ตอนที่แล้วประกาศิตรัก : ตอนที่ 35-36 : วัยเด็กของพวกเรา (5-6)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปประกาศิตรัก : ตอนที่ 39-40 : วัยเด็กของพวกเรา (9-10)

ประกาศิตรัก : ตอนที่ 37-38 : วัยเด็กของพวกเรา (7-8)


ตอนที่ 37 – วัยเด็กของพวกเรา (7)

ในเวลานั้น.. ซ่งเช็งก็ไปต่างประเทศ ส่วนจินยี่หนานก็ย้ายไปเรียนมหาวิทยาลัยที่อยู่ทางใต้ จึงเหลือเพียงซูซินเหยินที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเธอ และตัวเธอเองก็ได้ลืมเรื่องขุ่นเคืองพวกนั้นไปแล้ว เธอจึงเริ่มหันมาคุยกับซูซินเหยิน

แต่เพราะซูซินเหยินไม่ใช่คนช่างพูด เธอพูดไปสักสิบประโยคเขาจึงจะตอบกลับมาสักครั้ง แต่ก็มีบ่อยครั้งที่เขาเพียงแค่ทำเสียงพึมพำรับรู้ในลำคอ..

และเพียงไม่นาน.. ความรู้สึกของเธอที่มีต่อซูซินเหยินก็ยิ่งแย่ลงกว่าเดิม

เมื่อฤดูใบไม้ร่วงมาถึง.. วันเกิดของจินยี่หนานก็ใกล้เข้ามา สำหรับซ่งจิงเฉินแล้ว.. ไม่มีวันใหนจะสำคัญมากไปกว่าวันเกิดของเขา และเธอมักจะเตรียมของขวัญไว้ให้เขาเป็นเวลาล่วงหน้าถึงหนึ่งเดือน

ปกติซ่งจิงเฉินจะลากซ่งเช็งไปเป็นเพื่อนเลือกซื้อของขวัญให้จินยี่หนานด้วย แต่ครั้งนี้ซ่งเช็งไม่ได้อยู่ในปักกิ่ง และเธอก็ต้องการความคิดเห็นจากผู้ชาย เธอจึงต้องไปขอความช่วยเหลือจากซูซินเหยินอย่างไม่มีทางเลือก

เธอคิดว่าซูซินเหยินต้องไม่ยอมไปเป็นเพื่อนเธอแน่.. แต่ก็ไม่มีอะไรจะเสียถ้าจะลองถามเขาดู แต่ใครจะคิดว่าชายหนุ่มที่ปกติชอบทำตัวเหินห่างอย่างเขาจะพยักหน้าตอบตกลง!

นับว่าเป็นสัญญาณที่ดี.. และเพื่อเป็นการตอบแทนความช่วยเหลือของซูซินเหยิน ซ่งจิงเฉินจึงเลี้ยงชานมเขาหนึ่งแก้ว ท้องฟ้าเริ่มมืด.. ซ่งจิงเฉินก็รู้สึกเหนื่อยจากการช้อปปิ้ง ซูซินเหยินจึงเสนอตัวช่วยเธอถือกระเป๋า

ปกติซ่งจิงเฉินจะเป็นคนที่ตัดสินใจอะไรค่อนข้างเด็ดขาด.. แต่เพราะเธอแคร์จินยี่หนาน เธอจึงค่อนข้างลังเลตัดสินใจเลือกของขวัญไม่ได้เสียที ทุกครั้งที่หยิบอะไรมาได้สักชิ้น เธอก็มักจะหันไปถามความเห็นของซูซินเหยิน และชายหนุ่มก็จะตอบด้วยน้ำเสียงค่อนข้างห่างเหินว่า “ไม่เลว..” แต่หลังจากนั้น เขาก็แค่พยักหน้า หรือไม่ก็พึมพำอย่างหมดความอดทน

จนถึงตอนนี้.. ซ่งจิงเฉินยังไม่รู้ตัวว่าได้ทำให้ซูซินเหยินขุ่นเคือง เธอยังคงมีความสุขกับการเลือกของขวัญให้จินยี่หนาน แต่เมื่อเธอขอให้เขาลองสวมนาฬิกาให้เธอดู ชายหนุ่มก็ผลักมือของเธอออกไปอย่างแรง แล้วเดินกระแทกเท้าออกไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ

เขาถือกระเป๋าของเธอไปด้วย.. ในตัวเธอจึงไม่มีทั้งเงินและโทรศัพท์ เธอค้นดูตามเสื้อผ้าและพบเงินเพียงสองดอลล่าร์ ที่ไม่พอแม้แต่จะจ่ายค่ารถไฟฟ้าใต้ดินกลับบ้าน ในที่สุดเธอก็ต้องเดินกลับบ้านอย่างไม่มีทางเลือก

ห้างสรรพสินค้าอยู่ห่างจากบ้านของเธอถึงสิบกิโลเมตร เธอออกมาตั้งแต่เช้าตรู่ แต่จนดึกเธอก็ยังคงกลับไม่ถึงบ้าน รองเท้าที่เธอสวมอยู่ก็เป็นรองเท้าคู่ใหม่ที่มีขนาดเล็กกว่าเท้าของเธอหนึ่งเบอร์ มันจึงกัดเท้าของเธอจนระบม

ตั้งแต่เล็กจนโต.. เธอไม่เคยถูกทำโทษหนักเหมือนวันนี้มาก่อน เธอร้องไห้จนตาบวม เธอใช้เวลาเดินร่วมเจ็ดชั่วโมง และมาถึงบ้านตอนสี่ทุ่มแล้ว..

เธอกลับเข้าไปในห้อง.. และเมื่อถอดรองเท้าออกมา เธอก็พบว่าเท้าของเธอพองไปหมดและบางจุดก็มีเลือดไหลออกมา

เธอสาปแช่งซูซินเหยินระหว่างที่ใช้สำลีทำความสะอาดแผลที่เท้า ขณะเดียวกันท้องของเธอก็ร้องเพราะความหิว

ในเวลานั้น.. เธอรู้สึกว่าเธอช่างโชคร้ายแต่ก็ต้องขอบคุณซูซินเหยิน เพราะตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา.. ความเกลียดชังในตัวซูซินเหยินก็ฝังลึกยิ่งขึ้น และเธอก็ได้สาบานกับตัวเองไว้ว่าเธอจะไม่สนใจผู้ชายคนนี้ตราบเท่าที่เธอยังมีลมหายใจ

ครั้งนี้.. ความแค้นของซ่งจิงเฉินฝังแน่นจนเธอไม่พูดกับซูซินเหยิน่แม้แต่ประโยคเดียวเป็นเวลาเกือบเดือน แม้จะอาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกันก็ตาม

ตอนที่ 38 – วัยเด็กของพวกเรา (8)

ถ้าไม่มีเหตุการณ์ต่อไปนี้เกิดขึ้น ซ่งจิงเฉินคิดว่าความสัมพันธ์ของเธอกับซูซินเหยินคงจบลงตั้งแต่วันนั้น เหตุการณ์ที่ว่านี้เกิดขึ้นในวันคริสมาสต์

เธอเดินทางไปภาคใต้เพื่อไปฉลองคริสมาสต์กับจินยี่หนาน และตั้งใจว่าครั้งนี้เธอจะสารภาพความรู้สึกของเธอกับเขา เธอใช้เวลาทั้งคืนบนรถไฟเพื่อรวบรวมความกล้า และในที่สุดก็มาถึงมหาวิทยาลัยของจินยี่หนานในเช้าของวันรุ่งขึ้น

เธอต้องการให้เขาประหลาดใจจึงไม่ได้โทรมาบอกเขาล่วงหน้าก่อน เธอไม่รู้แม้กระทั่งเบอร์ห้องของจินยี่หนาน จึงได้ไปขอความช่วยเหลือจากนักศึกษาแถวนั้น ในที่สุดเธอก็ได้ที่อยู่ของจินยี่หนานมา และเธอก็พบจินยี่หนานก่อนที่จะไปถึงที่พักของเขา

เหมือนถูกตบหน้า.. จินยี่หนานกำลังกอดผู้หญิงคนหนึ่งไว้ในอ้อมแขนแล้วขับรถผ่านหน้าเธอไปอย่างเร็ว หลังจากนั้น.. เธอก็โทรหาจินยี่หนานแต่เขาก็ไม่รับสาย เธอพยายายามผลักไสความคิดนี้ออกไปจากหัวของเธอ ผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนของพี่ยี่หนานหรือเปล่า?

เธอนั่งคอยจินยี่หนานอยู่ที่มหาวิทยาลัยจนพระอาทิตย์ตกดิน แต่เขาก็ยังคงไม่กลับมา ความกล้าที่เธอรวบรวมมาตลอดทางจากปักกิ่ง ได้อันตธาลหายไปหมดสิ้นในช่วงเวลาที่นั่งคอยเขา และสุดท้าย.. เธอไม่กล้าแม้แต่จะอยู่เจอหน้าจินยี่หนาน

ตอนขากลับ.. ตั๋วรถไฟถูกขายไปหมดแล้ว เธอจึงตัดสินใจเดินทางกลับด้วยเครื่องบินแทน วันคริสต์มาสที่ผู้คนต่างเฉลิมฉลองกันอย่างมีความสุขพร้อมเพื่อนและครอบครัว แต่เธอกลับต้องฉลองเพียงคนเดียวบนเครื่องบิน

เธอมาถึงสนามบินแห่งชาติปักกิ่งตอนเกือบจะตีหนึ่ง เธอยังคงเป็นเพียงนักศึกษา.. เธอจึงไม่มีบัตรเครดิต และเงินสดที่มีเธอก็นำไปซื้อตั๋วเครื่องบินจนหมดแล้ว

พ่อกับแม่ของเธอตอนนี้ก็อยู่ที่ฮ่องกง และวันนี้ก็เป็นวันหยุดของแม่บ้าน เธอถึงได้กล้าแอบหนีออกมาจากบ้าน

ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ถึงแม้เธอจะโทรหาเพื่อนๆในห้อง ก็คงไม่มีใครมารับเธอได้ เธอยืนท่ามกลางลมหนาวในยามค่ำคืนอยู่เป็นเวลานาน และหลังจากลังเลอยู่นาน.. เธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรกลับไปที่บ้าน

เธอไม่มั่นใจว่าซูซินเหยินจะอยู่ที่บ้านหรือเปล่า เพราะปกติเขามักใช้เวลาในวันหยุดอยู่เป็นเพื่อนแม่ของเขาที่โรงพยาบาล เธอเพียงแค่อยากลองโทรดู แต่น่าแปลกที่โทรศัพท์ดังเพียงแค่ครั้งเดียวก็มีคนรับสาย..

เสียงปลายสายเป็นเสียงที่เย็นชาเหมือนเคย แต่น่าแปลกที่คืนนี้เธอกลับรู้สึกอบอุ่นที่ได้ยินเสียงคุ้นหูนี้

หลังจากวางสายเพียงหนึ่งชั่วโมง.. เขาก็ปรากฏตัวขึ้น เป็นเพราะยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเธอเลยตั้งแต่เช้าตรู่ เมื่อทั้งคู่ผ่านร้านอาหารฟาสฟู้ดที่เปิดยี่สิบสี่ชั่วโมง เธอจึงบ่นคร่ำครวญด้วยความหิว

เสียงของเธอนุ่มนวลจนตัวเธอเองยังแทบไม่เชื่อว่าน้ำเสียงนุ่มนวลเหล่านี้จะออกมาจากปากของเธอได้ ซูซินเหยินจอดรถและลงไปซื้ออาหารเป็นเพื่อนเธอ

ทั้งคู่มาถึงบ้านตอนเกือบตีสาม เธอตะลอนอยู่นอกบ้านถึงสองวันหนึ่งคืน ทำให้เธอเหนื่อยและเพลียมากจนเผลอหลับอยู่บนรถ ซูซินเหยินต้องอุ้มเธอลงจากรถและพาขึ้นไปชั้นบน

เมื่อเขาวางเธอลงบนที่นอน และห่มผ้าให้ เธอก็รู้สึกตัวและพึมพัมว่า “ขอบคุณ”

เธอไม่แน่ใจว่าเธอฝันไปหรือเปล่า.. ที่ได้ยินเขาตอบกลับมาว่า “ราตรีสวัสดิ์” เพราะในเวลานั้นเปลือกตาเธอหนักมากจนไม่สามารถจะลืมตาขึ้นได้..

นี่คงเป็นครั้งแรกตั้งแต่รู้จักกันมา.. ที่เธอได้ยินคำพูดอ่อนโยนแบบนี้ออกจากปากเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด