ตอนที่แล้วตอนที่ 131 เคล็ดวิชาแห่งการต่อสู้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 133 การรวมตัว

ตอนที่ 132 ทะเลสาป


ตอนที่ 132 ทะเลสาป

หยางไค่ค่อยๆลืมตา ก้มหน้าลงมอง เส้นสีแดงที่อยู่ภายในหินทารกจางหายจนหมดสิ้น แม้แต่รูปร่างของหินทารกยังบิดเบี้ยวจนไม่เหลือเค้าโครงเดิม

หินทารกได้ทำหน้าที่ของมันจนเสร็จสิ้น !! หยางไค่บีบมันเบาๆ แต่หินทารกกลับแตกสลายเป็นเศษฝุ่นในทันที สิ่งของชิ้นนี้ให้ความรู้สึกที่ลึกลับและน่าอัศจรรย์แก่ผู้ครอบครอง หลังจากที่ใช้มันเสร็จมันจะทำลายตัวของมันเองและน่าจะเกี่ยวข้องกับเส้นสีแดงที่เข้าสู่เส้นชีพจรของผู้ที่ครอบครองมัน

ไม่มีสิ่งให้ให้น่าเสียดาย หยางไค่ลุกขึ้นยืน เขาหวนคิดถึงความรู้สึกที่เขาสัมผัสจากหินทารก ทันใดนั้นพลังลมปราณได้ไหลเวียนผ่านเส้นชีพจรในทันที

ครั้งแรกที่ฝึกฝนเคล็ดวิชาแห่งการต่อสู้ มันยากเย็นแสนเข็ญ หยางไค่จึงไม่สามารถทำได้สำเร็จ

แต่มันไม่ได้ทำไให้หยางไค่ยอมแพ้ เขาเคลื่อนไหวพลังลมปราณอีกครั้ง และเคลื่อนไหวไหลเวียนพลังลมปราณไปยังเส้นชีพดังที่เขาฝึกฝนมาจากหินทารก ในขณะเดียวกันยังได้สัมผัสการเปลี่ยนแปลงของร่างกายอีกด้วย

จากพลัลมปราณที่ไหลเวียน ไหลผ่านเส้นชีพจรลมปราณ หยางไค่สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของหมัด หมัดของเขามีพละพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ

ในตอนแรกพละกำลังของมันค่อนข้างที่จะอ่อนแอ แต่จากกาไหลเวียนของพลังลลมปราณ และจากการเกื้อหนุนของเส้นชีพจรลมปราณ พละกำลังนี้ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดความรู้สึกที่ต้องการโจมตีโดยไม่สามารถควบคุมได้

หยางไค่ฝืนอดทนโดยไม่ลงมือ เพราะพลังลมปราณยังไมไ่ด้หมุนเวียนไปยังเส้นชีพจรทั้งหมดของเขา

หลังจากที่รอได้สักครู่ เส้นชีพจรลมปราณทั้งหมด 36 เส้นถูกหลอมรวมจากพลังลมปราณ ตามมาด้วยเสียงระเบิดที่ดังสนั่นภายในร่างกาย พลังลมปราณจากเส้นชีพจรทั้งหมด 36 เส้นได้พุ่งประสานไปยังหมัดของของหยางไค่อย่างรุนแรง ทำให้พละกำลังที่อ่อนแอกลายเป็นพละพลังที่มากมายมหาศาล

ราวกับว่ามันต้องการหลุดพ้นจากพันธนาการของหยางไค่และต้องการที่จะพุ่งโจมตีออกไปด้วยตนเอง

หมัดที่หยางไค่กำไว้สั่นสะท้านไปมาอย่างรุนแรง

หยางไค่ไม่ฝืนตนเองอีกต่อไป เขาพุ่งหมัดออกไปอย่างรุนแรง จากาการโจมตีในครั้งนี้พละกำลังจากพลังลมปราณได้พุ่งออกไปทั้งหมด

ห้วงอากาศว่างเปล่าที่หมัดได้พุ่งออกไป ทันใดนั้นพลังฟ้าดินปั่นป่วนวุ่นวายในทันที ตามมาด้วยเสียงการปะทะที่ดังกระหึ่ม เสมือนว่าห้วงอากาศกำลังระเบิดออกไป ลายเป็นเปลวไฟชั้นๆที่มองเห็นได้วยตาเปล่า

เคล็ดวิชาแห่งการต่อสู้นี้มีพลังการฆ่าที่มากมายเช่นนี้ ? มันเป็นวิชาแห่งการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม !!

กล่าวอีกนัยหนึ่ง เคล็ดวิชาแห่งการต่อสู้นี้เป็นเคล็ดวิชาที่หยางไค่ได้รับเป็นครั้งแรก ก่อนหน้านั้น การโจมตีของเขาทั้งหมดล้วนเพิ่งพาหยดน้ำพลังลมปราณหยางที่กักเก็บอยู่ในจุดตันเถียนและปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกายเท่านั้น

แต่การโจมตีเช่นนั้นไม่สามารถที่จะปลดปล่อยพลังความแข็งแกร่งทั้งหมดออกไป แต่มันแตกต่างจากเคล็ดวิชาแห่งการต่อสู้ เคล็ดวิชาแห่งการต่อสู้เป็นพื้นฐานของฝึกยุทธุ์ ซึ่งทำให้ผู้ฝึกยุทธุ์สามารถแสดงพลังความแข็งแกร่งแห่งพลับมปราณของตนเองออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่อสักครู่ที่ผ่านมาเป็นเพียงการทดสอบครั้งแรก แม้ว่ามันจะประสบผลสำเร็จ แต่มันไม่ใช่ความสำเร็จขั้นสูงสุด ในการต่อสู้ การโจมตีจะถูกปลดปล่อยออกไปในเสี้ยววินาที มันไม่ได้ค่อยเป็นค่อยไปเฉกเช่นการรวบรวมพลังลมปราณจากเส้นชีพจรไปยังหมัดของหยางไค่และพุ่งโจมตีออกไป

แม้ว่าหยางไค่จะประสบความสำเร็จในการฝึกฝนเคล็ดวิชาแห่งการต่อสู้ แต่เขายังไม่สามารถทำได้อย่างคล่องแคล่ว เพราะมันต้องอาศัยประสบการณ์และการฝึกฝนอีกมาก

หยางไค่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ กำหมัดของตนเองครั้งแล้วครั้งเล่า จิตใจของเขาเต้นระรัวด้วยความดีใจ เมื่อหวนนึกถึงฉากการโจมตีที่ทำให้ห้วงอากาศการเปลี่ยนแปลงอย่างน่าอัศจรรย์

เคล็ดวิชาแห่งการต่อสู้ที่ซ่อนอยู่ในหินทารกไม่ได้กล่าวบอกชื่อแก่หยางไค่ ดังนั้นจึงต้องตั้งชื่อให้แก่มัน

หยางไค่ขมวดคิ้วสักครู่ และตัดสินใจตั้งชื่อเคล็ดวิชาแห่งการต่อนี้ว่า หมัดเปลวเพลิงผลาญสุริยัน

เส้นชีพจรลมปราณทั้ง 36 ระเบิดออกมาอย่างรุนแรง มันเป็นกระบวนท่าแห่งการฆ่าที่โจมตีออกไปอย่างกะทันหัน สามารถทำให้ฝ่ายตรงข้ามได้รับบาดเจ็บอย่างง่ายดาย

หมัดเปลวเพลิงผลาญสุรยัน พลังลมปราณในร่างกายของหยางไค่สามารถเกื้อหนุนการโจมตีได้เพียง 3 ครั้งท่านั้น หากโจมตีออกไป 3 ครั้ง พลังลมปราณทั้งหมดจะหมดไปในทันที !!

ปลดปล่อยกระบวนท่าการโจมตีออกไปตามใจขอตนเอง แต่จุดตันเถียนของหยางไค่อุดมไปด้วยหยดน้ำพลังลมปราณหยางที่มากมาย ทำให้เขาไม่ต้องกังวลถึงปัญหานี้

และจากการใช้หยดน้ำพลังลมปราณหยางที่กักเก็บอยู่ในจุดตันเถียน ทำให้หยางไค่สามารถฝึกฝน หมัดเปลวเพลิงผลาญสุริยันได้อย่างต่อเนื่อง

หมัดเปลวเพลิงผลาญสุริยันเป็นเคล็ดวิชาแห่งการต่อสู้ในขั้นปฐพี เขาค่อนข้างงที่จะโชคดี ที่ได้รับเคล็ดวิชาแห่งการต่อสู้ที่ใช้หมัดในการโจมตี

หากเขาได้รับเคล็ดวิชแห่งการต่อสู้ที่เกี่ยวข้องกับดาบ กระบี่ กระบอง มันคงไร้ประโยชน์ต่อหยางไค่อย่างมาก เพราะร่างกายของเขาไร้ซึ่งอาวุธต่างๆ แม้ว่าจะได้รับเคล็ดวิชาที่เกี่ยวข้องกับอาวุธ เขาก็มิอาจที่จะทำอะไรต่อไปได้

หลังจากที่เก็บอารมณ์ที่ดีใจไว้อย่างมิดชิบ หยางไค่จึงมุ่งเน้นการฝึกฝนวิชา หมัดเปลวเพลิงผลาญสุริยันให้มันปลดปล่อยและระเบิดพลังทั้งหมออกจากหมัดของข้า เพื่อเพื่อความสามารถในการโจมตีของตนเอง

หนึ่งวันผ่านไป การฝึกฝนหมัดเปลวเพลิงเผาสุริยันสำเร็จในระดับหนึ่ง พวกเขาทั้ง 5 จึงรวมตัวกันอีกครั้ง

หย่งที่แสดงออกอย่างอาลัย คนอื่นๆที่เหลือต่างพึงพอใจกับเคล็ดวิชาที่ตนเองได้รับ ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงหยางไค่ แม้ว่าจะผ่านความลำบากมาหลายวัน ในที่สุดก็ได้รับเคล็ดวิชาแห่งการต่อสู้ในขั้นปฐพี และเขายังมีหินทารกสีทองอีกตัวหนึ่งด้วย

คนอื่นๆที่เหลือไม่กล่าวว่าตนเองได้รับเคล็ดวิชาแบบไหน แต่ดูจากการแสดงออกพวกเขาคงได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน

มีเพียงหน่ายหย่ง ที่สบทด่าพึมพำ เขาแสดงออกอย่างไม่พอใจ จากการกล่าวของเ เคล็ดวิชาที่เขาได้รับเป็นเคล็ดวิชาแห่งการต่อสู้ที่เกี่ยวข้องกับแส้ ซึ่งไร้ประโยชน์ต่อเขาอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นจึงเป็นสาเหตุที่เขาค่อนข้างไม่พอใจ

ตู่ยี่ฉางยืนอยู่ข้างหยางไค่นางหยี่ตายิ้มและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา : คนชั่วได้ผลตอบแทนแห่งความชั่ว !! สมควร !!

หยางไค่ยิ้มและพยักหน้า

หล่างฉู่วเต่ได้กล่าวคำพูดที่ปลอบโยนหน่ายหย่าง ทำให้ความซึมเศร้าและความโมโหของหน่ายหย่งลดลงไปไม่น้อย

พวกเขาทั้ง 5 เริ่มออกเดินทางอีกครั้ง ในระหว่างที่เดินทาง หล่างฉู่วเต่หันหน้ากลับมาหาหยางไค่และกล่าวอย่างกะทันหัน : หินพลังหยางที่เจ้าเก็บมาหลายวันก่อนล่ะ ?

ข้าทิ้งมันไป หยางไค่กล่าวตอบอย่างอ่อนโยน

โอ้ว ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา เมื่อหน่ายหย่งเห็นว่าหยางไค่นำหินพลังหยางเข้ามาโดยเปล่าประโยชน์ ทำให้ค่อนข้างที่จะสะใจ

หยางไค่ไม่สนใจเขา หน่ายหย่งจะทราบได้อย่างไร หินพลังหยางเหล่านั้นถูกดูดซับพลังจนกลายเป็นหยดน้ำพลงลมปราณหยางที่กักเก็บอยู่ในจุดตันเถียนของเขา

สถานที่แห่งไร้ซึ่งดวงตะวัน จันทรา ดาว และเมฆ ดังนั้นจึงไม่สามารถบอกเวลาที่ผ่านไป แต่หยางไค่คาดการณ์จากการเดินทางของตนเองว่าใช้เวลาในการเดินทางอยู่บริเวณเสาหินถึง 2 วัน จึงจะสามารถหลุดพ้นจากเสาหินที่วุ่นวายนั้นได้

ระหว่างทางพวกเขายังพบเจอกับซากศพของศิษย์สาวกทั้ง 3 สำนัก แต่พวกเขาไม่สามารถรับรู้ได้ว่าพวกเขาพบเจอกับอันตรายที่อยู่ในบริเวณเสาหินอย่างไร เพราะระหว่างที่เดินทางออกมาหยางไค่และคนอื่นๆต่างปลอดภัยโดยไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย

หลังจากที่เดินออกจากบริเวณเสาหิน พวกเขาทั้ง 5 ต่างถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก หลังจากที่พวกเขาเข้าสู่ถ้ำสวรรค์แห่งมรดกฟ้าสวรรค์ พวกเขาต่างอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนั้นตลอด นอจากจากหินและเสาหินพวกเขาต่างมองไม่เห็นสิ่งใดเลย ดังนั้นมันจึงทำให้พวกเขาค่อนข้างรู้สึกอึดอัดและหวาดกลัว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด