ตอนที่แล้วตอนที่ 231 มีเจ้าของแล้ว (FREE)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 233 ดาบชื่อว่า 'ไร้ร่องรอย' (FREE)

ตอนที่ 232 วิธีดึงดาบ (FREE)


ตอนนี้...

ดูเหมือนองค์จักรพรรดิต้องการรักษาจุดยืนและชื่อเสียงของตัวเอง หนทางที่เจ้าหนา้ที่ทุกคนพอใจ

รัฐมนตรีฝ่ายซ้ายนั้นมีหนทางอย่างไรมันจะทำให้ตัวเขาอับอายต่อหน้า ฟาง เจิ้งจือ ...

เขารู้ว่าองค์จักรพรรดิต้องการอะไร แต่เขาไม่สามารถทำได้เขาจึงเลือกที่จะเงียบ

มีเจ้าหน้าที่ที่ชาญฉลาด พอเดาออกเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม พวกเขาทั้งหมดเลือกที่จะเงียบแบบ ยู่ ยี่ปิง

ไม่มีใครจะยอมรับว่าตัวเองแย่กว่าเด็กอายุ 15 ปี

โถงบัลลังก็ตกอยู่ในความเงียบอย่างไม่น่าเชื่อ

เสียงที่ได้ยินมีเพียงเสียงของแม่ทัพจิน

"ขึ้นมา!"

"โถ่เว้ย!"

"ขึ้นมาเดี๋ยวนี้!"

"..."

ราวกับเป็นทางตัน แต่มีคนหนึ่งที่ดูตื่นเต้นมาก นั่นคือ ปิง หยาง

"พยายามเข้า แม่ทัพจิน!"

เสียงนางดังก้องไปทั่ว ความไร้เดียงสาของนางทำให้แม่ทัพจินหมดแรงและสลบลงไปที่พื้น

เมื่อมาถึงจุดนี้ เสียงไอเบาๆที่นอกโถงบัลลังก์ก็ดังขึ้น

ร่างหนึ่งปรากฎตัวหน้าโถงบัลลังก์ เป็นชายอายุ 80 ปี ผมเป็นสีเงินทั้งหมด ใบหน้าของเขาเหี่ยวย่น อย่างไรก็ตามชุดมังกรเงินของเขาทำให้แน่ใจว่าเขายังคงได้รับการยอมรับเสมอ

"ราชาหลี่ฉิน?"

เจ้าหน้าที่ต่างตกตะลึงเมื่อเห็นเขา

ราชาหลี่ฉิน นั้นเป็นลุงขององค์จักรพรรดิ

เขาแก่ชราอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ไม่มีใครสามารถละเลยการปรากฎตัวของเขาได้

เขาไม่สามารถแทรกแซงการตัดสินได้ แต่เขาก็มีอิทธิพลมากในกองทัพ เขายืนหยัดเคียงข้างจักรพรรดิองค์ก่อนและได้มีบทบาทมากมายในการพิชิตแดนใต้

เขามีปัญญาที่ดีเลิศและมีความสุขุม

อย่างไรก็ตามไม่มีใครสามารถเข้าใจได้ว่าทำไมเขาถึงถูกถอนออกจากที่ประชุม ก่อนที่จะเลิกควบคุมกองทัพ ในช่วงที่จักรพรรดิองค์ก่อนขึ้นครองบัลลังก์

ถ้า เมิ่ง เทียน เป็นตำนานแล้วล่ะก็ ราชาหลี่ฉินคงจะเป็นซากฟอสซิลที่ยังมีชีวิตอยู่ในกองทัพของอาณาจักรเซี่ย

"ราชาหลี่ฉินอยู่ที่นี่?"

เจ้าหน้าที่หันมองกันด้วยความไม่แน่ใจ นั้นเป็นตอนที่พวกเขาได้เห็นหญิงนางหนึ่งที่อยู่ด้านหลังของราชาหลี่ฉิน

นางสวมชุดสีชมพูสดใส สวมเข็มขัดที่ถูกปักเย็บมาอย่างปราณีตด้วยทองคำ  และมีปีกที่คล้ายคลึงกับนกฟินิกซ์ที่ถูกปักเย็บด้วยเงิน ดวงตาของนกฟินิกซ์เป็นไข่มุกสีทองประกาย

สายตาที่จ้องมองราวกับดวงดาวบนฟากฟ้า

นางกำลังสับสน แต่แววตาของนางราวกับดวงดาวที่ส่องสว่าง

หญิงสาวที่ติดตามราชาหลี่ฉินนางไม่ไดพูดอะไร แต่เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างจับจ้องมาที่นาง

เพราะว่า…

นางเป็นสิ่งที่ถูกประทานมาจากสวรรค์ นางคือผู้ชนะบนทำเนียบมังกรทั้ง 2 ฉือ กูเหยียน

"ยินดีที่ได้พบ ฝ่าบาท!" ราชาหลี่ฉินก้าวเข้าไปยังโถงบัลลังก์และโค้งตัวลงเพื่อคำนับ

"ท่านลุง โปรดลุกขึ้นเถอะ!" องค์จักรพรรดิ หลิน มู่ไป่ ยืนขึ้นจากบัลลังก์ของเขา

ราชาหลี่ฉินหยุดท่าทางของเขาและลุกขึ้น อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้จะเข้าสู่โถงบัลลังก์เพื่อที่จะมายืนเฉยๆ

"ขอบคุณฝ่าบาท!"

"อะไรพาท่านและ ฉือ กูเหยียน มาที่นี่กัน?"ดวงตาของจักรพรรดิ หลิน มู่ไป่ ลุกลนเมื่อได้เห็น ฉือ กูเหยียน

"สภาพอากาศไม่ค่อยดี และข้ารู้สึกเบื่อหน่าย ฉือ กูเหยียน มาเยี่ยมข้าและเราตัดสินใจที่จะออกมาเดินเล่นกันเราไม่ได้ตั้งใจที่จะเข้ามาขัดจังหวะการประชุม" ราชาหลี่ฉิน ดูอ่อนแรงราวกับจะถูกลมแรงพัดไปได้ทุกเมื่อ

"ท่านลุง ท่านมีอะไรหรือไม่? ข้าเลื่อนการประชุมออกไปได้ทุกเมื่อ ตอนนี้ท่านมาถึงที่นี้แล้ว พวกเราไปนั่งเล่นในสวนกันหน่อยไหม?"

"ข้ารู้สึกขอบคุณในความหวังดีของท่าน อย่างไรก็ตามโปรดอย่าให้การมาของพวกเราไปขัดจังหวะการประชุมเลย ข้าก็ไม่มีอะไรจะทำอยู่แล้ว รอสักประเดี๋ยวคงไม่เป็นไร " ราชาหลี่ฉินมองไปที่ดาบเล่มนั้น ขณะที่แม่ทัพจินกำลังพูดอยู่

ดวงตาของราชาหลี่ฉินเต็มไปด้วยความซับซ้อน ไม่มีใครรู้ว่าเขาคิดอะไร

แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทุกคนมั่นใจ

เขาไม่ได้มาโดยบังเอิญแน่นอน นอกจากนี้ ฉือ กูเหยียน ที่ถือว่าเป็นเด็กเก่งกาจที่สุดในยุคนี้ก็ยืนอยู่ข้างๆ

ฉือ กูเหยียน มาที่นี่โดยไม่มีเหตุผล?

แน่นอนว่า ไม่!

ก่อนหน้านี้ ฉือ กูเหยียน พยายามหลีกห่างจากเรื่องการเมือง เธอกักขังตัวเองไว้ในศาลาเต๋าสวรรค์ แต่ตัดสินใจลงจากภูเขาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่ก็ไม่เคยเข้ามาในที่ประชุมสักครั้ง

ดังนั้นการมาของทั้ง 2 คน ต้องเกี่ยวกับดาบ

ลุงขององค์จักรพรรดิจะจัดการกับการขัดแย้งนี้ยังไง?

เมื่อได้ยินราชาหลี่ฉินพูด องค์จักรพรรดิพยักหน้าทันที จากนั้นเขาก็เงียบลงแน่นอนว่าเขารู้ว่าทั้ง 2 คนทำไมมาที่นี่

แต่ในฐานะขององค์จักรพรรดิ เขาไม่ต้องเดาว่าราชาหลี่ฉิน จะแก้ปัญหายังไง ทั้งหมดที่ต้องทำคือพยักหน้าหรือส่ายหัว

ในฐานะจักรพรรดิการตัดสินใจของเขาเป็นที่สุด

ไม่นานราชาหลี่ฉิน ก็เริ่มพูดบางอย่างออกมา

"ดาบดี  นี่เป็นดาบที่ดีจริงๆ นี่เป็นดาบจากโลกแห่งเซียนใช่หรือไม่?  ข้าได้ยินคนรับใช้พูดถึงมัน 2-3 วันที่ผ่านมา ข้าไม่คิดว่าจะได้เห็นมันกับตา ไม่เลวเลย " เขายกย่องดาบ แต่ไม่ได้เคลื่อนไหวแม้แต่น้อย

ทุกคนกำลังพยายามเดาว่าเขากำลังคิดอะไร? หรือเขาก็หมายตาดาบเอาไว้?

ณ ที่ประชุม ยังคงเงียบสงบ  ไม่มีใครพูดอะไรออกมา

ราชาหลี่ฉิน พึมพำกับตัวเอง

"หลายปีมานี้ข้ามีงานอดิเรกคือเก็บสะสมดาบ แต่ด้วยอายุของข้าออกแรงมากๆคงไม่ดีนัก เจ้าช่วยเอาดาบมาให้ข้าดูได้หรือไม่?" ราชาหลี่ฉิน กล่าว

แม่ทัพจิน หน้าขึ้นสีเมื่อได้ยิน เขาอยู่ใกล้ดาบที่สุดและยินดีทำตามความต้องการของราชาหลี่ฉิน แต่เขาทำไม่ได้

ในที่สุดทุกคนก็เข้าใจ ราชาหลี่ฉิน ก็ต้องการดึงดาบด้วย?

คำพูดของเขาง่ายเรียบง่าย

แต่มันกลับกดดันเป็นอย่างมาก ตอนนี้องค์จักรพรรดิมีเหตุผลชั้นดีที่ใช้ดึงดาบแล้ว

ข่าวจะแพร่สะพัดไปว่าองค์จักรพรรดิดึงดาบออกมาเพื่อให้ท่านลุงชื่นชม

ผู้คนจะสรรเสริญองค์จักรพรรดิ คงไม่มีใครกล้าเรียกเขาว่าโจร

ถ้าองค์จักรพรรดิไม่ก้าวออกไป ก็มีเพียงคนเดียวที่ดึงดาบออกมาได้

ชายคนนั้นคือ ฟาง เจิ้งจือ

มันเป็นแผนที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ องค์จักรพรรดิสามารถสั่งให้ ฟาง เจิ้งจือ ดึงดาบออกมา และมอบให้ท่านลุงของเขาดู

ไม่ว่าจักรพรรดิจะตัดสินใจอย่างไรชื่อเสียงของเขาจะไม่ตกอยู่ในอันตราย ที่สำคัญมันจะไม่แสดงให้เห็นว่าเขาต้องการดาบเช่นกัน

ราชาหลี่ฉินบ่นกับตัวเองและถอยหลังกลับไปการตัดสินใจครั้งสุดท้ายขึ้นอยู่กับองค์จักรพรรดิ

เจ้าหน้าที่ทุกคนมองไปยังองค์จักรพรรดิ เพื่อรอการตัดสินใจ

องค์จักรพรรดิค่อยยกมือขึ้นวางบนเก้าอี้เขาจ้องมองไปยังเหล่าเจ้าหน้าที่ ราชาต้วน และ หลิน เทียนหลง

และสุดท้ายคือ ฉือ กูเหยียน

นางไม่ได้พูดอะไรตั้งแต่เข้ามาในโถงบัลลังก์  นางยืนข้างๆราชาหลี่ฉิน และคอยพยุงเขาไว้เท่านั้น

คล้ายกับหลานสาวที่ดูแลท่านปู่ของตัวเอง

แม้กระนั้นก็ตามไม่มีใครละเลยการปรากฎตัวของนาง นางเป็นผู้ชนะบนทำเนียบมังกรทั้ง 2 เป็นบุคคลในคำทำนาย วันหนึ่งนางจะกลายเป็นผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดในโลก

ความรู้สึกของ ฉือ กูเหยียน นิ่งสงบเหมือนทะเลสาบ

ทันใดนั้นองค์จักรพรรดิหัวเราะออกมาเบาๆ

"ฮ่า ๆ ... มันจะยากอะไร? ดาบนี้เอาออกมาจากโลกแห่งเซียนโดย ฟาง เจิ้งจือ  ดังนั้นเขาก็ควรดึงมันออกมา "

เจ้าหน้าที่หลายคนตกใจส่วนใหญ่คิดว่าองค์จักรพรรดิจะดึงเอง ดูจากความสำคัญของดาบ

แต่ดูเหมือนองค์จักรพรรดิต้องการให้ ฟาง เจิ้งจือ ดึงขึ้นมา

มันเป็นไปได้ยังไง!?

มันคือเรื่องที่ไม่มีใครคาดไว้  องค์จักรพรรดิคิดจะมอบดาบนี้ให้คนสามัญธรรมดางั้นหรือ?

ยู่ ยี่ปิง หน้าซีด ถ้าเขาไม่ช่วยเหลือ ฟาง เจิ้งจือ โดยการพูดคำพูดนั้นออกมา

ฟาง เจิ้งจือ คงไม่โยนดาบปักลงดิน

มันเป็นเรื่องบังเอิญ?

หรือ ฟาง เจิ้งจือ วางแผนไว้?

ดวงตาของ ยู่ ยี่ปิง สว่างไสว ถ้าเป็นแบบหลัง ฟาง เจิ้งจือ ก็เป็นภัยคุกคามที่น่ากลัวต่อตำแหน่งเขา

ราชาต้วนรวมถึงรัชทายาทต่างเลียริมฝีปาก พวกเขาแย่งชิงดาบเพื่อหนทางสู่บัลลังก์ แต่ตอนนี้ดาบกำลังจะมอบให้คนสามัญธรรมดา?

พวกเขาจะยินดีได้ยังไง?

แม้ว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนจะตกตะลึง แต่พวกเขาก็หันไปมอง ฟาง เจิ้งจือ

เหยียน ซิว, ซิง ฉิงซุย และ หนานกง มู่ ก็หันมามองเช่นกัน

ปิง หยาง ยิ้มกว้างราวกับว่านางได้เห็นชัยชนะของตัวเอง

ฟาง เจิ้งจือ ถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาไม่ต้องการอำนาจและไม่อยากท้าทายองค์จักรพรรดิ

สิ่งที่เขาต้องการคือดาบ

แต่ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่... ดาบปลอดภัยแล้ว?

จักรพรรดิได้ขอให้เขาดึงดาบ

ทุกอย่างช่างง่ายดาย สิ่งที่เขาต้องทำคือดึงดาบต่อหน้าทุกคนและเอาให้ชายแก่ดู ...

ทุกอย่างก็เป็นอันเรียบร้อย?

ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกสุขสันต์

"รับทราบ ฝ่าบาท!" ฟาง เจิ้งจือ คำนับองค์จักรพรรดิ และหันไปยิ้มให้เหล่าเจ้าหน้าที่

จากนั้นเขาก็เดินไปที่ดาบ

แม่ทัพจินโล่งใจมากที่ได้เห็นเรื่องนี้ ก่อนที่ ฟาง เจิ้งจือ จะพูดอะไรออกมา เขาก็ย้ายไปยืนข้างๆเช็ดเหงื่อที่ออกมาจากแขนอันกำยำ

เจ้าหน้าที่มองไปยัง ฟาง เจิ้งจือ ที่ทำท่าทีเคร่งขรึมก่อนดึงดาบ

มันจะน่าอับอายมากถ้าเด็กอายุ 15 สามารถทำในสิ่งที่พวกเขาทั้งหมดไม่สามารถทำได้

ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้คิดเรื่องพวกนี้ ทั้งหมดที่เขารู้ก็คือดาบเล่มนี้จะเป็นของเขา

"การดึงดาบเป็นเรื่องง่ายๆ!" ฟาง เจิ้งจือ ฮัมเพลงเบาๆ จากนั้นเขาก็ดึงดาบเบาๆ

"..."

เจ้าหน้าที่ทุกคนราวกับโดนสาบแช่งโดย ฟาง เจิ้งจือ ที่เคลื่อนไหวอย่างสบายๆ ต้องทำให้พวกเขาอัปยศขนาดนี้เลยรึ?

พวกเขาไม่ต้องคิดนานนัก

พวกเขาพบว่า ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ใส่ความพยายามลงไปแม้แต่น้อย

ยังไงก็ตาม ...

ดาบไม่ได้ถูกดึงออกมา

"เป็นไปได้ไม้ว่าเจ้าเด็กนี่ก็พอมีมารยาทอยู่บ้าง?"

"เห้ออย่างน้อยเขาก็ไม่ทำให้พวกเราอับอายจนต้องเอาหน้าซุกแผ่นดินหนี"

เจ้าหน้าที่ทุกคนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่เห็นว่าดาบไม่ถูกดึงออกมา ยิ่ง ฟาง เจิ้งจือ พยายามเท่าไร พวกเขายิ่งดูดีมากขึ้นเท่านั้น

ฟาง เจิ้งจือ สงสัยเล็กน้อย

ตอนนี้ดูเขาค่อนข้างสบายๆ แต่ความเป็นจริงเขาพยายามอย่างมาก

"หรือมันจะติดอยู่?" เมื่อเห็นดาบยังติดอยูที่พื้น ฟาง เจิ้งจือ เอาทั้ง 2 มือจับดาบ

"..."

มีเพียงเสียงเดียวที่ดังขึ้นคือ ลมที่พัดเข้ามาในโถงบัลลังก์

รอยยิ้มของ ฟาง เจิ้งจือ แข็งค้าง ดาบไร้ร่องรอยยังคงติดอยู่ที่พื้น

"มันเป็นไปได้ไหมที่เขาดึงมันไม่ออก"

"ฮ่า ๆ ... เป็นไปไม่ได้ ดาบได้เลือกเจ้าของแล้ว? "

"มันคงเป็นแค่การแสดง"

เจ้าหน้าที่เห็น ฟาง เจิ้งจือ ล้มเหลวในการดึงดาบครั้งที่ 2 พวกเขาเริ่มพูดคุยกันเล็กน้อยและชื่นชม ฟาง เจิ้งจือ ที่ทำให้การดึงดาบดูยาก

"ฟาง เจิ้งจือ, เร็วหน่อยท่านลุงขององค์จักรพรรดิรอยู่!" ปิง หยาง เริ่มเบื่อหน่าย

ฟาง เจิ้งจือ เมิน ปิง หยาง เขามองไปที่ดาบไร้ร่องรอย เหงื่อหยดออกมาจากหน้าผาก ไม่ใช่ว่าดาบเลือกข้าเป็นเจ้าของแล้ว? หรือข้าเข้าใจผิด?

เชี่ยเอ้ย...

ตำนานของเขาจะมาจบลงที่ตรงนี้เนี่ยนะ?!

เพจหลัก : Double gate TH

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด