ประกาศิตรัก : ตอนที่ 4 - อยู่ร่วมกับอาโดนิสเจ้าอารมณ์ (4)
ซูซินเหยินไม่พูดอะไร แล้วเดินออกไป
...
ล้มเหลวอีกแล้ว..
ซ่งจิงเฉินนั่งอยู่ในรถ เธอทึ้งผมตัวเองและถอนหายใจ แล้วจึงเอนตัวลงนอนบนที่นั่ง และหลับตาลง พวกเขาต่างไม่ได้พบกันมานาน และตอนนี้เขาก็ดูเพียบพร้อมกว่าเมื่อก่อนมาก
ชายหนุ่มพันล้านผู้เร้าใจ อัจฉริยะด้านธุรกิจ และ CEO ที่หล่อที่สุด.. ฉายาที่เขาได้รับจากสาธารณชนช่างเหมาะสมกับเขา ใบหน้าของเขามีเสน่ห์และหล่อเหลากว่าเมื่อตอนวัยรุ่นมาก
เธอยังจำได้ที่สาวๆทั้งโรงเรียนคลั่งไคล้ในรูปร่างหน้าตาของเขา และยิ่งนับวันความหล่อเหลาของเขาก็มีแต่จะเพิ่มมากขึ้น ไม่มีลดลงเลย สิ่งเดียวที่ซ่งจิงเฉินรู้สึกว่าไม่ดีในตัวซูซินเหยินนั้น ก็มีเพียงเรื่องบุคลิกของเขานี่ล่ะ
ผ่านมาหลายปี.. เขาก็ยังคงเหมือนเดิม ท่าทางที่เย็นชาเคร่งขรึมของเขา ยังคงทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เขา ไม่ว่าข่าวจากสำนักข่าวใหนๆ รูปและวีดีโอของซูซินเหยินในกิจกรรมต่างๆนั้น ล้วนเป็นรูปที่ปราศจากรอยยิ้มบนใบหน้า
ในรูปและวีดีโอต่างๆ ก็ไม่เคยมีผู้หญิงอยู่ข้างกายเขาเลย ราวกับว่าในสายตาเขานั้นมนุษย์เพศหญิงเป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง แต่บุคลิกท่าทางที่เข้าถึงยากแบบนั้น กลับยิ่งดึงดูดผู้คนให้คลั่งไคล้เขา ผู้คนต่างชื่นชอบในท่าทีเย็นชาของเขา เขาเปรียบเหมือนผลไม้ต้องห้ามที่แสนอร่อย
ขณะที่.. ซ่งจิงเฉินกำลังหงุดหงิดตัวเองที่เอาแต่คิดเรื่องของเขา จู่ๆโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น ทำให้เธอตื่นจากภวังค์ เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูชื่อผู้ที่โทรเข้ามา แล้วก็รีบกดรับสาย พูดด้วยเสียงเบาๆว่า “จิงเฉินพูดค่ะ”
“พี่สะใภ้เหรอคะ..”
ซ่งจิงเฉินทักทายผู้ที่โทรเข้ามาแล้วถามว่า “พ่อเป็นไงบ้าง?”
“อาการทรงๆล่ะ นี่ก็เพิ่งกินยาแล้วเข้านอนไป” พี่สะใภ้ของเธอ.. ฟางลู่ ตอบกลับมา (ลู่แปลว่านุ่ม) เธอเป็นผู้หญิงนุ่มนิ่มเหมือนชื่อของเธอนั่นล่ะ แม้แต่เวลาถามคำถามที่รุนแรง เธอก็ยังถามช้าๆด้วยน้ำเสียงนุ่มๆ
“จิงเฉิน.. นี่เธอได้เจอซูซินเหยินหรือยัง?”
ซ่งจิงเฉิงเงียบ.. ก่อนจะตอบกลับไปตามความจริง “เจอค่ะ..”
“แล้วเป็นไงบ้าง? เธอทำให้เขาตกลงรับข้อเสนอได้หรือเปล่า?” ฟางลู่ถามช้าๆตามแบบฉบับของเธอแต่ก็แฝงไว้ความดีใจ
“ฉันไม่ได้..” ซ่งจิงเฉินนึกถึงใบหน้าที่ไม่พอใจของซูซินเหยินตอนที่พบเธอ เธอก็เบ้ปาก หลังจากนิ่งไปสักครู่ เธอก็ถามขึ้นว่า “พี่สะใภ้คะ มีคนที่น่าสนใจมากมายในแวดวงธุรกิจบนโลกใบนี้ ทำไมพ่อต้องการให้เขามารับตำแหน่ง CEO ของซ่งเอ็มไพร์?”
“ถึงจะมีคนที่น่าสนใจมากมายก็ตาม แต่มีเพียงเขาคนเดียวที่เป็นตำนาน เขาเป็นคนที่มหัศจรรย์ และยิ่งกว่านั้น ตอนนี้ซ่งเอ็มไพร์ก็ไม่มีงบประมาณเพียงพอที่จะจ้างคนมาทำหน้าที่ CEO ครั้งหนึ่งเขาก็เคยเป็นคนในครอบครัวซ่ง และยังนับได้ว่าเป็นเพื่อนกับครอบครัวเราอีกด้วย ดังนั้นไม่ว่าจะมองมุมใหน เขาก็เป็นผู้สมัครเพียงคนเดียวที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะรับช่วงกิจการของซ่งเอ็มไพร์ และดำรงตำแหน่ง CEO ของที่นี่” ฟางลู่อธิบายเสียงนุ่มก่อนจะพูดต่อว่า “จิงเฉิน.. นี่เธอสามารถโน้มน้าวซูซินเหยิน ให้มารับช่วงกิจการของซ่งเอ็มไพร์ได้แล้วใช่ไม๊?”
