ตอนที่แล้วตอนที่ 169 ภายหลังความวุ่นวาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 171 หมัดเปลวเพลิงผลาญสุริยันและท่าร่างแห่งการเคลื่อนไหว

ตอนที่ 170 เมืองไห่เฉิน


ตอนที่ 170 เมืองไห่เฉิน

หลังจากนั้นไม่นาน หยางไค่เดินกลับมาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม

เป็นอย่างไร ? นายหญิงกล่าวอย่างรวดเร็ว

ตายทั้งหมด หยางไค่ส่ายหัวไปมาอย่างเศร้าโศก กลุ่มคนของจางติงลงมือฆ่าพวกเขาจนหมดสิ้น คนที่ถูกลอบฆ่าในขณะที่หลับไหลยังไม่ได้สติ ล้วนตายในทันที ส่วนคนที่ถูกฆ่าในขณะที่กำลังต่อสู้ ต่างไร้ซึ่งโอกาสที่จะมีชีวิตรอดต่อไป

ในขบวนรถม้า มีเพียงหยางไค่และหญิงสาวทั้ง 3 ที่ยังมีชีวิตรอด

เสียงสะอื้นของคุณหนูดังมาจากภายในรถม้า ฉุ่ยเอ่อต่าขยี้ดวงตาของนาง แม้ว่านายหญิงจะผ่านช่วงชีวิตมายาวนาน แม้ว่าจิตใจจะเต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง แต่ก็มิอาจที่จะห้ามปราณหยดน้ำตาที่ไหลรวยรินออกมา

มนุษย์เปรียบดังสมบัติที่ล้ำค่า คนตายเปรียบดังอาหารของนกกา .. นายหญิงกล่าวออกมาอย่าแผ่วเบา ราวกับว่ากำลัเยาะเย้ยตนเอง ราวกับว่ากำลังประนามการกระทำของจางติง

เมื่อให้หญิงสาวทั้ง 3 แสดงความรู้สึกที่เศร้าโศกออกมาเป็นเวลานาน หยางไค่จึงกล่าวขึ้นมา : พวกเจ้าจะทำอย่างไรต่อไป ? ยังจะเดินทางไปเมืองไห่เฉินหรือไม่ ?

นายหญิงเงยหน้าขึ้นมา พยักหน้าอย่างแผ่วเบา เขาจ้องมองหยางไค่และกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวัง : จอมยุทธุ์น้อย เจ้าสามารถคุ้มครองและนำพาพวกเราไปยังเมืองไห่เฉินในช่วงระยะทางที่เหลือได้ไหม ?

สถานที่แห่งนี้เป็นป่าลึกที่เต็มไปด้วยอันตรายที่มากมาย เมื่อสักครู่พวกนางเพิ่งพาลพบกับเหตุการณ์ที่น่าหวาดกลัว พวกนางทั้ง 3 จะกล้าเดินทางต่อไปโดยลำพังได้อย่างไร ?

ฉุ่ยเอ่อดึงแขนของหยางไค่และกล่าวด้วยน้ำเสียงที่น่าสงสาร : ขอทานน้อย เจ้าจะละทิ้งพวกเราไม่ได้น่ะ

ฉุ่ยเอ่อ นายหญิงกล่าวสั่งสอนนางด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน : สำรวม อย่าทำกิริยาที่ไร้มารยาทเข่นนี้

ถือว่าโชคดีที่พวกเขานำพาหยางไค่มาด้วย เพราะพวกนางคิดว่าหยางไค่คือขอทานน้อยที่น่าสงสาร แต่ในตอนนี้เขากลับช่วยชีวิตของพวกนางทั้ง 3 การกล่าวเรียกเช่นนี้จึงถือว่าไร้ซึ่งมารยาทและการอบรมสั่งสอน

หยางไค่จ้องมองฉุ่ยเอ่อ เขาพยักหน้าและกล่าว : การเดินทางอีกเพียง 1 วันก็จะไปถึงเมืองไห่ ข้าจะคุ้มครองและไปส่งพวกเจ้าเอง

ขอบคุณจอมยุทธุ์น้อย นายหญิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ข้ารู้ว่าเจ้าไม่มีทางที่จะละทิ้งพวกเราไป

คุณหนูที่ไม่เคยกล่าวสิ่งใดออกมา ได้กล่าวขอบคุณหยางไค่อย่างต่อเนื่อง

หยางไค่กล่าว บริเวณนี้เต็มไปด้วยกลิ่นคาวแห่งโลหิตที่เหม็นสาป ข้ากลัวว่ามันจะดึงดูดสัตว์ป่าที่ดุดันเข้ามา พวกเราจะออกเดินทางไปในตอนนี้ ช่วงค่ำของวันพรุ่งนี้ พวกเราน่าจะไปถึงเมืองไห่เฉิน

ดูเหมือนว่านายหญิงมีเรื่องจะกล่าว นางลังเลอยู่นานจึงกล่าวออกมา : จอมยุทธุน้อย ข้ามีเรื่องรบกวนอยู่เรืองหนึ่ง

เรื่องอะไร ? หยางไค่จ้องมองนายหญิงด้วยความสงสัย

ในค่ำคืนนี้ทุกคนที่ล้วนตายไป ต่างเป็นคนที่คุ้มครองปกป้องพวกเรา ข้าทนไม่ได้ที่จะเห็นพวกเขาตายอยู่ในป่าลึกเช่นนี้ เจ้า

ยังมิทันที่นางจะกล่าวจบ คิ้วของหยางไค่ขมวดไปมาในทันที ให้ตนเองฆ่าคนก็ยังพอทำได้ แต่การฝังรศพของพวกเขาคงจะเป็นสิ่งที่น่าอึดอัดใจ คนที่มากมายเช่นนี้ ต้องใช้พละกำลังที่มากมายเท่าใด

นายหญิงทราบถึงความรู้สึกของหยางไค่ นางกล่าวด้วยเสียงหัวเราะที่ขมขื่น : เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะไม่ทำให้จอมยุทธุ์หนุ่มอึดอัดใจ ฉุ่ยเอ่อ เจ้าและคุณหนูไปกับข้า เพื่อฝังร่างของชายชราหวู่ ส่วนร่างศพของคนอื่นๆ ..คงต้องปล่อยไป

โอ้ว ฉุ่ยเอ่อพยักหน้า และจ้องหยางไค่ ก่อนจะรัวหมัดไปที่หยางไค่อย่างแผ่วเบาโดยไม่หวาดกลัวหยางไค่แม้แต่น้อย

หยางไค่แสดงสีหน้าที่ราบเฉย เขาหมุนตัวเดินออกไป โดยไม่ห้าปรามนายหญิง

ฉุ่ยเอ่อประคองนายหญิงและคุณหนูลงจากรถม้า ร่างกายของหญิงสาวทั้ง 3 สั่นเทาด้วยความหวาดกลัว พวกเขาควานหาดาบและกระบี่จากร่างศพเหล่านั้น หาบริเวณใกล้เคียงและเริ่มขุดหลุมฝังศพในทันที

ชายชราหวู่คงเป็นคนสำคัญของจวนนี้ มิฉะนั้นเขาคงไม่ยืนหยัดปกป้องคุ้มครองพวกนางจะช่วงสุดท้ายของชีวิต และ คงไม่ทำให้นายหญิงต้องพยายามในการฝังศพของเขาเพื่อให้เขาจากไปยังสงบ

หญิงสาวทั้ง 3 ขูดหลุมฝังศพ หยางไค่เดินวนไปทั่ว เพื่อหาสมบัติและของมีค่าจากคนตาย

หลังจากที่หยางไค่เดินวนจนเสร็จสิ้น เขาเดินไปหาพวกนางทั้ง 3 และพบว่าพวกนางขูดหลุมฝังศพที่มีขนาดไม่ถึง 1 คืน ดูเหมือนว่านายหญิงและคุณหนูมีชีวิตที่มีแต่ผู้คนคอยรับใช้ การเคลื่อนไหวขอวงพวกเขาจึงค่อนข้างอ่อนแอ ร่างกายเต็มไปด้วยดินโคลน ดาบและกระบี่ประกายแวววาวไปมาอย่างไม่หยุด แต่ยังถือว่าโชคดีที่พวกเขาทั้ง 2 ไม่ทำให้อีกคนได้รับบาดเจ็บ

หยางไค่ยืนมองด้วยความหดหู่ใจ

บริเวณนี้มีกลิ่นคาวโลหิตที่รุนแรง ไม่แน่ว่ากลิ่นคาวนี้อาจจะทำให้หมาป่าเดินทางมายังบริเวณ เมื่อถึงตอนนั้น พวกเราอาจจะไม่รอดสักคน หยางไค่กล่าวอย่างเรื่อยเปื่อย

ทันใดนั้นใบหน้าของนายหญิงและคุณหนูแปรเปลี่ยนเป็นความซีดขาวในทันที

ทรวงอกของฉุ่ยเอ่อกระชับขึ้นลงด้วยความหวาดกลัว นางรีบว่างดาบที่อยู่ในมือของนาง และวิ่งไปยังด้านหน้าของหยางไค่

ก่อนจะพุ่งหมัดเล็กๆของนางไปยังหน้าอกของหยางไค่และกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ : เจ้ากล่าวคำเหล่านี้ออกมา สงสัยอาหารที่ข้าให้เจ้าตลอดที่ผ่านมาคงเสียงเปล่า

ในขณะที่กล่าวตำหนิ เสียงของหมาป่าดังมาจากบริเวที่ห่างไกล เป็นอย่างที่หยางไค่กล่าวไว้ไม่มีผิด ในตอนนี้นายหญิงและคุณหนูต่างตกใจด้วยความหวาดกลัวอย่างสุดขีด ฉุ่ยเอ่อเองไม่กล้าที่จะเสียมารยาทต่อไป นางรีบวิ่งเข้าไปหาหยางไค่ ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นสะท้าน : ไม่จริง มีฝูงหมาป่า ?

พอพอ พอได้แล้ว พวกเจ้าไปเก็บทรัพย์สมบัติที่มีค่า ตรงนี้ข้าจะจัดการเอง หยางไค่กล่าวอย่างช่วยไม่ได้

หากว่านายหญิงกล่าวว่าจะฝังร่างศพของชายชราหวู่เพียงคนเดียว หยางไค่ไม่มีทางปฏิเสธ เพราะหลายวันที่ผ่านมา เขายังข้างชายชราหวู่มาตลอด

ในเมื่อกล่าวออกไปแล้ว จะคืนคำกลับไปก็ไม่ได้ ดังนั้นหยางไค่จึงต้องทำอย่างสุดกำลัง

ขอบคุณจอมยุทธุ์หน้อย นายหญิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะสั่งให้คุณหนูแลนายหญิงไปเก็บทรัพย์สมบัติที่มีค่าภายในรถม้าคันที่ 2

หลังจากนั้นไม่นาน หยางไค่ขูดหลุมฝังศพขนาดใหญ่จนสำเร็จ และวางของชายชราหวู่ไปยังหลุมฝังศพที่เขาเตรียมไว้

อีกด้านหนึ่ง พวกนางทั้ง 3 เก็บทรัพย์สมบัติที่มีค่าจนจะเสร็จสิ้น และได้ละทิ้งทรัพย์สมบัติที่ไม่มีค่ามากเท่าไหร่ไป โดยไม่รู้สึกเสียดายแม้แต่น้อย

ไปกันเถอะ หยางไค่ส่งพวกเขาขึ้นรถม้า ตนเองนั่งอยู่หน้ารถม้า มือถือแส้ของชายชราหวู่ และเคลื่อนไหวตามความรู้สึกที่เขาสัมผัสได้จากชายชราหวู่ เสียงแส้ดังขึ้น รถม้าเริ่มวิ่งออกไปอีกครั้ง

ระยะเวลาหนึ่งค่ำคืน พวกเขาออกห่างจากจากบริเวณที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวแห่งโลหิตอย่างยาวไกล

เป็นครั้งแรกที่หยางไค่ควบรถม้า แต่การกระทำของเขาค่อนข้างชำนาญ จากการเคลื่อนไหวแส้ของชายชราหวู่ และการสัมผัสจากร่องรอยของชายชราหวู่ทำให้ความรู้สึกของเขายิ่งลึกซึ้งมากขึ้น ในที่สุดมันก็สามารถซึมซับเขาสู่จิตใต้สำนึกและผสานรวมเป็นหนึ่งการความรู้สึกแห่งจิตใต้สำนึกอื่นๆ

วันรุ่งขึ้น ฉู่ยเอ่อเดินออกมาและกล่าวว่าจะหยุดรถม้าเพื่อพักผ่อน หยางไค่เองก็ทำตามความต้องการของพวกเขา

จุดไฟหุงข้าว ทำอาหาร ทำให้ฉุ่ยเอ่อยุ่งจนมือไม้แทบพันกัน หลังจากที่เผชิญหน้ากับเหตุการณ์เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ความรู้สึกปลอดภัยในรถม้าต่างหายไปจนหมดสิ้น ค่ำคืนที่ผ่านมา พวกเขาไม่กล้าที่จะหลับตา แม้ว่าจะไม่อยากกินอะไร แต่ว่าร่างกายของพวกเขาต้องการอาหารเพื่อจะฟื้นฟุให้แข็งแรง

เมื่อออกเดินทางอีกครั้ง ฉุ่ยเอ่อไม่ได้อยู่ภายในรถม้า แต่นั่งข้างหยางไค่ จ้องมองหยางไค่อย่างถี่ถ้วนโดยเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

เจ้าไม่ใช่ขอทานน้อย ? เมื่อเห็นว่าหยางไค่ไม่ตอบสนอง เป็นเวลานาน ฉุ่ยเอ่อจึงกล่าวถามด้วยความสงสัย

แน่นอนว่าไม่ใช่ หยางไค่กรอกตาไปมา

จากการคาดเดาของข้า เจ้าต้องเป็นคุณชายของตระกูลที่มั่นคงอย่างแน่นอน !! เพราะหนีการแต่งงาน จนเงินทองหร่อยหรอจนหมด ดังนั้นจึงทำให้เจ้ามีสภาพเช่นนี้ ฉุ่ยเอ่อกล่าวพร่ำเพรื่ออย่างกล้าหาญ

หยางไค่หัวเราะเสียงดัง : มันคงเป็นนิทานในวันเด็กของเจ้า ?

ตอนข้ายังเด็ก ข้าไม่เคยฟังนิทาน หลายปีที่ผ่านมาข้าได้ยินคุณหนูเล่าเรื่องที่น่าตื่นเต้นเหล่านั้น ท้ายที่สุด คุณชายเหล่านั้นต่างพบเจอกับ ..

ยังมิทันที่จะกล่าวจบ เสียงกระแอ่มจากภายในรถม้าดังขึ้น

ฉุ่ยเอ่อกลืนน้ำลายของตนเองเข้าไปในทันที

หยางไค่หัวเราะอย่างแผ่วเบา ก่อนจะฟาดแส้ออกไปเพื่อเร่งความเร็วในการเดินทาง

1 ชั่วยามผ่านไป หัวใจของหยางไค่สั่นสะท้าน เขากวาดสายตามองและกล่าวอย่างกะทันหัน : มีกลุ่มคนขวางทางอยู่ด้านหน้า ไม่รู้ว่าพวกเขากำลังทำสิ่งใด ?

นายหญิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดีใจ : น่าจะเป็นคนของตระกูลเมียว

ตระกูลเมียว เป็นตระกูลที่นายหญิงตั้งใจเดินทางมาเพิ่งพิง หลายวันที่หยางไค่สนทนากลับฉุ่ยเอ่อ หยางไค่รับรู้เรื่องของนายน้อยแห่งตระกูลนี้ ในตอนเด็กพวกเขาเคยหมั้นกับคุณหนู่ของนาง เมื่อนายท่านตายไป นายหญิงจึงพาคุณหนูมายังเมืองไห่เฉิน ประการแรกคือการหลบภัยจากอันตราย ประการที่ 2 คือการแต่งงานของบุตรี ดังนั้นหลังจากนี้พวกเขาคงจะอาศัอยู่ในเมืองไห่เฉิน

ก่อนหน้าพวกเจ้าเคยส่งสารให้แก่คนตระกูลเมียว ? หยางไค่กล่าวถาม

อืม

เมื่อไปถึงจุดหมายของพวกเจ้า ข้าจะไม่ติดตามพวกเจ้าอีกต่อไป หยางไค่กล่าวด้วยความโล่งอก

ฉุ่ยเอ่อกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ตื่นตระหนก : ขอทานน้อย เจ้าไม่ไปกับพวกเรา ?

เจ้าไม่ยอม ? หยางไค่กล่าวถามนางโดยที่คิ้วของนางขมวดไปมา

ไปตายซะ !! ใบหน้าของฉุ่ยเอ่อแดงก่ำ ด้านหลังของเขายังมีนายหญิงและคุณหนู แต่เจ้าเด็กนี้กลับกล้าพูดจาเช่นนี้กับเขา

เมื่อจัดแจงสีหน้าของตนเองหยางไค่จึงกล่าวออกไป : นายหญิง เรื่องที่เกี่ยวข้องกับข้าและเรื่องราวเมื่อคืนที่ผ่านมา อย่ากล่าวออกไปเด็ดขาด

นายหญิงตื่นตกใจ นางย้อนถึงการคาดเดาของฉุ่ยเอ่อ หรือว่าเขาจะเป็นคุณชายที่หนีจากการแต่งงาน ? ดังนั้นจึงไมยินยอมที่จะเปิดเผยตัวตน

เมื่อคิดได้ดังนี้ นายหญิงจึงกล่าวตอบ : จอมยุทธุ์หนุ่มโปรดวางใจ เรื่องที่เกิดขึ้น จะมีพวกเราทั้ง 3 เท่านั้นที่รู้

เป็นเช่นนี้ก็ดี หยางไค่หัวเราะด้วยความพอใจ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด