ตอนที่แล้วประกาศิตรัก : ตอนที่ 53-54 : คนที่ซ่อนอยู่ในความทรงจำ (3-4)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปประกาศิตรัก : ตอนที่ 57-58 : คนที่ซ่อนอยู่ในความทรงจำ (7-8)

ประกาศิตรัก : ตอนที่ 55-56 : คนที่ซ่อนอยู่ในความทรงจำ (5-6)


ตอนที่ 55 – คนที่ซ่อนอยู่ในความทรงจำ (5)

เมื่อซ่งจิงเฉินเดินเข้าไปในลิฟท์ ยังไม่ทันที่ประตูลิฟท์จะปิด เสียงเตือนข้อความเข้าก็ดังขึ้นจากโทรศัพท์ของเธอ มันคือข้อความจากจินยี่หนาน -ซ่งซ่ง.. พี่ขอโทษที่ไปรับเธอไม่ได้แล้ว พอดีมีบางอย่างต้องทำ เธอไปรอพี่ที่โรงแรมปักกิ่งจะได้ไม๊? พี่จองไว้แล้วในชื่อของพี่ และพี่คงไปถึงที่นั่นราวบ่ายโมงตรง-

ในลิฟท์ไม่มีสัญญาณ เธอจึงส่งสติ๊กเกอร์รูปโอเคส่งให้จินยี่หนานเมื่อมาถึงชั้นหนึ่ง เมื่อออกจากบริษัท.. เธอก็เรียกแท๊กซี่ไปที่โรงแรมปักกิ่ง

แม้การจราจรจะโล่ง.. แต่ที่ทำงานของซ่งจิงเฉินก็อยู่ค่อนข้างไกลจากโรงแรมปักกิ่งมาก เมื่อเธอไปถึงที่โรงแรมก็ราว 12.40 น.แล้ว

พนักงานเสริฟเข้ามาถามข้อมูลการจองเมื่อเธอมาถึงที่ล็อบบี้.. ซ่งจิงเฉินบอกชื่อของจินยี่หนานไปและพนักเสริฟก็พาเธอไปที่ห้องชั้นสาม เมื่อรินชาใส่แก้วให้แล้ว พนักงานเสริฟก็ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แสดงความเคารพว่า “คุณผู้หญิงครับ.. ต้องการสั่งอาหารเลยไม๊ครับ?”

ซ่งจิงเฉินส่ายหน้าพูดว่า “รอก่อน..”

“ครับผม..” พนักงานเสริฟโค้งคำนับอย่างสุภาพก่อนจะเดินออกจากห้องไป บ่ายโมงตรงแล้วแต่จินยี่หนานก็ยังไม่มา ซ่งจิงเฉินไม่ได้โทรตาม แต่นั่งดูทีวีรอเขาไปเรื่อยๆ

เวลาบ่ายโมงครึ่ง.. พนักงานเสริฟเดินมาเคาะประตูอีกครั้ง และถามอย่างสุภาพว่า “ไม่ทราบว่าเพื่อนของคุณผู้หญิงจะมาถึงกี่โมงครับ? คุณผู้หญิงจะสั่งอะไรระหว่างนั่งรอไม๊ครับ?”

ซ่งจิงเฉินเพิ่งรู้สึกตัวว่าเลยเวลานัดไปแล้ว เธอส่งสัญญาณให้พนักงานเสริฟคอย แล้วจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาจินยี่หนาน โทรศัพท์ดังแต่ไม่มีคนรับสาย.. ซ่งจิงเฉินขมวดคิ้วและลองโทรอีกครั้ง และก็ยังคงไม่มีผู้รับสาย เธอยิ้มให้กับพนักงานเสริฟเป็นการขอโทษและพูดว่า “ขอฉันรออีกสักครู่นะ?”

พนักงานเสริฟพยักหน้ายิ้มให้ก่อนจะเดินออกจากห้องไป..

ซ่งจิงเฉินนั่งคอยจินยี่หนานโทรกลับแต่ก็เงียบ.. ในที่สุดเธอจึงตัดสินใจโทรหาเขาอีกเป็นครั้งที่สาม แต่เขาก็ยังคงไม่รับสาย ด้วยความกังวล.. เธอส่งข้อความไปหาเขา แต่ก็ไม่ต่างจากการโยนก้อนกรวดลงในมหาสมุทร ทุกอย่างยังคงเงียบ.. ไม่มีคำตอบ

เวลาบ่ายสองโมงตรงจะเป็นเวลาพักเบรคของพ่อครัวที่โรงแรมปักกิ่ง เมื่อใกล้บ่ายสอง.. พนักงานเสริฟจึงเข้ามาในห้องอีกครั้ง เพื่อถามซ่งจิงเฉินว่าเธอต้องการจะสั่งอาหารหรือไม่

ซ่งจิงเฉินยังคงติดต่อจินยี่หนานไม่ได้ และเธอรู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก.. เธอสั่งอาหารที่เขาชอบไปสองสามอย่างก่อน ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงพนักงานจึงนำอาหารที่สั่งทั้งหมดมาเสริฟที่โต๊ะ แต่ยังคงไร้วี่แววของจินยี่หนาน

ซ่งจิงเฉินนั่งมองจานอาหารบนโต๊ะอยู่คนเดียว.. เธอยังคงหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาจินยี่หนาน..

แต่เธอก็ยังคงไม่สามารถติดต่อจินยี่หนานได้ เธอเริ่มกังวลมากขึ้น กลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับเขา

อาหารที่วางอยู่บนโต๊ะเริ่มเย็น.. แต่ก็ยังไร้วี่แววของจินยี่หนาน  ซ่งจิงเฉินโทรหาจินยี่หนานนับครั้งไม่ถ้วน และในที่สุดปลายทางก็รับสาย แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดอะไรสายก็ถูกตัดทิ้งไป ซ่งจิงเฉินพยายามโทรหาเขาอีกครั้ง แต่ปลายสายดังมาว่า.. -หมายเลขที่ท่านรียกไม่สามารถติดต่อได้ในตอนนี้-

ซ่งจิงเฉินนั่งอยู่คนเดียวเงียบๆในห้องขนาดใหญ่ ท่ามกลางอาหารที่เย็นหมดแล้ว..

เวลาล่วงเลยไปจนห้าโมงเย็น.. ก็ยังไม่มีร่อยรอยของจินยี่หนาน..

และเมื่อเวลา 5.10น. เสียงเตือนจากโทรศัพท์ของซ่งจิงเฉินก็ดังขึ้น เธอรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาดูทันที มันคือข้อความวีดีโอ แต่กลับไม่ได้ส่งมาจากจินยี่หนาน..

ตอนที่ 56 – คนที่ซ่อนอยู่ในความทรงจำ (6)

ข้างในเป็นมีรูปแผ่นหลังของผู้ชาย.. เขากำลังหันหลังให้กล้อง และกำลังทำอาหารอยู่ในห้องครัว แม้จะเห็นเพียงด้านหลัง ซ่งจิงเฉินก็จำได้อย่างแม่นยำว่าเป็นจินยี่หนาน และคนที่ส่งข้อความมาให้เธอคือถังหยวน..

ยังไม่ทันที่ซ่งจิงเฉินจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น.. เธอก็ได้รับข้อความจากถังหยวนอีกครั้ง -ซ่งจิงเฉิน.. นี่เธอคอยจินยี่หนานอยู่นานเท่าไหร่แล้ว? แต่จากที่ฉันเห็น..ดูเหมือนเขาจะไม่ว่างแล้วล่ะ-

และก่อนที่ซ่งจิงเฉินจะได้อ่านข้อความจนจบ.. ถังหยวนก็ส่งข้อความใหม่เข้ามาอีก -โชคร้ายจัง.. ที่ตอนนี้เขาอยู่ที่บ้านฉัน และกำลังทำอาหารเย็นให้ฉัน ดูเหมือนว่าเขาคงไปฉลองวันเกิดกับเธอไม่ได้แล้วล่ะ-

มือของซ่งจิงเฉินกำโทรศัพท์แน่น.. ความสุขและความหวังที่จะใช้เวลาฉลองวันเกิดอย่างมีความสุขกับพี่ยี่หนานกลับกลายเป็นความเศร้าที่พูดไม่ได้.. วันนี้เป็นวันเกิดของเธอ และเขาก็ให้สัญญากับเธอว่าจะมาร่วมฉลองวันเกิดด้วย แต่แล้วเขากลับก็ทิ้งเธอไปหาคนอื่น..

เขายุ่งอยู่กับการทำอาหารเย็นให้ผู้หญิงคนอื่น แล้วก็ลืมเธอจนหมดสิ้น ปล่อยให้เธอคอยเขาอยู่ตลอดทั้งบ่าย..

โทรศัพท์ในมือของเธอสั่นอีกครั้ง.. ซ่งจิงเฉินอ่านข้อความเหล่านั้นราวกับได้ยินเสียงเยาะเย้ยของถังหยวนดังอยู่ข้างหู – ฉันไม่มีเจตนาจะทำร้ายจิตใจเธอด้วยข้อความพวกนี้หรอกนะ ฉันแค่เกรงว่าเขาอาจจะลืมบอกเธอว่าเขามีนัดกับฉัน แล้วเธอก็อาจจะโง่นั่งรอเขาอยู่.. อย่าบอกนะซ่งจิงเฉินว่าเธอนั่งคอยเขาตลอดทั้งบ่าย? -

มือของซ่งจิงเฉินสั่น.. เธอกระแทกโทรศัพท์ลงบนโต๊ะด้วยอารมณ์โกรธ เธอรู้ดีว่าถังหยวนมีเจตนาจะยั่วโมโหเธอด้วยการส่งข้อความเหล่านี้มาให้ และถ้าเธอโกรธ ก็เท่ากับว่าเธอตกหลุมพรางที่ถังหยวนขุดไว้..

ถังหยวนทำสำเร็จ.. เธอรู้จุดอ่อนของซ่งจิงเฉินดี และใช้มันเอาชนะเธอได้อย่างชำนาญ

ถังหยวนและเธอเคยเรียนห้องเดียวกันในช่วงไฮส์สคูล.. ในตอนนั้น.. ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับถังหยวนแม้จะไม่ถือว่าสนิท แต่ก็ไม่ถึงขั้นเป็นศัตรูกัน  เจอหน้ากันที่โรงเรียนก็พยักหน้าให้กัน และต่างฝ่ายต่างช่วยซื้อของให้กันและกัน เมื่อเข้าสู่ปีที่สามในไฮส์สคูล พวกเขาทั้งคู่ยังมีช่วงเวลาที่เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันด้วย

และยังเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่เธอและซูซินเหยินมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันด้วย ในเวลานั้น.. ไม่ว่าสาวๆจะไปช้อปปิ้งที่ใหน ซูซินเหยินก็จะทำหน้าที่เป็นคนขับรถ และคนถือของให้กับพวกเธอด้วย

ถังหยวนดีกับเธอมาก และเธอก็ดีกับถังหยวนเช่นกัน.. เธอเคยแม้แต่ทะเลาะกับซูซินเหยินเพราะเรื่องของถังหยวน

เรื่องเกิดขึ้นที่บาร์แห่งหนึ่ง.. เมื่อมีอันธพาลสองสามคนเข้ามาล้อมถังหยวนไว้เพื่อให้เธอเล่นกับเขา ถังหยวนในตอนนั้นแตกต่างจากถังหยวนในตอนนี้ราวกับคนละคน ในเวลานั้น.. เธอช่างเป็นหญิงสาวที่สุภาพและอ่อนหวาน แตกต่างจากผู้หญิงที่ส่งข้อความให้เธอเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง

เมื่อซ่งจิงเฉินเห็นถังหยวนตกอยู่ในอันตราย เธอจึงรีบวิ่งเข้าไปปกป้องถังหยวนที่กำลังสั่นและร้องไห้ทันทีโดยไม่คำนึงถึงอันตรายอะไร

อันธพาลสองสามคนนั่นบอกกับพวกเธอว่า.. ใครคนใดคนหนึ่งต้องอยู่ที่นี่..

ในเวลานั้น.. เธอและถังหยวนอายุเพียงสิบแปดปี พวกเธอเสี่ยงเข้าไปในสถานที่แบบนั้นเพียงเพราะความอยากรู้อยากเห็นชีวิตในยามราตรี ใครจะไปรู้ว่าจะเกิดปัญหาใหญ่กับพวกเธอสองคนตั้งแต่คืนแรก?

ในตอนนั้น.. ทั้งเธอและถังหยวนต่างรู้ดีว่า ไม่ว่าใครก็ตามที่ต้องอยู่ที่นั่นจะต้องพบเจอกับเรื่องเลวร้ายอย่างแน่นอน

ในเวลานั้น.. แม้ว่าเธอจะกลัวมาก แต่เธอก็มีศักดิ์ศรีพอและเชื่อว่าในเวลาที่อันตรายอย่างนี้ เพื่อนจะต้องไม่ทิ้งเพื่อน ประกอบกับความมุทะลุในวัยเด็ก ทำให้เธอกัดฟันเอ่ยปากอาสาเป็นผู้ที่จะอยู่ที่นั่นเอง..

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด