันไปไหน!”วิเวียนค้นกระเป๋าตัวเองจนทั่ว แล้วสุดท้ายเธอก็หันควับมาที่ลิลลี้ “ยัยโง่เอ้ย เงินค่าใช่จ่ายทั้งหมดของฉันมันอยู่ในนั้นนะ จ่ายคืนมาเลย!!”

ถึงแม้จะอายนิดหน่อย แต่ลิลลี้ก็เมินหน้าหนี “อย่ามาโทษคนอื่นได้ปะ ผิดเองก็ยอมเองดิ ดีซะอีก เธอจะได้ไม่มีตังเช่าห้องแล้วตอนนี้ แถมฉันยังได้เห็นหน้าโง่ๆของเธออีก”

แต่นาทีต่อมา ลิลลี้ก็หันหน้ากลับมาหาวิเวียน “บางทีลองหาแถวประตูหน้าหรือถนนแถวนี้ไหม? บางทีเธออาจจำตกตรงถนนก็ได้นะ”

นี้ยืนยันได้เลยว่ามนุษย์หมาป่าหน้าโง่คนนี้เป็นคนใจดีคนนึง

“ฉันบินไปทั่วเลยเมื่อคืนอะ ฉันหาที่นี้ด้วยแสงจันทร์ทั้งคืนเลย”วิเวียนน้ำตาคลอ “แล้วฉันจะไปรู้ไหมว่าฉันไปทำตกไว้ไหน...โถ่วเงินค่ากินอยู่ของฉัน ฉันอุส่าห์เก็บมันมาตั้งนาน นี้ฉันทำเงินหาย4รอบแล้วเนี่ยเดือนนี้ แล้วเงินก้อนนี้ก็เป็นก้อนสุดท้ายแล้วเนี่ย

คิ้วฮาวเหลนกระตุก

“ทำไมแวมไพร์ตัวนี้มันดวงซวยได้ขนาดนี้วะเนี่ย?! เกิดอะไรขึ้นกับจ้าวแห่งนภายามราตรีผู้ยิ่งใหญ่กัน?”

แต่ถึงอย่างนั้น ฮาวเหลนก็คิดขึ้นมาได้ว่า นี้อาจจะเป็นเรื่องดีก็ได้ เขาจะได้ไม่ต้องมาคอยห่วงว่าทั้งคู่จะตีกันอีกในอนาคต เขาได้เหตุผลดีๆในการให้วิเวียนออกไปได้แล้ว

การรักษาความสงบสุขของฉันมันยังเป็นไปได้โว้ยยย!!!

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด