ตอนที่แล้วบทที่ 7 : โอเครๆ ฉันจะให้เงินเพิ่ม เพราะงั้นได้โปรดหยุดกินทีเถอะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 9 : ครั้งนี้เป็นรถจักรยานยนต์

บทที่ 8 : กับดักสัตว์


บทที่ 8: กับดักสัตว์

 

ผู้แปล : แปลนิยายกากๆ

ปรับสำนวน : ไม่ได้ปรับ

ตรวจคำผิด : ไม่ได้ตรวจ

 

ขณะที่นั่งอยู่บนรถแท็กซี่, ฮันส์หยิบเงินออกมา; มันเป็นแบงค์ใหม่ 65 แบงค์

"เราประมูลโกดังไปราคา 250 และเช่ารถบรรทุกอีก 150 รวมเป็นเงิน 400 เพรางั้นเราจะเหลือเงิน 6,500 เหรียญ ตามข้อตกลงของฉันจะแบ่งนาย 60%"

ฮันส์พูดขณะนับเงิน 36 แบงค์ออกมา"นี่คือส่วนของนี้ ค่าแท๊กซี่ฉันจะออกเอง "

หลี่ หู่ พยักหน้าเข้าใจและเสริมว่า "นายควรคิดเรื่องถอนจำนองรถของนายด้วย มันอาจจะต้องใช้เงินจำนวนมาก"

"ลืมเรื่องนี้ไปเถอะ เราตกลงกันไว้ว่านายแค่หาของในโกดัง ส่วนเรื่องอื่นๆ ฉันจะเป็นคนจัดการ"ฮันส์ตอบ

เมื่อได้ยินคำพูดของฮันส์ หลี่หู่ก็เริ่มลังเล "โอ้ใช่ บิ๊กฟ็อกซ์,นายไม่อยากรู้เหรอว่าฉันหาของในโกดังได้ยังไง?"

"นายอยากจะบอกฉันไหมหล่ะ?"

"ไม่!"

"แล้วฉันจะถามทำไม ในเมื่อนายไม่อยากจะตอบ การทำแบบนี้มีแต่จำทำอันตรายต่อมิตรภาพของเรา ละอีกอย่างฉันไม่อยากไปบุกรุกความเป็นส่วนตัวของคนอื่น" ฮันส์พูดตอบกลับ

"ฉันชอบคำพูดของนายจังแฮะ"หลี่ หู่ยิ้ม

"นายคือหุ้นส่วนของฉัน!" ฮันส์ประกาศอย่างภูมิใจ

การประมูลครั้งนี้ได้กำไรมา 6,000 ดอลลาร์ ฮันส์มีอยู่แล้ว 2,400 และถ้าเพิ่มเงินเข้าไปอีก  200 ดอลลาร์ เขาก็จะมีเงิน 2,600 เพียงพอแต่การไถ่รถกระบะคันเก่าของเขา

ตามอัตราดอกเบี้ยรายวันคือ1 ใน 50 ของราคารถกระบะ สองวันก็เท่ากับ 100 ดอลลาร์

ฮันส์เปิดเพลงเร้กเก้,ป๊อป มาเลย์ หลี่ หู่ ไม่ใช่แฟนตัวยงของเพลงแนวนี้ เขาเลยไม่ได้สนใจและมองออกไปนอกหน้าต่าง

ขณะที่มองดูต้นไม้ต่างข้างถนน ลี่หู่ก็ถามว่า "พวกเราจะไปไหนกัน?"

ฮันส์ยิ้มออกมาอย่างลึกลับก่อนจะพึมพำ "เราทำเงินเพื่อจะได้สนุกไปกับชีวิต ฉันจะพานายไปที่ที่ทำให้นายรู้สึกสบายตั้งแต่หัวจรดเท้า"

ที่เขากล่าวถึงคือย่านแสงสี ทันทีที่ฮันส์ก้าวออกมาจากรถกระบะ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินมาหาเขา จากการพูดของเธอทำให้รู้ว่าฮันส์มาที่นี่เป็นประจำ

"ไง บิ๊กฟอด นานแล้วน่ะที่ไม่ได้เจอกัน ฉันคิดว่านายตายไปแล้ว"

"เราอยากไปร่วมงานศพของนายด้วย แต่เรากลับไม่ได้รับคำเชิญ"

 

หลี่ หู่ตะลึงกับสิ่งที่เห็นและรีบเดินกลับไปที่รถ

“เฮ้ยเพื่อน! ลงมาเถอะน่า!” ฮันส์ ตะโกน

"ขอโทษน่ะฉันไม่สนใจอะไรแบบนี้" หลี่หู่ปฏิเสธอย่างหนักแน่น

เมื่อได้ยินคำนี้ ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินมาที่หน้าต่างรถ "เฮ้พี่ชาย บังเอิญว่าฉันก็ไม่ชอบผู้หญิงเหมือนกัน นายอยากลองมาเล่นกับฉันดูไหม"

หลี่ หู่ รีบล็อกประตูรถจากด้านในและเปิดเสียงเพลเร้กเก้ขึ้นดัง

ฮันส์หายไปเป็นชั่วโมง แต่เขาก็ยังไม่เห็นวี้แววว่าจะออกมา

ไม่นาน หลี่ หู่ ก็รู้สึกเบื่อ เพราะงั้นเขาเลยปล่อยแมลงออกไปเพื่อทดสอบอะไรต่างๆ เขาสงสัยว่าเขาจะค้นพบความสามารถอื่นๆ ได้อีกรึเปล่า เขาเชื่อว่าการควบคุมร่างเป็นเพียงหนึ่งในความสามารถของแมลงและควรมีความสามารถอื่น ๆ สภาพแวดล้อมรอบๆ ย่านแสงสีแย่มาก เขาเปิดดูแผนที่ในโทรศัพท์และพบว่าเขาอยู่ในตะวันตกเฉียงเหนือของแฟลกแสตฟฟ์ ถ้าเขาออกไปอีกหน่อยจะมีป่าอยู่

จากนั้นหลี่ หู่ก็ขับรถไปที่ขอบชายป่า

ป่าเหล่านี้เป็นพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติแกรนด์แคนยอนเพราะงั้นเลยมีต้นสนสีเหลืองแบบทางตะวันตกและต้นมะเดื่ออเมริกัน

เมื่อหลี่ หู่ ออกจากรถเขาก็ได้ยินเสียง “เหมียว!” เบาๆ

ตอนแรกเขาก็ไม่สนใจมากนัก แต่เมื่อเขาปล่อยแมลงออกมาเ ขาก็ได้ยินเสียงนั้นอีก "เหมียว!" คราวนี้มันดังมาก

หลี่ หู่ไม่ได้ชอบแมวมากนัก แต่เขาก็รู้ว่าเสียงนี้ไม่ปกติ  เขาค่อยๆ เดินตามเสียงไปเพื่อดูมันว่าเสียงมาจากไหน

หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พบแหล่งกำเนิดเสียงบนต้นไม้ แมวสีน้ำตาลคล้ำถูกจับด้วยกับดักสัตว์บนไม้

กับดักเต็มไปด้วยหนามเเหลมคมและคมของมันก็ปักลึกอยู่กับแมว แค่เห็นเลือดที่ไหลออกมา หลี่ หู่ก็รู้สึกเจ็บปวดแทนแล้ว

หลังจากเรียกแมลงกลับมา เขาเริ่มไต่ขึ้นไปบนต้นไม้และดูเหมือนว่าแมวตัวนี้จะกลัวคนมากเพราะมันพยายามที่จะหนี แต่มันทำให้บาดแผลลึกกว่าเดิมเท่านั้น

หลี่ หู่พยายามจะเอากับดักออก แต่เมื่อเอื้อมมือออกไป แมวก็เริ่มขู่หลี่หู่

เมื่อเห็นแบบนี้ หลี่ หู่ก็คิดจะไม่เอากับดักออก แต่ห่อแมวเอาไว้ด้วยเสื้อผ้าและขับรถไปหาสัตว์แพทย์ สัตว์ตัวนี้เป็นแมวป่า ดูจากขนาดของมันก็น่าจะเป็นผู้ใหญ่แล้ว มันอารมณ์รุนแรงมาก มันยังคงต่อสู้และดิ้น ทำให้เลือดของมันไหลออกมาไม่หยุด

หลี่หู่ กังวลมาก เมื่อเขาเข้ามาในเมือง เขาไม่รู้ว่าสัตวแพทย์อยู่ที่ไหน หลังจากติดไฟแดงอยู่ที่สี่แยก เขาก็เห็นตราโรงพยาบาลกาชาดเซนต์จอห์น เขาคิดอยู่ครูนึ่งก่อนเลิกคิดที่จะไปหาสัตวแพทย์และขับรถไปโรงพยาบาลแทน

เมื่อเห็นเลือดที่ไหลออกมาจากเสื้อ นางพยาบาลก็ออกมาถามว่า "มีอะไรเกิดขึ้นเหรอค่ะ?"

"แมวตัวนี้อยู่ติดกับดักสัตว์มา คุณช่วยหาหมอมารักษามันได้รึเปล่า?" หลี่ หู่ถามขณะที่แกะเสื้อที่ห่อแมวไว้

พยาบาลมองดูเขาราวกับคนบ้า "คุณค่ะนี่ไม่ใช่โรงพยาบาลสัตว์น่ะ"

หลี่หู่เข้าใจดีและตอบกลับเมื่อเห็นไม้กางเขนที่พยาบาลสวมอยู่       "ใช่ผมเข้าใจ แต่เราคือลูกหลานของพระเจ้า คุณจะมองดูมันตายอย่างนี้หรอ?"

เมื่อได้ยินคำตอบนี้พยาบาลก็ตอบว่า "เอาล่ะฉันจะพาคุณไปหาดร. โซฟี เธอเป็นแพทย์ที่ดีที่สุด แต่ฉันไม่รับประกันนะว่าเธอจะช่วยเหลือแมวของคุณรึป่าว"

"แต่ตามหลักแล้ว เราต้องลงทะเบียนผู้ป่วย เพราะงั้นแมวของคุณมีชื่อรึป่าว?"

 

หลี่หู่กระพริบตาหลายหลังและคิดกับตัวเอง พยาบาลต้องล้อเล่นแน่ๆ ฉันแค่ให้คุณรักษามัน?

"คุณค่ะขอชื่อ ฉันจะปล่อยมันเข้าไปได้หลังจากลงทะเบียนแล้วเท่านั้น"

เมื่อเห็นแมวร้องเหมียวออกมา หลี่ หู่ก็คิดชื่อที่ดีออก

" โอ้, มันร้องเหมียว! ใช่แล้ว ,เจ้าเหมียว! "

"เหมียว!" เจ้าเหมียวข่วนเล็บเข้าใส่หลี่ หู่ทันที  เห็นได้ชัดว่ามันไม่ชอบชื่อนี้ แต่มีหรือที่หลี่ หู่จะสนใจ

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด