ตอนที่แล้วSGS บทที่ 59 – ความเข้าใจเกี่ยวกับโรงประมูลของโลลิน้อยล่ะ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSGS บทที่ 61 – อาร์ติแฟคขั้นเทพในการพิชิตใจพี่สาวเรลกันล่ะ!

SGS บทที่ 60 – ยามสนธยาของเมืองท่าล่ะ!


เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน เมืองท่าก็สว่างไสวไปด้วยไฟหลากหลายสีไปทั่วทั้งเมือง ทำให้เมืองเล็กๆแห่งนี้ดูราวกับว่าเป็นนครเมืองขนาดใหญ่

ทุกๆบ้าน ทุกๆร้านค้า และทุกๆโรงแรมจะเปิดโคมไฟเวทมนตร์กัน ทำให้ทั่วทั้งถนนสว่างไสวไปด้วยแสงสี ดูยังกับว่าเมืองนี้ไม่มีวันหลับไหลยังไงยังงั้น

และบางทีอาจจะเป็นเพราะเหตุนี้ ดังนั้นเวลากลางคืน ผู้คนที่เดินไปมาบนถนนถึงไม่ได้ลดลงเลย ในความเป็นจริงมันกลับเพิ่มมากขึ้นด้วยซ้ำ และร้านค้าทุกร้านเมื่อเทียบกับตอนกลางวันแล้วนับได้ว่ามีลูกค้ามากกว่าหลายเท่านัก

นี้มันก็แน่นอนอยู่แล้ว เป็นเพราะช่วงกลางวัน นักรบ นักเวทย์และเหล่าทหารรับจ้างที่พอมีความสามารถจะพากันเข้าป่าสัตว์อสูรหมด บางคนก็ไปล่า บางคนก็ไปหาประสบการณ์ หรือบางคนก็ไปสมุนไพรอะไรทำนองนี้

ดังนั้นเวลากลางวัน จึงมีแต่คนธรรมดาที่ไร้พลังปราณและพลังเวทย์อยู่กัน ส่วนยามค่ำคืน คนที่อยู่ใกล้เมืองก็จะทยอยเดินทางกลับกัน แต่กับคนที่เข้าไปในป่าสัตว์อสูรลึกหน่อยก็จะตั้งแคมป์กัน และถ้าใครตั้งแคมป์อยู่นานหลายวันแล้วก็ต้องเดินทางกลับมาเติมเสบียง

เอาง่ายๆเมืองนี้ตอนกลางคืนคนแม่งเยอะกว่าตอนกลางวัน

วู่หยานเดินนำ ฮินางิคุ มิโคโตะและก็ลิลินออกมาจากโรงแรม เมื่อสามสาวเห็นถนนที่เต็มไปด้วยแสงสีก็ร้องออกมาแทบจะพร้อมกัน ในดวงตาพวกเธอสะท้อนไปด้วยดวงดาวเล็กๆเต็มไปหมด ลิลินกระโดดชูมือด้วยความตื่นเต้น

“สวยจัง! สวยมากเลย! แสงพวกนี้เทียบกับที่บ้านลิลินแล้วยังสวยกว่าอีก!” ลิลินดุจม้าป่าที่วิ่งไปทั่ว เธอแทบจะกระโจนเข้าไปในฝูงคน ดีที่วู่หยานเดาความคิดเธอออกก่อนเลย จึงเอื่อมมือจับเธอไว้

“โอนี่จัง! จับลิลินทำไม ลิลินจะเล่นอ่า!” โลลิน้อยดิ้นรนให้หลุดจากมือวู่หยาน ปากก็บ่นด้วยความไม่พอใจสุดๆ แต่น่าเสียดายด้วยเลเวล50 ถ้าเขาไม่คิดปล่อยก็อย่าหวังว่าเธอจะดิ้นหลุดไปได้

รู้สึกถึงแรงตบน้อยๆของเธอที่กำลังโมโห วู่หยานฝืนยิ้ม แล้วพูดอย่างเหนื่อยใจว่า “พี่ขอพูดหน่อยนะลิลินน้อย คนตั้งเยอะแบบนี้ถ้าพี่ปล่อยเธอไป แล้วเธอเกิดหลงขึ้นมาจะทำยังไงหือ?”

เธอหยุดตีเขา แล้วทำหน้าครุ่นคิด ก่อนจะพองแก้มและแลบลิ้นใส่เขาอย่างไม่พอใจ

“แบร่! พี่ชายนิสัยไม่ดี ไม่ให้ลิลินไปเล่น คนใจร้าย!”

นาทีนี้วู่หยานไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ยัยเด็กน้อยนี่เอาใจยากโครตๆ แถมเธอดันมีความสามารถพูดกลับจากผิดเป็นถูกดำเป็นขาวได้อีกด้วย ความสามารถนี่เทียบได้กับด้านซึนเดเระของฮินางิคุลัมิโคโตะเลย

“พอได้แล้วจ้ะ....” ฮินางิคุดึงตัวลิลินมาจากวู่หยาน แล้วจับมือเธอเอาไว้ “เป็นเด็กดีนะ เดียวต่อจากนี้พวกเราก็จะไปโรงประมูลกันแล้ว!”

“ประมูลล่ะ! ประมูล! เย้!” ดวงตาลิลินลุกโชนทันที เปิดปากน้อยๆตะโกนอย่างมีความสุข

“พวกเราไปกันเถอะ!” สิ้นเสียง มิโคโตะก็ออกเดิน ทำให้วู่หยานและฮินางิคุที่กำลังจับลิลินหัวเราะๆ และเดินตามเธอไป

มองสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขของสามสาว ในใจวู่หยานก็รู้สึกมีความสุขเหมือนกัน

ถึงแม้จริงๆมันจะแค่ไม่กี่วัน แต่เขากลับรู้สึกว่าไม่ได้เห็นรอยยิ้มจองฮินางิคกับมิโคโตะมานานมากแล้ว

ตั้งแต่อัญเชิญมิโคโตะออกมา มันก็ไม่นานนัก ก่อนที่พวกเธอจะตามเขาเข้าไปในถ้ำเวรนั่น

เวลาข้างในนั้นหนึ่งวันหนึ่งคืน แทบจะหมดไปกับการฆ่าพวกปีศาจ กับพวกเธอที่ไม่เคยเห็นแม่แต้เลือดมาก่อน การที่ไม่สติแตกไปถือว่าเป็นปาฏิหาริย์แล้ว

ต้องรู้ก่อนว่า ก่อนหน้านี้ฮินางิคุเป็นแค่เด็กสาวมอปลายที่เก่งด้านเคนโด้ และแข็งแรงกว่าคนธรรมดาไม่มากนัก เธอเป็นคนนิสัยห้าวๆทอมบอย อายุแค่15ปีเท่านั้น

แต่ถึงแม้มิโคโตะ เธอจะมีพลังที่แข็งแกร่งมากและยังมาจากเมืองที่โครตวุ่นวายและยุ่งเหยิง นอกจากฐานะที่เป็นผู้มีพลังจิตเลเวล5เพียง7คนแล้ว เธอก็เป็นแค่เด็กสาวธรรมดาที่ใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ และมีอายุเพียงแค่14ปีเท่านั้น

แต่ทว่าพอเทียบกับสิ่งที่เจอเมื่อไม่กี่วันก่อนแล้ว คงพูดได้แค่ว่า ‘นรก’ สำหรับพวกเธอ.....

วู่หยานยังคงไม่สามารถลืมภาพ พวกเธอที่ยืนอยู่ท่ามกลางซากศพจำนวนมหาศาล ตัวสั่นหงกๆใบหน้าขาวซีด ตามตัวเต็มไปด้วยเลือด....

และเมื่อมาโลกซิลวาเรียก็มีเควสฉุกเฉิน ทำให้ถูกดึงเข้าไปในสถานการณ์ที่ต้องฆ่าฟันอีกครั้ง

สิ่งที่เขากังวลมากที่สุดก็คือ ถ้าเกิดเรื่องนองเลือดบ่อยๆ นานวันเข้าพวกเธอจะยังสามารถคงสภาพจิตใจให้เป็นปกติต่อได้รึเปล่า?

ทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่า มันเป็นเรื่องที่ถูกต้องจริงๆงั้นเหรอ ที่เขานำพวกเธอมาอยู่ข้างกาย?.....

แต่ทว่าตอนนี้ พอเขาเห็นพวกเธอยังสามารถเดินเล่นหัวเราะคิกคัก ซื้อของช้อปปิ้งตามประสาผู้หญิงได้เหมือนเดิม ทำให้เขายกหินออกจากอกได้

ฮ่าๆ เรื่องแค่ ‘เล็กน้อย’ แค่นี้จะไปมีผลอะไรกับสาว2Dที่เขาชอบได้กัน จริงมั้ยล่ะ? นี่เขาไม่เชื่อใจพวกเธอเลยรึไง?

คิดถึงตรงนี้ วู่หยานก็รู้สึกกระชุ่มกระช่วยทันที เขาเอามือทั้งสองข้างหนุนหลังหัว เดินตามสามสามต่างขนาด ในใจรู้สึกผ่อนคลายมาก

ชำเลืองมอง ฮินางิคุที่มือข้างหนึ่งจับมือมิโคโตะและมืออีกข้างก็จับลิลิน เธอหันหน้าน้อยๆมองไปรอบตัว ปากก็ชวนมิโคโตะคุยบ่อยครั้งส่งเสียงหัวเราะคิกคักอย่างเบิกบายใจ นี่ทำให้วู่หยานยิ้มกว้างจนหุบไม่อยู่

แต่นี่ก็เตือนใจเขาเหมือน ตั้งแต่ตอนได้ ‘จูบแรก’ จากท่านประธาน เขาก็รู้สึกว่าความสัมพันธ์มันเพิ่มช้าลงยังไงไม่รู้...

ถึงแม้พวกเขาจะไม่มีวันแยกจากกันอยู่แล้ว แต่เขาก็รู้สึกอยู่ตลอดว่าค่าความชอบมันหยุดเพิ่มด้วยเหตุผลบางอย่าง...

ในเมื่อสเต็ปสองพิชิตได้แล้ว ก็ควรเริ่มสเต็ปสามเลยมั้ย? ไอ้อีเว้นท์ผีผ้าห่มในตำนานนั่นน่ะ.......

แต่ว่า....พี่สาวเรลกันเอง...ก็จำเป็นต้องเพิ่มค่าความชอบเหมือนกันเนี่ยสิ.....

จะดีจะร้ายยังไง เขากับท่านประธานก็ได้ถูกเนื้อต้องตัวกันแล้ว แต่ทางด้านพี่สาวเรลกัน รู้สึกว่ามันจะหยุดอยู่ที่โซน ‘เพื่อนสนิท’ เนี่ยสิ.....

เอาจริงๆความสัมพันธ์พวกเขามันมากกว่าเพื่อนสนิทเสียอีก เพราะยังไงซะแม้แต่ชีวิตพวกเขาก็แชร์ด้วยกันแล้ว แถมซาลาเปาน้อยๆจิ้มลิ้มของเธอเขาก็เห็นมาหลายครั้งแล้วด้วย.....

เหนือกว่าเพื่อน แต่ไม่ถึงกับแฟน!

ก็น่าจะระดับนี้แหละ ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอ....

แล้ววู่หยานจะพอใจกับสถานะตอนนี้เป็นแค่เพื่อนสนิทงั้นเหรอ?

คำตอบมันแน่นอนอยู่แล้ว ไม่ครับผม!!

งั้นเราควรเริ่มพิชิตพี่สาวเรลกัน? แต่ถ้างั้นแล้วฮินางิคุล่ะ? จะทำยังไง?

ถึงแม้ความสัมพันธ์มันจะไม่เพิ่มขึ้น แต่อย่างน้อยก็ต้องไม่ให้มันลดลง

ถ้าเขาเริ่มจีบมิโคโตะจริงๆ เขาว่าค่าความชอบของฮินางิคุต้องลงแน่

แต่ถึงมันจะไม่ลด ท่านประธานก็เป็นอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการพิชิตคุณหนูเรลกันไม่ผิดแน่!

งั้นเอาแม่งทั้งสองคนพร้อมกันเลยดีมั้ย?

ทันทีที่ความคิดนี้ผุดขึ้นมา วู่หยานก็รีบส่ายหัวสุดชีวิต

เพ้อฝันมาก เรื่องแบบนี้คิดยังไงมันก็มีแต่ในการ์ตูน จีบทีเดียวสองคนอะไรมันเป็นแค่เรื่องตลก! ถึงแม้พี่ชายคนนี้จะเป็นโอตาคุ แต่ก็แค่โอตาคุธรรมดา ไม่ใช่ท่านเทพจีบหญิงในตำนานคนนั้น.... (@เรื่องพี่เทพgod only knows)

ถ้าเขาทำจริงๆโอกาสตายมีสูงมาก!!!

คิดถึงตรงนี้ วู่หยานก็ถอนหายใจด้วยใบหน้าเศร้าๆ

หรือว่าเราจะ.....รวบหัวรวบหางแม่งทีเดียวไปเลย!

วู่หยานตกตะลึงกับความคิดตัวเองมาก

เล่นกระโดดข้ามขั้นไปแบบนั้น จุดจบคงตายโดยไร้ดินกลบหน้าแน่ตู......

วู่หยานร้องไห้ทันที

เขาไม่รู้ตัวว่าตอนนี้ ทั้งสามสาวกำลังเบิกตากว้างจ้องมาที่ตนอยู่ มองวู่หยานที่เดียวก็ส่ายหน้า เดียวก็เปลี่ยนหน้าเหมือนคนกำลังจะตาย แปปๆก็เปลี่ยนเป้นร้องไห้ เห็นท่าทางพวกนี้ทำให้ทั้งสามสาวตัวสั่น

ลิลินน้อนหดคอ ซ่อนอยู่ตรงกลางระหว่างฮินางิคุและมิโคโตะ มือน้อยๆก็จับแขนของสองสาว พูดเบาๆว่า “พี่สาวฮินางิคุ พี่สาวมิโคโตะ พี่ชายเป็นบ้าแล้วอ่า....”

ฮินางิคุกับมิโคโตะหันมามองหน้ากันและกัน ก่อนที่จะพร้อมใจกันลากลิลินถอยห่างออกมาจากวู่หยาน

วิธีที่ฉลาดที่สุดสำหรับตอนนี้คือแกล้งไม่รู้จักตาบ้านี่ซะ.....

 ห้องสมุดคนรักนิยายแปล กลุ่มลับถึงตอน 82

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด