ตอนที่แล้วDND.15 - ศึกคู่รัก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDND.17 - สู้กับราชันย์

DND.16 - ชำระแค้น


“น่าสนใจ!... น่าสนใจเกินไปแล้ว!  สามัญชนที่ถูกเจียงซื่อฉิงทิ้งได้มาประลองกับนางแล้ว!”

“วะฮ่าๆๆ ข้าอยากจะรู้จริงๆว่านางคิดอะไรอยู่ตอนนี้”

ดวงตาขาวราวหิมะของเจียงซื่อฉิงยังคงไม่เปลี่ยนแปลง นางมองซือหยูราวกับคนแปลกหน้าด้วยความเยือกเย็นในดวงตาคู่นั้น ถึงซือหยูจะไต่เต้าจนเป็นศิษย์เงินระดับสูงแล้วนางก็ไม่รู้สึกสำนึกผิด

“ซือหยู ยอมแพ้ซะ เจ้าไม่คู่ควรกับข้าทั้งเมื่อก่อน ตอนนี้ และไม่มีวันคู่ควร”

ซือหยูยังคงเย็นชา เขามองนางเหมือนคนแปลกหน้าเช่นกัน เขาไม่พูดอะไรออกมา สตรีที่ไร้หัวใจและเห็นแก่ตัวเช่นนางไม่ควรค่าแก่การพูดให้เปลืองน้ำลาย เขารอผู้ตัดสินประกาศเริ่มประลองอย่างเงียบๆ เขาไม่อยากจะพูดอะไรกับนางอีกแล้ว

เมื่อได้รับความเงียบแทนคำตอบ เจียงซือฉิ่งมองเขาเป็นคนดื้อด้านที่ไม่รู้จักยอมแพ้ นางส่ายหัวและมองด้วยแววตาขยะแขยง

“ไม่รู้สำเหนียกตัวเอง! มาจากบ้านจนๆ เจ้าควรระวังความคิดเจ้าไว้นะ ความดื้อด้านของเจ้าที่ไม่ยอมแพ้จะทำให้เจ้าทรมาน!”

“รู้ไหมทำไมข้าถึงทิ้งเจ้า? เพราะเจ้ามันไร้ความสามารถ ยากจน แล้วตอนนี้เจ้ายังถือตัวจนน่าสมเพช ทำให้คนอื่นมองข้าแย่!”

เจียงซื่อฉิงก่นด่าราวกับจะปลดปล่อยความไม่พอใจออกมาทั้งหมด

“ข้าทิ้งเจ้า! เลือกเส้นทางของข้าเอง! ข้าตอนนั้นแย่กว่าเจ้าซะอีก แต่ดูตอนนี้สิ! ข้าจะไปไกลขึ้นและไกลจากเจ้า!”

เจียงซื่อฉิงไหล่สั่น นางโล่งใจที่ได้พูดออกมาและรู้สึกว่านางได้เลือกถูกแล้ว

เมื่อมองซือหยูอีกครั้งนางก็กลับมาเย็นชา

“เจ้า ซือหยู เจ้าไม่ดีพอสำหรับข้า เมื่อก่อนเจ้าก็ไม่ดี ต่อไปเจ้าก็จะไม่มีวันดีพอ! จำคำข้าไว้ เจ้าไม่มีวันดีพอ!”

เจ้าไม่มีวันดีพอ! คำนี้ถูกตะโกนต่อหน้าคนนับพันทั้งสำนัก คนดูมองหน้ากันไปมา บางคนเห็นใจ บางคนย่ามใจ และบางก็รู้สึกขยะแขยง

ในพื้นที่ลับ ตัวตนอันงดงามขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความไม่พอใจเจียงซื่อฉิง นางมองซือหยูด้วยความเห็นใจและให้แววตาอบอุ่น เขาคือซือหยูผู้เป็นอัจฉริยะ แล้วยังทำกับเขาแบบนี้อีก เจียงซื่อฉิงจะต้องเสียใจแน่ เจียงซื่อฉีเย้ยหยัน สู้กับสตรีของดยุคน้อยจะต้องจบไม่สวยแน่

แต่แรกซือหยูอยากที่จะไม่สนใจนาง แต่เมื่อนางพูดมากเท่าไหร่นางก็ดูน่าตลกมากขึ้น ราวกับว่าการที่นางทิ้งซือหยูไปเป็นความผิดของเขาคนเดียว! ช่างไร้เหตุผลสิ้นดี

เขายืดหลังอย่างขี้เกียจ ซือหยูส่ายหัว

“เจ้ามันแค่โสเพณี เอาล่ะ! เลือกไร้สาระโดยการไปหาชายอื่นแล้วโยนความผิดให้ข้าซักที อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย ข้าไม่ได้สนใจผู้หญิงอวดเก่งเช่นเจ้า”

ซือหยูพูดอย่างเยือกเย็นและมองเจียงซื่อฉิงราวกับคนแปลกหน้า

ฝูงชนฮือฮา!

ซือหยูที่เคยคุกเข่าขอร้องอ้อนวอนเจียงซื่อฉิงให้นางเปลี่ยนใจ ซือหยูที่เคยคิดจบชีวิตตัวเองในทะเลสาบจากความเศร้าโศก ในตอนนี้เขาเรียกเจียงซื่อฉิงว่าโสเพณีต่อหน้าคนนับพัน!

ไม่เพียงแค่คนดูที่ตกใจ เจียงซื่อฉิงเองก็ตัวแข็งทื่อ

ในความทรงจำของนาง ซือหยูดูแลนางราวกับทารกราวกับกลัวว่านางจะแตกสลายในอุ้งมือของเขา ไม่เคยขึ้นเสียง เมื่อเขาเห็นนางไม่พอใจ เขาก็กลัวจนไม่กล้าหายใจแรง เมื่อนางด่าเขา เขาไม่กล้าแม้จะโกรธและยิ้มรับมาโดยตลอด!

นางไม่เคยคิดว่าซือหยูจะเรียกนางว่าโสเพณีต่อหน้าผู้คนมากขนาดนี้! นางแทบไม่เชื่อว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือซือหยูตัวจริง! มันช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว

เจียงซื่อฉิงหน้าแดงด้วยความโกรธ ศักดิ์ศรีของนางถูกสะบั้นต่อหน้าคนทั้งสำนัก

นางรู้สึกถึงสายตานับไม่ถ้วนที่จับจ้องมาที่นางจนอยากจะขุดหลุมฝังตัวเองเสียตรงนั้น ในชีวิตของนางไม่เคยได้รับความอับอายถึงเพียงนี้มาก่อน ความเกลียด ความชิงชังอันรุงแรงปะทุขึ้นในตัวนาง!

“ซือหยู! ข้าเกลียดเจ้า”

ความโกรธเกลียดแต้มดวงตาของเจียงซื่อฉิง

“เชิญเจ้าเกลียดไปเถอะ”

ซือหยูยักไหล่เบาๆ ความเกลียดชังของนางทำอะไรเขาไม่ได้

เมื่อพูดจบซือหยูก็หันไปหาผู้ตัดสิน

“ท่านเจียงซื่อฉี...ท่านยังดูการแสดงไม่อิ่มหรืออย่างไร?”

การประลองควรจะเริ่มไปนานแล้ว แต่เจ้าคนตระกูลเจียงพอใจที่ซือหยูถูกท่าทอ เขาจึงแสร้งเรียงเอกสารช้าๆเพื่อประวิงเวลา

เจียงซื่อฉีไม่พอใจและเกือบจะด่าซือหยู แต่เมื่อเห็นความไม่พอใจของอาจารย์ใหญ่เย่เขาก็รู้ว่าไม่ควรยืดเวลาไปนานกว่านี้!

เขาเก็บซ่อนความโกรธและประกาศ

“เริ่มประลองได้!”

“ซือหยู! ข้าไม่ปล่อยเจ้าแน่!”

เจียงซื่อฉิงพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่งด้วยความเกลียดชัง

“อาภรณ์โบยบิน!”

นางโจมตีด้วยความโกรธ อาภรณ์โบนบินเป็นวิชาระดับกลาง

ผ้าสามสีพุ่งออกมาจากแขนเสื้อนางและขยับไปมาบนฝ่ามือ ผ้าผืนหนึ่งขูดกับพื้นและพื้นก็เป็นรอยเหมือนโดนมีดเฉือน! หากมันเฉือนร่างคนล่ะก็แย่แน่!

“เจียงซื่อฉิงเอาจริงแล้ว!”

“ดูไปเถอะ ถ้าซือหยูสู้นางไม่ได้เขาคงจะยอมแพ้ไปแล้ว เขาไม่ใช่คนโง่”

เจียงซื่อฉิงโกรธจนถึงขีดสุด นางคิดเพียงอย่างเดียวว่าจะต้องทรมานซือหยูอย่างเจ็บปวดแสนสาหัส!

“อย่าคิดว่าเจ้าจะออกจากลานประลองโดยไม่เจ็บตัว!”

เมื่อได้ยินคำขู่ซือหยูก็ยังคงใจเย็น ผ้าสามสีพุ่งเข้ามาแล้วแต่ทั้งหมัดและขาของเขาก็พร้อมแล้ว

“ทลายจักรวาล!”

ผ้าสามสีของนางดูเหมือนจะพุ่งเข้ามาพร้อมกัน แต่ซือหยูเห็นว่ามันบิดเข้ามาเป็นจังหวะ เขาเพียงต้องทำลายมันทีละผืนเท่านั้น

ทันใดนั้นเขาก็ปล่อยหมัดใส่ผ้าผืนแรกอย่างรวดเร็วและแม่นยำไปที่ด้านข้าง หลังจากนั้นก็เตะผ้าอีกผืนที่กำลังจะโจมตี แล้วเขาก็ปล่อยหมัดใส่ผ้าผืนสุดท้าย และสุดท้ายเขาก็ฟาดขาราวกับแส้ไปที่จุดสำคัญบริเวณหน้าอกของเจียงซื่อฉิง!

นางหน้าซีดและใช้แขนทั้งสองข้างมาป้องกันทันทีเมื่อรู้สึกถึงแรงมหาศาล! ที่น่ากลัวกว่าคือซือหยูปล่อยหมัดและเตะอย่างต่อเนื่องไม่หยุดใส่เธอราวกับพายุฝนกระหน่ำโดยไม่ให้โอกาสพักหายใจ

สี่ครั้งต่อเนื่อง! แปดครั้งต่อเนื่อง! สิบหกครั้งต่อเนื่อง!

ในที่สุดนางก็ทนพลังมหาศาลไม่ไหว นางร้องออกมาและถูกเตะกระเด็นออกจากลานประลอง! นี่เป็นครั้งแรกที่ซือหยูใช้ทลายจักรวาลได้เต็มวิชา และใช้มันกับอดีตคนรัก! เขาไม่ปรานีเลยแม้แต่น้อย!

ซือหยูที่อยู่บนลานประลองมองลงไปยังเจียงซื่อฉิงที่บาดเจ็บอยู่กับพื้น นางไม่คิดไม่ฝันว่าจะเจอกับเรื่องแบบนี้

“ดูเหมือนเจ้าจะไม่ได้เก่งอย่างที่คิดนี่ เมื่อก่อนเจ้าก็ไม่ได้เก่งกว่าข้า และตอนนี้เจ้าก็เป็นเหมือนเดิม!”

เมื่อได้ยินซือหยูนางก็ไม่หันกลับไปมองและกลับไปพัก นางพ่ายแพ้จริง! ระดับสามแพ้ระดับสอง! และแพ้ให้กับชายที่นางทิ้งไป! นางคิดว่าการฝึกของนางได้ทิ้งห่างซือหยูมากแล้ว แต่ในความจริงแล้วซือหยูต่างหากที่ทิ้งนางไป!

เจียงซื่อฉิงมิอาจรับความจริงอันโหดร้ายนี้ได้ ในสายตาของนางเห็นซือหยูเป็นเพียงคนธรรมดาๆ ที่จะต้องใช้ชีวิตอย่างพอประมาณ แต่ตอนนี้หลังจากที่นางเพิ่งพลังอย่างก้าวกระโดดเพื่อหวังจะขึ้นไปบนท้องฟ้าเป็นดวงดาวเจิดจรัส แต่ตอนนี้ซือหยูได้ตบนางร่วงหล่นจากฟากฟ้า ความจริงอันโหดร้ายนี้ราวกับน้ำเย็นจัดไหลผ่านร่างกายจนแข็งทื่อ

ฉินเฟิงรีบพุ่งมาหานางและจ้องซือหยูด้วยความโกรธ! จากนั้นจึงช่วยพยุงเจียงซื่อฉิงให้ยืนขึ้นแต่ก็ถูกนางปัดมือออก

นางยืนขึ้นอย่างยากลำบาก ดวงตาเต็มไปด้วยความชิงชัง นางพูดอย่างเยือกเย็น

“พี่เฟิง! ชนะมันให้ข้าที!”

“ถ้าพี่ชนะมันได้ ข้า..ข้าจะเป็นของท่าน!”

เจียงซือฉิงมองอย่างแน่วแน่ นางรู้ว่าฉินเฟิงไล่ตามความงามของนางและรู้ด้วยว่าที่ต้องทำก็แค่ทำให้ฉินเฟิงหลงใหลในตัวนาง นางไม่ปล่อยให้ฉินเฟิงแตะต้องตัวง่ายๆเพราะมันเป็นสินทรัพย์อย่างเดียวของนาง

ฉินเฟิงมีความสุขมาก หัวใจเขาเต้นแรง เพื่อทุกอย่างแล้ว..เขาแค่ต้องชนะซือหยูงั้นหรือ?

ตามกฎสำนัก ศิษย์ทองคำจะประลองกับศิษย์ระดับเงินไม่ได้เพื่อปกป้องศิษย์ระดับเงินจากการถูกรังแก

แต่นี่เป็นข้อยกเว้น! ในการประเมินศิษย์ทองคำอีกหนึ่งเดือน ศิษย์ทองคำสามคนจะเชิญศิษย์ระดับเงินมาประลองได้ เพื่อแสดงความแตกต่างของทองคำและเงินและให้กำลังใจศิษย์ระดับเงินให้พัฒนาตนเอง ศิษย์ระดับเงินที่ถูกเลือกมิอาจปฏิเสธการประลองได้

“ได้เลย! อีกหนึ่งเดือนข้าจะชนะมันอย่างง่ายดายและได้เป็นราชาทองคำด้วย!”

ฉินเฟิงร่าเริง ตามข้อตกลง หากเขาได้เป็นราชาทองคำ เจียงซื่อฉิงจะยอมหมั้นกับเขา

หลังจากเป็นราชาทองคำเขาจะได้ทุกอย่าง ฉินเฟิงตื่นเต้นและรอหนึ่งเดือนข้างหน้าแทบจะไม่ไหว!

“ไม่นะ! หนึ่งเดือนมันนานเกินไป ข้ารอไม่ได้!”

ทุกวันที่ซือหยูยังอยู่รอบๆ จะเป็นอีกวันที่นางหลับไม่สนิท

ฉินเฟิงเงยหน้าเล็กน้อยและคิดอยู่ชั่วครู่

“ให้ข้าหาทางไล่มันออกจากสำนักไหม?”

“ดี! ทำลายอนาคตมันซะ!”

นางหวาดกลัวมากว่าซือหยูจะเก่งขึ้นไปเรื่อยๆ กลัวว่านางจะต้องเสียใจเมื่อถึงวันนั้น

อาจารย์ใหญ่เย่ชมเชยอยู่ด้านบนที่นั่งพิเศษ

“ช่างเป็นเด็กที่น่าทึ่ง! ฝึกทลายจักรวาลที่ยากจนถึงระดับสามขั้นสูงแล้วหรือนี่ อีกก้าวเดียวเขาก็บรรลุขั้นสูงสุดที่โจมตีได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งแล้ว!”

ซือหยูที่ชนะเจียงซื่อฉิงได้เป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งสำนัก เสียงร้องเรียกชื่อซือหยูทั้งไปทั่วทั้งลานประลอง

“ซือหยูสวนกลับเจียงซื่อฉิงที่ทิ้งเขาไปได้แล้ว!”

Banshee

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด