ตอนที่แล้วประกาศิตรัก : ตอนที่ 33-34 : วัยเด็กของพวกเรา (3-4)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปประกาศิตรัก : ตอนที่ 37-38 : วัยเด็กของพวกเรา (7-8)

ประกาศิตรัก : ตอนที่ 35-36 : วัยเด็กของพวกเรา (5-6)


ตอนที่ 35 – วัยเด็กของพวกเรา (5)

ก่อนที่ซ่งจิงเฉินจะทันได้ตอบอะไรกลับไป ซูซินเหยินก็วางโทรศัพท์ไป สมองของเธอยังคงเบลอๆเพราะเพิ่งตื่นนอน เธอกดปุ่มห้ามรบกวนบนโทรศัพท์แล้วนอนต่อ จนกระทั่งเสียงเตือนข้อความเข้าดังขึ้นสองครั้ง ซ่งจิงเฉินจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาและพยายามลืมตาขึ้นมอง ข้อความดังกล่าวถูกส่งมาจากหมายเลขที่โทรเข้ามาเมื่อครู่

ข้อความแรกมีตัวเลขหกตัว ส่วนตัวที่สองมีเพียงคำว่า : พาสเวิร์ด (password)

ข้อความที่ส่งเข้ามาสั้นและตรงประเด็นไม่ต่างจากที่คุยโทรศัพท์ ซ่งจิงเฉินทำความเข้าใจกับข้อความนั่นอยู่ราวสองวินาทีแล้วค่อยนึกขึ้นมาได้.. เธอเหลือบมองวันที่บนโทรศัพท์; วันที่ 1 ธันวาคม.. เป็นวันที่ระบุไว้ในสัญญาของซูซินเหยิน

นี่เพิ่งจะเจ็ดโมงเช้า แต่โทรศัพท์และข้อความจากซูซินเหยิน กลับทำให้ความคิดที่อยากจะนอนต่อของเธออันตธาลหายไป ยังคงมีเวลาเหลืออีกตั้งสิบสองชั่วโมงก่อนจะถึงเส้นตายตอนหนึ่งทุ่ม แต่ความกังวลกลับวิ่งเข้าสู่หัวใจของเธออย่างมากมาย..

ตอนที่เซ็นต์สัญญานั่นกับซูซินเหยิน เธอได้เตรียมใจไว้แล้ว.. แต่เมื่อวันนี้มาถึงจริงๆ เธอจึงได้ตระหนักว่า ตัวเธอเองยังไม่พร้อมทั้งกายและใจ..

ตลอดทั้งบ่ายนี้.. ซ่งจิงเฉินรู้สึกราวกับตัวเองเป็นหุ่นกระบอก ระหว่างรับประทานอาหารมื้อเที่ยง เธอก็เหม่อลอยจนมือเข้าไปอยู่ในถ้วยซุป แต่โชคดีที่ซุปนั่นค่อนข้างเย็นแล้วจึงไม่ลวกมือเธอเข้า

หลังอาหารเที่ยง.. ซ่งจิงเฉินกลับไปที่ห้องเพื่อจัดกระเป๋า เธอตั้งใจไว้ว่าจะไม่เอาอะไรไปมาก แต่เมื่อจัดทุกอย่างจนเสร็จเรียบร้อย สิ่งที่เธอได้กลับเป็นกระเป๋าเดินใบใหญ่เบ้อเริ่ม

เธอจัดกระเป๋าเสร็จราวบ่ายสามโมง เหลือเวลาอีกเพียงสี่ชั่วโมงก็จะหนึ่งทุ่มตรง บ้านของครอบครัวซ่งอยู่ไม่ไกลนักจากบ้านพักของซูซินเหยิน เธอจึงตั้งใจจะอยู่ที่นี่จนนาทีสุดท้าย ระหว่างนี้ซ่งจิงเฉินก็เปิดดูละคร เพื่อเป็นการบรรเทาความกังวลในใจของเธอไปพลางๆ

นักแสดงนำในละครเรื่องนี้คือ เจียวอันหาว.. เป็นละครที่ได้รับความนิยม และรีวิวต่างๆในโลกออนไลน์ต่างก็ชื่นชม แต่ซ่งจิงเฉินกลับไม่มีสมาธิ จิตใจของเธอล่องลอยไปกับความจริงที่เธอจะต้องทนทุกข์ทรมานอยู่บ้านเดียวกันกับซูซินเหยินถึงหนึ่งร้อยคืน เธอจึงโยนโทรศัพท์ไว้ข้างๆ แล้วจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างแทน

อาจเป็นเพราะเธอเพิ่งได้พูดคุยกับซูซินเหยิน หรือไม่ก็อาจเป็นเพราะความฝันของเธอเมื่อคืนนี้ ซ่งจินเฉินใจลอยมองออกไปนอกหน้าต่าง และจิตใจของเธอก็หวลนึกถึงเรื่องราวในอดีต..

.....

ภาพวันที่สามในโรงเรียนช่วงมัทธยมปลายปรากฏขึ้นชัดเจนในความคิดของเธอ...

วันนั้นฝนตกอย่างหนัก และเธอก็ลืมพกร่มมาด้วย เธอจึงกลับถึงบ้านในสภาพเนื้อตัวเปียกปอน

เธอคิดว่าเธอคงต้องถูกพ่อบ่นเหมือนอย่างเคย.. ทำไมวิ่งตากฝนกลับบ้านมาแบบนี้? ทำไมไม่รู้จักโทรเรียกคนขับรถไปรับ?

แต่วันนั้น.. เมื่อเธอเปิดประตูบ้านเข้าไป เธอกลับพบกับความวุ่นวายในบ้าน ผู้คนมากมายห้อมล้อมอยู่หน้าห้องที่อยู่ถัดไปจากเธอ; พวกเขาช่วยกันยกเตียงเก่า โต๊ะเขียนหนังสือเก่า และเฟอร์นิเจอร์เก่าอื่นๆออกไป แล้วเอาของใหม่เข้ามาแทน

ฉันตะโกนออกไป “หนูกลับมาแล้วค่ะ!” เธอขมวดคิ้วด้วยความงงงวย และดูเหมือนไม่มีใครสังเกตุเห็นเธอ เธอจึงรีบวิ่งขึ้นบันไดไปในสภาพน้ำหยดเต็มตัว และก่อนที่เธอจะทันได้พบซ่งเม็งวา แม่บ้านก็จับตัวเธอเข้าไปในห้องนอนและจัดแจงอาบน้ำอุ่นให้

ตอนที่ 36 – วัยเด็กของพวกเรา (6)

หลังจากเธออาบน้ำเสร็จ ข้างบนก็กลับสู่สภาพปกติ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น.. เธอจึงแอบมองเข้าไปในห้องนอนที่อยู่ข้างห้องเธอ และพบว่าข้างในถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ใหม่ทั้งหมด แม้กระกระทั่งพรมก็ถูกเปลี่ยนเป็นของใหม่

ห้องนั่นไม่ได้ใช้มาตั้งนานแล้ว ส่วนเฟอร์นิเจอร์ข้างในก็อยู่แบบนั้นมาเป็นปี แล้วทำไมจู่ๆก็เปลี่ยนใหม่ล่ะ?

เธอเดินลงบันได้มาช้าๆด้วยความงุนงง และก่อนที่เธอจะทันได้ถามซ่งเม็งวาว่าเกิดอะไรขึ้น พ่อของเธอก็เรียกเธอให้เข้าไปหา ซ่งเม็งว่าบอกกับเธอว่า จากวันนั้นจะมีแขกย้ายมาอยู่กับครอบครัวชั่วคราว เขาชื่อ.. ซูซินเหยิน แม่ของเขาป่วยก่อนจะมีการสอบเลื่อนชั้น เขาจึงไม่ได้เข้าสอบ ทำให้เขาต้องเรียนซ้ำชั้น

ซ่งเม็งวายังบอกอีกว่า.. ซูซินเหยินเสียพ่อไปตั้งแต่เขายังเด็ก และเติบโตมาภายใต้การดูแลของแม่เพียงคนเดียว ตอนนี้แม่ของเขานอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล และตามกฏหมายเขาจะต้องมีผู้ดูแล และนั่นคือเหตุผลที่เขาต้องย้ายมาอยู่ที่บ้านของครอบครัวซ่ง

แม้เธอจะไม่เคยพบกับซูซินเหยินมาก่อน แต่เธอก็ได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับเขามากมาย เธอจึงมีความรู้สึกที่ไม่ค่อยดีกับเขามากนัก แต่เมื่อได้ฟังเรื่องราวของเขา ความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขาก็ดีขึ้นมาบ้าง เธอยังกระตือรือร้นวิ่งขึ้นบันไดเพื่อไปเรียกเขามาร่วมรับประทานอาหารเย็นในคืนนั้น..

และนั่นเป็นครั้งแรกที่เธอได้พบกับเขาอย่างเป็นทางการ แม้เวลาจะผ่านมาหลายปี.. ความทรงจำในคืนนั้นยังคงชัดเจนอยู่ในใจของเธอเสมอ

เธอเคาะประตูห้องนอนของเขาอยู่เกือบสองนาที ประตูห้องเปิดออกเผยให้เห็นใบหน้าที่สวยงามอย่างมาก ดวงตาของเขาที่มองมาที่เธอก็เปล่งประกายแววาวราวกับแสงจากโคมไฟคริสตัลที่อยู่ในห้อง

แม้แต่ซ่งจิงเฉินที่เติบโตมาพร้อมกับหนุ่มรูปงามอย่างซ่งเช็งและจินยี่หนาน ยังถึงกับอึ้งไปเมื่อได้พบกับซูซินเหยินครั้งแรก

ชายหนุ่มคนนี้หน้าตาช่างสวยงามอย่างน่าขนลุก เธอจ้องมองเขาอยู่นานเป็นนาที.. ก่อนที่จะยื่นมือออกไปทักทายเขาด้วยรอยยิ้มที่จริงใจและเปิดเผย “สวัสดี.. ฉันชื่อซ่งจิงเฉิน”

เขาจ้องมองเธออยู่ครู่หนึ่งเช่นกัน ก่อนที่จะยื่นมือออกไปจับมือของเธอ และแล้วเด็กชายและเด็กสาวก็ได้พบกัน..

การพบกันครั้งแรกของคนทั้งคู่ช่างธรรมดาและบริสุทธิ์.. แต่ก็เพียงเดี๋ยวเดียวเท่านั้น เพราะจู่ๆเขาก็บีบมือของเธอแรงขึ้นจนทำให้เธอจ็บ เธอสูดหายใจลึกและน้ำตาแทบจะไหลออกมา “ซูซินเหยิน.. นายกำลังทำฉันเจ็บ!”

เสียงนั่นทำให้เขารู้สึกตัวกับกิริยาที่ไม่ดี เขาจึงรีบปล่อยมือของเธอ เธอคิดว่าเขาจะขอโทษเธอเหมือนที่คนปกติทั่วไปทำกัน แต่เขากลับมองเธอด้วยหางตาแล้วเดินผ่านเธอไปเฉยๆ

ในเวลานั้น.. ความสวยของเธอก็เป็นที่รู้จัก หนุ่มๆมากมายในโรงเรียนต่างเข้ามาห้อมล้อมเธอพยายามทำให้เธอสนใจอยู่ทุกวัน เธอมาจากครอบครัวที่ดี ทั้งพ่อแม่ ซ่งเช็ง และจินยี่หนานต่างก็เอาอกเอาใจเธอ ทำให้เธอมีนิสัยกระเดียดไปทางเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล และเอาแต่ใจ

ซูซินเหยินเป็นเพียงแขกในบ้านของเธอ เขาควรจะต้องนอบน้อมต่อเธอ ไม่ใช่เย่อหยิ่งจองหองแบบที่เธอเองก็คิดไม่ถึง ซ่งจิงเฉินรู้สึกเหมือนถูกหักหน้า หลังจากนั้นเธอก็ไม่เคยชายตามองเขาอีกเลย

แต่ด้วยนิสัยของซ่งจิงเฉินที่เป็นคนไม่เจ้าคิดเจ้าแค้น; ความโกรธของเธอผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ความรู้สึกต่อต้านซูซินเหยินจึงมลายหายไปในเวลาเพียงหนึ่งอาทิตย์

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด