ตอนที่แล้วDND.39 - เหตุมิคาดคิด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDND.41 - สังหารเยี่ยงวีรบุรุษ

DND.40 - เพลิงจิตสังหารปะทุ


ไป่ชี่เซียงยั่วโมโห

“ได้ยินมาว่าดยุคเซี่ยนหยูคือดยุคที่แกร่งสุดในแคว้น ข้ารอเวลามาตลอด วันนี้ข้าจะได้เห็นกับตาเสียทีว่าท่านเป็นยังไง! เพลงดาบล่องนภา!”

เขาดึงกระบี่ที่มีรังสีปกคลุมออกมา มันก่อให้เกิดความเย็นมหาศาล

กระบี่เคลื่อนที่ราวกับสายลม มันกวัดเกว่งจนเป็นกำแพงที่ทะลุผ่านไม่ได้ เสียงกระบี่เฉือนผ่านอากาศราวกับบทเพลงแห่งความตาย

ดยุคเซี่ยนหยูหม่นหมอง

“เพลงดาบล่องนภางั้นเหรอ? เจ้าเป็นคนตระกูลไป่! เจ้าคือลำดับ 11 ในงานประชุมศักดิ์สิทธิ์เมื่อ 15 ปีก่อนสินะ? ปรมาจารย์ดาบไป่ชี่เซียง”

15 ปีก่อน อัจฉริยะดาบที่อายุเพียง 16 ปีได้บ่มเพาะพลังถึงระดับหก เขาพัฒนาอย่างรวดเร็วที่งานประชุมศักดิ์สิทธิ์ เขาชนะบรรดาคู่แข่งจนไต่ถึงลำดับ 11 สร้างความตกตะลึงไปทั่วแว่นแคว้น

หลังจากนั้นเขาหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีใครรู้เลยว่าเขาได้กลายเป็นองครักษ์ส่วนตัวขององค์ชายลำดับหนึ่ง พลังของเขาได้ทะลุขอบเขตถึงระดับหกขั้นสูงที่แกร่งกว่าดยุคเซี่ยนหยูซะอีก

ไป่ชี่เซียงพุ่งมาข้างหน้าพร้อมกระบี่ เขาหัวเราะเบาๆ

“ปรมาจารย์ดาบงั้นหรือ? เทียบกับลำดับสิบ ข้าเป็นเพียงมดปลวก!”

งานประชุมศักดิ์สิทธิ์น่ากลัวเพียงใดกัน? ผู้มีพลังระดับหกนั้นยังไม่อยู่ใน 10 ลำดับแรกด้วยซ้ำ

ปั้ง---

ทั้งสองปะทะกัน ดยุคเซี่ยนหยูเสียเปรียบทันที พลังของไป่ชี่เซียงน่ากลัวมาก

“เป็นถึงดยุคที่แกร่งที่สุดแต่กลับมีพลังแค่นี้งั้นหรือ!”

ฟึ่บ--

เขายกกระบี่ขึ้นและเข้าปะทะกับดยุคเซี่ยนหยูอีกครั้ง พวกเขาทั้งสองมีพลังระดับหกและมีพลังปราณอันล้นเหลือ การปะทะกันทุกครั้งของพวกเขาก่อให้เกิดพลังอันน่ากลัว

แขกคนอื่นที่หลบไม่ทันต่างถูกลูกหลงจากพลังและกระอักเลือดสลบไปทันที

ซือหยูที่ดูอยู่ทำอะไรไม่ถูก เขารีบกอดเซี่ยนเอ๋อไว้ในอ้อมแขนให้นางปลอดภัย

เซี่ยนเอ๋อตัวแข็งทื่อ นางยังไม่รู้สึกตัวจากเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น จากตีอกซือหยู

“พี่ซือหยู มีคนกำลังรังแกท่านพ่อ ไปช่วยเขากันเถอะ”

“ไม่มีประโยชน์ พลังของพวกเขาต่างกับเรามาก เราอ่อนแอเกินไป”

ซือหยูกำหมัดแน่น

เป็นอีกครั้งที่เขารู้สึกไร้พลัง เขาทำอะไรเพื่อหยุดเจียงซื่อฉิงที่ทิ้งเขาไปไม่ได้ เขาทำอะไรเพื่อหยุดดยุคเซี่ยนหยูที่แสดงความโอบอ้อมอารีต่อเขาไม่ได้เช่นกัน

ความรู้สึกผิดบาปปะทุอยู่ในใจซือหยู เขากำหมัดจนเล็บจิกเนื้อหนังที่ฝ่ามือทำให้โลหิตไหลออกมา

กลิ่นคาวโลหิตคละคลุ้ง องค์ชายลำดับสองพาองครักษ์สามคนที่มีพลังระดับห้าขั้นต้นมาขวางทางซือหยู

“ฮื่ม!! เจ้ากบฏ ยอมแพ้ได้แล้ว!”

องค์ชายลำดับสองเย็นชา แต่ในสายตานั้นยิ้มเยาะ

เขามองเซี่ยนเอ๋ออย่างหื่นกระหาย

ฉินเซี่ยนเอ๋อได้รับตำแหน่งสาวงามที่สุดแห่งตระกูลราชวงศ์ เขาอยากได้นางมาอย่างยาวนาน เขาได้ขอนางแต่งงานกับดยุคเซี่ยนหยูหลายต่อหลายครั้ง...แต่ถูกปฏิเสธทุกครั้งไป

ในวันนี้ดยุคเซี่ยนหยูถือว่าเป็นภัยต่อเขา หลังจากที่เขาจับฉินเซี่ยนเอ๋อได้แล้วเขาจะเล่นสนุกกับนาง ตราบที่ดยุคเซี่ยนหยูถูกจับตัว ฉินเซี่ยนเอ๋อที่อยากช่วยพ่อของนางจะทำอะไรไม่ได้ นางจะติดอยู่กับเตียงของเขาและทำตามทุกอย่างที่เขาพูด ช่างน่าหฤหรรษ์อะไรเช่นนี้!

“ไปซะ! ฆ่าทุกคนที่ขัดขืน!”

องค์ชายลำดับสองเลียริมฝีปาก เขาสั่งการด้วยใบหน้าโหดเหี้ยม

องครักษ์ทั้งสามยินดีมาก เขารู้ว่าองค์ชายลำดับสองต้องการอะไร พวกเขาแค่ต้องสังหารซือหยูเท่านั้นและทิ้งฉินเซี่ยนเอ๋อให้ปลอดภัย เพื่อที่ฉินเซี่ยนเอ๋อจะได้ถูกโยนลงบนเตียงเจ้านายพวกเขาในค่ำคืนนี้

“ท่านพ่อ...”

ใบหน้าเซี่ยนเอ๋อเต็มไปด้วยน้ำตา นางโกรธแต่มิอาจทำอะไรได้ นางทำได้แต่มองหาท่านพ่อที่กำลังอดทนต่อสู้กับไป่ชี่เซียง

ไม่เหลือคราบความน่าหลงใหลบนใบหน้านางอีก นางเหลือแต่น้ำตานองหน้า ซือหยูใจสลาย เขาอยากจะตบหน้าตัวเองแรงๆ เขาปล่อยให้คู่หมั้นและสตรีของเขาร้องไห้ได้อย่างไร?

องครักษ์สามคนพุ่งตรงเข้ามา

“ยอมแพ้ซะ!”

“ดัชนีมังกรทะลวง!”

“ฝ่ามือแยกวารี!”

องครักษ์สองคนโจมตีเข้ามาก่อน

ซือหยูมองอย่างเยือกเย็น เขาก่อจิตสังหารขึ้นมามหาศาล ทำไมพวกมันจะต้องมาทำลายดยุคที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้กัน?

พ่อตาของเขาควรจะได้อยู่อย่างมีความสุข องค์หญิงควรจะอยู่อย่างสง่าผ่าเผย ตำหนักควรจะสงบสุขไร้เหลือบริ้นไร และที่นี่ควรจะเป็นบ้านอันแสนอบอุ่นของซือหยู

ทำไมกัน...ความเห็นแก่ตัวของเจ้าพวกนั้น...ที่ใช้พลังและอำนาจในทางที่ผิด? ...ทำไมกัน!

ไฟพิโรธปะทุอยู่ในอกซือหยูพร้อมกับการโจมตีที่เข้ามาของสององครักษ์

“ตายซะ!”

ซือหยูตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว

“สายฟ้าดาราม่วง!”

ซือหยูปล่อยจิตสังหารเต็มที่และโจมตีด้วยพลังทั้งหมด

เงาแสงสีม่วงที่หมัดของเขานั้นพันปกคลุมราวกับมังกรสายฟ้าในตำนานเข้าปะทะกับดัชนีมังกรทะลวง

แขนขององครักค์คนแรกฉีกออกด้วยสายฟ้าสีม่วง เขากระอักเลือดขนานใหญ่และกระเด็นไปไกลชนกับกำแพงหนา หัวใจของเขาระเบิดและตายทันที ซือหยูสังหารผู้มีพลังระดับห้าในหมัดเดียว

แขกเหรื่ออ้าปากค้าง

องค์ชายลำดับสองโกรธยิ่งขึ้น

“เข้าไปพร้อมกัน! ไม่ว่ามันจะแกร่งแค่ไหนมันก็สู้กับคนหลายๆคนพร้อมกันไม่ได้”

หลังจากสั่งแล้วองค์ชายลำดับสองก็ไปซ่อนตัวจากระยะไกล เขายิ้มมองการต่อสู้อย่างเยือกเย็น ราวกับมองดูสัตว์ป่าเข้าห้ำหั่นกัน

จากมองเซี่ยนเอ๋ออย่างหื่นกระหาย เขาหัวเราะด้วยความโรคจิต

“เซี่ยนเอ๋อ...คืนนี้เจ้าจะเป็นของข้า!”

“ฝ่ามือแยกวารี!!”

องครักษ์ลอบโจมตีซือหยูที่ยังชักหมัดกลับไม่ทันและสวนกลับไม่ได้ เขาโจมตีโดนแผ่นหลังของซือหยู

ซือหยูป้องกันไม่ทันและถูกการโจมตีอันรุนแรงเข้า เขาสำลักโลหิตออกมา ณ ตรงนั้น โลหิตกระจายเต็มใบหน้าของเซี่ยนเอ๋อในอ้อมกอดของเขา ความอุ่นของโลหิตทำให้เซี่ยนเอ๋อเงยหน้าขึ้นมาดู

“ไม่นะ...พี่ซือหยู….”

ฉินเซี่ยนเอ๋อสั่นกลัว

ท่านพ่อกำลังถูกล้อม อีกทั้งคู่หมั้นยังบาดเจ็บรุนแรง

องค์หญิงที่ไร้เดียงสาและบริสุทธิ์ต้องพบเจอกับความสิ้นหวังเป็นครั้งแรกในชีวิต

ซือหยูกอดนางแน่นขึ้นไปอีก เขาไปชนกับเสาศิลา อวัยวะภายในบาดเจ็บ เขากลืนโลหิตที่สำลักออกมาและฝืนเค้นรอยยิ้ม

“ทำใดดีๆไว้ เซี่ยนเอ๋อ ข้าจะไม่ตาย พ่อเจ้าจะไม่ตายเช่นกัน...”

ซือหยูสำลัก

เซี่ยนเอ๋อที่กำลังร้องไห้ทำไห้ซือหยูเศร้าและโกรธกว่าเดิมราวกับสัตว์ป่าและแผ่จิตสังหารไปทั่ว

“พวกเจ้าทุกคน...ต้องตาย!”

ซือหยูตะโกนลั่น เขาไม่มีทางยอมรับชะตาเช่นนี้เด็ดขาด!

สายลมรุนแรงพัดปลิวเส้นผมดำของเขา ชุดสีแดงปลิวไสว ดวงตาเขาเผยจิตสังหารอันรุนแรงอย่างไม่น่าเชื่อออกมา

“ดาบอสูร! ตาย!”

ดวงตาซือหยูกลายเป็นสีทมิฬทันที แสงทมิฬถูกปล่อยใส่ศัตรูที่พุ่งตรงเข้ามา

องครักษ์ที่ใช้ฝ่ามือแยกวารีร้องโหยหวนก่อนจะตายเพราะการบาดเจ็บภายใน

องครักษ์คนนั้นแสดงสีหน้าเจ็บปวดรวดร้าว ใบหน้าบูดเบี้ยว

เซี่ยหลินฉวนอ้าปากค้าง

“เนตรอสูรระดับสาม! ดาบอสูร! เป็นไปได้ยังไง? นั่น...แสดงว่าเขามีพลังวิญญาณสูงมากไม่ใช่รึไงกัน?”

เซี่ยหลินฉวนสั่นไปทั้งตัว

พลังวิญญาณคือความพิเศษที่สุดในเส้นทางยุทธ มันโจมตีดวงวิญญาณได้อย่างลึกลับและสังหารได้โดยไม่ทิ้งร่องรอย

องค์ชายลำดับสองที่คิดว่าตัวเองปลอดภัยแล้วชักสีหน้าและรีบหาที่ซ่อนทันที

เขาสั่นกลัวไปถึงหัวใจ

“เร็วเข้าเซ่! รีบฆ่ามัน! เขามีพลังวิญญาณด้วยนะ!”

พลังวิญญาณสังหารได้โดยไม่ทิ้งร่องรอย ระยะทางไม่ใช่ประเด็นเช่นกัน องครักษ์ที่พุ่งเข้าหาซือหยูในตอนนี้อยากจะหนีไปให้ไกล

“ดาบอสูร! ตาย!”

องครักษ์อีกคนตายทันที ดาบอสูรนั้นน่ากลัวมาก มันเป็นพลังไร้ลักษณ์ที่สังหารคนได้ทันที

หากเป็นสถานการณ์ธรรมดาซือหยูจะไม่มีทางใช้ดาบอสูร แต่องค์ชายทั้งสองนั่นบังคับเขาให้ใช้มัน จิตสังหารของซือหยูกระจายไปทั่ว

องครักษ์คนสุดท้ายสิ้นชีวิต…

องค์ชายลำดับสองตัวสั่น เขารีบหนีไปทางองค์ชายลำดับหนึ่งอย่างบ้าคลั่ง ปากเขาสั่นราวกับสตรี

“ช่วยข้าด้วยพี่! เร็วเข้า...ช่วยข้าด้วย!”

ในตอนนั้นเขาไม่ได้สนใจสเน่ห์ของฉินเซี่ยนเอ๋ออีกต่อไป สัญชาติญาณสั่งให้เขาเอาชีวิตรอดแม้ว่าองค์ชายลำดับหนึ่งจะสู้อยู่ เขาก็มองสถานการณ์ขององค์ชายลำดับสองด้วย

“หยุดนะ! การฆ๋าคนของราชวงศ์เป็นความผิดที่แม้สวรรค์ก็ไม่ให้อภัย!”

องค์ชายลำดับหนึ่งเตือน

แต่ซือหยูไม่คิดถึงเหตุผลอะไรอีกแล้ว

ด้านนอก สายลมเย็นทำให้ชุดแดงของเขาปลิวไหว เขาร่ายรำอย่างป่าเถื่อนไปตามเวหา ผมสีดำที่สยายออกทำให้เขาราวกับเป็นเทพเจ้าแห่งความตาย ดวงตาเปล่งประกายของเขาถูกแผดเผาด้วยความโกรธ เขาไม่ได้ยินคำขององค์ชายลำดับหนึ่งแม้เพียงเสี้ยวประโยค

“ดาบอสูร! ตายซะ!”

แสงทมิฬพุ่งออกมาจากดวงตาทะลุพื้นที่และเวลาด้วยพลังอันหยุดยั้งมิได้ พลังนั้นเจาะทะลุร่างขององค์ชายลำดับสอง

องค์ชายลำดับสองร้องโหยหวน ร่างกายบิดเบี้ยว มีฟองออกมาจากปากเขาและตายทันที

ไม่ว่าจะมีอำนาจเพียงใดในยามมีชีวิต ไม่ว่าพลังของตระกูลราชวงศ์จะมีเพียงใด แต่หากตายแล้วก็จะกลายเป็นเพียงเถ้าถ่าน!

“น้องข้า!”

องค์ชายลำดับหนึ่งเบิกตาโพลง

องค์ชายลำดับสองคือน้องชายฝาแฝดของเขา พวกเขาเติบโตมาด้วยกันและน้องเขาก็ช่วยเขาในการขึ้นครองบัลลังก์ตลอดมา ใครกันจะคิดว่าเขาจะถูกฆ่าโดยซือหยู?

“เจ้าฆ่าคนตระกูลราชวงศ์ อภัยให้ไม่ได้! ไปซะ! ฆ่ามันให้ตายก่อนที่มันจะได้ล้มลงกับพื้น!”

องค์ชายลำดับหนึ่งตาแดงก่ำด้วยไฟพิโรธ

เขาเคยคิดว่าเขตเซี่ยนหยูจะต้องยอมศิโรราบกับเขา เขาไม่คิดว่าซือหยูจะกล้าฆ่าคนในราชวงศ์

“ฮ่าๆๆ...หยูเอ๋อ ทำได้ดีมาก! ข้าคิดผิดจริงๆ!”

ดยุคเซี่ยนหยูหัวเราะด้วยความโล่งใจ

หากพวกเขายอมแพ้ พวกเขาจะต้องถูกฆ่าอย่างแน่นอน สู้ขัดขืนด้วยพลังทั้งหมดและเข่นฆ่าซะยังดีกว่า

“ฆ่ามัน!”

องค์ชายลำดับหนึ่งที่กำลังโกรธพุ่งเข้ามาเป็นคนแรก

รังสีพลังระดับห้าขั้นสูงอันน่ากลัวแผ่กระจายไปทั่ว องค์ชายลำดับหนึ่งเก็บซ่อนพลังเอาไว้ หากไม่ใช่เพราะว่าเขาโกรธคงจะไม่มีใครรู้ว่าเขามีพลังระดับห้าขั้นสูงแล้ว

องครักษ์เจ็ดคนเต็มไปด้วยความกระหายเลือด พวกเขาพุ่งเข้ามาอย่างไม่กลัวตาย

หกคนมีพลังระดับห้าขั้นต้น อีกหนึ่งมีพลังระดับห้าขั้นกลาง! หากร่วมกันโจมตีแล้วแม้ผู้มีพลังระดับหกยังต้องเกรงกลัว...ไม่ต้องพูดถึงซือหยูเลย

แต่ซือหยูก็ไม่ได้กลัวเช่นกัน เขากลับหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

“บุรุษผู้เถรตรงย่อมไม่กลัวตาย”

เขากอดเซี่ยนเอ๋อไว้ในอ้อมแขนและแสดงความตั้งใจอันแรงกล้า

“ดาบอสูร!”

อ๊าก-----

เขาสังหารด้วยการมอง เขาฆ่าศัตรูในทุกฝีก้าว ซือหยูไม่รู้สึกผิดชอบชั่วดีอีกต่อไปแล้ว

Banshee

ติชมให้กำลังใจ กดไลค์แฟนเพจมาคุยกันได้เลยจ้าาา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด