ตอนที่แล้วChapter 67: คู่ต่อสู้คนสุดท้าย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 69: ผู้พิทักษ์ลับ (ส่วนที่ 2)

Chapter 68: ผู้พิทักษ์ลับ (ส่วนที่ 1)


แม้ว่า ลิงค์ จะต่อสู้กับสมาคมที่อ่าวใบไม้แดงอย่างรุนแรง ข่าวของเหตุการณ์นั้นก็ยังไม่ได้มาถึงผู้คนในเมืองริเวอร์โควฟ, เพราะฉะนั้นชีวิตที่นี่จึงยังสงบสุขเหมือนเช่นเคย

 

ลิงค์, แจ็คเกอร์, และ กิลเดิร์น เดินทางกลับไปที่กระท่อมในเมืองริเวอร์โควฟ์ที่พวกทหารรับจ้างซื้อเอาไว้ เมื่อพวกเขาไปถึงที่นั่น, พวกเขาก็สังเกตุได้ว่าประตูหน้าเปิดอยู่ พร้อมกับมีนักรบในชุดเกราะเหล็กสองคนยืนคุ้มกันอยู่ที่นั่น มีรถม้าสามคันจอดรออยู่ข้างนอก ลิงค์ จำได้ว่ามีคันนึงเป็นรถของ แอนนี่, แต่เขาไม่เคยเห็นอีกสองคันมาก่อน

 

ขณะที่เขากำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับตัวตนของเจ้าของรถม้าทั้งสองคัน, นักบวชผ้าคลุมสีขาวก็เดินออกมาจากกระท่อม

 

ลิงค์ รู้จักนักบวชคนนี้ เขามาจากวัดของไอคอร์ด, เทพแห่งรุ่งอรุณ, ในเมืองริเวอร์โควฟ ชื่อของเขาคือ ไพเตอร์, และเขาอยู่เลเวล 3

 

ไอคอร์ด, เทพแห่งรุ่งอรุณเป็นหนึ่งในเทพของดินแดนแห่งแสงและเขาก็เป็นตัวแทนของแสงแรกที่ส่องมายังโลกเพื่อนำพาจุดจบมาให้กับความมืดมิด

 

ตำนานกล่าวเอาไว้ว่าเขาเป็นบุตรชายของลอร์ดแห่งแสงกับเทพธิดาแห่งการล่า, อาชิลเลีย เขาเป็นคนที่อบอุ่นและอ่อนโยนและนักบวชที่อุทิศตัวให้กับเขาก็จะได้รับอำนาจแห่งเวทย์มนตร์รักษา

 

ไพเตอร์ ดูเหนื่อยล้า, และออร่ารอบๆตัวเขาก็เลือนลาง, เห็นได้ชัดว่ามาจากการใช้พลังงานจำนวนมากเพื่อใช้เวทย์รักษาอันศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลัง

 

“องหญิง แอนนี่ เชิญนักบวชมารักษาที่นี่, เพราะฉะนั้นฉันคิดว่าตอนนี้พวกเราคงไม่ต้องห่วงเรื่อง ลูซี่ แล้วหล่ะ” ลิงค์ พูดกับ แจ็คเกอร์ ด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนบนหน้าของเขา, เขาดูโล่งใจอย่างเห็นได้ชัด

 

เมื่อพวกเขาทั้งสามเดินมาใกล้กระท่อม, ไพเตอร์ ก็เข้าไปในหนึ่งในรถม้าที่จอดอยู่แล้วจากไป, ตอนนี้เหลือรถม้าที่ไม่รู้จักอีกคันนึง มันเป็นรถธรรมดาๆไม่มีของประดับตกแต่งอะไร, และไม่มีตราหรือสัญลักษณ์ติดอยู่ ซึ่ง ลิงค์ รู้สึกว่ามันค่อนข้างน่าสงสัย

 

“ท่าน ลิงค์” หนึ่งในการ์ดที่ยืนอยู่จำ ลิงค์ ได้ขณะที่พวกเขากำลังเดินเข้าไปในกระท่อม, ซึ่งเขาก็ทำความเคารพและทักทายเขาด้วยน้ำเสียงที่ดังแต่ก็แฝงไปด้วยความสุภาพ

 

น้ำเสียงของเขาดังไปถึงข้างในกระท่อม, ดังนั้นทุกๆคนที่อยู่ข้างในจึงได้ยินเขาอย่างชัดเจน หลังจากนั้นไม่นาน, ก็มีคนวิ่งออกมา—คนๆนั้นคือ แอนนี่ เธอรีบเข้ามาตรวจสอบ ลิงค์ ตั้งแต่หัวจรดเท้า จากนั้นเธอก็ถอนหายใจออกมาด้วยความสบายใจพอได้เห็นว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงอะไร

 

“ทุกๆอย่างเป็นยังไงบ้าง?” เธอถาม

 

เธอมาถึงกระท่อมได้ไม่นานนักก่อนที่ ลิงค์ จะมาถึง ตอนแรก, เธอวางแผนที่จะอยู่ดูอาการของ ลูซี่ จนกว่าคงที่แล้วค่อยกลับไปที่อ่าวใบไม้แดง แต่เธอคิดไม่ถึงว่า ลิงค์ จะกลับมาเร็วขนาดนี้

 

“ตอนนี้ทุกๆอย่างโอเคแล้ว, ไม่มากก็น้อยหล่ะนะ แอนดี้ กับคนของเขาตายหมดแล้ว นายพล แอนเดอร์สัน กำลังนำทัพเข้าไปในป่าเพื่อตามหารังของสมาคม” ลิงค์ ตอบขณะที่เดินนำ แจ็คเกอร์ กับ กิลเดิร์น เข้าไปในกระท่อม

 

ภายใต้ผลของธาตุแห่งการรักษาของ ลิงค์, แจ็คเกอร์ จึงฟื้นตัวขึ้นเป็นอย่างมากและบาดแผลของเขาก็ไม่ได้อันตรายถึงชีวิตอีกต่อไป ทั้งหมดที่เขาต้องการคือพักผ่อนสักพักนึงเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายของเขา, ดังนั้น ลิงค์ จึงสั่งให้เขาไปนอนขณะที่ให้ กิลเดิร์น เล่าเรื่องการต่อสู้

 

ลิงค์ กับ แอนนี่ มุ่งหน้าไปที่ห้องของ ลูซี่, และพอพวกเขาไปถึงห้องโถงชั้นหนึ่ง, ลิงค์ ก็สัมผัสได้ถึงมานาลึกลับแผ่ออกมาจากห้องของ ลูซี่

 

การสัมผัสมานานั้นเป็นความสามารถตามธรรมชาติของนักเวทย์ทุกคน, แต่ ลิงค์ เป็นคนที่สัมผัสได้ดีกว่านักเวทย์ส่วนใหญ่, ดังนั้นเขาจึงสามารถสัมผัสถึงมันได้แม้ว่ามันจะเบาบางก็ตาม ในความเป็นจริง, มานามันเบาบางมากจนเขาไม่สามารถสัมผัสถึงมันได้เลยจากข้างนอกกระท่อม อย่างไรก็ตาม, เมื่อดูจากมานาที่คนๆนี้ปล่อยออกมา, ลิงค์ มั่นใจว่าต้องมีจอมเวทย์อยู่ข้างในนั้นแน่ๆ!

 

“มีคนอื่นอยู่ในห้องของ ลูซี่ ด้วยหรอ?” ลิงค์ ถาม แอนนี่, แล้วคิดถึงรถม้าน่าสงสัยที่อยู่ข้างนอก

 

“นายจะไม่ปล่อยให้อะไรก็ตามหลุดไปจากสายตาของนายเลยใช่ไหม? ใช่แล้ว, มีแขกอยู่ในห้อง, ใครบางคนที่นายจะดีใจเมื่อได้พบ, ฉันมั่นใจว่านายจะเข้าใจพอเข้าไปในห้อง” แอนนี่ อธิบายด้วยรอยยิ้มหวานบนหน้าเธอ

 

ตอนนี้ ลิงค์ รู้สึกสนใจมากขึ้น เขาเดินขึ้นไปชั้นสองแล้วเปิดประตูห้องของ ลูซี่ อย่างช้าๆ, และฉากข้างในก็ค่อยๆเปิดเผยให้เขาเห็นอย่างช้าๆ

 

เนื่องจากพวกทหารรับจ้างมีเงินมากพอหลังจากที่เอาชนะภราดรแห่งความมืดมาได้, พวกเขาจึงสามารถซื้อกระท่อมขนาดกำลังดีได้ และมันก็สร้างมาได้ค่อนข้างดีด้วย มันถูกสร้างขึ้นจากอิฐโคลน, หิน, และไม้ มันเป็นกระท่อมสองชั้น, และห้องของ ลูซี่ ก็อยู่ที่ชั้นสองที่มีแสงส่องเข้ามามากที่สุด มีฉากแบ่งห้องเอาไว้เป็นสองส่วน—ส่วนห้องนอนและส่วนนั่งเล่น

 

จากมุมมองของ ลิงค์ ส่วนห้องนอนนั้นถูกบังเอาไว้ด้วยฉากในตอนที่เขาเดินเข้ามาในห้อง ในห้องนั่งเล่น, เขาเห็นผู้หญิงหน้าตาดีที่มีแม่กุญแจสีทองติดอยู่ในผ้าคลุมนักเวทย์สีน้ำเงินพร้อมด้วยผ้าลินินสีเงิน เธอมีบรรยากาศที่สง่างาม  ในห้องนั่งเล่นมันมืดมากๆ, ดังนั้นออร่าที่เจิดจ้าที่แผ่ออกมาจากร่างกายของผู้หญิงคนนี้จึงทำให้เธอโดดเด่นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเจอกับบรรยากาศที่มืดมัวในห้อง

 

เธอกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะในตอนที่ ลิงค์ พบเธอ, และกำลังพลิกหน้ากระดาษหนังแพะอยู่ ในตอนที่เธอได้ยินเสียงคนเปิดประตู, เธอก็เงยหน้าขึ้น เธอเห็นว่า ลิงค์ จะพูดอะไรบางอย่าง, เธอจึงพูดขัดเขา

 

“ชู่วว! ลูซี่ หลับไปแล้ว” แขกลึกลับพูด

 

“คุณเป็นใครครับ?” ลิงค์ ถามพร้อมกับลดเสียงลงเท่าที่จะทำได้

 

จากออร่าเวทย์มนตร์ของเธอ, เขารู้ว่าคนๆนี้ไม่ใช่นักเวทย์ธรรมดาๆแน่ ในความเป็นจริง, เขามั่นใจว่าเลเวลของเธอต้องห่างจากเขาไปไกลโข ตอนนี้เขาพอเดาได้ลางๆเกี่ยวกับตัวตนของเธอ, เพราะกระดาษหนังแกะในมือของเธอมันดูคุ้นมากๆ

 

ผู้หญิงคนนั้นยืนขึ้น, เดินมาที่ประตูแล้วพูด “ชีวิตของ ลูซี่ ปลอดภัยแล้ว, แต่เธอจำเป็นต้องพักผ่อนให้เยอะๆ ลงไปที่ห้องโถงข้างล่างกันเถอะแล้วพวกเราค่อยคุยกันที่นั่น”

 

แน่นอนว่า, ลิงค์ ไม่คัดค้าน, ดังนั้นพวกเขาทั้งสามจึงลงมาที่ชั้นล่าง พอพวกเขามาถึงห้องโถง, ผู้หญิงคนนั้นก็แนะนำตัวเอง “ฉันชื่อ มอยร่า ฉันมั่นใจว่าเธอเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน”

 

แน่นอนว่า ลิงค์ เคยได้ยินชื่อของเธอมาก่อน—เธอเป็นที่ปรึกษาของ เอเลียร์ด ทั้งคู่ไม่เคยพบกันมาก่อน, แต่พวกเขาก็เคยสนทนากันผ่านจดหมายอยู่หลายครั้งและ มอยร่า ก็ช่วยเขาอธิบายคำถามเกี่ยวกับเวทย์มนตร์หลายๆอย่าง

 

“ขอบคุณมากๆสำหรับคำแนะนำของคุณนะครับ” ลิงค์ พูด, ขณะที่โค้งคำนับ คำตอบต่างๆที่เขาได้รับจาก มอยร่า ช่วยเขาได้เป็นอย่างมาก, เขาสามารถหลีกเลี่ยงความผิดพลาดมากมายและทางตันในตอนที่เขาศึกษาเวทย์มนตร์ได้ก็เพราะเธอ

 

มอยร่า ยิ้มกว้างแล้วเธอก็ยื่นมือของเธอออกมาเพื่อเชิญให้ ลิงค์ นั่งลง จากนั้นเธอก็ส่งปึกกระดาษให้กับเขา เขาจ้องมันและจำได้ว่ามันคือวิทยานิพนธ์ฉบับปรับปรุงของเขา, จากนั้นเขาก็หันกลับมามอง มอยร่า ด้วยสายตาสับสน

 

“วัตถุที่อยู่ในท้องฟ้าเคลื่อนไหวด้วยวิธีนี้จริงๆหรอ?” มอยร่า ถาม น้ำเสียงของเธอเปลี่ยนเป็นจริงจังในตอนที่พูดถึงประเด็นทางวิชาการเหล่านี้

 

ลิงค์ พยักหน้า ตอนนี้เขาก็เปลี่ยนมาจริงจังด้วยเช่นกัน

 

“ผมวิเคราะห์ข้อมูลมาจากการสังเกตุกาณ์ของนักดาราศาสตร์ชื่อ เดเร็ค อายุ 50 ปี แล้วอนุมานทฤษฏีของผมจากตรงนั้น ถ้าวัตถุที่อยู่ในท้องฟ้าแต่ละอย่างได้รับการกำหนดเส้นโคจรที่คงที่, มันก็จะต้องเป็นไปตามวิธีที่ผมอธิบายเอาไว้ในนี้เท่านั้น” ลิงค์ อธิบายด้วยความมั่นใจ

 

ดวงดาวและภายนอกอวกาศเป็นความลึกลับที่ไม่สิ้นสุดและน่าหลงไหล, และในทุกๆโลก, ก็มักจะมีใครบางคนที่ถูกดึงดูดด้วยความงดงามของมัน เดเร็ค เป็นหนึ่งในคนพวกนั้นในโลกนี้ เขาเป็นนักวิชาการจากเมื่อ 300 ปีก่อนที่อุทิศชีวิตทั้งชีวิตของเขาไปกับการสังเกตุท้องฟ้าและดวงดาว ในปีต่อๆมา, เขาได้เขียนสิ่งที่เขาค้นพบทั้งหมดลงไปในหนังสือที่ชื่อว่าความฝันของดวงดาว แม้ว่าเขาจะตั้งชื่อแบบบทกวี, แต่เนื่อหาด้านในก็เป็นในทางวิชาการและทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้องและเนื้อหาข้างในนั้นก็เป็นข้อมูลการสังเกตุการเคลื่อนไหวของวัตถุในท้องฟ้าของ เดเร็ค ที่เขารวบรวมมา 50 ปี

 

ในโลกแห่ง ฟิรุแมน, การศึกษาของ เดเร็ก นั้นถูกละเลยเป็นอย่างมาก แต่เนื่องจากข้อสังเกตุของเขามีรายละเอียดและถูกต้องและด้วยความที่เขาเขียนอย่างสวยงาม, หนังสือของเขาจึงได้รับสืบทอดมาและอ่านกันอย่างแพร่หลายมาอย่างยาวนานหลังจากที่เขาตาย ลิงค์ พบมันในร้านหนังสือเล็กๆในเมืองริเวอร์โควฟ, ดังนั้นเขาจึงซื้อมันด้วยราคาแค่ 5 เหรียญเงินเท่านั้น มันช่วยเขาได้เป็นอย่างมากในตอนที่เขากำลังเขียนวิทยานิพนธ์

 

“แต่ฉันมองว่าทฤษฏีของเธอมันอย่างห่างไกลจากคำว่าสำเร็จหรือสมบูรณ์นะ” มอยร่า พูด มีความส่องประกายในแววตาของ มอยร่า ในตอนที่เธอฟังคำอธิบายของเขา, แต่เธอก็รีบซ่อนมันและรักษาความเงียบสงบของเธอเอาไว้

 

ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สนใจเรื่องของดวงดาวและอวกาศ, ซึ่งมันก็พอเข้าใจได้เพราะดวงดาวอยู่ไกลเกินไป; พวกมันแทบจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับเวทย์มนตร์หรือการใช้ชีวิตประจำวัน

 

“คุณพูดถูก ทฤษฎีนี้อธิบายเพียงแค่วิธีการแสดงพฤติกรรมของสิ่งต่างๆ, แต่สำหรับคำถามที่ทำไมพวกมันถึงแสดงพฤติกรรมแบบนั้นหรือกฏพวกนี้มาจากไหน, ทฤษฏีนี้ยังให้คำตอบไม่ได้เลย” ลิงค์ พูดขณะที่เขาพยักหน้า

 

“ฉันได้ยินมาจาก เอเลียร์ด ว่ายังมีบางส่วนของวิทยานิพนธ์ของเธอที่ยังเขียนไม่เสร็จ, ขอฉันดูพวกมันหน่อยได้ไหม?” มอยร่า ถาม ดวงตาของเธอจดจ้องไปที่จี้ห้อยคอที่ทำจากทองคำขาวที่ห้อยคอของ ลิงค์ อยู่

 

“ต้นฉบับอยู่ใน...อ่า ก็ได้ครับ” ลิงค์ วางแผนที่จะบอก มอยร่า ว่าต้นฉบับของเขาอยู่ในห้องของเขาในโรงแรมริเวอร์โควฟ, แต่ดูจากสายตาของเธอในตอนนี้, มันเห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถเก็บเรื่องอุปกรณ์เก็บของให้เป็นความลับจากจอมเวทย์คนนี้ได้ ดังนั้น ลิงค์ จึงเอาวิทยานิพนธ์ที่เหลือออกมาจากจี้เก็บของของเขาภายใต้สายตาที่ตกตะลึงของ แอนนี่

 

โชคดีที่ไม่มีคนอื่นอยู่ที่นี่ แอนนี่ เป็นเจ้าหญิง, ดังนั้นการได้เห็นจี้เก็บของจึงไม่ทำให้เธอประหลาดใจมากนัก, และเขาก็มั่นใจว่ามันไม่มีอะไรที่ทำให้รู้สึกแปลกตาสำหรับจอมเวทย์อย่าง มอยร่า กับแค่จี้เก็บของธรรมดาๆ

 

ตามที่เขาคาดเอาไว้, มอยร่า ไม่ได้รู้สึกอะไรโดยสิ้นเชิง เธอรับกระดาษหนังแกะจาก ลิงค์ แล้วเริ่มอ่านมันเป็นเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง, ราวกับว่าไม่มีใครอยู่ที่นั่น

 

“ไม่ว่าจะเป็นสถาบันเวทย์มนตร์แห่งไหนในโลกนี้คงจะเปิดประตูรับเธอเข้าไปสำหรับวิทยานิพนธ์นี้” มอยร่า พูดหลังจากที่เวลาผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมง เธอวางวิทยานิพนธ์ลงแล้วถอนหายใจออกมายาวๆ

 

“นั่นหมายความว่าตอนนี้ผมสามารถเข้าสถาบันเวทย์มนตร์อีสโควฟได้แล้วหรอครับ?” ลิงค์ ถาม, เขารู้สึกตื่นเต้นกับความคิดเห็นของ มอยร่า

 

มอยร่า พยักหน้าแล้วพูด “จริงๆแล้ว, ก่อนที่ฉันจะมาที่นี่, วิทยานิพนธ์เรื่องกฏแรงโน้มถ่วงของเธอได้ถูกส่งไปให้ที่ปรึกษาทุกคนในสถาบันอ่าน, และผู้อาวุโส, จอมเวทย์ แอนโทนี่ ก็ยอมรับให้เธอเข้าเรียนด้วยตัวเอง แต่ในเมื่อพรสวรรค์ทางด้านเวทย์มนตร์ตั้งแต่กำเนิดของเธอต่ำมากๆ, เขาจึงต้องเพิ่มค่าเข้าเรียนเป็น 2,000 เหรียญทองเพื่อป้องกันไม่ให้นักเรียนคนอื่นรู้สึกว่าได้รับการปฏิบัติที่ไม่เท่าเที่ยม... นายคงจะไม่มีปัญหากับค่าเล่าเรียนเท่านี้ใช่ไหม?”

 

“2,000 เหรียญทองหรอ? แต่นั่นมันแพงเกินไปนะ! มันไม่ยุติธรรมเลย!” แอนนี่ พูดแทรกเข้ามา

 

“มันเป็นคำสั่งของผู้อาวุโส แอนโทนี่” มอยร่า ยักไหล่พูด, สีหน้าของเธอบ่งบอกว่าเธอไม่สามารถทำอะไรกับมันได้

 

แอนนี่ ไม่พูดอะไรอีก เมื่อเธอได้ยินว่ามันเป็นคำสั่งจากผู้อาวุโสของสถาบัน ผู้อาวุโสเป็นจอมเวทย์เลเวล 7 และได้รับการยกย่องในอาณาจักรเป็นอย่างมาก แม้แต่พ่อของเธอ, ดยุคเหล็ก, ก็ยังไม่สามารถเข้ามายุ่งได้ไม่ว่าผู้อาวุโสจะสั่งอะไร

 

ช่างมันเถอะ, เธอคิด ถ้า ลิงค์ ไม่สามารถจ่ายค่าเล่าเรียนได้, เธอก็จะช่วยเขา ยังไงซะมันก็แค่ 2,000 เหรียญทอง, และถึงยังไงเธอก็มีเงินเก็บมากกว่านั้นอยู่แล้ว

 

ตัว ลิงค์ เองไม่ได้มีปัญหากับคำสั่งนี้เลย ทั้งหมดที่เขาต้องการก็คือการเข้าไปเรียนในสถาบันให้ได้ ซึ่งตอนนี้เขาก็ได้รับความยินยอมจากผู้อาวุโสแล้ว, เขาจะปล่อยให้ปัญหาเล็กๆอย่างเรื่องเงินมาทำให้เรื่องยุ่งยากขึ้นทำไมหล่ะ?

 

“ผมยอมรับคำสั่งของผู้อาวุโสครับ” ลิงค์ พูดพร้อมกับพยักหน้า

 

แม้ว่าจะยังคงมีข้อสงสัยกวนใจเขาอยู่ก็ตาม ตอนนี้มานาของเขาถึงขีดจำกัดที่ 148 หน่วย, และถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะแทบไม่มีมานาเหลือในร่างกายของเขา, แต่ทำไม มอยร่า ที่เป็นนักเวทย์เลเวล 5 ถึงไม่ได้สังเกตุเห็นมันหล่ะ?

 

เขาอายุแค่ 17 ปี, แต่เขาก็มีมานาเทียบเท่ากับนักเวทย์เลเวล 2 และยังมีความสามารถในการร่ายเวทย์เลเวล 2 ในการสโตนด้วย แถมเขายังเคยแม้กระทั่งใช้เวทย์มนตร์เลเวล 4 ระเบิดเพลิง ซึ่งทั้งหมดนี้มันไม่ได้ตรวจสอบยากเลย, แล้วทำไม มอยร่า ถึงยังคิดว่าพรสวรรค์ในด้านเวทย์มนตร์แต่กำเนิดของเขายังน้อยอยู่หล่ะ?

 

ขณะที่คิดถึงมัน, เขาก็ได้ยิน มอยร่า พูดกับ แอนนี่ “องหญิงคะ, ตอนนี้ฉันต้องขอตัวลากลับไปที่สถาบันก่อนนะคะ ลิงค์, เธอจะไปที่เมืองกับฉันไหม, แล้วระหว่างทาง, ฉันจะคุยเรื่องกฏของสถาบันกับเธอ”

 

แอนนี่ ไม่ได้สงสัยสิ่งที่ มอยร่า พูด, ดังนั้นเขาจึงยอมให้พวกเขาออกไป แม้กระทั่ง ลิงค์ ก็ยังไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติกับคำขอของ มอยร่า, ดังนั้นทั้งหมดที่เขาทำก็คือการพยักหน้าแล้วพูด “แน่นอนครับ”

 

พอเขากับ มอยร่า ออกมานอกกระท่อม, มอยร่า ก็เชิญเขาเข้าไปในรถม้า

 

หลังจากที่เข้าไปในรถม้าเรียบร้อยแล้ว, มอยร่า ก็ดีดนิ้วของเธอแล้ว ลิงค์ ก็รู้สึกได้ว่าเสียงรบกวนรอบตัวเขาเงียบลงในทันที เสียงรบกวนที่อยู่ข้างนอกทั้งหมด, ผู้คน, ม้า, ล้อที่กำลังหมุน เงียบหายไปหมด

 

ลิงค์ ตกตะลึงเล็กน้อย เขารู้ว่านี่เป็นผลจากบาเรียป้องกันเสียง, ซึ่งนี่ก็หมายความว่า มอยร่า กำลังจะพูดเรื่องสำคัญอะไรบางอย่างกับเขา

 

เขาเก็บลิ้นของเขาเอาไว้แม้ว่าจะมีคำถามแล่นอยู่ในหัวของเขา เขาคิดว่าการปล่อยให้ มอยร่า เป็นคนเริ่มสนทนามันจะดีที่สุด

 

หลังจากที่ผ่านไปนาทีนึง, มอยร่า ก็หัวเราะแล้วพูด “เด็กน้อย, ฉันประทับใจกับความยับยั้งชั่งใจของเธอนะ เธอต้องอยากรู้แทบตายแน่ๆเลยว่าทำไมฉันถึงคิดว่าพรสวรรค์ด้านเวทย์มนตร์ตั้งแต่กำเนิดของเธอน้อย, ใช่ไหม?”

 

“ครับ, คุณสามารถตรวจพบอุปกรณ์เก็บของของผมได้อย่างง่ายดาย, ผมก็เลยคิดว่ามันแปลกมากๆสำหรับคุณที่จะตัดสินผิดพลาดอย่างเห็นได้ชัดแบบนี้” ลิงค์ ตอบกลับ

 

“เพราะเธอจะไปเป็นนักเวทย์ฝึกหัดของนักเวทย์ เบล, และเขาก็คงจะไม่สังเกตุอะไรเธอถ้าเธอเป็นแค่นักเวทย์ฝึกหัดที่มีความสามารถทางด้านเวทย์มนตร์ที่อ่อนแอ และด้วยวิธีนี้, เธอก็จะสามารถเข้าใกล้เขาและจับตาดูเขาทุกๆฝีเก้าได้โดยที่เขาไม่สงสัยเธอ” มอยร่า พูด, เธอเปิดเผยเรื่องน่าประหลาดใจออกมาราวกับว่ามันเป็นแค่เรื่องจริงเรื่องนึง

 

ลิงค์ ตกตะลึงอย่างสมบูรณ์ เขาไม่รู้เลยว่าจะตอบสนองกับการเปิดเผยของ มอยร่า ยังไงดี เขาเคยคิดว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่นักเวทย์ธรรมดาๆ, แต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะทำให้เขายุ่งเหยิงขนาดนี้

 

ตอนที่อยู่ในเกมส์, นักเวทย์เลเวล 6 เบล เป็นคนทรยศในสถาบันเวทย์มนตร์แห่งนี้ เขาศึกษาเวทย์มนตร์แห่งความมืดอย่างลับๆ ซึ่งในตอนจบเขาได้ทำให้ภัยพิบัติร้ายแรงเกิดขึ้นในสถาบัน จากคำพูดของ มอยร่า, เขาสัมผัสได้ว่าเธอสงสัยว่า เบล กำลังทำอะไรบางอย่างที่น่ากลัวเรียบร้อยแล้ว

 

“ผมไม่เข้าใจครับ” ลิงค์ ไม่สามารถคิดเหตุผลที่ทำไม มอยร่า ถึงเลือกให้เขาเป็นคนสอดแนม เบล ได้; เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงเชื่อใจเขาและที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือเธอรู้ได้ยังไงว่า เบล กำลังจะทำอะไรบางอย่าง

 

ในความเป็นจริง, แม้แต่จอมเวทย์ แอนโทนี่ ก็ยังไม่รู้ว่า เบล กำลังวางแผนทำอะไร ภายในเกมส์, ในตอนที่นักเวทย์ เบล พยายามที่จะอัญเชิญปีศาจ, เหตุการณ์นั้นถูกพบในนาทีเกือบสุดท้ายจริงๆ, ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่มีใครรู้ความลับของ เบล เลย

 

ทำไมคนที่ฉลาดจนสามารถเข้าใจเรื่องทั้งหมดนี้ได้ก่อนคนอื่นๆถึงไม่มีชื่อเสียงในเกมส์เลยหล่ะ? มอยร่า คนนี้เป็นใครกันแน่?

 

มอยร่า เดาคำถามทั้งหมดที่กำลังแล่นอยู่ในหัวของ ลิงค์ ได้ เธอยิ้มแล้วอธิบาย “เพราะฉันไม่ใช่มนุษย์ ฉันเป็นผู้พิทักษ์ลับของดินแดนแห่งแสง—นางฟ้าแห่งแสง!”

 

"..."

 

ลิงค์ เป็นใบ้อย่างสมบูรณ์, ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างจนใหญ่พอๆกับจานรองถ้วย

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด