ตอนที่แล้วประกาศิตรัก : ตอนที่ 43-44 : 100 วันแห่งการอยู่ร่วมกัน (3-4)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปประกาศิตรัก : ตอนที่ 47-48 : 100 วันแห่งการอยู่ร่วมกัน (7-8)

ประกาศิตรัก : ตอนที่ 45-46 : 100 วันแห่งการอยู่ร่วมกัน (5-6)


ตอนที่ 45 – 100 วันแห่งการอยู่ร่วมกัน (5)

มันช่างเป็นน้ำเสียงที่นุ่มนวลและอ่อนโยนแบบที่เธอไม่เคยใช้พูดกับเขาเลย แม้เขาจะไม่ได้อยู่ตรงนั้นด้วย เขาก็เดาได้ว่าใบหน้าของเธอคงมีแต่รอยยิ้ม ในเวลานั้น.. เขารู้สึกราวกับมีใครหล่อซีเมนต์ทับเขาไว้ เขาได้แต่ยืนนิ่งไร้ความรู้สึกอยู่แบบนั้น จนเมื่อเลขาของเขาได้เข้าใกล้เขาในระยะประชิดจนน่ากลัว เขาถึงได้หลุดออกจากตรงนั้น

เมื่อผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์จบการบรรยาย ทุกคนในห้องจึงปรบมือให้เขา เว้นแต่ซูซินเหยินที่นั่งนิ่งไม่แสดงอารมณ์ใดๆ เขารู้สึกเพียงว่าเสียงปรบมือพวกนั้นช่างน่ารำคาญและหนวกหู เขาจึงยกมือขึ้นมานวดขมับ แล้วคำพูดของซ่งจิงเฉินเมื่อครู่ก็ลอยเข้ามาในหัวของเขา พี่ยี่หนานคะ.. ฉันก็คิดถึงพี่เช่นกัน-

อารมณ์เบื้องลึกของซูซินเหยินลุกโชนอยู่ภายใต้ดวงตาของเขา หน้าอกของเขากระเพื่อมขึ้นเล็กน้อยจากการหายใจแรงด้วยความโกรธ ก่อนที่จะกระแทกเอกสารในมือลงบนโต๊ะอย่างแรงโดยไม่บอกกล่าว..

เสียงตบโต๊ะอย่างแรงทำให้เสียงปรบมือเงียบกริบลงไปทันที.. ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ที่ยิ้มแย้มอยู่เมื่อครู่กำลังตัวสั่นเพราะท่าทางโกรธเกรี้ยวของซูซินเหยิน เขาคิดว่าข้อมูลบางอย่างที่เขานำเสนออาจทำให้ซูซินเหยินไม่พอใจ

ไอแห่งความโกรธแผ่ปกคลุมไปทั่วทั้งห้อง ทุกคนในที่นั้นรู้สึกราวกับวิญญาณกำลังจะออกจากร่าง ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะหายใจ ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ครุ่นคิดอย่างหนักแต่ก็ยังไม่สามารถหาข้อผิดพลาดใดๆได้ เขาจึงรวบรวมความกล้าและถามออกไป.. “CEO ซูครับ? มีตรงใหนไม่ถูกต้องครับ?”

ซูซินเหยินจ้องมองแจกันที่ตั้งอยู่กลางโต๊ะประชุม ราวกับว่ามันเป็นเพียงสิ่งเดียวที่น่าสนใจที่สุด..

หลังจากที่รออยู่นานและไม่มีคำตอบใดๆ ทุกคนในห้องประชุมก็พากันจ้องมองไปที่แจกันตามอย่างเขา ในแจกันปักไว้ด้วยดอกทิวลิปธรรมดาๆดอกหนึ่ง และดอกไม้ก็เริ่มจะร่วงโรยแล้วด้วย ที่กลีบของมันมีรอยย่นเพราะถูกนำมาปักไว้เมื่อสองสามวันก่อน มองดูแล้วก็ไม่มีอะไรน่าชื่นชม แต่ทำไมนายใหญ่ถึงได้จ้องมองอย่างสนอกสนใจเช่นนั้น?

ความงุนงงปรากฏอยู่ในสายตาของทุกคน.. พวกเขาต่างมองหน้ากันแต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดหรือถามอะไร ท้ายที่สุด.. สายตาทุกคู่ก็จับจ้องไปที่เลขานุการที่นั่งอยู่ข้างซูซินเหยิน เธอพยายามหลบเลี่ยงสายตาของทุกคนอยู่สักพัก ก่อนที่จะโน้มตัวไปหาซูซินเหยินและกระซิบถามเบาๆว่า “ท่าน CEO ซูคะ.. ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ถามว่า มีปัญหาอะไรที่ท่านต้องการนำเข้าที่ประชุมหรือไม่ค่ะ...”

“ซ่งซ่ง พี่ไม่คิดเลยจริงๆว่าซ่งเช็งจะเลือกจบชีวิตตัวเองด้วยวิธีนี้ พี่ขอโทษ.. ที่เมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้น พี่กลับไม่สามารถมาหาเธอที่ปักกิ่งได้เพราะพี่เข้ากรมอยู่ เธอไม่รู้หรอกว่าพี่กังวลมากแค่ใหน...”

เมื่อซูซินเหยินฟังทั้งคู่คุยกันมาถึงตรงนี้.. เสียงกระซิบถามจากเลขานุการก็ดึงเขากลับสู่ห้องประชุม เขามองไปรอบๆห้อง.. เห็นทุกคนอยู่ในอาการกลัวและตรึงเครียดอย่างมากราวกับกำลังยืนอยู่บนหน้าผาสูง คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นสถานการณ์ที่แปลกประหลาดนี้ แล้วถามขึ้นว่า “จบแล้วใช่ไม๊?”

หลังจากเขาพูดออกไป.. ซูซินเหยินก็สังเกตุเห็นสีหน้าประหลาดใจที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของทุกคน จากนั้นเขาก็เห็นเอกสารที่ก่อนหน้านี้อยู่ในมือของเขา แต่ตอนนี้กลับไปอยู่กลางโต๊ะประชุม นาทีนั้นเอง.. เขาจึงได้ตระหนักว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้น.. เขาเหลือบมองผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ และพูดต่อว่า.. “ถ้าคุณยังรายงานไม่เสร็จ ก็เชิญต่อเลย..”

ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์เริ่มรายงานต่อจากที่หยุดไม่เมื่อครู่ แต่ซูซินเหยินก็มีสมาธิกับการรายงานไม่ถึงสิบคำ ก่อนที่จิตใจของเขาจะล่องลอยไปสู่บทสนทนาของจินยี่หนานและซ่งจิงเฉินอีกครั้ง

“ซ่งซ่ง.. อย่ารู้สึกแย่จนมากเกินไป แม้ซ่งเช็งจะไม่อยู่กับพวกเราแล้ว แต่เธอยังมีพี่อยู่ อะไรที่ซ่งเช็งตั้งใจไว้ว่าจะทำให้เธอ พี่จะทำแทนเขาทุกอย่างเอง”

ตอนที่ 46 – 100 วันแห่งการอยู่ร่วมกัน (6)

“ตอนนี้พี่กลับมาแล้ว และพี่จะไม่กลับไปอีก ต่อไปพี่จะดูแลเธอให้ดี..”

เสียงหักเป๊าะดังขึ้นในห้องประชุม และเมื่อทุกคนหันไปดูที่ต้นเสียง พวกเขาก็ตกใจมากที่เห็นปากกาในมือของซูซินเหยินหักเป็นสองท่อน ห้องทั้งห้องเข้าสู่ความเงียบอย่างน่าขนลุกอีกครั้ง แต่ก็เพียงแค่หนึ่งนาที.. เมื่อทุกคนเห็นซูซินเหยินยังคงนั่งเงียบ พวกเขาก็หันความสนใจไปที่ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์เช่นเดิม

ความมั่นใจของผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ลดลงกว่าตอนเริ่ม.. แม้แต่การพูดก็รวดเร็วราวกับจะรีบรายงานให้จบๆไป

“พี่ยี่หนานคะ.. พวกเราหยุดพูดถึงเรื่องน่าเศร้าพวกนี้กันเถอะ อีกสองสามวันก็จะถึงวันเกิดของฉันแล้ว พี่จะมีของขวัญให้ฉันไม๊คะ?”

“ต้องมีแน่นอน.. พี่อาจจะลืมวันเกิดของคนอื่นได้ แต่วันเกิดเธอพี่ไม่เคยลืม”

“ฉันรู้ค่ะพี่ยี่หนานว่าพี่ดูแลฉันอย่างดีที่สุด..”

ซูซินเหยินเด้งขึ้นจากเก้าอี้ทันที.. ทุกคนในห้องใจเต้นด้วยความกลัว ผู้จัดการฝ่ายผลิตที่กำลังจะอ้าปากพูด รีบกลืนคำพูดกลับคืนเข้าลำคออย่างรวดเร็ว ใบหน้าของเขาที่มองซูซินเหยินทั้งซีดและหมดหวัง.. นี่พวกเขาจะประชุมแบบปกติทั่วไปไม่ได้เชียวหรือ?

ผู้จัการฝ่ายผลิตภัณฑ์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “CEO...”

และก่อนที่คำว่า ‘ซู’ จะออกจากปากเขา ซูซินเหยินก็เตะเก้าอี้ที่อยู่ด้านหลังเขาจนล้มลงพื้นเสียงดังปัง.. ซูซินเหยินไม่สนใจบรรดาผู้จัดการที่อยู่ในห้อง เขาพุ่งออกจากห้องประชุมไปด้วยความโกรธโดยไม่พูดไม่อธิบายอะไรสักคำ

.....

ซ่งจิงเฉินและจินยี่หนานอยู่ที่ร้านอาหารจนถึงหกโมงเย็น จินยี่หนานชวนซ่งจิงเฉินไปทานอาหารเย็นกับเขา แต่ซ่งจิงเฉินรู้ดีว่าเธอต้องไปให้ถึงบ้านซูซินเหยินเวลาหนึ่งทุ่มตรง เธอจึงหาข้ออ้างปฏิเสธเขาไป

เมื่อออกจากร้านอาหาร จินยี่หนานก็ช่วยซ่งจิงเฉินเรียกแท๊กซี่ ซ่งจิงเฉินยื่นที่อยู่ของครอบครัวซ่งให้กับคนขับ แล้วบอกลาจินยี่หนาน เมื่อรถขับออกไปค่อนข้างไกลแล้ว เธอจึงโน้มตัวมาด้านหน้าบอกกับคนขับรถให้ขับไปบ้านของซูซินเหยินแทน

เธอมาถึงเขตบ้านของซูซินเหยินราว 6.45 pm. และยังคงอิ่มอกอิ่มใจกับการได้พบจินยี่หนาน ซ่งจิงเฉินจ่ายค่าแท๊กซี่ให้กับคนขับรถ แล้วค่อยๆกระโดดช้าๆอย่างสบายใจไปที่ประตูบ้าน พร้อมทั้งฮัมเพลงรักเก่าๆเมื่อหลายปีก่อนไปด้วย เธอใส่หมายเลขพาสเวิร์ด แล้วเสียงปลดล็อคประตูก็ดังขึ้น เธอผลักประตูเปิดออกและเดินเข้าไปช้าๆอย่างสบายอกสบายใจ

ซ่งจิงเฉินถอดรองเท้าพร้อมฮัมเพลงไปด้วย ขณะที่เธอกำลังจะก้าวข้ามธรณีประตูเข้าไปยังห้องรับแขก เธอก็เตรียมจะโยนกระเป๋าของเธอไปที่โซฟาเหมือนที่เธอเห็นในละครเขาทำกัน แต่สายตาเธอก็เหลือบไปเห็นซูซินเหยินที่กำลังนั่งไขว่ห้างอ่านเอกสารอยู่กลางโซฟา

ซ่งจิงเฉินหยุดกึก.. ราวกับมีใครกดปุ่มหยุดเล่น (pause) ไว้.. นี่ยังไม่หนึ่งทุ่มเลย แต่ทำไมซูซินเหยินที่แสนยุ่งกลับถึงบ้านแล้วล่ะ..

ซ่งจิงเฉินกระพริบตาถี่ๆ เพื่อจะให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้ฝันไป เมื่อมั่นใจแล้วเธอก็รีบยืนอยู่ในท่าทางที่สุภาพอ่อนน้อม และทักทายซูซินเหยิน

“คุณซู.. วันนี้คุณกลับเร็วจังนะคะ”

คำพูดของเธอราวกับสายลมบางเบาๆ.. เพราะเขาไม่ตอบอะไรเธอเลย

ซ่งจิงเฉินเดินเลี่ยงไปที่ตะขอแขวนเสื้อบนผนัง และค่อยๆแขวนกระเป๋าถือของเธออย่างระมัดระวัง แล้วจึงหันกลับมาพูดว่า “คุณซูคะ.. ฉันจะไปเตรียมอาหารเย็นให้เดี๋ยวนี้ค่ะ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด