ตอนที่แล้วGolden Time - ตอนที่ 12 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGolden Time - ตอนที่ 14 [อ่านฟรี]

Golden Time - ตอนที่ 13 [อ่านฟรี]


บทที่ 13

มีเพียงเหตุผลเดียวที่เจ้างั่งอย่างดงซูเข้าหาเด็กผู้ชายคนอื่น ๆในโรงเรียน

ตอนที่เพิ่งเข้า ม.ปลาย เขาต้องการสร้างแรงผลักดันให้กับตัวเองใหม่ แต่ที่แปลกก็คือ ดงซูใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนอย่างเงียบๆไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ตั้งแต่เปิดเทอมจนถึงช่วงสอบมิดเทอม เขาจะไม่สร้างปัญหาให้กับใคร ถ้าเกิดไม่มีใครไปยุ่งกับเขาก่อน

ซูฮยอคสงสัยว่าทำไมดงซูผู้ที่ไม่เคยสร้างปัญหาให้กับใครเลยจนถึงตอนนี้ นำปัญหามาเพื่อที่จะปรึกษาซูฮยอค

‘ยังไงก็ตามความหวังที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเขาคงเป็นเรื่องยาก เขาสุดจะทนกับความคันไม้คันมือที่ดึงดูดเรื่องชกต่อยรึเปล่า?’

ซูฮยอคช่วยอะไรไม่ได้ และเป็นกังวลเล็กน้อย

“นายต้องเก่งมากแน่ ๆยินดีด้วยนะที่ได้ที่ 1 ของห้อง!” ดงซูพูด

“ขอบใจ” ซูฮยอคตอบกลับอย่างรวดเร็ว

ดงซูแสดงรอยยิ้มอีกครั้งและนั่งลงข้าง ๆเขา จากนั้นดงซูก็โยนหนังสือเล่มหนึ่งให้เขา มันเป็นหนังสือแบบฝึกหัด

“ฉันซื้อมาเมื่อวานนี้ ฉันไม่รู้เลยว่าหนังสือที่ซื้อมามันดีหรือไม่ดี ถ้ามันโอเคสำหรับนายก็ลองอ่านมันดูนะ”

มันเป็นหนังสือแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ ส่วนใหญ่หนังสือแบบฝึกหัดทั่ว ๆไปก็จะเหมือน ๆกัน แต่ซูฮยอครับฟังดงซูก็เพราะมันเป็นโจทย์ที่ไม่ได้ยาก

ถ้าตามที่คาดไว้ เนื้อหากับโจทย์ในเล่มนี้ส่วนใหญ่ก็คงเหมือน ๆกัน

“ฉันว่ามันดูโอเคเลยนะ”

“งั้นฉันขอให้นายช่วยอะไรฉันอย่างฉันหนึ่ง” ดงซูพูดด้วยสีหน้าที่ดูพึงพอใจ

‘ขอให้ช่วย? นายไม่ได้ต้องการจะยืมเงินจากฉันใช่มั้ย? เพราะนายจะไม่ใช้คืนฉันอย่างแน่นอน’

“จะขอให้ช่วยอะไร?” ซูฮยอคถาม

“เรียนกับนายแบบส่วนตัว” ดงซูพูด

ซูฮยอคแสดงอาการอึดอัดใจเล็กน้อยออกมาเพราะมันเป็นสิ่งมี่เขาไม่ได้คาดว่าจะได้ยินมัน

“ทำไมนายไม่ไปเรียนที่โรงเรียนสอนพิเศษล่ะ?”

ดงซูรู้สึกขมขื่นใจและพูดว่า “เพราะฉันไม่มีเงินจ่ายยังไงล่ะ”

ครอบครัวของเขาไม่ค่อยดีเท่าไร แน่นอนว่าถ้าเขาต้องการเงินเขาก็ย่อมได้ โดยการสั่งให้เหล่าลูกน้องให้ไปหาเงินมาหรือไม่ก็รีดไถจากพวกเขา เท่านี้ดงซูก็สามารถหาเงินเพื่อเอาไปจ่ายค่าเรียนพิเศษได้แล้ว

แต่ตอนนี้เขาทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะเขาตัดสินใจแล้วว่าจะเปลี่ยนความคิดตัวเองและเริ่มชีวิตใหม่ แน่นอนว่าไม่มีใครรู้ว่าความตั้งใจของเค้าจะอยู่ได้นานแค่ไหน แต่ท้ายที่สุดแล้วดูเหมือนเขาจะมีความมั่นใจที่จะทำมันให้ดีโดยไม่ลังเลใจแม้แต่น้อย

ดงซูเปิดปากพูดขึ้น เมื่อเห็นสีหน้าที่ดูอึดอัดใจของซูฮยอค

“ถ้านายช่วยฉัน ฉันก็จะช่วยนายคืนเช่นกัน”

“ช่วย?”

“ใช่ ถ้านายเห็นพวกที่มันแกล้งนายหรือนายไม่ชอบหน้าใคร แค่บอกฉัน แล้วฉันจะไปไล่เตะก้นพวกมันให้เอง”

ซูฮยอคหัวเราะด้วยเสียงตกตลึงใส่เขา  แต่ใบหน้าเขาเห็นได้ชัดเจนถึงความรู้สึกที่แสดงออกมาและมันรู้สึกแย่ขึ้นกว่านั้น

ดงซูพูดว่าที่เขาเรียนได้ไม่ดีก็เพราะว่าเขาไม่มีเงิน แต่ซูฮยอครู้สึกว่ามันฟังดูทะแม่ง ๆเพราะนั่นมันเป็นแค่ข้ออ้างของดงซู มีนักเรียนหลายคนที่สมัครเรียนกับโรงเรียนสอนพิเศษเพื่อบทเรียนพิเศษและได้รับการติวแบบส่วนตัว แต่ในทางตรงกันข้าม นักเรียนที่อ่านหนังสือด้วยตัวเองนั้นคงสู้กลุ่มเด็กที่ไปเรียนพิเศษไม่ได้ เพราะจำนวนและคุณภาพงานของกลุ่มนักเรียนที่อ่านหนังสือเองนั้นมันค่อนข้างจะแตกต่างจากเด็กที่ไปเรียนพิเศษอย่างเห็นได้ชัด

หลังจากที่มองหนังสือแบบฝึกหัดที่ดงซูกำลังถืออยู่ ซูฮยอคก็จ้องมองไปที่เขา

‘ถ้าฉันสอนดงซู แน่นอนว่าจะไม่มีใครในโรงเรียนจะมากล้าสร้างความรำคาญหรือแกล้งเราได้อีก แม้แต่พวกอันธพาลเหล่านั้นก็ต้องหลบสายตาของซูฮยอค เพราะเขามีดงซูคอยคุ้มกัน’

จากที่เขาได้ลองคิดดูแล้ว เขาต้องสละเวลาสักเล็กน้อยเพื่อมาสอนดงซู กลับกันเขาก็ได้ทบทวนบทเรียนได้เรียนมาไปในตัวด้วย

ปัญหาก็คือเขาจะจัดสรรเวลาของตัวเองอย่างไร

ตอนเช้าเขาต้องส่งหนังสือพิมพ์และไปเรียนพิเศษในตอนเย็น จากนั้นก็กลับบ้านมาทบทวนบทเรียนต่อที่บ้าน

ซูฮยอคพยายามหาบางช่วงเวลาที่เขาพอจะให้กับดงซูได้ จากนั้นไม่นานเขาก็ทำการตัดสินใจ

“ตกลง” ซูฮยอคพูด

ดงซูพยักหน้าราวกับว่าเค้ารู้คำตอบของซูฮยอคอยู่แล้ว

ซึ่งความจริงแล้ว ไม่เคยมีใครปฏิเสธคำขอของดงซูเลย

“แล้วเราจะเริ่มกันเมื่อไร?” ดงซูถาม

“วันพรุ่งนี้เลย” ซูฮยอคพูด

ดวงตาของดงซูเบิกกว้าง เขาคิดว่าซูฮยอคคงจะเริ่มการสอนสัปดาห์หน้า แต่ก็แอบหวังเล็ก ๆไว้ว่าคงเริ่มได้เร็วกว่านั้น

ซูฮยอคเปิดปากถามอีกครั้ง “ครั้งนี้นายสอบได้ที่เท่าไรของห้อง”

“ที่ 29”

ที่ 29 จากนักเรียนในห้อง 31 คน ยังโชคดีที่เขาไม่ได้ที่โหล่ แต่จริง ๆมันก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไร ซูฮยอคบอกดงซูถึงห้องอ่านหนังสือที่เขาจะนัดเจอกันเพื่อสอน ทุกคนสามารถใช้ห้องนี้ได้ฟรี

หลังจากเรียนพิเศษเสร็จ ซูฮยอคตั้งใจว่าจะไปที่ห้องอ่านหนังสือแทนที่จะกลับบ้าน

“ขอบใจนะ” ดงซูยื่นมือถือของตัวเองให้ซูฮยอค

ทั้งคู่แลกเบอร์กันเพื่อไว้ติดต่อ

หลังจากเสร็จสิ้นการสอนดงซู ซูฮยอคก็ออกจากห้องไปที่จักรยาน

‘ฉันควรต้องไปแสดงความรู้สึกขอบคุณสิ’

ซูฮยอคตรงไปที่โรงพยาบาลก่อนที่จะไปโรงเรียนสอนพิเศษ สิ่งที่เขาได้รับไม่ใช่แค่เพียงค่าเทอมแต่ยังรวมถึงจักรยานที่แสนจะแพงคันนี้จากชายคนนั้นด้วย เขารู้สึกว่าเขาควรไปแสดงความขอบคุณ เขารู้สึกคลุมเครือถึงผู้ป่วยไส้ติ่งอักเสบที่ยังคงนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยในห้องฉุกเฉิน

ถ้าเธอยังอยู่ที่นั่น ลูกชายของเธอก็อาจอยู่ด้วย เขาได้ยินมาว่าผู้ป่วยคนนั้นที่มีปัญหาเรื่องการรับรู้มาที่ห้องฉุกเฉินด้วยการแกล้งทำเป็นว่าป่วยเป็นประจำ

มันเป็นไปได้ถ้าหมอหรือพยาบาลไม่รู้เบอร์ที่สามารถติดต่อญาติของเธอ เมื่อมาถึงห้องฉุกเฉิน ซูฮยอคแสดงสีหน้าออกมาผ่านความรู้สึกแปลก ๆที่รู้สึกอยู่ หมอและพยาบาลที่เขาเคยเห็นก่อนจะหายไปในวันนั้นและตอนนี้หาไม่เจอเลยสักคน ราวกับว่าพวกเขาถูกเปลี่ยนให้เจ้าหน้าที่ชุดใหม่มาทำหน้าที่แทนทั้งหมด

ซูฮยอคพยายามมองหาพวกเขาแผนกอื่นแถว ๆห้องฉุกเฉิน แต่ก็ไม่พบเลยแม้แต่คนดียว

“อย่างที่นายรู้ มีผู้ป่วยบางคนที่แกล้งป่วยแล้วมาอยู่ห้องฉุกเฉินทุกวัน ทั้งเธอยังมีความผิดปกติด้านการรับรู้อีก ผมขอข้อมูลติดต่อญาติของเธอได้ไหมครับ?”

พยาบาลส่ายหน้า บ่งบอกได้ว่าพวกเขาก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับหญิงป่วยที่เป็นไส้ติ่งอักเสบเช่นกัน

ซูฮยอคหมดหวัง ต้องกลับไปมือเปล่า เขารู้สึกเสียใจกับเรื่องนี้จริง ๆถ้ามันเป็นไปได้ เขาอยากพบเธออีกครั้งในสักวันหนึ่ง เขาต้องหันหลังให้กับความรู้สึกเสียใจแล้วมันทิ้งไว้ข้างหลัง

ถึงแม้ว่าจะเริ่มมือแล้ว แต่ก็ยังมีเด็ก ๆจับกลุ่มเล่นกันอยู่ในหมู่บ้านใกล้ ๆ เมื่อซูฮยอคมาถึงบ้าน เขาเข็นจักรยานและเดินไปอย่าช้า ๆ เขาต้องระวังเพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้จากการลื่นไถล ซูฮยอคไปที่วิลล่า แล้วหันไปหน้าไปด้านหนึ่งที่มีรถสำดำที่ดูคุ้น ๆจอดอยู่ มันเป็นรถหรูนำเข้าคนหนึ่งที่คงไม่ได้หาได้ง่าย ๆในระแวกเพื่อนบ้านแถวนี้ มันคือรถคันที่รับเขาออกจากโรงพยาบาลไปส่งที่บ้าน

ไม่มีอะไรต้องสงสัยเลย

เสียงแตรดังขึ้น

ประตูรถเปิดออกพร้อมกับเสียงแตรเบา ๆ และคนขับรถที่เขาเจอมาก่อนหน้านี้ก็เดินออกมาหาเขา

“เธอชอบจักรยานคันใหม่มั้ย?” เขาถาม

ซูฮยอคพยักหน้าตอบทันที และพูดว่า “ขอบคุณนะครับ แล้วคุณได้จ่ายค่าเทอมให้ผมด้วยรึเปล่า?”

คนขับรถพยักหน้าตอบพร้อมรอยยิ้ม และพูดว่า “ตอนนี้เธอกลับมาบ้านแล้ว ฉันรอเธออยู่ตั้งนาน”

‘รอเรา?’

“คุณรอผมทำไม?” ซูฮยอคถาม

“เจ้านายของฉันอยากจะพบเธอสักครู่หนึ่ง”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด