ตอนที่แล้วGE13 ให้เด็กมาขู่ปีศาจเฒ่า?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE15 หลานเหม่ยผู้เสียใจ (1)

GE14 สิ่งดึงดูด


Chapter 14 สิ่งดึงดูด

 

“กฏการประมูลข้อที่ 1 ผู้ใดกล้าก่อเรื่อง...มีโทษถึงตาย!”

 

“ข้อที่ 2 ของทุกชิ้นที่ปรากฏในงานประมูล ข้าจะเป็นผู้ประเมิณราคา พวกท่านทุกคนมีสิทธิ์ไม่เชื่อ แต่ไม่อนุญาติให้โต้แย้ง ไม่เช่นนั้นมีโทษถึงตาย!”

 

“ข้อที่ 3 หากผู้ใดใช้ระดับการบ่มเพาะข่มขู่ผู้ประมูลซึ่งชี้ขาดราคาแล้ว มีโทษถึงตาย!”

 

ขณะกล่าวถ้อยคำ หนิงฝานก็ปลดปล่อยปราณสังหารแก่นทองคำปกคลุมไปทั่วทั้งโถงประมูล ทำให้ผู้คนมากมายหวาดกลัว

 

เขาคือผู้เยาว์จริงหรือ.. หรือเป็นปีศาจเฒ่าจำแลงกายมา?

 

ยิ่งได้เห็นท่าทีที่สง่างามของหนิงฝาน หลานเหม่ยยิ่งตกตะลึง นางพบว่านางเข้าใจหนิงฝานผิดไป

 

ก่อนหน้านี้นางเป็นผู้ปฏิเสธการแต่งงานกับหนิงฝานด้วยตัวเอง นั่นอาจเป็นเรื่องที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิตของนาง

 

ฟันเนียนขาวของนางขบแน่น สีหน้าแปรเปลี่ยนซับซ้อน บุรุษชุดขาวข้างกายนางได้รับบาดเจ็บเพราะปราณสังหารของหนิงฝาน มันทั้งอิจฉาและเคียดแค้นหนิงฝาน

 

“ฮึ่ม! เด็กนี่จะบรรลุขอบเขตแก่นทองคำได้ยังไง... ศิษย์น้องหญิง ไว้หลังจากงานประมูลสิ้นสุด ข้าจะสั่งสอนให้มันรู้จักอาย!”

 

“ท่านไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาหรอก...” หลานเหม่ยถอนหายใจเบาๆ ยามนี้ภาพของหนิงฝานได้สลักลงไปในหัวใจของนาง นางรู้สึกเศร้าโศกเพราะนางมีตาหามีแววไม่

 

ที่ชั้นสองของงานประมูล หวู่ตงหนานสัมผัสถึงปราณสังหารของหนิงฝาน บุรุษของจื่อเฮ่อที่มันหมายตา สีหน้าของมันพลันแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง

 

เด็กผู้นี้คือศิษย์ของปีศาจเฒ่าหาน หากจะกล่าวว่าเมืองฉีเหม่ยมีผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตแก่นทองคำถึง 2 คนก็ไม่ผิด

 

“ฮึ่ม... 2 ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตแก่นทองคำ... ดูเหมือนข้าต้องเก็บตัวบ่มเพาะ เรื่องชิงตัวกายทรงเสน่ห์คงต้องเลื่อนไปก่อน หากประมูลผลไม้แห่งเต๋าได้สำเร็จคงต้องรีบกลับนิกายเทียนหลีโม่ในทันที หลังจากนั้นอาจขอให้ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตแก่นทองคำมาชิงตัวนางแทน”

 

หวู่ตงหนานตัดสินใจว่าหากงานประมูลสิ้นสุด มันจะกลับนิกายเทียนหลีโม๋ในทันที หนิงฝานทำให้แผนการทั้งหมดของมันพัง

 

ที่ด้านนอกเมืองฉีเหม่ย... กององครักกระบี่และกององครักษ์ฉีเหม่ยได้ซุ่มรออยู่ก่อนแล้ว หากหวู่ตงหนานออกมาจากเมืองเมื่อไหร่ มันจะต้องตาย

 

ณ วังเทพน้ำแข็งชั้น 3 ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตแก่นทองคำทั้ง 3 ใช้สัมผัสเทพตรวจสอบร่างกายของหนิงฝาน แต่นั่นกลับทำให้ทั้งหมดไม่เข้าใจ

 

ทั้งหมดเข้าใจว่าหนิงฝานซ่อนระดับการบ่มเพาะในขอบเขตแก่นทองคำของตนเองไว้ หรือหนิงฝานจะเป็นเพียงมดในขอบเขตเปิดเส้นโลหิต... แต่ช่างเถอะ ไว้ค่อยดูว่าหนิงฝานจะนำการประมูลยังไง

 

ทั่วทั้งงานประมูลเงียบสงัด หยุนเสี่ยวที่ยืนอยู่ด้านหลังหนิงฝานแสดงสีหน้าเรียบเฉยจนยากจะทราบว่าเขาคิดอะไร ชายชราปรบมือเรียกผู้รับใช้ที่งดงามเข้ามาพร้อมกับกระบี่ขึ้นสนิมเล่มหนึ่งที่ถูกเก็บอยู่ภายในฝักไม้ที่เริ่มผุสลาย ผู้รับใช้นำมันมาวางไว้บนโต๊ะประมูลเบื้องหน้าหนิงฝาน

 

สิ่งของประมูลคือกระบี่วิญญาณระดับต่ำ ฝักดาบไม้ที่สร้างขึ้นก็เพียงสลักอย่างลวกๆดูไร้ค่า

 

ผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตเปิดเส้นโลหิตและขอบเขตประสานวิญญาณไม่ทราบถึงความพิเศษของกระบี่ แต่นั่นไม่ใช่กับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตแก่นทองคำที่ผ่านโลกมามาก เมื่อคนเหล่านั้นเห็น พวกเขาต่างสูดหายใจลึก

 

“อาวุธลานสวรรค์โบราณ!”

 

ผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตแก่นทองคำจดจำที่มาของดาบได้ แต่บางคนกลับส่ายหน้า ‘ลานสวรรค์’ เป็นชื่อที่ฟังดูห่างไกล ในสวรรค์ทั้ง 4 และโลกทั้ง 9 ใบ ปีศาจเฒ่าจำนวนมากได้สืบเสาะหาถึงสถานที่ที่มีชื่อว่า ‘ลานสวรรค์’ แต่ไม่ว่าจะหาอย่างไรก็ไม่พบเบาะแสของมัน แม้กระบี่เล่มนี้จะเกี่ยวข้องกับลานสวรรค์ แต่ไม่ได้หมายความว่ามันคือเบาะแสที่จะนำพาไปสู่ลานสวรรค์ กระบี่เล่มนี้ราคาไม่สูงมากนัก อย่างมากก็ไม่เกิน 100 หยกสวรรค์

 

ผู้คนเฝ้ามองหนิงฝานว่าเขาจะประเมิณราคากระบี่เล่มนี้อย่างไร

 

หนิงฝานลูบตัวกระบี่เบาๆ จากนั้นเคลื่อนมือสัมผัสฝักกระบี่เล็กน้อยก่อนกล่าวคำที่น่าตกตะลึง

 

“กระบี่ลานสวรรค์โบราณเล่มนี้มีราคา 100 หยกสวรรค์ แต่สนิมที่เกาะอยู่บนกระบี่เล่มนี้มีค่า 10,000 หยกสวรรค์”

 

ทันทีที่หนิงฝานกล่าวจบ ผู้คนทั้งหมดตกตะลึง แต่ต่อมากลับมีเสียงพูดคุยเซงแซ่

 

“10,000 หยกสวรรค์มากพอที่จะซื้อเมืองฉีเหม่ยทั้งเมือง... เพียงแค่สนิมบนกระบี่แต่มีมูลค่าถึง 10,000 หยกสวรรค์ นายน้อยหนิงคงเข้าใจอะไรผิดไป”

 

“ต่อให้เป็นอาวุธลานสวรรค์จริง...แต่มันจะใช้ทำอะไรได้?”

 

ผู้เข้าร่วมประมูลมากมายบ่นกล่าว ผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตแก่นทองคำที่ชั้น 3 ก็ขมวดคิ้วพลางส่ายหน้าซ้ำๆ

 

10,000 หยกสวรรค์... ราคานี้สามารถซื้อสมบัติวิญญาณระดับสูงได้ กระบี่ขึ้นสนิมเล่มนี้ไม่ควรมีมูลค่ามากขนาดนี้

 

แต่ถึงอย่างนั้น ผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตแก่นทองคำคนหนึ่งกลับไม่อาจอยู่เฉยเมื่อได้คำว่าสนิมบนกระบี่

 

หยุนเสี่ยวที่ยืนอยู่ด้านหลังก็ตกตะลึงกับคำกล่าวของหนิงฝาน

 

ชายชรารู้ที่มาของกระบี่เล่มนี้ อีกอย่าง ผู้นำศาลาไร้ธรรมยังได้เป็นผู้ประเมิณราคาของมันออกมาถึง 10,000 หยกสวรรค์เหมือนกัน ผู้นำศาลาไร้ธรรมเคยกล่าวว่า ส่วนที่มีค่าที่สุดของกระบี่เล่มนี้คือสนิม แต่ผู้ที่รู้ถึงคุณค่าของมันย่อมมีเพียงหยิบมือ

 

ช่างน่าตกใจที่หนิงฝานตั้งราคาได้เทียบเท่ากับผู้นำศาลาไร้ธรรม นั่นหมายความว่าผู้เยาว์คนนี้มีประสบการณ์ความรู้เทียบเท่าผู้นำศาลา!

 

หลังจากผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตแก่นทองคำขบคิดอยู่ชั่วครู่ ม่านแห่งหนึ่งก็ถูกเปิดออก ชราผู้หนึ่งก้าวออกมาม่านร่อนทะยานลงสู่เวทีประมูล

 

“สหายเต๋าหนิง... เมื่อครู่เจ้ากล่าวว่าสนิมทองแดงบนตัวกระบี่มีมูลค่า 10,000 หยกสวรรค์ ไหนหล่ะหลักฐาน... หากสหายน้อยสามารถหาคำอธิบายคลายข้อสงสัยได้ ชายชราผู้นี้จะมอบของขวัญให้!”

 

เมื่อผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตแก่นทองคำผู้นี้ปรากฏตัว ผู้คนทั้งหมดล้วนจดจำชายผู้นี้ได้

 

แต่เมื่อได้ยินว่าชายชราจะมอบของขวัญหนิงฝาน ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายปีศาจกลับสีหน้าแปรเปลี่ยน

 

ในโลกของผู้เชี่ยวชาญ ยิ่งผู้เชี่ยวชาญระดับสูงก็จะยิ่งครอบครองสมบัติระดับสูงตามไปด้วย แต่ชายชราผู้ปรากฏตัวนี้ได้ชื่อว่าเป็นผู้ตระหนี่ คนเช่นนี้จะยอมมอบของขวัญให้อย่างนั้นหรือ?

 

ชายชราในขอบเขตแก่นทองคำผู้นี้มีผมขาวเคราขาว สวมชุดคลุมสีทองงดงาม ที่เอวคาดไว้ด้วย ‘ฆ้อนทองคำแห่งภูเขาโบราณ’ ซึ่งถือเป็นสมบัติอันดับหนึ่งของแคว้นเยว่ ชายชราผู้นี้มีนามว่า ‘ฉินสื่อหยู’ เป็นประมุขนิกายภูเขาโบราณและรั้งตำแหน่ง 1 ใน 10 ผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังที่สุดในแคว้นเยว่ ชายชรานับเป็นผู้มีพรสวรรค์และตระหนี่มาก

 

คาดไม่ถึงว่าชายชราผู้นี้จะเข้าร่วมงานประมูลผลไม้แห่งเต๋า ชายชรามักเป็นผู้ใฝ่สูง แต่จู่ๆยามนี้ชายชรากลับกล้ากล่าวเช่นนั้นออกไป

 

เป็นไปไม่ได้ที่แค่สนิมบนกระบี่จะมีมูลค่าถึง 10,000 หยกสวรรค์? กระบี่เล่มนี้ยากจะประเมิณราคา แต่หนิงฝานกลับประเมิณได้อย่างถูกต้อง

 

หนิงฝานจ้องมองฉินสื่อหยูพลางกล่าวอย่างสงบ “ข้าสามารถอธิบายที่มาของสนิมเหล่านี้ได้ แต่ข้าอยากทราบว่าของสิ่งใดที่ท่านจะให้ข้า!”

 

“นั่นขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของชายชราผู้นี้...” ชายชรากล่าวด้วยสีหน้าเฉยชา

 

หนิงฝานพยักหน้าเบาๆ “กระบี่เล่มนี้ไม่นับว่ามีค่าอันใด แต่สนิมที่เกาะอยู่บนตัวกระบี่นั้นมีที่มา แม้ท่านเห็นเป็นสนิมแต่ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นสนิม มันโลหิตที่แห้งแล้วของเทพโบราณ น้อยคนนักที่จะมองออก ท่านสามารถทดสอบได้ด้วยเพลิง”

 

คำกล่าวของหนิงฝานทำให้คนทั้งงานตกตะลึง

 

สนิมทองแดงที่เห็นกลับกลายเป็นสนิมที่เกิดจากโลหิต! และโลหิตระดับนั้นสามารถสร้างเป็นอาวุธวิญญาณระดับสูงสุดได้

 

ฉินสื่อหยูจ้องมองหนิงฝานอย่างว่างเปล่า นี่เป็นครั้งแรกที่มันได้ยินโลหิตสนิม เมื่อลองใช้เพลิงออกที่ปลายนิ้วแล้วสัมผัสไปที่กระบี่ ส่วนที่เป็นสนิมก็เริ่มหลุดร่อน

 

ฉินสื่อหยูเชื่อว่าสนิมที่เห็นคือสนิมโลหิต แต่ยังคงมีอีกส่วนที่มันเชื่อว่าหนิงฝานโกหก

 

ดวงตาของชายชราเปล่งประกาย ใบหน้าที่ดูราวกับซากศพเผยรอยยิ้มที่น่าเกลียด “ดี...ดี! สนิมทองแดงตรงหน้ากลับเป็นสนิมโลหิต ชายชราเช่นข้าตามหามันมานานถึง 30 ปี ในที่สุดวันนี้ข้าก็พบ มันจะทำให้ข้าสร้างอาวุธวิญญาณระดับสูงสุด และช่วยให้ข้าบรรลุถึงขอบเขตจิตวิญญาณแรกเริ่ม! กระบี่เล่มนี้มูลค่า 10,000 หยกสวรรค์! ชายชราผู้นี้ต้องการซื้อมัน!”

 

ชายชรากวาดตามองผู้เข้าร่วมประมูลอย่างเย็นชาพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงข่มขู่ ราวกับว่าชายชรากำลังต่อสู้แย่งชิง ผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตแก่นทองคำบนชั้น 3 ต่างส่ายหน้าเพราะพวกเขาไม่ใช่ผู้สร้าง ดังนั้น สนิมโลหิตย่อมตกเป็นของฉินสื่อหยู

 

เมื่อไม่มีผู้ใดประชันราคา ฉินสื่อหยูจึงแอบมีความสุข มันเร่งจ่าย 10,000 ผลึกสวรรค์จากนั้นรับกระบี่แล้วเตรียมจากไป

 

“สหายเต๋าหนิงช่างมีสายตาที่เฉียบแหลม ชายชราผู้นี้นับถือ เช่นนั้นลาก่อน!”

 

“แล้วของที่ท่านว่าจะให้ข้าหล่ะ?” หนิงฝานกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่ภายในใจกลับเย้ยหยัน ฉินสื่อหยูผู้นี้ดูราวกับไม่ได้ตั้งใจจะให้สิ่งใดกับหนิงฝานแต่แรก

 

การที่ผู้ร่วมประมูลต้องผิดหวังจากกระบี่เมื่อครู่ ถือเป็นเรื่องปกติ

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า... ดูเหมือนข้าจะชราจนหลงลืม ฝักกระบี่นี้ไม่จำเป็นสำหรับชายชราเช่นข้า เช่นนั้นขอมอบเป็นของขวัญให้สหายน้อยหนิง!” ชายชราแตะหน้าผากพลางหัวเราะกลบเกลื่อน

 

เสียงผู้คนแค่นเสียงดังสะท้อนไปมาในโถงงานประมูล ชายชราผู้นี้ช่างตระหนี่ถึงขั้นใช้ฝักดาบที่ผุพังเป็นของขวัญให้หนิงฝาน

 

เมื่อได้ยินผู้คนแค่เสียง ฉินสื่อหยูต้องขบฟันและนำกระเป๋าสีขาวยื่นส่งให้หนิงฝาน

 

กระเป๋าใบนี้เป็นสมบัติวิญญาณระดับต่ำที่มีมูลค่าประมาณ 100 หยกสวรรค์ หากนับเป็นของขวัญก็เป็นของขวัญเพียงเล็กน้อย แต่นั่นก็ทำให้ฉินสื่อหยูไม่พอใจ

 

หนิงฝานแสร้งขมวดคิ้วและเก็บกระเป๋าพร้อมกับฝักกระบี่เอาไว้ด้วยสีหน้าไม่พอใจนัก

 

หนิงฝานส่ายหน้าพลางถอนหายใจ จากนั้นจึงกล่าว “ช่างยากนักที่ข้าจะได้ของขวัญ..”

 

“ฮ่าฮ่า เช่นนั้นใครกันที่ทำให้หยกสวรรค์หายาก.. ข้าขอตัว...ขอตัว” ฉินสื่อหยูลูบสัมผัสสนิมบนกระบี่จากนั้นเร่งกลับนิกายภูเขาโบราณโดยไม่ใส่ใจกับงานประมูลผลไม้แห่งเต๋าอีก

 

ชายชราไม่ทราบว่าฝักกระบี่ที่ดูราวกับขยะที่ได้มอบให้หนิงฝานนั้นมีมูลค่ามากยิ่งกว่าสนิมโลหิตเสียอีก

 

ในเมื่อชายชราผู้นี้ตระหนี่กับหนิงฝาน หนิงฝานจึงไม่จำเป็นต้องบอกความจริงกับมัน

 

ภายในฝักกระบี่มีเจตจำนงค์ของกระบี่ที่แม้จะผ่านกาลเวลามาอย่างยาวนาน มันยังคงไม่จางหาย นั่นอนุมานได้ว่ากระบี่วิญญาณระดับต่ำเล่มนี้เคยใช้ฟาดฟันเทพโบราณมาก่อนจนคราบโลหิตที่เปื้อนมันกลายเป็นสนิม ฉะนั้น เจตจำนงที่กระบี่เล่มนี้มีจึงยิ่งใหญ่ไม่ธรรมดา

 

ด้วยเพราะฉินสื่อหยูตระหนี่จึงทำให้มันเลือกพลาดไป หนิงฝานแอบหัวเราะอยู่ในใจ

 

“เช่นนั้นข้าขอเริ่มประมูลสมบัติชิ้นที่ 2...” แม้สีหน้าของหนิงฝานจะเรียบเฉย แต่ภายในกลับมีความสุข การแนะนำและอธิบายความสำคัญของสมบัติให้กับผู้ร่วมประมูลแลกกับการตอบแทนด้วยของขวัญถือเป็นธุระกิจที่น่าสนใจ แต่ผู้ประมูลเหล่านั้นต้องตระหนี่เหมือนกับฉินสื่อหยู

 

หลังจากฉินสื่อหยูจากไปก็ไม่มีผู้ใดสังสงในการประเมิณราคาของหนิงฝานอีก

 

ณ มุมหนึ่งของงานประมูลที่ไม่มีผู้ใดสนใจ สตรีเยาว์วัยนางหนึ่งที่ใบหน้าปิดคลุมด้วยผ้าบาง สวมใส่ชุดกระโปรงสีดำ กำลังจ้องมองหนิงฝานอย่างสนใจ

 

“ฮ่าฮ่า... ที่เจ้าประเมิณราคาได้ถูกต้อง ‘สร้อยคอหยินหยาง’ สมควรอยู่กับเจ้า... ‘ผู้สืบทอดจักรพรรดิสวรรค์’ เทียบกับ ‘ผู้สืบทอดแห่งเทพ’ อย่างข้าแล้วจะเป็นเช่นไร... แต่สีหน้าและการกระทำของเจ้าเมื่อครู่ช่างน่าสนใจจริงๆ...”

 

สตรีเยาว์วัยนางนั้นงดงาม ผมของนางมัดรวบ หากมองไล่ลงมาตามใบหน้าที่งดงามจะเห็นหน้าอกคู่งามตั้งตระหง่าน นางยิ้มอย่างซุกซน นางยกมือน้อยๆของนางพลางทำท่าคว้าจับไปยังทิศทางของหนิงฝานราวกับคว้าหนิงฝานไว้ในกำมือ

 

แต่ท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีผู้ใดทราบว่าหนิงฝานจะตกอยู่ในกำมือของนาง หรือนางจะตกอยู่ในกำมือของหนิงฝานกันแน่

 

ห่างออกไปจากเมืองฉีเหม่ยราวหมื่นลี้ มีบางคนกำลังมาเยือน

 

ผู้ที่มาคือปีศาจเฒ่าในขอบเขตแก่นทองคำ

 

“ในที่สุดข้าก็พบคนที่ข้าตามหา...”

 

“ได้ยินมาว่าผู้เยาว์ตระกูลหนิงที่กลายเป็นทาส แต่มันกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย...” เสียงของปีศาจเฒ่าดังขึ้นเบาๆ...

 

ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ ผู้ใหญ่บ้านเล่าสู่ฟัง

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด