ตอนที่ 307 สายฟ้าสีม่วงอมทอง

ทันทีที่ไคลี่เข้าร่วม การต่อสู้ก็ทวีความรุนแรงขึ้น

3มอนสเตอร์กลายพันธ์สองครั้งระดับเพลิงขาวได้ห้ำหันกัน ส่งผลให้เมฆในอากาศสลายหายไป เหลือเพียงพลังงานที่เขย่าแผ่นฟ้าและพื้นดิน

การปะทะกันอย่างรุนแรงก่อให้เกิดแรงลมที่คล้ายกับระลอกน้ำ กระจายไปไกลและกว้าง บดขยี้หินบนพื้นราวกับกระสุนและคลื่นแม้กระทั่งปรากฏบนทะเลลาวา

เมื่อเห็นทั้งสามกำลังต่อสู้กันบนท้องฟ้า หลิน ฮวกง็กล่าว“ผู้หลุดพ้นไม่อาจเทียบกับพวกมันได้เลย แม้ว่ามันจะเป็นเพียงระดับเพลิงสวรรค์ แต่พลังทำลายล้างของมันก็เหนือกว่ามนุษย์ธรรมดามาก!”

ก่อนจะเป็นผู้หลุดพ้น พลังชีวิตจะไม่อาจแยกออกจากร่างกายคนได้ นอกจากมอนสเตอร์บางตัวที่มีทักษะพิเศษซึ่งทำให้พลังชีวิตแยกออกจากร่างกายได้แล้ว มอนสเตอร์ส่วนใหญ่ก็เหมือนกับมนุษย์และพวกมันจะเลือกใช้การโจมตีระยะไกลเป็นกลยุทธ์หลัก

อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาเลื่อนเป็นระดับเพลิงสวรรค์ คุณภาพพลังชีวิตจะเปลี่ยนไป พลังชีวิตจะสามารถแยกออกจากร่างกายได้และนี่ทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างสไตล์การต่อสู้ของมอนสเตอร์และมนุษย์

เรื่องเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับหลิน ฮวงที่ไม่เขาเข้าร่วมการต่อสู้ของ3มอนสเตอร์หลุดพ้นได้ หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เขาไม่อาจร่วมสู้ได้ก็เพราะเขาไม่อาจบินได้และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือพลังชีวิตที่ไม่อาจแยกออกจากร่างกายได้

แม้ความเร็วและพลังป้องกันเขาจะเทียบได้กับ3มอนสเตอร์หลุดพ้น แต่เขาก็ยังไม่อาจเข้าใกล้พวกมันได้ การตอบสนองของฟีนิกส์เพลิงสามารถกดดันให้หลิน ฮวงถอยห่างออกไปได้โดยง่าย

“ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ฉันไม่แม้แต่จะเข้าใกล้พวกมันได้เลย...”การต่อสู้ในอากาศรุนแรงมากและหลิน ฮวงก็ตื่นตระหนก

ท้องฟ้ามืดครึ้มและมอนสเตอร์ในมิติก็เริ่มเคลื่อนไหวมากขึ้น แม้ว่ามอนสเตอร์หลายตัวรอบพวกเขาจะหวั่นเกรงถึงพลังการต่อสู้ของสามมอนสเตอร์ แต่ความผันผวนของพลังงานกลับยิ่งดึงดูดมอนสเตอร์ที่ทรงพลังมามากขึ้น

“รีบจบการต่อสู้เร็วเข้า!”หลิน ฮวงรู้ว่าพวกเขาจะมีปัญหามากขึ้นหากการต่อสู้ยังคงถูกลากถ่วงออกไปเช่นนี้

ทันทีที่เขาติดต่อกับไคลี่ในหัว เธอก็ผละออกจากการต่อสู้

ลำแสงสีทองไหลอาบไปตามหอกยาวสีม่วงและรวมตัวกันที่ปลายหอกเป็นบอลสายฟ้าสีทองอย่างรวดเร็ว บอลสายฟ้าใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเพื่อขยายใหญ่เป็นขนาดเท่ากำปั้นมนุษย์

จากนั้นไคลี่ก็ยกบอลสายฟ้าขึ้นด้วยปลายหอกเธอและมันก็ถูกยิงขึ้นไปในท้องฟ้า อึดใจต่อมา มันก็พุ่งผ่านชั้นบรรยากาศและระเบิด ปกคลุมทั่วทั้งท้องฟ้าด้วยสีทอง

ในไม่ช้า หลังจากการระเบิด เมฆมืดก็ได้ก่อตั้งขึ้นในอากาศทันที ภายในเมฆมืด ประกายสายฟ้าสีทองกำลังแล่บแปร่บปราบอย่างคลุ้มคลั่ง

ไม่เพียงแต่ไคลี่จะเปิดใช้งานการควบคุมสายฟ้า กระแสไฟฟ้าสีม่วงยังไหลผ่านร่างหลิน ฮวงเช่นกันขณะที่เขาเงยหน้ามองชั้นเมฆ

หลังจากนั้นสักพัก ประกายสายฟ้าสีม่วงก็ปรากฏขึ้นจากที่ไหนสักแห่ง ผสานเข้ากับสายฟ้าสีทอง ชั้นเมฆถูกแต่งแต้มด้วยเงาสีที่แตกต่างกันของทองและม่วง ทำให้มันดูลึกลับมากขึ้น

ด้านบนของภูเขาไฟ หยี่ เยว่หยู่และหลี่ หลางเงยหัวขึ้นและจับจ้องไปที่ท้องฟ้า ท้องฟ้ามืดครึ้มและแสงสีทองม่วงก็เข้าปกคลุมทั่วฟากฟ้า

“สายฟ้าสีทองเพียงปรากฏบนร่างของมอนสเตอร์ที่เหมือนมนุษย์ตัวนั้น สายฟ้าสีม่วงบนชั้นเมฆมาจากไหนกัน?”หลี่ หลางรู้สึกอยากรู้

“ดูที่หลิน ฮวงสิ...”หยี่ เยว่หยู่พึมพำ จากนั้นหลี่ หลางก็สังเกตเห็นสายฟ้าสีม่วงจางๆบนร่างหลิน ฮวง

หยี่ เยว่หยู่ยังคงเงียบ จับจ้องหลิน ฮวงขณะที่ตกอยู่ในห้วงความคิด

หลิน ฮวงเพิ่งจะนึกถึงทักษะการควบคุมสายฟ้าแบบซ้อนทับ โดยการทำเช่นนั้น มันจะเพิ่มความถี่และความหนาแน่นของสายฟ้าขึ้น เพื่อดึงดูดความสนใจจากฟีนิกส์เพลิง

เมฆมืดเข้าปกคลุมรัศมีกว่า10กิโลเมตรบนท้องฟ้า

แน่นอน ฟีนิกส์เพลิงสังเกตเห็นมัน แต่ทว่า มันไม่ได้กังวลเพราะธาตุสายฟ้าไม่อาจยับยั้งมันได้ หากมันเปลี่ยนเป็นการโจมตีธาตุน้ำแข็ง ฟีนิกส์เพลิงอาจจะกลัวอยู่บ้าง อย่างมากการโจมตีเช่นนี้ก็เพียงทำให้มันชา

อย่างไรก็ตาม ที่ด้านบนชั้นเมฆมืด สายฟ้ากลับไม่ได้ผ่าลงมาแม้จะผ่านไปนาน หลิน ฮวงตกใจ จากนั้นเขาก็เปิดใช้งานเนตรไร้ขอบเขตและมองไปในท้องฟ้า

จากนั้นเขาก็สังเกตเห็นในชั้นเมฆ สายฟ้าสีทองของไคลี่และสายฟ้าสีม่วงของเขาได้พันรัดกันอย่างแปลกๆ พวกมันเริ่มผสานกัน ก่อตัวเป็นสีม่วงอมทองซึ่งแตกต่างจากสองสีก่อนหน้า

“มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไงกัน?พวกมันผสานกันเพราะพวกมันคือทักษะประเภทเดียวกัน?”หลิน ฮวงไม่อาจหาวิธีอธิบายที่ดีกว่านี้ได้ การควบคุมสายฟ้าเขาสกัดมาจากทักษะของไคลี่ แต่ทว่า การผสานกันเช่นนี้ก็อยู่นอกเหนือความคิดเขา

ทันทีที่การผสานสายฟ้าลำแสงแรกเสร็จ ส่วนที่เหลือก็ดูเหมือนจะได้รับผลไปด้วยขณะที่สายฟ้าสีม่วงและทองอื่นเริ่มผสานเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้นสักพัก รัศมีแสงสีม่วงอมทองก็หายไปโดยสมบูรณ์และมันก็ถูกแทนที่ด้วยสายฟ้าสีม่วงอมทองที่สั่นไหวอย่างรุนแรงระหว่างชั้นเมฆ

ด้านบนภูเขาไฟ หยี่ เยวหยู่และหลี่ หลางสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม มีเพียงฟีนิกส์เพลิงที่ยังคงไม่สนใจ

ทันทีที่ไคลี่ผละออกจากการต่อสู้ ฟีนิกส์เพลิงก็ไม่ได้ไล่ตามเธอ เพียงจดจ่ออยู่กับการฆ่าวิญญาณกระดูกแทนเพราะมันต้องการจะทวงเพลิงประกายมันกลับ

ในฐานะมอนสเตอร์ธาตุไฟ การโจมตีของฟีนิกส์เพลิงมีผลจำกัดต่อวิญญาณกระดูก ดังนั้น มันจึงเลือกที่จะต่อสู้ระยะประชิดแทน

ในระหว่างการต่อสู้ วิญญาณกระดูกมีพลังป้องกันที่แข็งแกร่ง และยังมีโซ่ลงทัณฑ์ที่คอยช่วยโจมตีอีกด้วย แม้ว่ามันจะดูเหมือนไม่อาจสู้กลับได้ แต่มันคงไม่ถูกจัดการโดยง่าย

สายฟ้าสีม่วงอมทองในท้องฟ้าเผยให้เห็นธรรมชาติอันกราดเกรี้ยวของมัน ในเวลานั้นเอง ท้องฟ้าก็ยิ่งมืดครึ้มขึ้น บนชั้นเมฆ ลำแสงสายฟ้าสีม่วงอมทองได้ฟาดผ่าลงมาและโจมตีฟีนิกส์เพลิงด้วยความเร็วที่น่าสะพรึง

เกือบจะในเวลาเดียวกันกับที่ลำแสงสายฟ้าปรากฏ ฟีนิกส์เพลิงดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงอันตรายที่มาจากด้านบน ก่อนที่มันจะทันหลบการโจมตี ลำแสงสายฟ้าก็ได้ฟาดใส่แผ่นหลังมันเสียก่อน

เสียงกรีดร้องและเสียงฟ้าผ่าดังกึกก้องประสานกัร ทันทีที่สายฟ้าผ่าใส่ฟีนิกส์เพลิง ร่างมันก็ดิ่งลงและรอยไหม้สีดำก็ปรากฏบนแผ่นหลังมัน

แม้ว่ามันจะไม่ได้บาดเจ็บสาหัส ความเจ็บปวดที่มันไม่เคยรู้สึกมาก่อนก็แล่นผ่านไปทั่วร่างมัน ฟีนิกส์เพลิงกระพือปีกมันทันทีและหลบหนีจากการต่อสู้กับวิญญาณกระดูก เหลือบมองท้องฟ้าด้วยความหวาดกลัว....

ระหว่างชั้นเมฆ ลำแสงสายฟ้าที่สองได้ก่อตัวขึ้น สำแดงให้เห็นถึงพลังอันน่าหวาดหวั่น

ฟีนิกส์เพลิงรีบกระพือปีกมันเพื่อหลบการโจมตี แม้ว่าการโจมตีแรกจะไม่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บภายใน แต่ก็ทำลายผ่านการป้องกันของขนมัน  มันเจ็บปวดมากและรู้สึกชาในเวลาเดียวกัน มันไม่ต้องการจะถูกสายฟ้าผ่าใส่อีกครั้ง

ลำแสงสายฟ้าที่สองพลาดเป้าไปเพราะมันหลบ อย่างไรก็ตาม สายฟ้าที่3 4 5กลับกระหน่ำซัดลงมาอย่างบ้าคลั่งราวกับพายุสายฟ้า....