ตอนที่แล้วตอนที่ 168 หอกเปลวไฟ ฉีหลิน (FREE)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 170 ก่อนการทดสอบ (FREE)

ตอนที่ 169 ไม่สนใจ... (FREE)


ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิด ราชาต้วนก็เดินตามหลังองค์จักรพรรดิ หลิน มู่ไป่ ออกไปแล้ว เขารู้สึกว่าควรจะแบ่งเบาภาระของพ่อบ้าง

อย่างไรก็ตาม วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของ ปิง หยาง  การพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องราวทางการเมืองคงจะไม่ใช่เรื่องดีเท่าใดนัก

ราชาต้วนเข้าใจดี เขาจึงระงับความคิดต่างๆของเขาเอาไว้ แล้วเผยรอยยิ้มออกมาแทน

...

ไม่มีใครสนใจเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่าง ปิง หยาง กับ ฟาง เจิ้งจือ ในห้องนั้นอีกต่อไป งานเลี้ยงวันเกิดเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว

องค์ชาย หลิน เทียนหลง เดินไปเชิญ ฉือ กูเหยียน มาร่วมโต๊ะของพวกเขา อย่างไรก็ตาม ฉือ กูเหยียน ปฏิเสธอย่างสุภาพแล้วเลือกที่จะนั่งข้าง ฟาง เจิ้งจือ แทน

เมื่อเห็นเรื่องแบบนี้ องค์จักรพรรดิก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมา

เห็นได้ชัดว่าเขาทำได้เพียงอดกลั้นไว้เท่านั้น

องค์ชายไม่คิดอะไร เขากล่าวว่า "วันนี้เป็นวันเกิดของ ปิง หยาง เจ้าทั้งสองยังคงเป็นเหมือนตอนเด็กๆเสมอ " หลังจากนั้นเขาก็นั่งลงข้างๆองค์จักรพรรดิ

ฟาง เจิ้งจือ ได้ยินเรื่องนี้แล้วก็ตระหนักขึ้นว่า ทำไม ฉือ กูเหยียน ถึงตัดสินใจเข้าไปยังศาลาแห่งเต๋าเมื่อปีก่อน เรื่องจองชนชั้นสูงนั้นช่างวุ่นวาย

ต้องให้ความสำคัญแม้กระทั่งที่นั่งบนโต๊ะอาหาร

ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกว่าเขาไม่เหมาะกับการเป็นเจ้าหน้าที่ ตามจริงแล้วเขาก็ไม่ได้ต้องการเป็นเจ้าหน้าที่อยู่แล้ว เขาไม่ได้กลัวที่ต้องพบปะกับใครๆ แต่เขารู้สึกว่ามันช่างไร้สาระ

ถ้าเขาต้องเลือก ...

แน่นอนว่าเขาจะเลือกจุดยืนที่สบายๆในการใช้ชีวิต

"มา เนื่องในวันเกิดของ ปิง หยาง จงยกแก้วขึ้นเพื่อลูกของข้า !" ภายใต้คำพูดขององค์จักรพรรดิ เหล่าขุนนางต่างยกแก้วของพวกเขาขึ้นเพื่อร่วมเฉลิมฉลอง

 

จากนั้นพวกเขาต่างก็เริ่มแสดงถึงความสามารถของพวกเขาต่อหน้าองค์จักรพรรดิ

พื้นฐานของอาณาจักรเซี่ยก็คือ "กฎแห่งเต๋า" การควบคุมเต๋าแห่งการสรรค์สร้างได้นั้นเป็นการแสดงถึงความเก่งกาจของแต่ละบุคคล

ขุนนางบางคนก็เริ่มร่ายกวีต่างๆของพวกเขาออกมา

ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้สนใจอะไรมาก เขาคิดว่าการร่ายบทกวีนั้นไม่ใช่สิ่งจำเป็นในการใช้ชีวิตเอาเสียเลย โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนบทกวีต่างๆ เขาคิดว่าถ้าเขาเอาบทกวีคลาสสิกออกมาบ้าง ทุกคนคงตกใจจนล้มทั้งยืน

ดังนั้นความสนใจจึงอยู่แต่กับ ฉือ กูเหยียน

วันนี้ ฉือ กูเหยียน งดงามมากกว่าวันอื่นๆ ผิวขาวนวลของนางราวกับหยกที่เปล่งประกายและมีกลิ่นที่หอมอบอวลไปทั่ว

อย่างไรก็ตาม ...

นั่นไม่ใช่สิ่งที่ดึงดูดใจของเขา

ฟาง เจิ้งจือ จดจ้องไปที่มือของนาง มือที่เพรียวบางของนางถือแก้วเหล้าที่ทำจากเงินแท้

ฉือ กูเหยียน กำลังดื่มเหล้า

ยิ่งไปกว่านั้น นางค่อยๆดื่มเข้าไปจนหมดแก้ว

ริมฝีปากของ ฟาง เจิ้งจือ เริ่มแปรเปลี่ยน

เขาไม่เคยเห็น ฉือ กูเหยียน ดื่มมาก่อน อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้เห็นนางดื่มในงานเฉลิมฉลองกองตรวจการก่อนหน้านี้เลย

มันไม่สำคัญ เขาตัดสินใจจะนั่งดูนางดื่มเข้าไปเรื่อยๆจนแก้มนางเริ่มแดงก่ำ

เมื่อถึงตอนนั้นต่อหน้าแขกมากมาย ฉือ กูเหยียน คงจะลำบากเป็นแน่

แม้ว่ามันจะน่าเกลียด เขาก็สามารถทนเช็ดอ้วกของนางต่อหน้าองค์จักรพรรดิ องค์ชาย ราชาต้วน รวมทั้งแขกคนอื่นๆได้

เขารู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อคิดถึงเรื่องนี้

ดังนั้นเขาจึงรออย่างตั้งใจ...

ตอนนี้ ฉือ กูเหยียน ดื่มเข้าไปกว่า 20 แก้วแล้ว แต่ ฟาง เจิ้งจือ ยังไม่เห็นท่าทีว่านางจะมึนเมาเลยแม้แต่นิดเดียว

ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกผิดหวัง

ยัยคนนี้ตั้งใจจะดื่มจนหมดคนเดียวเลยรึ? คนอื่นคงไม่มีโอกาสจะได้ดื่มเป็นแน่

ฉือ กูเหยียน ตระหนักถึงท่าทีแปลกๆของ ฟาง เจิ้งจือ  แววตาของนางส่องสว่างขึ้น

"อยากจะแข่งกับข้ารึ?"

"ข้าไม่ดื่ม!" ฟาง เจิ้งจือ ปฏิเสธอย่างใจเย็นแล้วดันแก้วของเขาออกไปไกล จากนั้นเขาก็เริ่มรินชา

เขาจำได้ว่ามันเป็นเรื่องทั่วไป บนโต๊ะอาหาร ไม่ควรดื่มเหล้ากับหญิงสาว

โดยเฉพาะหญิงสาวที่ดื่มได้นั้น เพราะมีเรื่องเล่ากันว่าพวกนางนั้นดื่มได้อย่างไม่หยุดหย่อน

จากนั้น ฟาง เจิ้งจือ ก็นึกถึงสถานะของ ฉือ กูเหยียน ในกองตรวจการศักดิ์แห่งทะเลทรายเหนือ

สายเลือดจากตระกูลชั้นสูงเลือดสีเหล็ก

ใช่แล้ว

ฟาง เจิ้งจือ คิดว่าเขาคงยังไร้เดียงสาจนเกินไป ฉือ กูเหยียน นางคงจะดื่มอยู่เป็นประจำแน่นอนนางคงจะไม่เมาง่ายๆ

เจ้าหน้าที่และขุนนางที่นั่งอยู่ข้าง ฟาง เจิ้งจือ ทั้งสอง ได้ยินคำพูดของ ฟาง เจิ้งจือ และเบิกตากว้างขึ้น ตั้งแต่งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ฟาง เจิ้งจือ ยังดื่มไม่หยุด ช่างน่าขันนักที่อ้างว่าไม่ดื่ม?

ใครจะเชื่อกัน?

ฉือ กูเหยียน พูดขึ้นว่า "อืม ไม่ดื่มก็อาจจะเป็นเรื่องดี"

ใบหน้าของทั้งสองแข็งค้างราวกับโดนตบอย่างจัง ฉือ กูเหยียน นางเชื่องั้นรึ?

ราชาต้วนเห็นเรื่องนี้

ตั้งแต่เขาเริ่มสังเตุการกระทำของ ฟาง เจิ้งจือ  โดยเฉพาะตอนที่เหล่าขุนนางร่ายบทกวีและแลกเปลี่ยนบทกวีนั้น สายตาของเขาจ้อง ฟาง เจิ้งจือ อย่างไม่คลาดสายตา

อย่างไรก็ตาม ฟาง เจิ้งจือ ดูสงบนิ่งจนเกินไป ราวกับว่าเขาไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างเลย

"เขาต้องมีจุดอ่อนบ้างสิ!" ดวงตาของราชาต้วนจ้องเขม็ง

เขาคิดถึงแต่การทดสอบระดับจักรพรรดิที่กำลังจะมาถึงอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้พูดคุยกับ ฮัน ฉางเฟิง เขาก็ได้รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นที่เมืองแม่น้ำแห่งความสัตย์

ผลลัพธ์ของ ฟาง เจิ้งจือ นั้นช่างออกมาเป็นที่น่าพอใจ

เขาสามารถจดจำกฎแห่งเต๋าแล้วทำข้อสอบออกมาได้อย่างไม่มีผิดแม้แต่นิดเดียว

  

ในเรื่องนี้แม้แต่ ฮัน ฉางเฟิง ยังต้องยอมรับ การกำจัด ฟาง เจิ้งจือ ออกให้ออกจากการทดสอบนั้นมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

อย่างไรก็ตามมันเสี่ยงมาก ฮัน ฉางเฟิง ไม่ยอมรับเรื่องความเสี่ยงนี้แน่

ดังนั้น…

ทางที่ดีที่สุดคือตั้งคำถาม หาสิ่งที่เป็นจุดอ่อนของ ฟาง เจิ้งจือ ให้เจอแล้วมุ่งไปที่เรื่องนั้น

ด้วยวิธีนี้น่าจะเป็นหนทางที่เป็นไปได้ที่สุด

"ชาวภูเขา...โดยทั่วไปแล้วเขาคงไม่เคยได้ท่องกวีหรือเรียนรู้มันมากเท่าไรนักใช่ไหม!?"  ราชาต้วนคิดหนักเรื่องนี้มาก

ตอนนั้นเอง คนที่สวมชุดผ้าไหมสีเขียวที่ดูแล้วน่าจะมากจากตะกูลชั้นสูงก็เดินเขาไปหา ฟาง เจิ้งจือ

"ข้าได้ยินมาว่านายน้อยฟางได้เป็นผู้ชนะของการแข่งทั้งสองในการทดสอบระดับเมืองหลวง วันนี้ข้ามาเพื่อเรียนรู้จากท่าน! "

พวกคนจากตระกูลชั้นสูงเห็นเช่นนี้ ก็พร้อมที่จะหัวเราะเยาะ ฟาง เจิ้งจือ กันอย่างทั่วหน้า

ฟาง เจิ้งจือ กำลังให้ความสนใจกับจำนวนแก้วที่ ฉือ กูเหยียน ดื่มเข้าไป  เขาไม่ได้สนใจที่จะแลกเปลี่ยนความเห็นกับขุนนางคนนี้เลยแม้แต่น้อย

เขาเพียงแค่โบกมือไล่และพูดออกมา

"ข้าคิดเงินนะ!"

น้ำเสียงที่ราวกับผู้อาวุโสที่มีความประสงค์ร้าย

ใบหน้าของขุนนางในชุดคลุมสีเขียวหยกเริ่มเปลี่ยนไป ในตอนแรก เขามาที่นี่เพื่อที่จะหลอกใช้ ฟาง เจิ้งจือ  เขาไม่มีทางยอมง่ายๆแน่นอน

เมื่อเขากำลังจะพยายามอีกครั้ง เสียงเสียงหนึ่งก็ดังออกมาจากที่นั่งใกล้ๆ

"ข้าได้ยินว่า นายน้อยคนที่สองของตระกูลเทียน เทียน มู่ยู่ ได้รับฉายาว่า 'ฝีมือแห่งกวีเอก'  ตอนนี้ข้าได้ยินมาว่านายน้อยมู่ยู่สามารถร่ายกวีที่สละสลวยได้เพียงแค่เปิดปาก จะรังเกียจไหมถ้าให้ข้าได้แข่งกับท่านเสียหน่อย? "

เทียน มู่ยู่ หันมาและพบว่าเขาคือราชาต้วน

ผู้คนที่กำลังจ้องมองต่างมีท่าทีที่เปลี่ยนไปในทันที

ร่ายกวีกับราชาต้วน?

ใครจะกล้าแข่งให้ชนะกัน?

เทียน มูยู่ แน่นอนว่าเขาไม่กล้า แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ได้

"หากท่านประสงค์เช่นนั้น ข้าก็ยินดี!"

เหตุการณ์ดังกล่าวดึงดูดความสนใจของคนทั้งงาน

หัวใจของเหล่าเจ้าหน้าที่และชนชั้นสูงต่างเต้นรัว

เห็นได้ชัดว่าราชาต้วนช่วย ฟาง เจิ้งจือ เอาไว้จากความอับอาย หรือก็คือเขาจงใจเข้าไปช่วย ฟาง เจิ้งจือ

เขาทำอย่างนี้ไปเพื่ออะไร?

ไม่มีใครเข้าใจเลย

หรือว่าเขาอยู่ใต้บัญชาของราชาต้วน? หรือราชาต้วนมีเจตนาร้าย แต่ที่ทำไปเพื่อปิดบังเรื่องจริงภายในใจเอาไว้?

บางคนถึงกับคิดไปว่า ราชาต้วนจะใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ระหว่าง ฟาง เจิ้งจือ และ ฉือ กูเหยียน เพื่อดึงนางให้เข้าข้างเขา

องค์จักรพรรดิก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับเรื่องนี้

อย่างไรก็ตามแววตาขององค์ชายเปล่งประกายด้วยความอยากรู้

...

สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี่ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับ เทียน มู่ยู่ เลยแม้แต่น้อย

หลังจากชนะ ราชาต้วนรีบกลับไปนั่งที่ของเขา

"แป๊ะ!" เสียงตบบนใบหน้าของ เทียน มู่ยู่ ดังก้อง

มือที่มาตบใบหน้าของเขาเป็นมือของเจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่ดูอ่อนแอ "ทุกๆวันข้าเตือนเจ้าแล้วว่าให้หมั่นฝึกฝน แต่เจ้ากลับเอาแต่สร้างความวุ่นวายข้างนอก เจ้าอยากเป็นตัวตลกงั้นรึ? "

เห็นได้ชัดเลยว่าวิธีการดุด่า เทียน มู่ยู่ นี้เป็นวิธีที่ทำเพื่อตัวเขาเอง

เทียน มู่ยู่ คุกเข่าลงทันทีและสาบานตนว่าจะปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น

การแสดงของทั้งสองคนนั้นดูไม่เลว หลังจากตบหน้า ก็หันไปกล่าวเยินยอราชาต้วน

ราชาต้วนโบกมือให้เขาและไม่พูดอะไรมาก เขากลับไปดื่มเหล้าและอาหารของเช่นเดิม

ปกป้อง ฟาง เจิ้งจือ ?

ไม่มีทางแน่นอน อย่างไรก็ตาม เขาวางแผนอย่างรอบคอบ เขาไม่ต้องการให้จุดอ่อนของ ฟาง เจิ้งจือ เป็นที่เปิดเผยเร็วเกินไป

นอกจากนี้ยังมีเวลาอีก 2-3 วันก่อนการทดสอบ ถึงแม่ว่าจะไม่มากนัก แต่เขาก็ไม่ต้องการให้ ฟาง เจิ้งจือ รู้ถึงจุดอ่อนของตัวเอง

ใครจะรู้ถ้า ฟาง เจิ้งจือ ไปฝึกฝนเพิ่มเติมหรือเรียนรู้เทคนิกอะไรมา

ราชาต้วนยังคงไม่ลืม ว่า ฟาง เจิ้งจือ นั้นมี เหยียน ซิว เป็นเพื่อนอยู่

เพื่อที่จะจัดการใครบางคน ราชาต้วนต้องหักห้ามตัวเองไว้

...

เมื่องานเลี้ยงจบลง ราชาต้วนพร้อมทั้งองค์จักรพรรดิก็ได้จากไปในทันที

ฟาง เจิ้งจือ เห็น ปิง หยาง ขยิบตาให้ เขารู้ว่าถ้าไม่รีบไปตอนนี้อาจจะมีเรื่องร้ายตามมาอีก

ฟาง เจิ้งจือ จึงรีบพุ่งออกจากงานไปด้วยความเร็วเหนือเสียงทันที

ฉากที่เหนทำให้เจ้าหน้าและชนชั้นสูงต่างๆรู้สึกแปลกใจและสับสน

โดยเฉพาะ ฮัน ฉางเฟิง ดวงตาของเขาจ้องเขม็งไปยังแผ่นหลังของ ฟาง เจิ้งจือ ที่วิ่งออกไป

...

8 วันต่อมา การทดสอบระดับจักรพรรดิก็เริ่มขึ้น

เพจหลัก : Double gate TH

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด