ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่  2 พบเจอสิ่งแปลกประหลาดอย่างไม่คาดฝัน

ตอนที่ 1 ก็แค่วันธรรมดาๆอีกวัน


 

เฮาเหลน* เขาแปลแบบง่ายๆว่า คนดี

อาศัยอยู่ชานเมืองฝั่งเหนือของกรุงปักกิ่ง บ้านของเขาอยู่ไกลออกไปมาก แถบจะไม่ถูกนับว่าอยู่ในเมืองหลวง เขาอายุประมาณยี่สิบปีกว่าๆ เป็นผู้ชายตัวเล็กๆที่มีใบหน้าดูอ่อนแอ่ เอาง่ายๆว่าหน้าเขาก็ดูดาษๆเหมือนคนทั่วไปนั้นละ และเพราะเขาเองก็ไม่ค่อยมีอะไรเด่นมากมายนัก จึงทำให้ผู้ที่เดินผ่านไปมานั้นแทบไม่สนใจเขาเลยเวลาเดินสวนกัน และเป้าหมายสูงสุดที่เขาอยากจะเป็นนั้นคือการเป็นคนดี...

ฤดูร้อนเพิ่งเริ่มขึ้น ดวงอาทิตย์ช่วงกลางวันนั้นแผดเผาเขาจนแทบไหม้ การที่มีตึกสูงเสียดฟ้ามากมาย ดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยในการคลายร้อนอะไรนัก เขามีข้อสงสัยเล็กน้อย ที่ตรงทางเดินเท้าตอนนี้มีคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้น เมื่อมองดูคนข้ามถนนไปพร้อมกัน ซึ่งมีพาหนะเคลื่อนที่อยู่อย่างอัดแน่น เขาก็ไม่รู้จะพูดอะไรออกมา

เฮาเหลนในชุดกางเกงสีเทาและเสื้อยืดสีขาว กำลังเดินลงเนินถนนภายใต้เงาของต้นไม้และตึกรามบ้านช่อง เดินไปพร้อมๆกับกระดาษสองสามแผ่นที่อยู่ในมือของเขา เหงื่อเขาไหลออกมามากมาย เสียงแตรที่น่ารำคาญจากพาหนะรถยนต์ที่ผ่านเข้ามา พร้อมกับเสียงแหลมสูงของจักจั่นบนต้นไม้ เช้าตรู่ของหน้าร้อนนั้นก็ไม่ได้เย็นอะไรมากมาย... ถึงจะเป็นสถานการณ์ที่ไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ เขาก็ยังเดินต่อไปและชำเลืองมองในกระดาษเขาบางเป็นครั้งคราว สองแผ่นที่มีอยู่นี้เป็นใบโฆษณางานและใบปลิว ที่หยิบมาจากสาวนักเรียนตรงจัตุรัส สิงที่พิมพ์ลงในใบปลิว เป็นรูปของสาวที่ยิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมกับคำต่างๆข้างใต้รูป อ่านได้ว่า : จิงหรง โรงพยาบาลผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการคลอดบุตร และโรคประจำของสตรี เชี่ยวชาญในการ...

เขารู้สึกว่ามันไม่เป็นมืออาชีพเท่าไหร่ ที่นำนักเรียนสาวมาแจกใบปลิวให้กับเขา เธอไม่ควรส่งใบปลิวให้คนที่ดูไม่มีเงินแบบเขา พูดก็พูดเถอะ ใบปลิวกระดาษแข็ง มันเลยใช้เป็นพัดได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว

“สอบสัมภาษณ์สองครั้งสุดท้าย ถ้าหากยังไม่ได้งานทำอีก ฉันก็คงต้องเรียกมันว่าวันธรรมดา” เฮาเหลนพึมพัมกับใบปลิวงานที่อยู่ในมือของตัวเอง เขาคงจะสามารถทำ ‘ภารกิจ’ สองใบใบนี้ได้อย่างรวดเร็ว เพราะมันอยู่ใกล้ๆ หนึ่งนั้นอยู่ห่างออกไปเพียงแค่ระยะขว้างหิน เพียงแค่ข้ามถนนไปก็ถึงแล้ว ด้านหน้าของตึกมีรูปโฆษณาเอเย่นที่ดูถ่อมตน แต่ทว่ามันก็มีชื่อเขียนไว้ข้างหน้าด้วย : บริษัท สื่อทางช้างเผือกพัฒนาการวัฒนธรรมแห่งกางเกง ธุรกิจชื่อดังกล่าวดูท่าคงจะล้มละลายภายในครึ่งปี แต่เฮาเหลนเองก็ไม่ได้อยากจะสัมภาษณ์งานซักเท่าไหร่ เขาอยากรู้อยากเห็นถึงเจ้าของ ว่าเจ้าของคนไหนที่ได้ตั้งชื่อได้น่านับถือเพียงนี้

เขาเดินไปตามทางเท้าเดินเท้าไม่กี่ร้อยเมตรและเต็มไปด้วยความกระปี่กระเป่า เขายืนต้านทานแดดอันร้อนแรง เขาเดินไปรอบๆ รั๋วกั้นถนนและเดินขึ้นไปที่หน้าสำนักงานที่โฆษณามาทีมีชื่อสุดอลังการ แต่เขาพบว่ามันถูกปิด! มีการแจ้งเตือนแปะไว้บนประตูทางเข้ากระจก ซึ่งระบุว่าหน่วยงานดังกล่าวได้ปิดตัวลงเมื่อสองวันก่อน แต่โฆษณาลงเพียงแค่สี่วันก่อนเองนะ... จะปิดเร็วเกินไปแล้วเห้ย! เขาหาแพะรับบาปบางตัวก่อนจะไปใช่ไหม?

เฮาเหลนขยำใบปลิ้วในมือทิ้งก่อนจะโยนลงถังขยะด้านข้างทางเดิน เขาจ้องมองใบปลิวงานใบที่สองก่อนจะทิ้งลงไปเช่นกัน เขาไม่สามารถปิดบังข้อเท็จจริงนี้ได้ ว่าที่ที่เขาไปสัมภาษณ์งานทั้งหมดนั้นแปลกประหลาดอย่างเกินไป สำนักงานบริษัท ขนส่งสาธารณะ คนที่ต้องทำงานหนัก คือคนที่มีความรู้ทางคอมพิวเตอร์และมีประสบการณ์การทำงานไม่พอ ที่สำคัญต้องเป็นสุภาพสตรีอายุ 25-40 ปี!

ไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าการมาถึงในเมือง เพื่อสัมภาษณ์งานที่ทำให้ตัวเองต้องมายืนโง่ๆอยู่หน้าบริษัท เพราะมันได้ปิดตัวลงไปเมื่อสองวันก่อน!

เฮาเหลน 25ปี เป็นคนไม่มีนิสัยที่ดีเด่นอะไร กินง่ายอยู่ง่ายไม่เรื่องมาก เป็นชายโสดที่มีเพื่อนหรือญาติเพียงเล็กน้อย อาศัยอยู่ตามลำพังในบ้านที่เขาได้รับมาจากพ่อแม่ของเขาในส่วนใต้ของเมือง เขาเป็นเด็กหนุ่มตัวอย่างในสมัยนั้น มุ่งเป้าหาเงิน5หลักให้ได้ภายในอายุ25 แต่งงานกับภรรยาสาวสวยและเป็นเจ้าของรถต์ตัวเอง(ถ้าเป็นไปได้) เขาไม่มีโอกาสชดใช้อะไรในตอนที่พ่อแม่เขาเสียชีวิต แต่ด้วยการมีศีลธรรมที่ดี เขาอย่างน้อยก็กู้ชื่อครอบครัวของเขาและได้บรรลุหนึ่งในสามของเป้าหมายของเขา

ชีวิตของเขาเป็นเรื่องที่น่าเศร้า

เขามาหางานทำในเมือง แต่มันก็ไม่ค่อยมีความจำเป็นอะไรสำหรับเขาซักเท่าไหร่นัก เพราะเขาได้เป็นเจ้าของบ้านหลังเก่าเนื่องจากพ่อแม่ที่เสียไป มันเป็นอาคารสองชั้นที่ได้รับการดัดแปลงเป็นอพาร์ตเมนต์

ในเวลาหลายปีที่ผ่านมา เฮาเหลนอาศัยโดยการพักอยู่ที่ห้องเช่า มันจึงทำให้เขามีชีวิตที่ค่อนข้างสะดวก แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เขาร่ำรวย อพาร์ตเมนต์อยู่ระหว่างกลางที่ไม่ได้ใกล้กับที่ไหนเลย และดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้ด้วยว่า รัฐบาลจะเข้ามาพัฒนาท้องถิ่นในอนาคตอันใกล้นี้

เอาอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีความต้องการแม้แต่เพียงเล็กน้อยที่เฮาเหลนจะต้องการหางานทำในขณะนี้ บางทีเขาอาจอยู่ในเขตสบายๆ นานเกินไป เขารู้สึกต้องการความท้าทายและอยากสำรวจทุกๆสิ่ง นอกเหนือจากนี้ยังมีอีกเหตุผลที่สำคัญ ที่เสริมไม่ให้เขาต้องสบายมากไป อพาร์ทเมนต์ของเขาไกลออกไปยังมุมสุด ติดอยู่กับชนบท ซึ่งถูกตัดออกจากความเจริญรุ่งเรืองอย่างสมบรูณ์ และตั้งแต่ล่าสุด ที่คู่เกษตรกรย้ายออกไปเมื่อครึ่งปีที่ผ่านมา อพาร์ตเมนต์ก็ไม่เคยมีผู้เช่าใหม่อีกเลย ด้วยความไม่สบายใจนี้ เขาพบว่าคงยากที่จะเพิกเฉยต่อมัน เว้นแต่ว่าการพัฒนาแถบนั้น กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า ไม่งั้นมันก็คงอีกไม่นานแล้วแหละที่เขาจะต้องมองหางานอย่างจริงจัง

หลังจากที่ใช้เวลาสามวันในบ้านในตอนนั้น เขาจุ่มตัวเองไปกับการวางแผนเกี่ยวกับเขตเมืองที่อาศัย เฮาเหลนจึงมาถึงข้อสรุปที่ไม่แน่นอนของตัวเองได้ ว่าพื้นที่ตรงนี้กำลังเป็นพื้นที่การค้าขนาดย่อมๆ แต่ไม่ใช่ในเดือนแห่งพระอาทิตย์นี้ ซึ่งหมายความว่า เขาต้องวางแผนล่วงหน้าและเริ่มหางานทำ

เขาเคยทำงานพาร์ทไทม์จ่ายค่าเล่าเรียน ดังนั้นเขาจึงคิดว่าไม่น่าจะยากที่จะออกไปหางาน และการหางานก็ไม่น่าจะยากลำบากอะไรมากซักเท่าไหร่มั้ง

แต่โชคชะตาก็มันจะเล่นตลก ปล่อยให้สิ่งที่เขาทำนั้นสูญเปล่าตั้งแต่วันแรกที่มาสมัครงาน

เขายืดตัวขึ้นและตัดสิ่งใจว่าจะเรียกวันนี้ว่าวันธรรมดา เขาพบม้านั่งใต้ต้นไม้ ในสวนสาธารณะบริเวณใกล้เคียง ที่ซึ่งสามารถช่วยเขาให้รอดพ้นช่วงบ่ายที่ร้อนไปได้ ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังร้านอาหาร เพื่อกินและกลับบ้าน ท่ามกลางการพัฒนากว้างขวางที่เกิดขึ้นทั่วเมือง แต่ก็ยังคงมีรักษาสวนสาธารณะซึ่งคล้ายกับโอเอซิสไว้ทั้งแบบนี้ เพื่อให้คนทั่วไปได้พบกับความเงียบสงบและผ่อนคลาย

เขาเช็ดเก้าอี้ให้สะอาดก่อนนอนเอนตัวลงนอนด้วยหลังของเขาและงีบหลับ เขาปกปิดหน้าของเขาด้วยใบปลิวสาวสวยทั้งสองเพื่อป้องกันแสงอาทิตย์ที่เล็ดลอดออกมา แน่นอนว่าเขายังตื่นตัวอยู่ตลอดเนื่องจากการมีเหตุการณ์ล่วงกระเป๋าที่เพิ่มขึ้นมากจากเดิม มันไม่สำคัญว่าเขาจะไม่มีกินหรือหมดตัว แต่การถูกล้วงกระเป๋าเป็นสิ่งที่เขาไม่ต้องการซักเท่าไหร ทุกอย่างที่เขาต้องการก็แค่งีบสั้นๆ เท่านั้นเอง

และในจังหวะที่เขากำลังจะเคลิ้มหลับลงไปนั้น เขารู้สึกมีเงาเหนือเขา มันอาจจะเป็นคนที่มาอยู่ข้างๆเขา เขาหยิบใบปลิวออกจากหน้าและรู้สึกตกใจที่พระอาทิตย์เกือบจะตกดิน! และนั่น มีคนๆนึงอยู่ข้างๆเขาทางฝั่งขวาเป็นคนเดียวกันกับเงาที่บังหัวเขา เขาแทบจะไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของคนนั้นได้ แต่ตัดสินจากรูปร่างที่เรียวเล็กและโครงหน้า เขาสามารถบอกได้เลยทันทีว่าเป็นผู้หญิงที่มีผมสั้น

“เฮ้ คุณตื่นซิ”

ขณะที่หญิงสาวพูด เธอโบกมือให้เขาราวกับว่าพวกเขารู้จักกันและกันมาก่อน เฮาเหลนกระเด้งขึ้นและรู้สึกง่วงเล็กน้อย เขาได้ตรวจสอบความเป็นจริงโดยการตรวจสอบสภาพแวดล้อมของเขา เพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้ฝัน มันเป็นพระอาทิตย์ตกแน่นอน จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวด้านหน้า หญิงสาวตระหนักได้ว่าเธออยู่ในตำแหน่งที่ย้อนแสง ดังนั้นเธอจึงขยับไปด้านข้างเล็กน้อยเพื่อที่จะเห็นเธอได้ชัดขึ้น

เฮาเหลนกำลังมองหญิงสาววัยแรกแย้มอยู่ และความประทับใจแรกของเขาสำหรับหญิงสาวคือเธอช่างสวยงามเหมือนเทพธิดา

ผู้หญิงคนนี้แต่งตัวเรียบง่าย เสื้อสีขาวเพรียวบางที่พอดีกับตัวเธอ พร้อมลูกปัดแลดูน่ารักบนปกคอ จับคู่กับกางเกงขาสั้นสีดำและรองเท้าคัดชู เธอราวกับนักเรียนที่กำลังข้ามไปเป็นนักศึกษา ผมของเธอยาวประบ่าและผิวของเธอก็ดุจข้างสาลี เธอดูสปอตร์และเป็นสาวสดใส เธอช่างงดงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับดวงตาที่แวววาวของเธอ เป็นสิ่งที่สวยที่สุดที่เฮาเหลนเคยเห็นมา

หลังเธอเป็นกระเป๋าใหญ่

เธอมองไปที่เฮาเหลนที่แสดงท่าทีมึนงงเล็กน้อย เธอยิ้มเหมือนแมวเชสเชียร์(แมวในalice in wonderland)(เฮาเหลนคิดแบบนั้น) เดี๋ยวนี้มันเป็นเรื่องยากที่จะหารอยยิ้มที่ไร้เดียงสาในหมู่วัยรุ่นสาวพวกนี้ได้ เธอเหน็บมือไว้ในกระเป๋าเล็กๆของเธอ ตั้งแต่ต้นเธอเหมือนจะค้นหาบางอย่าง มันใช้เวลาสักครู่ก่อนที่เธอจะดึงกระดาษที่ยับยู่ยี่ออกมาและส่งมอบให้เขา “คือ ช่วยบอกทางไปตรงนี้ให้ฉันหน่อยได้ไหมค่ะ?” เธอถาม

เฮาเหลนตบใบหน้าตัวเองเบาๆ พยายามที่จะกำจัดตัวเองจากความมึนงง เขามองไปที่ใบปลิวและเห็นที่อยู่ที่เขียนไว้บนกระดาษ... อ๋าา! นี่มันบ้านของฉันไม่ใช่เหรอ?!

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด