ตอนที่แล้วตอนที่ 228 ไม่สามารถเข้าใจได้ (FREE)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 230 ใช้ประโยชน์ (FREE)

ตอนที่ 229 หลุมที่โถงบัลลังก์ (FREE)


ซิง ฉิงซุย, หนานกง มู่ และ เหยียน ซิว มาอยู่ที่นี่ทั้งหมดเพราะเรื่องดาบและ ฟาง เจิ้งจือ

อย่างไรก็ตามพวกเขาทั้งหมดรู้ว่าความหมายที่องค์จักรพรรดิพูดมานั้นหมายถึงการปฎิเสธนั่นเอง

ดังนั้นการที่จะยังคงต่อต้านต่อไปเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง

อย่างไรก็ตามหลังจากมองกันไปมา พวกเขาก็รู้สึกได้ถึงความมุ่งมั่นในสายตาของกันและกัน

ซิง ฉิงซุย หน้าซีดจากยืนมานาน เขาถูกแทงที่หน้าอกในตอนสอบ แม้เขาจะถูกแบกมา แต่การที่ต้องมายืนนานๆก็ทำให้เขาอาจจะอาการทรุดลงได้

อย่างไรก็ตามในฐานะคนที่ต่อสู้ในสนามรบและเป็นทายาทของกองตรวจการความมั่นคง เขาจะยืนหยัดในสิ่งที่เขาเชื่อมั่น ถึงมันอาจจะหมายถึงการต่อต้านองค์จักรพรรดิก็ตาม

ซิง ฉิงซุย ก้าวไปข้างหน้า แต่ไม่ได้ตอบ

เหยียน ซิว ก็ก้าวไปข้างหน้า หนานกง มู่ ก็ก้าวไปข้างหน้าเช่นกัน

"องค์จักรพรรดิ!"

ก่อนที่ทั้งสามคนจะพูดอะไรก็ได้ ฟาง เจิ้งจือ ก็ก้าวไปข้างหน้าและขวางทั้ง 3 คนเอาไว้ จากนั้นก็หันมายิ้มให้พวกเขา

ฟาง เจิ้งจือ ไม่ทราบว่าทำไม ซิง ฉิงซุย และ หนานกง มู่ ถึงมา อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถให้พวกเขาทำอะไรที่เป็นการต่อต้านองค์จักรพรรดิได้

เขาได้ฟังทุกอย่างตั้งแต่ต้นจบ ในความเป็นจริงเขาคาดเดาความต้องการของเหล่าเจ้าหน้าที่นั้น ฟาง เจิ้งจือ พอคาดเดาได้อยู่แล้วสิ่งที่น่าประหลาดใจคือองค์จักรพรรดิต้องการให้เขาอยู่ในเมืองหลวง

ต้องการให้ข้าเป็นเจ้าหน้าที่งั้นหรือ?

ถ้า ฟาง เจิ้งจือ เป็นคนทั่วๆไป เขาคงรู้สึกพอใจกับการแลกดาบกับตำแหน่งและเงินที่ได้แล้ว

แต่น่าเสียดายที่ความทะเยอทะยานของ ฟาง เจิ้งจือ ไม่มีเรื่องการเมืองเลยแม้แต่น้อย

ดังนั้นตำแหน่งเจ้าหน้าที่จึงไม่ได้มีความน่าสนใจกับ ฟาง เจิ้งจือ แม้แต่น้อย

ขณะที่เขากำลังเตรียมที่จะพูดความคิดเห็นของเขา ร่างในชุดสีแดงวิ่งเข้ามาจากนอกประตู จากนั้นก็วิ่งขึ้นไปหาองค์จักรพรรดิ

"ท่านพ่อทำไมถึงลำเอียงจัง ท่านจะไปเดินเล่นกับพวกเขาที่สวน? แล้วใครจะมาเล่นกับข้าละ ... " เสียงอันคมชัดดังขึ้น

มีเพียงไม่กี่คนในอาณาจักรเท่านั้นที่สามารถวิ่งขึ้นไปบนบัลลังก์ได้โดยไม่มีใครขัดขวาง ก็คือคนที่อยู่ในดินแดนอื่นและมีระดับเดียวกันกับ หลิน มูไป่

นอกเหนือจากคนเหล่านั้นยังมีอีกคนหนึ่ง...

นั่นคือ ปิง หยาง

ปิงหยางเป็นเจ้าหญิงคนโปรดขององค์จักรพรรดิ ดังนั้นนางสามารถไปหาองค์จักรพรรดิได้ตลอดเวลาโดยไม่มีอะไรขัดขวางแม้แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่มีใครกล้าพูดถึงนาง

นางเป็นองค์หญิงที่ได้รับความรักมากที่สุดในอาณาจักร

"ฮ่า ฮ่า... แน่นอนว่าข้าต้องไปเยี่ยมเจ้าก่อนอยู่แล้ว ปิง หยาง! " องค์จักรพรรดิยิ้มขณะมองไปที่ ปิง หยาง ก่อนจะขอให้นางนั่งข้างๆเขา

"ท่านเป็นพ่อที่เยี่ยมที่สุด! ท่านสัญญาว่าจะไปกับข้าก่อน? งั้นไปที่สวนหลวงกันเลยเถอะ! " ปิง หยาง คว้ามือองค์จักรพรรดิและเขย่าเบาๆ

"รอก่อน การประชุมของพวกเรายังไม่เสร้จ ถ้าเสร็จแล้ว ข้าจะไปพบเจ้าทันที " จักรพรรดิ หลิน มู่ไป่ กล่าวออกมาด้วยความผ่อนคลาย

"มันก็แค่ดาบหักไม่ใช่หรอ? มันดีกว่าหอกฉีหลินที่ท่านให้ข้าหรือไม่"

"ปิง หยาง เจ้าพุดอย่างนั้นไม่ได้ นั่นเป็นดาบของเทพเซียนสงคราม เมิ่ง เทียน ไปเรียกว่าเป็นดาบหักๆได้ยังไง? "

"งั้นเหรอ? งั้นเรียกมันว่าสมบัติละกัน แต่ทำไมต้องมาถกเถียงกันเพราะมันด้วยละ?ดาบอยู่ที่ใครก็เป็นของคนนั้นสิ ...พวกเจ้าทั้งหมดไม่เห็นด้วยงั้นหรือ? " ปิง หยาง มองไปที่องค์จักรพรรดิและหันไปมองเจ้าหน้าที่รอบๆ

"เรื่องนี้..." เจ้าหน้าที่แต่ละคนมองหน้ากัน พวกเขาบอกได้เลยว่า ปิง หยาง ก็อยู่ที่นี่เพราะดาบเหมือนกัน

อย่างไรก็ตาม ปิง หยาง แตกต่างจาก เหยียน ซิว และคนอื่นๆ

เหยียน ซิว และ ซิง ฉิงซุย คือขุมกำลังในอนาคต อย่างไรก็ตาม ปิง หยาง นั้นเป็นตัวแทนของอำนาจในตอนนี้ที่ไม่มีใครกล้าคัดค้านนาง

อย่างน้อยที่สุด ...

ไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนกล้าต่อต้าน ปิง หยาง อย่างเปิดเผย

ถ้าพวกเขาต่อต้าน ปิง หยาง บ้านของพวกเขาคงถูกจุดไฟเผา ถูกไล่ออกจากบ้าน เสื้อผ้าที่สวมใส่คงถูกฉีกขาดอยู่กลางถนน ...

มันเป็นเรื่องที่อันตรายถึงตายแน่นอนถ้าคิดจะทำอย่างนั้น

องค์จักรพรรดิยังคงยิ้มอยู่ เขารู้ตั้งแต่ตอนที่ ปิง หยาง เข้ามาที่นี่ อย่างไรเขาก็ไม่เต็มใจที่จะพูดออกมาเท่าไรนัก

ดังนั้นเขาจึงมองไปที่นายกรัฐมนตรีฝ่ายซ้าย ยู่ ยี่ปิง

ยู่ ยี่ปิง รู้ว่าตัวเองเป็นคนเดียวที่สามารถพูดอะไรได้บ้าง ก่อนที่ ปิง หยาง จะทำลายแผนของทุกคนลง

"องค์หญิงทรงพูดได้สมเหตุสมผล แต่ดาบนั่นไม่มีเจ้าของ ถ้าหากมันมีเจ้าของแล้วกฎก็จะไม่มีผล อย่างเช่นข้ามีสร้อยข้อมือที่จักรพรรดิโบราณให้ข้ามา ทุกคนรู้ดีว่ามันเป็นของข้า ถ้าข้าทำตกก็ไม่มีใครเก็บไปและอ้างว่าเป็นของตัวเองได้  และยังเป็นของข้า องค์หญิงเห็นด้วยไหม? "

ยู่ ยี่ปิง หยิบสร้อยข้อมือขึ้นมาและยิ้ม

ตามจริงแล้วคำพูดของเขาแสนจะธรรมดา แต่กลับน่าเหลือเชื่อ เขาได้ทำให้รู้ว่าหยกชิ้นนี้เป็นสิ่งที่ได้รับมาจากจักรพรรดิโบราณ มันคงไม่ดีถ้า ปิง หยาง จะพูดถึงองค์จักรพรรดิโบราณในแง่ลบ

"เจ้า..?" ใบหน้าของนางแปรเปลี่ยน นางกลืนคำพูดกลับเข้าไปก่อนที่จะตะโกนมันออกมา นางอาจจะต่อต้านได้ แต่ก็มีข้อจำกัด

ถ้าจักรพรรดิโบราณมอบมันให้ ยู่ ยี่ปิง ใครจะกล้าอ้างว่ามันไม่ใช่ของเขา?

เจ้าหน้าที่ทุกคนรู้ดีว่า ยู่ ยี่ปิง กำลังทำอะไรอยู่ เขาจัดการ ปิง หยาง ลงได้ในประโยคเดียว

ในฐานะรัฐมนตรีฝ่ายซ้าย ยู่ ยี่ปิง สามารถเข้าใจถึงสิ่งที่จักรพรรดิต้องการ และสามารถแก้ไขปัญหาของจักรพรรดิได้ นั้นทำให้จักรพรรดิผ่อนคลายลงความสามารถของเขาช่างยอดเยี่ยมจริงๆ

จักรพรรดิพยักหน้าและยิ้มให้ เขาไม่อยากเห็น ปิง หยาง โต้เถียงกับเจ้าหน้าที่

วิธีที่ดีที่สุดคือการอ้างถึงจักรพรรดิโบราณเพื่อให้ ปิง หยาง หยุดพูด ด้วยวิธีนี้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดาย

"ท่านรัฐมนตรียู่ช่างฉลาดจริงๆ! ข้ามั่นใจเลย! "

ทุกๆคนต่างหวาดกลัวในสติปัญญาของ ยู่ ยี่ปิง แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้น

เจ้าหน้าที่ทั้งหมดมองไปในทิศทางของเสียง พวกเขารู้อย่างรวดเร็วว่าเสียงนั้นมาจาก ฟาง เจิ้งจือ

"ฟาง เจิ้งจือ?! เขายกย่องรัฐมนตรียู่? "

"ข้าเดาว่าเขาคงยอมแพ้แล้ว?"

"ยอมแพ้แล้ว? เจ้าหน้าที่ค่อนข้างคิดหนัก เจ้าคิดว่าคนบ้านนอกอย่างเขาจะต่อต้านพวกเราได้หรือ?  "

เจ้าหน้าที่ทั้งหมดมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความเยาะเย้ย อย่างที่ทุกคนพูด ฟาง เจิ้งจือ ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง

ฟาง เจิ้งจือ ยอมรับในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและเห็นด้วยกับสิ่งที่ ยู่ ยี่ปิง พูด ในขณะเดียวกันเขาได้ทำตามความปรารถนาของจักรพรรดิ

หลิน เทียนหลง มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ

เขาคิดเสมอว่า ฟาง เจิ้งจือ เป็นแค่คนบ้านนอก เขาไม่เคยคิดถึงความสามารถของ ฟาง เจิ้งจือ เลย อย่างไรก็ตาม ถ้า เหยียน ซิว ,ซิง ฉิงซุย และ หนานกง มู่ ยืนกรานเพื่อ ฟาง เจิ้งจือ ขนาดนี้

และการที่ ฟาง เจิ้งจือ จะได้เป็นเจ้าหน้าที่หลวง

ถ้าเป็นเช่นนั้น ...

มันคงไม่ใช่เรื่องดีที่เอา ฟาง เจิ้งจือ ไปเป็นพวกตรงๆ แต่ถ้า ฟาง เจิ้งจือ เลือกอยู่กับ ยู่ ยี่ปิง เขาจะได้ประโยชน์ในการใช้ดาบเช่นกัน

หลังจากที่ หลิน เทียนหลง ได้เหลียวมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ เขาก็หันไปทางด้านซ้าย มองไปที่ ยู่ ยี่ปิง และพยักหน้าเห็นด้วย

ยู่ ยี่ปิง รู้ว่า หลิน เทียนหลง กำลังคิดอะไรอยู่ อย่างไรก็ตามเขาไม่คิดว่า ฟาง เจิ้งจือ จะว่าง่ายเท่าไรนัก การ ฟาง เจิ้งจือ พูดกล่าวชมด้วยความจริงใจนั้นก็เกินความคาดหมายแล้ว

"นายน้อยฟาง ขอบคุณสำหรับคำกล่าวชม ในการทดสอบระดับจักรพรรดิครั้งนี้ เจ้าได้แสดงให้เห็นว่าเจ้าคือคนที่สุดยอดจนไม่มีใครสามารถเทียบได้ เจ้าได้ทำข้อสอบด้านปัญญาเสร็จทั้งหมดอย่างไร้ที่ติ ทั้งในการทดสอบการต่อสู้เจ้าโค่นล้มรองหัวหัวหน้าปีศาจ ช่วยเหลือองค์หญิง ปิง หยาง และเหล่าผู้ทดสอบนับไม่ถ้วน นี้เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่  ข้าเชื่อว่าเจ้าจสามารถเป็นหน้าที่หลวงที่ดีได้! " มุมมองของเขาเปลี่ยนไปเมื่อได้เห็นรอยยิ้มที่อบอุ่นของ ฟาง เจิ้งจือ คำแถลงสุดท้ายนี้แสดงให้เห็นถึงการยืนยันว่า ฟาง เจิ้งจือ ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของเมืองหลวงแล้ว

ราชาต้วนกำหมัดแน่นเมื่อได้ยิน

เขาสามารถบอกได้เลยว่า ยู่ ยี่ปิง พยายามจะเอา ฟาง เจิ้งจือ เป็นพวก อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ไม่น่าเชื่อคือการที่ ฟาง เจิ้งจือ เห็นด้วย มันทำให้เขาต้องสั่นสะท้านไปถึงกระดูก

เขายังสงบใจไม่ได้ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเขารู้สึกแบบนี้ ฟาง เจิ้งจือ เป็นเพียงคนบ้านนอก แม้จะได้เป็นเจ้าหน้าที่ก็ได้แค่ระดับ 5 เท่านั้น

เหมือนกับเจ้าหน้าที่ทั่วไปที่ไม่ได้มีอำนาจมากมายนัก

แต่ทว่า…

ทำไมเขาถึงรู้สึกไม่สงบใจเช่นนี้?

ราชาต้วนรู้สึกโกรธเกรี้ยว

อย่างไรก็ตาม ปิง หยาง โกรธยิ่งกว่า

นางอยู่ที่นี่เพื่อช่วย ฟาง เจิ้งจือ เรื่องสิทธิ์ในดาบ แทนที่จะให้เกียรตินาง ฟาง เจิ้งจือ กลับกล่าวชม ยู่ ยี่ปิง เรื่องนี้ทำให้นางโกรธมาก

"ฟาง เจิ้งจือ ข้ามาที่นี่เพื่อช่วยเจ้า!" ปิง หยาง ระเบิดความโกรธออกมา

"ขอบคุณฝ่าบาท อย่างไรก็ตาม ข้าคิดว่ารัฐมนตรีฝ่ายซ้ายนั้นมีเหตุผลที่ดี สิงที่มีเจ้าของ ไม่ควรถูกเอาไป ต่อให้ตกอยู่ที่พื้นก็ตาม ตัวอย่างเช่น ... ดาบเล่มนี้! " ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มเจ้าเล่ห์

ขณะที่เขากำลังพูด แสงสีทองส่องสว่างออกมาจากหน้าอกของเขาพุ่งสูงขึ้นไปสุดโถงบัลลังก์

"ตูมมม!"

เสียงดังสนั่นไปทั่วโถง และเกิดหลุมกว้างกว่า 2 เมตรบนพื้นของโถงบัลลังก์

เพจหลัก : Double gate TH

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด