ตอนที่แล้วประกาศิตรัก : ตอนที่ 27-28 : ความรักที่หวลคืนมา (7-8)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปประกาศิตรัก : ตอนที่ 31-32 : วัยเด็กของพวกเรา (1-2)

ประกาศิตรัก : ตอนที่ 29-30 : ความรักที่หวลคืนมา (9-10)


ตอนที่ 29  – ความรักที่หวลคืนมา (9)

สายตาของซ่งจิงเฉินเป็นประกายด้วยความมุ่งมั่น เธอหันกลับและเดินตรงไปที่บันไดอย่างช้าๆ เธอใช้เวลาถึงสิบนาทีในการเดินขึ้นบันไดทั้งสิบขั้น

และเมื่อมาถึงชั้นสอง แสงแดดก็ส่องผ่านเข้ามาทางหน้าต่างที่กำลังเปิดอยู่ปกคลุมทางเดินเป็นแสงสีทอง ซ่งจิงเฉินจ้องมองไปยังห้องที่อยู่ห่างจากเธอไปราวยี่สิบเมตรอยู่ราวครึ่งนาที แล้วจึงเดินตรงไปข้างหน้า

ประตูห้องปิดอยู่ และเธอก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรจากด้านใน ภายในพื้นที่สามร้อยตารางเมตรของบ้านพักแห่งนี้ตกอยู่ในความเงียบจนซ่งจิงเฉินได้ยินเสียงเต้นของหัวใจตัวเอง ด้านหลังประตูนี้คือทางเลือกของเธอ..

ซ่งจิงเฉินกำมือแน่นราวกับว่านี่จะเป็นการพยายามครั้งสุดท้ายของเธอ แต่ครั้งนี้.. ดูเหมือนเธอพร้อมจะรู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจได้ตลอดเวลา; เธอรีบยกมือขึ้นเคาะประตู..

ห้าวินาทีต่อมา.. น้ำเสียงเรียบเฉยที่เป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของซูซินเหยินก็ดังขึ้นอยู่ด้านหลังประตู “เข้ามาได้..”

ซ่งจิงเฉินผลักประตูให้เปิดออกอย่างเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ เธอมองไปรอบๆก็สังเกตุเห็นซูซินเหยินกำลังนั่งใช้คอมพิวเตอร์อยู่ที่โต๊ะทำงาน เสียงคีย์บอร์ดที่ดังรัวไปทั่วห้องบ่งบอกว่าเขากำลังมีสมาธิอยู่กับการพิมพ์

ซ่งจิงเฉินกลั้นหายใจเดินเข้าไปใกล้เขา ซูซินเหยินยังคงจ้องมองอยู่ที่หน้าจอโดยไม่เหลียวมองซ่งจิงเฉินแม้แต่น้อย ราวกับว่าความสนใจของเขามีไว้ให้กับคอมพิวเตอร์เพียงอย่างเดียว

ซ่งจิงเฉินรออยู่ครู่หนึ่งจึงพูดขึ้นว่า “CEO ซูคะ”

ซูซินเหยินยังคงไม่ละสายตาจากหน้าจอ เขาพึมพำในลำคอ “อืมม..” และยังคงรัวนิ้วลงบนคีย์บอร์ดต่อไป ซ่งจินเฉินไม่กล้าแม้แต่จะเหลือบมองเขา..

ห้องทำงานทั้งห้องเงียบสงัด มีเพียงเสียงดังของคีย์บอร์ดเท่านั้น

ซ่งจิงเฉินเริ่มเบื่อหน่ายกับการคอยแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เธอได้แต่แอบมองซูซินเหยินอยู่เงียบๆ เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวธรรมดา แขนเสื้อที่พับขึ้นไปเผยให้เห็นกล้ามเนื้อแขน ส่วนนิ้วที่กำลังพิมพ์อยู่บนคีย์บอร์ดนั้นก็เลียวยาวและสวยงาม

แสงอาทิตย์จากด้านนอกที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาโดนตัวเขา ทำให้เกิดเป็นรัศมีอยู่รอบเสื้อเชิ้ตสีขาว และรัศมีนั้นก็ส่งให้เห็นโครงสร้างและรูปหน้าที่สวยงามของเขาโดดเด่นยิ่งขึ้น

ซ่งจิงเฉินพยายามอย่างมากที่จะมองหาข้อบกพร่องบนรูปลักษณ์ของเขา แต่สิ่งที่เธอพบกลับมีแต่ความชื่นชม เธอเป็นนักข่าว.. ดังนั้นในสายงานของเธอ เธอจึงได้ใกล้ชิดกับดาราหน้าตาดีๆมากมาย แต่เธอก็ยังไม่เคยพบเห็นใครที่มีรูปลักษณ์ที่ไร้ที่ติอย่างเขามาก่อน

เธอยอมรับว่า.. เขาช่างสมบูรณ์แบบจนไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนแบบนี้อยู่ในโลกจริงๆ

จู่ๆความเห็นต่างๆของชาวเน็ตที่คอมเมนต์ตามรูปของซูซินเหยินก็ผุดเข้ามาหัวของเธอ... ไม่ว่าเขาจะไปอยู่ตรงใหน แถวนั้นก็น่าดูไปหมด

ครั้งแรกที่เธออ่านคอมเมนต์.. เธอรู้หมั่นไส้กับความเห็นที่ออกจะเกินจริงพวกนั้นจนเคยคิดว่า; เพราะรอบๆนั้นสวยงามต่างหาก ถึงทำให้เขาดูดียิ่งขึ้น แต่ตอนนี้.. เธอกลับรู้สึกว่าความเห็นพวกนั้นไม่ได้เกินจริงเลย แต่เป็นจริงอย่างที่สุด

ผู้ชายคนนี้สามารถทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเขาน่าดูน่าชมไปด้วยจริงๆ.. ในที่สุดซูซินเหยินก็ละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ เขาเอนหลังพิงเก้าอี้ มองมาที่ซ่งจิงเฉิน และพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆว่า “คุณตัดสินใจแล้วใช่ไม๊?”

ตอนที่ 30  – ความรักที่หวลคืนมา (10)

ซ่งจิงเฉินจิกฝ่ามือแน่น ราวกับว่าความเจ็บปวดจะช่วยให้เธอหลุดพ้นจากการตัดสินใจ เธอพยักหน้าไม่พูดอะไรเป็นการตอบรับ แต่เกรงว่าเขาจะไม่เข้าใจความหมาย เธอจึงพูดออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ “ฉันตัดสินใจแล้วค่ะ”

นี่เป็นเงื่อนไขที่เขาเสนอและเขาก็มีอำนาจต่อรองเหนือเธอ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทำให้สายตาที่เย็นชาของเขาเปลี่ยนเป็นว่างเปล่าและอึ้งนิดหน่อย หลังจากที่ได้ยินคำตอบของเธอ; เขายังคงอยู่ในท่านั้นอีกสักพัก

ซ่งจิงเฉินรู้สึกกังวลที่เขาเงียบไปนาน.. กลัวว่าเขาจะเปลี่ยนใจ เธอจึงพูดออกไปว่า “ฉันยอมรับข้อเสนอทุกอย่างของคุณ ได้โปรดให้เอกสารที่คุณเซ็นต์กับฉันเถอะค่ะ?”

ซูซินเหยินไม่พูดอะไร เขากดปุ่มบนคีย์บอร์ด และเครื่องพิมพ์ก็เริ่มทำงาน..

ซ่งจิงเฉินถามขึ้นด้วยความกังวล “เงื่อนไขทั้งหมดคุณเป็นคนเขียนขึ้นมาเอง คุณคงจะไม่คิดจะถอนคำพูดหรอกใช่ไม๊?”

ซูซินเหยินยังคงไม่ตอบอะไร แต่เดินตรงไปที่เครื่องพิมพ์หยิบเอกสารสองแผ่นที่เพิ่งพิมพ์เสร็จออกมา เขาวางเอกสารไว้ต่อหน้าซ่งจิงเฉินและสั่งว่า “เซ็นต์ซะ”

“นี่คืออะไร?” ซ่งจิงเฉินมองซูซินเหยินอย่างงงๆ และสังเกตุเห็นว่าเขาไม่มีท่าทีจะตอบอะไรเธอ เธอจึงหยิบเอกสารสองแผ่นนั้นขึ้นมาอ่าน มันคือสัญญาที่ซูซินเหยินเขียนขึ้น..

ในกระดาษแผ่นนั้น.. ระบุไว้ชัดเจนว่าตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2015 จนถึงวันที่ 10 มีนาคม 2016 ตลอดหนึ่งร้อยวันนี้ เวลาหนึ่งทุ่มตรงไปจนถึงเจ็ดโมงเช้า ช่วงเวลาดังกล่าวของนางสาวซ่งจิงเฉินนี้จะเป็นของนายซูซิเหยิน นางสาวซ่งจิงเฉินจะต้องพร้อมให้นายซูซิเหยินเรียกหาได้เสมอ เพื่อให้นางสาวซ่งจิงเฉินสามารถทำหน้าที่ได้สะดวกขึ้น เธอจะต้องย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านพักของนายซูซิเหยินตลอดระยะเวลาหนึ่งร้อยวันนี้ และเธอจะต้องทำหน้าที่ดูแลชีวิตประจำวันของเขาตั้งแต่ทำความสะอาด ทำอาหาร จนกระทั่งการแต่งตัว  ส่วนนายซูซิเหยินจะช่วยฟื้นฟูกิจการของซ่งเอ็มเพร์ให้สำเร็จภายในหนึ่งร้อยวัน ให้แก่นางสาวซ่งจิงเฉินเป็นการแลกเปลี่ยน

เธอไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งเธอจะต้องกลายมาเป็นสินค้าที่เป็นส่วนหนึ่งของสัญญา และในสัญญายังระบุชัดเจนอีกว่า ถ้าเธอไม่สามารถทำตามเงื่อนไขในข้อสัญญาได้ ซ่งเอ็มไพร์จะต้องตกเป็นของเขา และเธอจะต้องชดเชยค่าเสียหายให้กับเขาด้วยจำนวนเงินก้อนโต

หลังจากซ่งจิงเฉินได้อ่านสัญญาเพียงหนึ่งนาที เธอก็หยิบปากกาออกมาเซ็นต์สัญญานั่นทันที และนั่นหมายความว่าชีวิตของเธอจบสิ้นแล้ว

ซูซินเหยินนั่งเงียบอยู่บนเก้าอี้เช่นเดิม สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ปลายปากกา และเมื่อเขาเห็นลายเซ็นต์ของซ่งจิงเฉินบนกระดาษ เขากลับรู้สึกว่างเปล่าแปลกๆ เขาไม่สามารถทนมองต่อไปได้ เขาจึงเบนสายตาไปนอกหน้าต่างแทน

เมื่อซ่งจิงเฉินเซ็นต์เอกสารเรียบร้อย เธอก็บอกกับซูซินเหยิน แต่กลับไม่ได้ยินเสียงตอบกลับมา เธอจึงเงยหน้าขึ้นมองและพบว่าชายหนุ่มกำลังมองออกไปทางหน้าต่างเหมือนกับว่ามีบางอย่างน่าสนใจอยู่ด้านนอก

หรือเธอจะคิดไปเอง.. ที่มองเห็นร่องรอยของความอ้างว้างอยู่บนใบหน้าที่สมส่วนไร้ที่ติของเขา

แต่ยังไม่ทันไร.. ซูซินเหยินก็หันกลับมาและมองเธอด้วยสีหน้านิ่งเรียบแต่ดุดัน ทำให้ซ่งจิงเฉินมั่นใจว่าภาพที่เห็นเมื่อครู่นั้นเธอคงคิดไปเอง

ซูซินเหยินหยิบกระดาษสองแผ่นกลับไป เขาเซ็นต์ชื่อและเก็บไว้กับตัวเองหนึ่งแผ่น ส่วนอีกหนึ่งแผ่นพร้อมกระดาษเปล่านั้นเขาคืนให้กับซ่งจิงเฉินไป เมื่อกระดาษทั้งสองแผ่นส่งถึงมือของซ่งจิงเฉิน ซูซินเหยินก็ลุกขึ้นและเดินออกจากห้องทำงานไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด