ตอนที่แล้วตอนที่ 119 กลับสำนัก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 121 ศิษย์สำนักเดียวกัน

ตอนที่ 120 ความเกรี้ยวโกรธของเม้งวู่หยา


ตอนที่ 120 ความเกรี้ยวโกรธของเม้งวู่หยา

หากเจ้าชอบเขา เจ้าก็ต้องพยายามหาทางใกล้ชิดกับเขาสิ บุตรีของข้างดงามเช่นนี้ หรือว่าบุตรีของข้าไม่อยู่สายตาของเขา ? หู่หมั่นกล่าวยกย่อง : ใช่ ๆ เขาต้องมีภรรริยาแล้วอย่างแน่นอน แม้จะเป็นเช่นนี้แล้วจะเสียหายอะไร การที่ชายหนุ่มีมีภรริยานางสนมมากมาย มันก็เป็นเพียงเรื่องธรรมดาทั่วไป

หู่หมั่นบิดตัว จ้องมองหู่หมั่น : เป็นเพราะท่าน ทำให้ข้าทำผิดต่อคำร้องขอของเขา ข้าจะมีหน้าไปพบกับเขาอีกได้อย่างไร ? ฮึ่ !

เมื่อหู่หมั่นได้ยินคำกล่าวนี้ เขาหัวเราะอย่างข่มขื่นใจ เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าคำกล่าวของบุตีรจะเป็นความจริง ? หากเขารู้ว่ามันเป็นความจริง เขาไม่มีทางที่จะเปิดเผยความลับนี้ให้แก่คนอื่นๆอย่างแน่อน

ในเวลานี้ หู่หมั่นเข้าใจหยางไค่ผิดไปอย่างมหันต์ หากเขาทราบว่ายอดฝีมือที่เขาเคารพนับถือเป็นศิษย์ฝึกหัดที่อยู่ในหอประลองยุทธุ์หลิงเซี่ยว เขาคงกีดกรานหู่เหม่ยเอ่อในทันที และไม่ปล่อยให้หู่เหม่ยเอ่อไปใกล้ชิดกับคนประเภทนั้นอย่างแน่นอน

เมื่อไตร่ตรองความคิดอื่นๆจนเสร็จสิ้น หู่หมั่นถอนหายใจอย่างอาลัย เรื่องที่เกิดขึ้นช่างวุ่นวายยิ่งนัก มันทำให้จิตใจของเขาอ่อนล้าเหลือเกิน หลายวันที่ผ่านมาบุตรีของเขาปิดกั้นตนเองตั้งใจบ่มเพาะพลังและฝึกฝนวิชายุทธุ์อย่างแข็งขัน มันไม่เหมือนหู่เหม่ยเอ่อคนเดิมที่ชอบออกไปสร้างปัญหาให้แก่เขา ทำให้พลังความแข็งแกร่งของนางเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่หากนางไม่ไปหาไม่ไปใกล้ชิดยอดฝีมือท่านนั้น แล้วนางจะมีโอกาสแต่งงานกับเขาได้อย่างไร ?

ในอีกด้านหนึ่ง ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขายังกล่าวประจบประจางยกยอปอปั้น แต่หู่หมั่นที่ได้ยินกับไม่มีความรู้สึกใดๆทั้งสิ้น

ในขณะที่กำลังจะลุกเดินออกไป หู่หมั่นหยุดการกระทำของเขาอย่างกะทันหัน เขาเงยหน้ามองไปยังประตูด้านนอก ทันใดนั้นใบหน้าของเขาแสดงออกด้วยความสงสัย

ในเวลาต่อมา บรรดาผู้นำต่างปิดปากของตนเอง และค่อยหันหน้าออกไปมอง

กลิ่นอายพลังที่แข็งแกร่งไร้ซึ่งรูปร่าง เสมือนพลังแห่งบรรพกาลที่บ่มเพาะมาเนินนานกำลังกดทับลงมา และกดทับไปยังจิตใจของทุกคนอย่างหนักหน่วง

มียอดฝีมือมาเยือนนิกายโลหิต !! คนที่อยู่ภายในหอชุมุนมนิกายโลหิตต่างสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของคนที่มาเยือน

ทันใดนั้น มีสุ้มเสียงที่ค่อนข้างชราแต่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่งดังแว่วอยู่ข้างหูของทุกคน : หล่งไจ้เทียนอยู๋ที่ไหน ?

สุ้มเสียงนี้ค่อนข้างเรียบเฉย โดยไม่สามารถรับรู้ได้ว่ามันเป็นสุ้มเสียงแห่งความชื่นชอบ ความเกรี้ยวโกรธ หรือความเสียใจ แต่ทุกคนที่อยู่ในหอชุมนุมนิกายโลหิตที่ได้ยินล้วนรู้สึกสั่นสะท้านจากสุ้มเสียงของยอดฝีมือนี้ และรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเจตนาของผู้ที่มาเยือนไม่ใช่เจตานาดีอย่างแน่นอน

ตามหารองประมุขหล่ง ? พวกเขาต่างจ้องมองซึ่งกันและกันด้วยความแปลกใจทันใดนั้นข้อสงสัยต่างๆ ค่อยๆ ก่อกำเนิดขึ้นในห้วงความคิดของพวกเขา

ตามข้าออกไปข้างนอกว่าเกิดอะไรขึ้น หู่หมั่นลุกขึ้นและเดินก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ด้านหลังของเขาติดตามโดยผู้นำต่างๆ แห่งนิกายโลหิต

เมื่อมาถึงด้านนอกหอชุมนุม พวกเขาทั้งหมดต่างมองเห็นชายชราที่ลอยตัวอยู่กลางเวลาโดยไม่เคลื่อนไหวแม้แต่น้อย ชายชราที่ลอยอยู่กลางเวหามีผมและหนวดเคราสีขาว การแสดงออกเขานิ่งดุจสายน้ำ ดวงตาของเขากวาดมองไปทั่วบริเวณเสมือนอินทรียักษ์ที่จ้องมองเหยื่ออันโอชะของตนเอง มันเต็มไปด้วยความเกลียดชัดความเย่อหยิ่งและความบ้าคลั่ง

เมื่อถูกดวงตาคู่นี้จ้องมอง กลุ่มคนแห่งนิกายโลหิตต่างรู้สึกสั่นสะท้านด้วยความหวดกลัวในทันที

เขตแดนเทพสวรรค์ขั้นสูงสุด !! หู่หมั่นกล่าวตะโกน ใบหน้าที่หยาบกร้านบิดเบี้ยวด้วยความตื่นตะลึง

เขตแดนเทพสวรรค์ขั้นสูงสุด ? บางคนตื่นตะลึงจนตัวแข็งทื่อ : หรือว่าเขาจะเป็นประมุขแห่งหอประลองยุทธุ์หลิ่งเซี่ยว

ในบริเวณรัศมีหลายพันลี้แห่งนี้ มียอดฝีมือที่อยุ่ในเขตแดนเทพสวรรค์จำนวนหนึ่ง แต่บุคคลที่ฝึกฝนวิชายุทธุจนอยู่ในเขตแดนเทพสวรรค์ขั้นสูงสุด มีเพียงประมุขแห่งหอประลองยุทธุ์หลิงเซี่ยวที่ไม่เคยปรากฏตัวในที่สาธารณชนมานานหลายสิบปี

ผู้ที่มาเยือนมีอายุใกล้เคียงกับประมุขแห่งหอประลองยุทุ์หลิงเซี่ยว ไม่แปลกใจเลยที่บุคคลอื่นๆจะเข้าใจผิดว่าเขาเป็นประมุขแห่งหอประลองยุทธุ์หลิงเซี่ยว

ไม่ใช่เขา หู่หมั่นส่ายหัวอย่างช้าๆ ในตอนที่เขายังเด็กเขาเคยเห็นประมุขแห่งหอประลองยุทธุ์หลิงเซี่ยว ดังนั้นเขาจึงจำรูปลักษณ์ใบหน้าของเขาได้อย่างชัดเจน ซึ่งต่างจากชายชราที่อยู่ตรงหน้าอย่างสิ้นเชิง

นอกจากนั้น..............แม้ว่าประมุขแห่งหอประลองยุทธ์หลิงเซี่ยวอยู่ในเขตแดนเทพสวรรค์ขั้งสูงสุด แต่กลิ่นอายรัศมีพลังที่กดทับที่นำพามาให้แก่หู่หมั่น ไม่ต่างจากบรรทัดฐานของเขตแดนเทพสวรรค์สักเท่าไหร่

ในตอนนี้หู่หมั่นอยู่ในเขตแดนเทพสวรรค์ขั้นที่ 7 แม้ว่าจะเป็นประมุขแห่งหอประลองยุทธุ์หลิงเซี่ยวมาเยือนด้วยตนเอง มันก็ไม่ได้สร้างความกดดันให้แก่เขามากเท่าไหร่

แต่มันแตกต่างกับชายชราที่อยู่ตรงหน้า หู่หมั่นจ้องมองเขามือนกำลังจ้องมองเทือกเขาขนาดมหึมาที่ไม่สามารถปีนป่ายขึ้นไปจุดสูงสุด เสมือนแม่น้ำที่ไม่สามารถก้าวข้ามไปได้ แม้ว่าใช้พลังจิตวิญญาณทั้งหมดของชีวิตจนหมดสิ้น ก็ทำได้เพียงจ้องมองเขาเท่านั้น

ความรู้สึกที่ได้รับค่อนข้างแปลกประหลาด แต่หู่หมั่นเชื่อมั่นในสัญชาตญานของตนเองมาตลอด

อย่าริเป็นศัตรูกับชายชราคนนี้ และห้ามเป็นศัตรกับเขาโดยเด็ดขาด !!

ยอดฝีมือมากจากที่ไหน ? ใบหน้าของหู่หมั่นเคร่งขรึม เขาก้าวไปด้านหน้า ยกมือคำนับและกล่าว : ไม่ทราบว่านามของยอดฝีมือท่านนี้คือ ?

คนที่มาเยือนคือเม้งวู่หยา เม้งวู่หยาระงับความเกรี้ยวโกรธมาเป็นเวลานาน เดิมทีทันทีที่เขากลับมาถึงหอประลองยุทธุ์หลิงเซี่ยวเขาต้องการที่จะเดินทางไปหาหล่งไจ้เทียน แต่เพราะเขากลัวว่าศิษย์รักของเขาจะแอบไปหาหยางไค่ ดังนั้นเขาจึงเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของนางเป็นเวลา 2 วัน เมื่อมั่นใจว่านางปิดกั้นตนเองและตั้งใจบ่มเพาะพลังฝึกฝนวิชายุทธุ์ เขาจึงรีบเดินทางมายังนิกายโลหิตในทันที

เจ้าคือหล่งไจ้เทียนหรือเปล่า ? เม้งวู่หยาหรี่ตากล่าวถาม ดวงตาที่เสมือนอินทรีจ้องมองไปยังหู่หมั่น

พลังลมปราณของหู่หมั่นไหลเวียนอย่างไม่ตั้งใจ เสมือนว่ากำลังตกอยู๋ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย แต่เขายังสามารถรักษาความสงบไว้เหมือนเดิม การแสดงออกการกระทำของเขาอย่างเหมือนดิม ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นประมุขที่ปกครองคนจำนวนมากมาย หากใจไม่มีความแข็งแกร่ง และหวาดกลัวต่อคำกล่าวของฝ่ายตรงข้าม มันจะสมกับเขาที่เป็นประมุขแห่งนิกายโลหิตได้อย่างไร ?

ข้า หู่หมั่นประมุขแห่งนิกายโลหิต ไม่ทราบว่าท่านผู้อาวุโส................

หู่หมั่นยังกล่าวไม่จบ แต่ถูกเม้งวู๋หยาขัดขึ้นในทันที สุ้มเสียงของเขาเต็มไปด้วยความรำคาญ : ไม่ใช่หล่งไจ้เทียน แล้วจะกล่าวแทรกขึ้นมาทำไม ?

หู่หมั่นรู้สึกข่มขื่นอย่างมาก แต่เขาฉลาดพอที่จะไม่แสดงออก ขณะที่กำลังจะกล่าวอธิบาย เม้งวู่หยางได้กล่าวตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง

หล่งไจ้เทียน ไอ่สุนัขขี้ขลาด ข้าข้อสาปแช่งตระกูลของเจ้า 18 ชั่วโครต รีบออกมาพบข้าเดี่ยวนี้ !!

เสียงตะโกนคำรามนี้ มันสะเทือนเทพที่อยู่บนสวรรค์สะเทือนวิญญาณที่อยู่ใต้พื้นโลก เสียงคำรามแผ่ทะลุไปยังเมฆที่อยู่บนฟ้า สะเทือนพื้นดินที่อยู่ด้านล่าง นิกายโลหิต แม้แต่หอวายุพิรุณและกลุ่มคนแห่งหอประลองยุทธุ์หลิงเซี่ยว ต่างได้ยินอย่างชัดเจน

เมื่อเสียงตะโกนคำรามปลดปล่อยออกไป กลุ่มคนแห่งนิกายต่างตกอยู่ในความเงียบ

ยอดฝีมือแห่งเขตแดนแห่งเทพสวรรค์ และลมปราณแท้จริงต่างจ้องมองเม้งวู่หยาด้วยสายตาที่โง่เขลา พวกเขาตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นจนดวงตาของพวกเขาเบิกโพลง อ้าปากค้างอย่างน่าเกลียด

พวกเขาไม่คาดคิดว่า ยอดฝีมือที่สง่างามเช่นนี้ เพียงอ้าปากก็กล่าวสาปแช่งและตะโกนด่า นอกจากนั้นคำกล่าด่ายังหยางคาบและดุดันอย่างมาก

การกระทำของเจ้า ? สถานะของเจ้า ? ยอดฝีมือที่สง่างามและมีศักดิ์ศรีคงไม่ทำเรื่องที่ทำลายตนเองในที่สาธารณาชนอย่างแน่นอน

แต่มันเป็นความโกรธแค้นที่ยิ่งใหญ่เพียงใด จึงทำให้เขาทำลายศักดิศีรของตนเอง ? หล่งไจ้เทียนไปสร้างความโกรธเคืองเขาอย่างไร ทำไมถึงทำให้เขาเกรี้ยวโกรธถึงเพียงนี้ ?

แต่ เสียงตะโกนของเม้งวู่หยา ทำให้กลุ่มคนของนิกายโลหิตรับรู้อยางชัดเจนว่าคนที่มาเยือนมีเจตนาไม่ได้อย่างแน่นอน

ใบหน้าของหู่หมั่นยังคงนิ่งสงบ : ผู้อาวุโสท่านนี้ ...............มีเรื่องอะไรค่อยๆพูดๆค่อยๆจาจะดีกว่าไหม ?

แม้ว่าคนที่มาเยือนจะมีพลังความแข็งแกร่งในระดับสูง หู่หมั่นไม่ต้องการที่จะเป็นศัตรูกับเขา แต่หล่งไจ้เทียนก็เป็นรองประมุขแห่งนิกายโลหิต การพุ่งโจมตีมาเช่นนี้ หู่หมั่นก็ได้รับผลกระทบอย่างไม่น้อย

ไม่ !! เรียกหล่งไจ้เทียนออกมาเดี่ยวนี้ หากวันนั้นเขาไม่ออกมาให้ข้าตัดศีรษะกลายเป็นหม้อต้มชาให้ข้า ข้าจะทำลายนิกายโลหิตของพวกเจ้าซะ !! เม้งวู่หยาเกรี้ยวโกรธจนตัวสั่น เขาค่อยๆ เดินมาหาผู้ที่กระทำผิดต่อเขา แต่ยังหาตัวคนที่เขาต้องการไม่เจอ ดังนั้นความเกรี้ยวโกรธของเขาจึงเพิ่มมากขึ้น

ประมุขแห่งนิกายโลหิต ไม่อยู่ในสายตาของเขาแม้แต่น้อย

ใบหน้าของหู่หมั่นเริ่มแสดงออกมาด้วยความโกรธ เดิมทีเขาเป็นคจที่มีอารมณ์รุนแรงอย่างมาก หากไม่เป็นเพราะพลังความแข็งแกร่งของเม้งวู่หยา เขาจะกล่าวถ้อยคำที่ไพเราะและเคารพเช่นนี้ได้อย่างไร ?

แต่เม้งวู่หยาทำลายศักดิ์ศรีของเขาไม่ไว้หน้าเขาแม้แต่น้อย ดังนั้นหู่หมั่นจึงเริ่มโกรธเคืองอย่างรุนแรง

ฮึฮึ ทำไมหล่งไจ้เทียนจึงเป็นเต่าที่หอหัวอยู่ในกระดอง ไม่กล้าออกมาพบข้าหรือไง? เม้งวู่หยากวาดสายตามองไปทั่วและกล่าวเยาะเย้ยด้วยความดูถูก

ครั้งนี้ เป็นชายหนุ่มที่เดินออกมาด้วยใบหน้าที่เย็นชา : ผู้อาวุโสท่านนี้ คำพูดคำจาควรจะมีมารยาทมากกว่านี้ ท่านปู่ของข้ามีความแค้นอย่างไรกับท่าน ท่านนถึงกล่าวดูหมิ่นเขาเช่นนี้ ?

คนที่กำลังกล่าวพูดคือหล่งจ้วน !!

เมื่อมาถึงหอชุมนุมแห่งนิกายโลหิตเม้งวู่หยาตะโกนด่าตำหนิหล่งไจ้เทียนในทันที ด้วยคำที่หยาบคายไร้ความเกรงใจ หล่งจ้วนที่เป็นคนแห่งตระกูลหล่ง เขาจะทนต่อสิ่งที่น่าอัปยศนี้ได้อย่างไร ? กลุ่มคนที่ที่อยู่ในหอชุมนุมล้วนเป็นผู้นำแห่งนิกายโลหิต มียอดฝีมือจำนวนมากมาย เขาจึงต้องหาโอกาสในการลบล้างความอัปยศนี้ให้แก่ท่านปู่ของเขา

เขตแดนเทพสวรรค์ขั้นสูงสุดแล้วจะอย่างไร ? นิกายโลหิตมียอดฝีมือที่อยู่ในเขตแดนเทพสวรรค์เช่นเดียวกัน หากคนที่มาเยือนกล้าลงมือในนิกายโลหิต อย่างคิดหวังว่าจะมีชีวิตออกไปจากที่นี้ !!

ปู่ของเจ้า ? เม้งวู่หยาหรี่ตา จ้องมองไปที่หล่งจ้วน

คนที่ท่านผู้อาวุโสกำลังตามหา คือปู่ของข้า !! หล่งจ้วนกล่าวตอบด้วยเสียงที่เรียบเฉย

ดีดีดี !! เม้งวู่หยาหัวเราะ : มังกรจะให้กำเนิดมังกร หงสาจะให้กำเนิดหงสา หล่งฮุยไม่ใช่คนดีอะไร ดังนั้นพี่ชายของเขาก็เช่นกัน คงเป็นเพียงเศษสวะที่ไร้ค่า !!

ทำไมบทสนทนาจึงวนปาหล่งฮุ่ย ? กลุ่มคนแห่งนิกายโลหิตคิดว่าชายชราคนนี้คงมีสติที่เลอะเลือน เขาพูดสุ่มสี่สุ่มห้าชักไปหาคนนี้ชักไปหาคนนี้แล้วไม่รู้ว่าเป้าหมายของเขาคืออะไร

หล่งจ้วนกล่าด้วยความโกรธ : ตาเฒ่าอย่าเหิมเกริมให้มาก สถานที่แห่งนี้คือนิกายโลหิต มันไม่ใช่สถานที่เจ้าจะมาแสดงความป่าเถื่อนและความหยาบคายอย่างน่ารังเกียจ !!

ข้าเหิมเกริม ป่าเถื่อน หยาบคาย ? เมื่อเม้งวู่หยาได้ยินคำกล่าวนี้เสมือนเขาได้ยินเรื่องที่น่าตลกขบขันที่สุด เขาแสะยิ้มเล็กน้อย ใบหน้าเรียบเฉียและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น : ข้าจะเหิมเกริม ป่าเถื่อน หยาบคายเช่นนี้แล้วจะเป็นอย่างไร ?

ในขณะที่กล่าว เขาโบกมือออกไป

ถอย !! สีหน้าของหู่หมั่นเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน ในขณะที่หู่หมั่นกำลังจะดึงหล่งจ้วนให้มาอยู่ด้านหลังของตนเอง แต่ความเร็วของเม้งวู๋หยาเสมือนสายฟ้าที่รวดเร็วจนมิอาจต้านทาน ขณะที่มองเห็นเม้งวู่หยาโบกมือ เสียงตบหน้าหล่งจ้วนกลับดังก้องออกมาในทันที

ฟัน 2 ซี่ของหล่งจ้วนหลุดลอยพุ่งออกมา หล่งจ้วนม้วนตลบอยู่กลางอากาศหลายรอบ ก่อนที่จะร่วงหล่นลงไปที่พื้น

กลุ่มคนแห่งนิกายโลหิตหวาดกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น แม้แต่ร่างกายของหู่หมั่นยังเย็บเฉียบเสมือนผลึกน้ำแข็ง

พวกเขามองไม่เห็นว่าชายชราผู้นี้ลงมืออย่างไร พวกเขายืนห่างกันเกือบ 50 จ้าง 1 ฝ่ามือ ตบพุ่งลงไปก็พุ่งไปที่ใบหน้างหล่งจ้วน โดยไม่มีเวลาให้เขาต่อต้านเลยสักนิด

มันเป็นสิ่งที่ยอดฝีมือแห่งเขตแดนเทพสวรรค์สามารถทำได้ ? แม้จะอยู่ในเขตแดนเทพสวรรค์ขั้นสูงสุด ก็ไม่ควรกระทำให้กลุ่มคนที่อยู่ในเหตุการณ์หวาดกลัวถึงเพียงนี้ ?

หากชายชราแห่งหอประลองยุทธุ์หลิงเซี่ยวผู้นี้พุ่งฝ่ามือโจมตีเข้ามาอีก หู่หมั่นคิดว่าเขาจะสามารถรับมือกับการโจมตีนี้ได้ถึง 9 ส่วน

แต่อยู่ในเขตแดนเทพสวรรค์เช่นเดียวกัน ทำไมถึงมีช่องว่างระหว่างความแตกต่างที่มากมายเช่นนี้ ?

เมื่อหล่งจ้วนถูกตบหน้าด้วยฝ่ามือ เขาล้มลุกคลุกคลานอยู่บนพื้นก่อนที่จะค่อยๆคลายลุกขึ้นมาและงุนงนหมุนวนอยู่อย่างนั้นหลายรอบจึงจะหาตำแหน่งดั้งเดิมที่ถูกต้องของตนเองเจอ เขาเงยหน้ามองเม้งวู่หยาอีกครั้ง ใบหน้าของเขายังเต็มไปด้วยควาหวาดกลัว

แก้มขวาของเขาบวมเป่งขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บภายใน แต่มีคำกล่าโบราณเคยกล่าไว้ว่า อย่าแทรกแซงหากมีคนกล่าด่า การจะโจมตีห้ามโจมตีไปที่ใบหน้า แต่เขากลับถูกเม้งวู่ตบไปที่ใบหน้าอย่งรุนแรง ทำให้เขารู้สึกอับอายต่อกลุ่มคนแห่งนิกายโลหิตที่อยู่ในหอชุมนุมแห่งนี้

ข้าเหิมเกริม ป่าเถื่อน หยาบคาย เจ้าจะทำอะไรข้า ? เม้งวู่หยาค่อยลอยตัวลงมายังด้านล่างและยืนอยู่บนพื้นอย่างสง่า ก่อนจะโบกมือเพื่อพุ่งฝ่ามือตบไปที่ใบหน้าของหล่งจ้วนอีกครั้ง

ป๊าป .......... เฉกเช่นเดียวกับเมื่อสักครู๋ หล่งจ้วนลอยตัวหมุนตลบอีกครั้งง แม้แต่ยอดฝีมือแห่งนิกายโลหิตยังไม่มีเวลาที่จะตอบโต้ต่อการกระทำของเขา

เจ้ากล้าหยิ่งพยองกับข้า ไม่เจียมตัว !! เม้งวู่หยากล่าวสบทด่าอย่างต่อเนื่อง มือของเขาโบกไปมา ตบตีไปที่ใบหน้าของหล่งจ้วนจนใบหน้าของเขากลายเป็นสีเขียวคล้ำ

หู่หมั่นไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป เขากล่าวด้วยความโกรธ : ผู้อาวุโส ท่านเป็นยอดฝีมือเป็นผู้อาวุโสระดับสูง แต่ทำไมถึงลงมือกับเยาวชนรุ่นหลังเช่นนี้ ท่านไม่กลัวว่าคนอื่นจะหัวเราะเยาะท่านหรือไง ?

ฮึ !! หากว่าข้าลงมือจริง เขาจะยังมีชีวิตเช่นนี้ ? มันเป็นเพียงการสั่งสอนให้บทเรียนเล็กๆน้อยๆเท่านั้น เม้งวู่หยาหัวเราะอย่างเยือกเย็น และกล่าวด้วยความเย้ยหยัน : มาที่นี้เดี่ยวนี้ !!

เม้งวู่อ้าฝ่ามือ ทันใดนั้นหล่งจ้วนที่ทรุดลงไปที่พื้นยังไม่ทันที่เขาจะคลายลุกขึ้นกลับถูกพลังที่ยิ่งใหญ่ดูดร่างกายลอยออกไป ร่างกายของเขาลอยอยู่บนกลางอากาศ หล่งเจียนพยายามตะครุบตะเกียกตะกาย ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว และกล่าวตะโกนด้วยเสียงที่ดังลั่น : ประมุขช่วยข้าด้วย !!

ผู้อาวุโส !! หู่หมั่นก้าวไปข้างหน้าและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่รุนแรง

เม้งวู่หยาไม่สนใจหู่หมั่นแม้แต่น้อย มือของเขากำลังบีบไปที่คอของหล่งจ้วน ใบหน้าเคร่งขรึมและกล่าถามด้วยความจริงจัง : ยังดีที่เจ้ามีประมุขคอยคุ้มครอง ในวันนี้ข้ามาตามหาหล่งไจ้เทียน !! เด็กน้อย ในเมื่อเจ้าเป็นหลานชายของหล่งไจ้เทียน งั้นกล่าวบอกแก่ข้าสิ ว่าเขาอยู่ไหน ?

หลังจากที่หล่งจ้วนถูกตบหน้าไป 2 ครั้ง เขากล่าวเป็นกระต่ายน้อยที่เชื่อฟัง เขาไม่กล้าที่จะแสดงความหยิ่งยะโสออกมาอีก เขาอดทนต่อความเจ็บปวดบนใบหน้าและกล่าวด้วยเสียงที่สั่นเครือ : ท่านปู่ไม่ได้อยู่ในสำนัก !

"แล้วเขาอยู่ที่ไหน?"

"อยู่ในเหมืองแร่!"

"บอกทิศทางให้แก่ข้า !! "

ทางนี้ !! เมื่ออยู่ภายใต้ภัยคุกคามแห่งความเป็นความตาย หล่งจ้วนจะกล้ารอช้าได้อย่างไร ? เม้งวู่หยากล่าวถาม 1 คำ เขากล่าวตอบในทันที แม้ว่าใบหน้าจะบวมเป่ง แต่การมีขีวิตรอดต่อไปเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า

เงาร่างของเม้งว่หยาประกาย เขาออกไปจากนิกายโลหิต โดยนำพาร่างของหล่งจออกจากนิกายโลหิตไปยังเหมืองแร่ทันที

ประมุข !! กลุ่มคนเหล่านี้ต่างอ้าปากค้างและจ้องมองหู่หมั่นด้วยใบหน้าที่ตื่นตะลึง โดยรอการตัดสินใจของหู๋หมั่น

ตามไป หู่หมั่นกำลังเกรี้ยวโกรธถึงขีดสุด เขาไม่รู้ว่าหล่งไจ้เทียนสร้างความเคืองโกรธให้แก่ยอดฝีมือผู้นี้อย่างไร เพราะหล่งไจ้เทียนไม่ได้กล่าวรายงานต่อเขา

จิตใจของหู่หมั่นเต็มไปด้วยความโกรธ ประการแรกกเขาโกรธที่เม้งวู่หยาไม่มีเหตุผล รังแกผู้ที่อ่อนแอกว่า ประการที่ 2 หล่งไจ้เทียนมีดวงตาที่เก่งกล้า เขาสร้างความโกรธเคืองให้แก่ยอดฝีมือเช่นนี้ และยังจุดประกายความเดือดร้อนมาให้แก่นิกายโลหิตอีกด้วย

การกระทำเล็กๆน้อยของกลุ่มคนแห่งตระกูลหล่ง ไม่ใช่ว่าหู่หมั่นจะไม่รับรู้ แต่เพราะตระกูลหล่งเป็นมือซ้ายมือขวาที่คอยช่วยเหลือนิกายโลหิตมาโดยตลอด แม้ว่าหู่หมั่นต้องการจะทำลายเนื้อร้ายที่มีพิษก้อนนี้แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะลงมือสักครั้ง หากเขาลงมือกับกลุ่มคนแห่งตระกูลหล่ง นิกายโลหิตจะล่มสลายในทันที ความแข็งแกร่งพวกเขาจะลดลงอย่างมาก

หากไม่เป็นเพราะหู่หมั่นไร้ซึ่งบุตรชาย ในนิกายจะเกิดเรื่องที่น่าเวทนาเช่นนี้ได้อย่างไร ? หากเขามีบุตรชายเพียงแค่คนเดียว หู่หมั่นจะฟูมฟักสั่งสอนเลี้ยงดูเขาอย่างดี จะให้เขาต่อต้านเด็กหนุ่มแห่งตระกูลหล่าง และไม่ให้เกิดเรื่องที่น่าอับอายเช่นนี้ขึ้นอย่างแน่นอน

ครั้งนี้ หล่งไจ้เทียนาร้างความเดือดร้อนให้แก่ยอดฝีมือประเภทนี้ หู่หมั่นเริ่มมองเห็นร่องรอยแห่งโอกาส หากสามารถยืมอำนาจพลังจากยอดฝีมือผู้นี้ทำลายตระกูลหล่ง คงจะเป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่ง

ดังนั้นไมว่าจะเกิดอะไรขึ้น หู่หมั่นต้องไล่ตามไปว่าจะเกิดอะไรขึ้นในท้ายที่สุด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด