ตอนที่แล้วGolden Time - ตอนที่ 13 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGolden Time - ตอนที่ 15 [อ่านฟรี]

Golden Time - ตอนที่ 14 [อ่านฟรี]


ตอนที่ 14

ซูฮยอคออกจากบ้านหลังจากที่เขาบอกกับพ่อแม่ว่าจะออกมาเจอเพื่อน จากนั้นเขาก็ขึ้นรถไป

“แล้วทำไมเจ้านายคุณถึงอยากพบผมล่ะครับ?”

คนขับรถมองมาที่ซูฮยอคด้วยรอยยิ้มที่สะท้อนชัดเจนอยู่ในกระจกมองหลัง

“อืม ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”

ซึ่งความจริงแล้วคนขับรถก็ไม่รู้สาเหตุ

ซูฮยอคกังวลมากจริง ๆแต่นี่จะเป็นการดีที่เขาจะได้พบกับชายคนนั้นและได้ถามคำถามมากมายที่ยังคาใจเขาอยู่

คนขับรถขับมาชั่วโมงกว่า ๆแล้ว

ซูฮยอครู้แล้วว่าทำไมผู้คนถึงตื่นเต้นกับรถนำเข้าเหล่านี้ เพราะตอนนั่งรถคันนี้เขารู้เหมือนกับกำลังลอยอยู่เหนือถนนมากกว่าที่รู้สึกว่าล้อรถนั้นสัมผัสกับพื้นถนนอยู่

ตอนนี้ขับรถเข้ามาสู่จังหวัด ฮันนัมดง มีพื้นที่สำหรับอยู่อาศัยขนาดใหญ่กระจัดกระจายอยู่เต็มไปหมด

เมื่อมาถึง ซูฮยอคพบกับแมนชั่นขนาดใหญ่ตรงหน้าเขา

ซูฮยอคเดินตามคนขับรถเข้าบ้านไป รอบ ๆมีต้นสนทรงแปลก ๆและสนามหญ้าเขียวขจีอยู่รอบตัว

โฮ่ง! โฮ่ง! โฮ่ง!

ดวงตาของซูฮยอคเบิกกว้าง รีบหันหน้าไปตามเสียงที่เพิ่งได้ยินทันที สุนัขตัวใหญ่ที่ถูกล่ามไว้กำลังนั่งอยู่ตรงนั้น ตัวมันใหญ่เหมือนกับหมี ตัวใหญ่เสียจนน่าเกรงขามเมื่อเทียบกับเจ้าป่าแห่งทุ่งหญ้าสะวันนา

ซูฮยอคไม่เคยเห็นสุนัขที่ตัวใหญ่ขนาดนี้มาก่อน คนขับรถเดินตรงไปที่สุนัขแล้วลูบหัว มันค่อย ๆนอนหงายท้องและกลิ้งไปกลิ้งมา

“ไม่ควรเห่าใส่แขกพิเศษนะ”

จากนั้นเขาก็หันมามองซูฮยอค

“นายอยากเล่นกับมันหน่อยมั้ย มันอ่อนโยนมากๆเลยนะ”

ซูฮยอคส่ายหน้า

ถ้าเกิดเขาถูกมันกัดเข้าด้วยปากที่ใหญ่ล่ะ! นั่นคงเป็นฝันร้ายสำหรับเขามากแน่ ๆ

“มันพันธุ์อะไรหรอครับ?”

“นายเคยได้ยินชื่อสุนัขพันธุ์ จ้างเอ๋า (พันธุ์ลีออนเบอร์เกอร์) มั้ย? หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าสุนัขสิงโต มันสามารถเอาชนะสิงโตได้เลยจริง ๆ”

ฟังดูเหมือนเกินจริง แต่จากขนาดตัวของมันแล้วคิดว่ามันคงเอาชนะสิงโตได้ง่าย ๆ

“โอ้ ฉันลืมไปเลย! เจ้านายฉันกำลังรอพบนายอยู่ เข้าไปกันเถอะ”

ประตูบ้านเปิดออก ซูฮยอคเดินเข้าไปข้างใน

อย่างที่คาดไว้ ห้องรับแขกที่นี่ใหญ่กว่าบ้านเขาเสียอีก และที่นั่นเขาก็พบกับชายคนนั้นที่เขาเจอที่ห้องฉุกเฉิน ปากของเขาคาบบุหรี่อยู่

การแต่งตัวดูสบาย ๆเขากำลังเล่นเกมอยู่ ผมของเขายุ่งเหมือนกับคนเพิ่งตื่น ถึงแม้ว่าตอนนี้เพิ่งจะบ่ายก็ตาม สายตาของเขาจดจ่ออยู่กับทีวีที่หน้าจอของมันใหญ่มาก คนขับรถเดินตรงไปหาเจ้านายแล้วโค้งตัวลง

“เจ้านาย ผมพาแขกมาแล้วครับ”

เขาค่อย ๆหันหัวมาหาซูฮยอคแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยนให้

“โอ้ นายมาแล้ว รอแปปนะ เกมจะจบแล้ว”

“Super Mario เป็นเกมที่น่าตื่นเต้นสำหรับเขาหรอ?”

คนขับรถเดินมาหาซูฮยอคแล้วบอกเขาว่าให้นั่งรอก่อน ซูฮยอคนั่งรอที่โซฟาสักครู่หนึ่ง

“โอ้ย ฉันแพ้อีกแล้ว!”

ชายคนนั้นเกาหัวด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย แล้วก็เดินมาหาซูอยอค

แม้ว่าหนวดเคราจะเฟิ้มกับผมยุ่ง ๆ เขาก็ยังดูหล่อเหมือนกับพระเอกหนัง

“ทุกทีนายเล่นเกมรึเปล่า?”

“ผมไม่เคยเล่นมาก่อนเลยครับ”

ชายคนนั้นทำท่าดูประหลาดใจ “โตมาขนาดนี้นายไม่เคยเล่นเลยหรอ?”

“ไม่เคยครับ”

เขาพูดถูก เขาไม่เคยเล่นเกมตั้งแต่ตื่นขึ้นมาจากสภาพผัก ทั้งยังจำไม่ได้อีกด้วยว่าเคยเล่นเกมรึเปล่า เพราะเขาสูญเสียความทรงจำในอดีตทั้งหมดไป

“นายเป็นพวกเด็กเนิร์ดรึเปล่า?”

เมื่อชายคนนั้นนั่งลงข้างซูฮยอค เขาก็ลุกขึ้นพร้อมก้มหัวให้

“ขอบคุณนะครับ สำหรับค่าเทอมและจักรยานคันนั้น มันเป็นของขวัญชิ้นใหญ่สำหรับผมจริง ๆ”

ชายคนนั้นพยักหน้าและยิ้มให้ซูฮยอค เขารู้สึกได้ถึงความจริงใจอย่างแท้จริงของซูฮยอค

เขาใช้มือตบลงบนโซฟาเบา ๆ

“นั่งลงก่อนสิ”

เขาจุดบุหรี่

“ฉันได้ยินมาว่านายเป็นเด็กส่งหนังสือพิมพ์”

“ใช่ครับ” ซูฮยอคตอบ

“นายได้เงินเท่าไร?”

“ผมได้รับ 400,000 ต่อเดือนครับ”

แค่ลำพังเงินนั่นยังไม่พอสำหรับค่าอาหารสุนัขเขาเลย ชายคนนั้นคิด แต่ซูฮยอคได้เงินนั่นจากการส่งหนังสือพิมพ์ 200 ฉบับในทุก ๆวันต่อเดือน แถมยังเป็นพาร์ทไทม์อีกด้วย

ชายคนนั้นอึ้งไปซักพักหลังจากได้ยินเรื่องนี้

“ผมใช้เงินนี้จ่ายค่าเรียนที่พิเศษครับ”

ค่าเรียนพิเศษนี่มันถูกหรอ?’

ชายคนนั้นดึงบุหรี่ออกแล้วถูมันลงบนที่เขี่ยขี้บุหรี่

“ฉันจะให้เงินนาย ซึ่งนั่นมากกว่าที่นายได้รับอยู่ตอนนี้ เพราะงั้นโปรดช่วยตอบแทนฉันคืนด้วยนะ”

ดูเหมือนว่าวันนี้จะมีคนขอให้เขาช่วยหลายครั้งเลย และตอนนี้ก็เป็นคำขอที่มาจากชายคนนั้นอีก

ซูฮยอครับคำขอของชายคนนั้นด้วยความเต็มใจ เพราะเขาได้ให้ทั้งจักรยานแล้วไหนจะค่าเทอมอีก

“คุณจะให้ผมช่วยอะไร?”

“ก็ ช่วยอยู่ที่บ้านฉันสัก 3 ชั่วโมงหลังจากเลิกเรียน ฉันจะให้นาย 200,000 วอนต่อชั่วโมง ถ้าอยู่ครบก็ 600,000 วอน นายว่าไง?”

นี่เขาจะจ้างฉันให้เล่นเกม Super Mario ด้วยกันงั้นหรอ?’

เมื่อชายคนนั้นไม่สามารถที่จะปิดบังสีหน้าที่ดูประหลาดใจได้ เขาก็เปิดปากพูดขึ้นว่า “แม่ของฉันอยากจะพบนายมาก”

“ผม?”

“ใช่! แม่ฉันอยากพบหมอคนนั้นมาก”

นี่เธอจำหน้าเขาได้หรอ? เธอมีปัญหาทางสมองอยู่ไม่ใช่หรอ? แต่ทำไมเธอถึงอยากจะพบเขา?’ ซูฮยอคเผยความรู้สึกที่ไม่สามารถปิดบังไว้ได้ออกมาทันที

“ทำไมเธอถึงอยากพบผมล่ะครับ”

ชายคนนั้นยิ้มอย่างร่าเริงให้เขา

“เพราะนายช่วยแม่ฉันไว้ไงตอนนี้เธอไม่เจ็บปวดใด ๆแล้ว”

คุณแม่ที่กำลังหลับอยู่คนนั้น เชื่อว่าเด็กคนนี้แหละที่รักษาอาการป่วยของเธอให้หายได้ ชายคนนั้นก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน ก็เพราะซูฮยอคผู้ที่วินิจฉัยอาการหญิงผู้เป็นแม่ของชายคนนั้นจนทำให้เธอได้รับการผ่าตัด ซึ่งแม้แต่เจ้าหน้าที่ในห้องฉุกเฉินเองก็ไม่มีใครสนใจเธอเลยแม้แต่คนเดียว เขาเป็นเหมือนดั่งผู้ที่ช่วยชีวิตแม่ของชายคนนั้นไว้ เขาเป็นเด็กที่ชายคนนั้นรู้สึกของคุณมากจริง ๆ

ในทางตรงกันข้าม ซูฮยอคกำลังแสดงสีหน้าที่งุนงง เพราะว่าช่วงที่ชายคนนั้นร้องขอให้มาอยู่ที่บ้านเขาน่าจะอยู่ที่โรงเรียนสอนพิเศษ

ซูฮยอคตั้งใจไว้แล้วว่าจะเข้าโรงเรียนแพทย์ให้ได้ เขาไม่สามารถปล่อยให้เวลาสูญเปล่าไปได้ เพราะเขามีเป้าหมายที่ชัดเจน

อย่างไรก็ตาม 200,000 วอนต่อชั่วโมง มันเป็นคำพูดที่ฟังแล้วน่าคิด แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่น ซูฮยอคต้องปฏิเสธคำขอนั้นเพื่ออนาคตของตัวเอง

“ผมขอโทษนะครับ ช่วงหลังเลิกเรียนผมต้องไปเรียนพิเศษ”

ชายคนนั้นส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ก็นะ นายฉลาดแต่หัวโบราณไปหน่อย แล้วนายเรียนพิเศษวิชาอะไรบ้าง?”

“ภาษาเกาหลี ภาษาอังกฤษ คณิต”

“นายสามารถเรียนวิชาพวกนั้นที่บ้านฉันได้”

นี่เขากำลังเสนอการเรียนพิเศษแบบส่วนตัวอยู่หรอ?

แน่นอน การมีครูสอนพิเศษส่วนตัวเป็นอะไรที่เยี่ยมที่สุด แต่ซูฮยอคไม่มีเงิน

เมื่อซูฮยอคที่มีสีหน้าดูอัดอัดทำท่าจะพูดขึ้น คนขับรถก็ชิงพูดก่อน “คุณคิมครับ ช่วยโทรหา เจสสิก้า นาเร และจองฮยอน ตอนนี้ด้วยครับ”

คนขับรถแอบหัวเราะออกมาราวกับว่าเขารู้ว่าเจ้านายพยายามกำลังจะทำอะไร

หลังจากซูฮยอคกลับบ้านไปแล้ว ชายคนนั้นก็กลับไปเล่นเกมต่อ

ขณะนั้นเอง แม่ของเขาก็เข้ามาในห้องนั่งเล่น

“อ้าว แม่ตื่นแล้วหรอ?”

ชายคนนั้นลุกขึ้นจากที่นั่ง หัวเราะขึ้น แม่จะสร้างปัญหาอะไรอีกล่ะ?

แม่เขาเดินเข้าไปหาแม่ แล้วเธอก็พูดว่า “ลูกชาย”

ดวงตาของชายคนนั้นเบิกกว้างขึ้นเพราะแม่ของเขา ด้วยการต้องทนทรมานกับอาการผิดปกติทางสมอง  แต่ไม่นานแม่ก็จำเขาได้ ถึงแม้ว่าอาการแม่ไม่ค่อยจะดีเท่าไร จู่ ๆเขาก็ถามแม่ด้วยเสียงสั่น “ผมเป็นใคร?”

เธอน้ำตาคลอภายใต้ดวงตาที่เต็มไปด้วยรอยตีนกา แล้วเธอก็เปิดปากพูดขึ้น “ลูกชายอันเป็นที่รักไงล่ะ”

“แม่ครับ กอดผมหน่อย”

เธอค่อย ๆเข้ามาใกล้แล้วโอบกอดลูกชายของเธออย่างอบอุ่น

“ฮยอคอู ลูกคงเครียดเรื่องแม่มากเลยใช่มั้ย?”

“ไม่เลยครับ ผมกลับรู้สึกว่ามันสนุกขึ้นวันแล้ววันเล่า” ฮยอนอูพูด ขณะที่ยังคงอยู่ในอ้อมกอดของแม่ ส่ายหัวไปมาและพิงบนไหล่ของแม่แน่นขึ้น ตอนนั้นเอง เสียงบ่นพึมพำนั่นก็เปลี่ยนโทนเสียงของเธอ

“ผมหิว ทำอาหารให้ผมกินหน่อยสิ”

จากที่เห็นได้บ่อย ๆกับผู้ป่วยที่มีความผิดปกติทางสมอง เธอจะกลับไปมีพฤติกรรมเหมือนกับเด็ก เขาเช็ดน้ำตาให้แม่และมองเธอด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม

“เราหาอะไรอร่อย ๆกินกันมั้ย?”

ในขณะเดียวกัน ซูฮยอคไม่สามารถปิดบังสีหน้าที่ดูงุนงงของตัวเองได้ขณะที่เขากำลังขึ้นรถกลับบ้าน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด