ตอนที่แล้วตอนที่ 223 ความผิด (FREE)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 225 คำสั่งศักดิสิทธิ์ (FREE)

ตอนที่ 224 ตัดสิน (FREE)


ในพระราชวังขององค์จักรพรรดิ หน้าประตูไปสู่สถาบันชั้งสูง หน่วยเกราะมังกรยังคงยืนยืนนิ่งราวกับภูเขา ต่อให้ฝนจะตกหนักแค่ไหน

เมื่อชายวัยกลางคนอายุประมาณ 40 ปีสวมเสื้อสีม่วงอย่างเป็นทางการ ดวงตาราวกับเหยี่ยว เดินมาไกลๆ หน่วยเกราะมังกรแสงความชื่นชมเคารพออกมาทันที เมื่อชายคนนั้นเดินเข้ามาใกล้ หน่วยเกราะมังกรก้มหัวเคารพทันที

"ท่านเฮา!"

เห็นได้ชัดว่า หน่วยเกราะมังกรเคารพชายตรงหน้าเป็นอย่างมาก ต่อให้ชายคนนั้นถือดาบอยู่ในมือก็ตาม

แม้แต่องค์ชายยังไม่กล้าถือดาบต่อหน้าพวกเขา แต่ชายคนนี้ต่างกัน เขาเป็นบุคคลอันสูงส่งในอาณาจักร ผู้นำของกองตรวจการทั้ง 13 ผู้ที่เป็นเสาหลักของอาณาจักร และพี่น้องร่วมสาบานกับองค์จักรพรรดิ

ซิง เฮ่า หรืออีกชื่อคือ ซิง หยวนกั่ว

เขามองไปยังห่วยเกราะมังกรข้างหน้า เขารู้เรื่องที่หน่วยเกราะมังกรลับมาที่เมืองหลวง อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ถามเพิ่มเติม

เขาเป็นแม่ทัพและเป็นผู้ควบคุมกองกำลัง ความรับผิดชอบของเขาคือการปกป้องประเทศ เพราะฉะนั้นเขาปกป้องประเทศเท่านั้น

สิ่งที่เขาไม่ควรรู้เขาก็จะไม่ถามเพิ่มเติม มันเป็นคำสอนที่สอนกันมาในกองตรวจการความมั่นคง

เขาพยักหน้าเบาๆและไม่พูดอะไรอีกทันทีที่มีขันทีเปิดประตูให้

เมื่อเขาเดินเข้าไปในสถาบันชั้นสูงแล้ว เขาเห็นศพที่ถูกปกคลุมด้วยธงสีแดงเลือดข้างศพมี สมาชิกอีก 2 คน ของหน่วยเกราะมังกร

การแสดงออกของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ถามเพิ่มเติม แต่เขาเดินเงียบ ๆ ไปอีกข้างหนึ่งและคุกเข่าลงและเดินเงียบๆไปยังอีกด้านพร้อมคุกเข่าลง

"ขออภัยฝ่าบาท!"

"ท่านซิง ลุกขึ้นเถิด เด็กน้อยฉิงซุย เป็นอย่างไรแล้วบ้าง?" ขณะที่องค์จักรพรรดิพูด เขาก็เดินไปประคอง ซิง เฮ่า ให้ลุกขึ้น

"แค่เลือดตกยางออกเล็กน้อยไม่ใช่เรื่องใหญ่ เขาทำได้แค่โทษความอ่อนแอของตัวเอง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจาก ซิง ฉิงซุย ที่นำพาปีศาจเข้าไปในการทดสอบ จนองค์หญิงได้รับบาดเจ็บ ข้านั้นบกพร่องในการดูแลเขา ควรได้รับโทษเช่นกัน! " ซิง หยวนกั่ว ไม่ได้ลุกขึ้นมาทันที แต่ยังคงคุกเข่าอยู่ที่พื้น

"สายลับของปีศาจยากที่จะเฝ้าระวัง ท่านซิง โปรดอย่าโทษตัวเอง ...เหตุผลที่ข้าเรียกท่านมาวันนี้เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับประเทศ" จักรพรรดิ หลิน มู่ไป่ ดึง ซิง หยวนกั่ว ลุกขึ้นมาอีกครั้ง

"โปรดบอก!"

"มีกฎแห่งเต่า 3000 บท ขณะที่กฎแห่งเต๋านั้นถูกแบ่งออกเป็น 36 ประเภทเท่านั้น นับตั้งแต่ก่อตั้งอาณาจักร พวกเราได้รวบรวม ศิลาเซียน ทั้ง 36 ชิ้น ขณะนี้มี 13 ชิ้นอยู่ในดินแดนเซียน 9 ชิ้น ในศาลาเต๋าสวรรค์ ส่วนที่เหลือนั้นกระจัดกระจายอยู่ในที่ต่างๆ ข้าคิดว่าเจ้ารู้ถึงความสำคัญของมันดี"

"ความหมายของท่านคือ?"

"กองตรวจการความมั่นคงนั้นรักษาความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับ กองตรวจการศักดิ์สิทธิ์มาช้านานตอนนี้ ชิ้นส่วนแห่งเซียน ได้ตกลงไปที่ ภูเขาคังหลิง ข้าหวังว่าท่านจะไปที่นั่นด้วยตัวเอง "

"ทำไมท่านไม่สั่งกองตรวจการศักดิสิทธิ์โดยตรงล่ะ บริเวณนั้นเป็นเขตพวกเขา?"

"ข้าเกรงว่าด้วยพลังของกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์อย่างเดียวมันจะไม่สำเร็จ ข้าเชื่อว่าท่านรู้ภูมิศาสตร์ของภูเขาคังหลินดี แต่มันไม่ได้ถูกสำรวจอย่างเต็มที่มาเกือบ 100 ปีแล้ว ถ้ากองทัพเข้าสู่ภูเขาคังหลินในทันทีจะพบกับความสูญเสียเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้หลังจากชิ้นส่วนแห่งเซียนโบราณได้ปรากฎตัวขึ้น ทำให้หน่วยเกราะมังกรนั้นถูกโจมตีเรื่อยมา และสูญเสียฑูตมังกรไปในที่สุด... "

"เผ่าพันธุ์ปีศาจ?"

"เข้าใจแล้ว ข้าจะเคลื่อนไหวเดี๋ยวนี้! "

"หน่วยเกราะมังกรจงดูแลความปลอดภัยของ ซิง เฮ่า ขณะเขาเดินทางไปยังภูเขาคังหลิง ให้พวกเขาระวังความปลอดภัยให้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นพวกเขาจะถูกลงโทษอย่างหนัก!"  องค์จักรพรรดิหันไปสั่งหน่วยเกราะมังกรทันที

"รับทราบ!" เมื่อพวกเขาได้ยินก็คุกเข่าลงทันที

"ท่านเฮาให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของตัวเองเป็นอย่างแรก เรื่องชิ้นส่วนเซียน นั้นเป็นรอง ระวังตัวด้วย!"

"ขอบคุณสำหรับความห่วงใย องค์จักรพรรดิ!" ซิง หยวนกั่ว พยักหน้าและโค้งคำนับ

ในทางตรงกันข้ามสมาชิกของหน่วยเกราะมังกรทั้ง 2 คนเดินตาม ซิง หยวนกั่ว ไปทันที

...

ในที่พักของ ปิง หยาง มีกลิ่นอ่อนๆ พร้อมกับร่างของ ปิง หยาง ที่นอนอย่างไม่เต็มใจอยู่บนเตียง  เหมือนจะมีน้ำตาคลออยู่ในดวงตาอันสดใสของนาง

ข้างๆมีหญิงสาวสวมชุดกระโปรงสีชมพูอยู่

"พี่เหยียน ข้ายังไม่อยากนอนพักตอนนี้ ข้าอยากออกไปขี่ม้า ... " ปิง หยาง มองไปยัง ฉือ กูเหยียน ที่นั่งข้างๆ

"แน่นอน เจ้าต้องการขี่ม้าหยกหิมะ หรือม้าอัศนีย์ม่วง ขององค์ชาย9 กันละ?" ฉือ กูเหยียน ยิ้มออกมาเบาๆ

"พี่เหยียน ทา่นมีวิธีให้ข้าขี่ม้ามังกรอัศนีย์ม่วงได้หรือ? พี่จิวนั้นขี้งกมาก ไม่ว่าข้าจะขอท่านพี่กี่ครั้ง เขาก็ไม่เคยให้ข้ายืมเลย "

"ข้ามี แต่เจ้าต้องรอให้อาการบาดเจ็บเจ้าฟื้นตัวก่อน"

"โอ้ ... ได้ๆ!"  ปิง หยาง ซ่อนตัวในผ้าห่มทันที พร้อมกับรอยยิ้มของนางกลับเผยความชั่วร้ายออกมา

ฉือ กูเหยียน มองไปยัง ปิง หยาง ที่ซ่อนตัวอยู่ในผ้าห่มด้วยความรักจากนั้นนางก็ลุกขึ้นยืนเบา ๆ และเดินไปที่หน้าต่างช้าๆ

"ผ่านสะพานที่แตกหัก, แผ่นศิลาแฝด และ บ้านทรงหิน? แม้แต่ดาบของ เมิ่ง เทียน ... ข้าเกรงว่า ราชาต้วนและองค์รัชทายาท จะเริ่มแสดงท่าทีบางอย่างแล้วสิ"

"รองหัวหน้าของ 1 ใน 10 ดินแดนปีศาจ ลอบเข้ามาในการทดสอบ? คนแรกที่เขาทำร้ายคือ ซิง ฉิงซุย แต่เป้าหมายหลังจากนั้นคือ ฟาง เจิ้งจือ? หืมมม ..."

"อภินิหารขั้นกลาง? ยอมสูญเสียหลายสิ่งอย่างเพื่อโจมตีคนคนหนึ่ง?  "

"อืมเหมือนเป็นการเอาชีวิตเข้าแลก เพื่อขัดขวางการทดสอบ...ไม่! ดูเหมือนจะไม่ใช่ หน่วยเกราะมังกร ได้สูญเสียฑูตมังกรไปก่อนหน้านี้ No!   ประตูเมืองถูกโจมตีโดยคนที่ไม่รู้จัก ดูเหมือนว่า... พวกเขาต้องการที่จะล่องูออกจากหลุมของมัน! แต่งูตัวไหนละที่พวกเขาพยายามล่อ?"

"ราชาต้วน? องค์รัชทายาท? พวกเขาทั้งหมดได้รับผลกระทบจากการทดสอบระดับจักรพรรดิ จากนั้น...กองตรวจการความมั่นคง! เพื่อที่จะล่อให้ กองตรวจหารความมั่นคงออกมา ... เผ่าปีศาจต้องสูญเสียบางอย่างแล้วต่อไปละ?"

ดวงตาของนางสว่างวาบทันที แต่ท่าทียังคงสงบเช่นเดิม พร้อมกับมองดูฝนที่ตกหนักอยู่ริมหน้าต่าง

...

ค่ำคืน พระราชวังทางตะวันออกยังคงมีแสงไฟที่ส่องสว่าง

องค์รัชทายาท หลิน เทียนหลง ยังคงสวมชุดเดิมแบบตอนเช้าอย่างไรก็ตามท่าทางของเขาดูตึงเครียดมาก แต่เขาก็ยังคงไม่พูดอะไรออกมา

เพราะคนที่นั่งอยู่ข้างล่างเขาคือ ยู่ ยี่ปิง

หลังจากผ่านไปนาน ยู่ ยี่ปิง ก็เริ่มครุ่นคิด หัวหน้าขุนนางของโรงเรียนหลวงนั้นมีความสำคัญมาก อย่างไรก็ตาม เพราะว่าเขาสำคัญมาก ยู่ ยี่ปิง จึงไม่มีหนทางจะช่วยแล้ว

เพราะว่าหัวหน้าขุนนางหลวงได้สูญเสียความไว้วางใจจากผู้คนแล้ว

"อาจารย์ของข้า ... เขาไม่เคยขัดข้าเลยสักอย่าง" องค์รัชทายาท หลิน เทียนหลง ไม่ได้โต้ตอบอะไรได้แต่พึมพำ

"องค์รัชทายาท ถ้าหากท่านยังอยากมีที่ยืนบนพระราชวังทิศตะวันออกละก็ ท่านต้องคำนึงถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเอาไว้แม้จะเป็นโอกาสเพียงเล็กน้อย ท่านก็ควรโฉบฉวยมันเอาไว้ ท่านต้องเข้าใจถึงสถานการณ์ในปัจจุบันด้วย "

"ท่านวางแผนจะทำอะไร?"

"ราชาต้วนร้องขอความเมตตาให้กับ ฮัน ฉางเฟิง ดังนั้นเขาจึงรักษาชื่อเสียงเอาไว้ได้  จากนั้น เราจะฉวยโอกาสนี้บอกองค์จักรพรรดิว่า ฮัน ฉางเฟิง พยายามที่จะปลอมแปลงกระดาษคำตอบด้วยวิธีนี้ การที่ราชาต้วนขอภัยโทษให้ ฮัน ฉางเฟิง องค์จักรพรรดิต้องสงสัยในตัวเขาด้วยแน่นอนถ้า ฮัน ฉางเฟิง เข้าข้างท่าน เขาต้องผลักข้อกล่าวหาไปให้ราชาต้วนแน่นอน!

"แต่วิธีนี้ท่านอาจารย์ของข้าต้องตายโดยไม่ต้องสงสัยแน่นอน นอกจากนี้ตระกูล ฮัน อาจจะ... "

เนื่องจาก ฮัน ฉางเฟิง เป็นอาจารย์สอนเขามาหลายปี จึงต้องคิดให้ถี่ถ้วน

"เราต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็ว!  องค์รัชทายาท เราไม่ควรสูญเสียความได้เปรียบไป เพราะความเมตตาเล็กน้อย" ตาของ ยู่ ยี่ปิง สว่างวาบ

"แต่ ... " องค์รัชทายาทลังเล

"องค์รัชทายาท!"

"ทำไมเจ้าต้อง...เห้อ... เอาล่ะจัดการตามที่ท่านพูด!"

"ท่านช่างตัดสินใจได้เด็ดขาดยิ่งนัก ข้าจะติดตามท่านไปจนชีวิตจะหาไม่แน่นอน! " ยู่ ยี่ปิง คุกเข่าต่อหน้า หลิน เทียนหลง

"ลุกขึ้นเถอะ!" องค์รัชทายาทลุกขึ้นยืนทันที อย่างไรก็ตาม ขอบตาเขาราวกับมีหยาดน้ำตาจางๆอยู่

...

2 วันต่อมาท้องฟ้าเหนือเมืองเหยียน ราวกับหายนะ เต็มไปด้วยความมืดอันอึมครึม

ตอนเช้าในหอหลวง เจ้าหน้าที่ต่างยืนนิ่ง องค์จักรพรรดิเอนกายพิงบัลลังก์อย่างไรก็ตามการแสดงออกของเขาดูเหมือนจะไม่มีความสุขมากนัก เนื่องจากสภากฎหมายได้สรุปผลการสอบสวนแล้ว

ในฐานะเจ้าหน้าที่ด้านกฎหมายของอาณาจักร แม้ 'ว่าน ฉง' จะอายุ 50 ปี แต่เขายังคงกระฉับกระเฉงและเด็ดขาด

ความผิดของ ฮัน ฉางเฟิง ถูกขุดคุ้ยออกมาอย่างรวดเร็วในบรรดาพวกนั้นมีหลักฐานเป็นลายเซ็นของเขาที่สั่งให้ปลอมแปลงกระดาษคำตอบด้านปัญญาของ ฟาง เจิ้งจือ และยังชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวของราชาต้วนในการอ่านสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

เหตุใดจึงไม่บอกว่าราชาต้วนสมคบคิดกับ ฮัน ฉางเฟิง?

เหตุผลนั้นง่ายมาก ทุกคนรู้ว่า ฮัน ฉางเฟิง เป็นอาจารย์ของ องค์รัชทายาทจะมีใครเชื่อกันว่าเขาจะได้รับคำสั่งจากราชาต้วน

"ฮัน ฉางเฟิง ตั้งใจจะแก้ไขกระดาษคำตอบของ ฟาง เจิ้งจือ ?"

นั่นทำให้เหล่ารัฐบาลหลวงต่างตกใจเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ ฮัน ฉางเฟิง มาสารภาพเองเป็นการส่วนตัวจึงไม่มีใครไม่เชื่อ

เจ้าหน้าที่เต็มไปด้วยความตกใจ อย่างไรก็ตามไม่มีใครลุกขึ้นคัดค้านในเรื่องนี้

ท่าทีของราชาต้วนเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเขาจ้องมองไปที่องค์รัชทายาท หลิน เทียนหลง ที่ยืนอยู่ในหอหลวงเขาไม่คิดเลยว่าพี่ชายของตัวเองจะไร้ความเมตตาแบบนี้

เขาต้องหนักแน่นเข้าไว้

เพราะเขารู้ดีว่าหากเขายอมรับแล้วพ่ายแพ้ล่ะก็ สถานการณ์ในอนาคตของเขาคงจะแย่ยิ่งกว่า ฮัน ฉางเฟิง เสียอีก

ในฐานะของราชาต้วน ผู้ที่ควบคุมเหล่าทหาร

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้มีส่วนร่วมในการทดสอบระดับจักรพรรดิ เขาอาจจะได้รับบทลงโทษเนื่องการทดสอบจากอยู่ภายใต้การดูแลของเขา และในอนาคตเขาอาจจะไม่มีโอกาสได้คุมการสอบอีก...

ท่าทีขององค์รัชทายาท หลิน เทียนหลง ยังคงใจเย็น หลังจากความเสียสละของ ฮัน ฉางเฟิง ตำแหน่งหัวหน้าขุนนางหลวงจึงว่าง อย่างไรก็ตามเขาไม่คิดว่าราชาต้วนจะได้ตำแหน่งนี้ไป

ถ้างั้น ...

โรงเรียนหลวงจะยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา

การปลอมแปลงในครั้งนี้อาจจะต้องทำให้มีการจัดสอบใหม่

อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่ทางเลือกที่ดี เพราะนั่นก็เท่ากับประกาศว่าโรงเรียนหลวงนั้นไม่มีความน่าเชื่อถือ

ยิ่งไปกว่านั้น การโจมตีของปีศาจ ทำให้ผู้เข้าสอบส่วนใหญ่บาดเจ็บหนัก การแข่งขันจึงดูไม่น่ายุติธรรม

คำตัดสินสุดท้ายคืออาจจะมีการจัดสอบเบื้องต้นก่อนศาลจะตัดสินครั้งสุดท้าย เพื่อไม่ให้กระทบกับการตัดสิน และผู้ที่บาดเจ็บได้มีเวลาพักฟื้น

หลังจากที่เรื่องการทดสอบถูกตัดสินเสร็จ ทุกคนต่างตื่นตัว เพราะต่อไปจะเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด

นั่นคือดาบของเทพเซียนสงคราม เมิ่ง เทียน!

"องคจักรพรรดิ, ปีศาจที่ปรากฎตัวในโลกแห่งเซียนนั้นได้รับการยืนยันแล้วว่าเขาคือ รองหัวหน้าของ 1 ใน 10 เขตแดนปีศาจ หยิง ซาน " เจ้าหน้าที่สภากฎหมาย ว่าน ฉง ไม่กล่าวถึงดาบโดยตรง

เพราะนั่นเป็นสิ่งที่โง่ที่สุด ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เจตนาขององค์จักรพรรดิยังคลุมเคลือ การพูดอะไรออกไปจึงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก

"เขาคือ หยิง ซาน จริงรึ ?!"

"ข้าได้ยินมาว่า หยิง ซาน อยู่ในระดับอภินิหาร ฟาง เจิ้งจือ พึ่งเข้าถึงระดับสะท้อนสวรรค์ เขาฆ่า หยิง ซาน ได้ยังไงกัน?"

"ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับดาบของ เทพสงคราม เมิ่ง เทียน "

"ใครจะคิดว่าดาบเพียงเล่มเดียวจะเอาชนะ หยิง ซาน ลงได้ ช่างเป็นสิ่งที่น่ากลัวจริงๆ "

เมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของเจ้าหน้าที่สภากฎหมาย เหล่าเจ้าหน้าที่จำนวนมากก็เริ่มถกเถียงกัน ความตกใจปรากฎขึ้นบนใบหน้าของทุกคน ขณะที่องค์รัชทายาท หลิน เทียนหลง และราชาต้วน เงียบสงบอยู่บนหอหลวง

พวกเขากำลังรอ รอเวลาที่เหมาะสมที่สุด จากนั้นดาบจะตกอยู่ในมือของผู้ที่เหมาะสมที่สุด

เพจหลัก : Double gate TH

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด