ตอนที่แล้วตอนที่ 161 ความวุ่นวายในเมืองเหยียน (FREE)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 163 ความชั่วร้ายในใจ (FREE)

ตอนที่ 162 โป้งเดียวจอด (FREE)


"เชิญท่านพักผ่อนใหสบาย ข้าขอตัวก่อน! " ท่านฮั่วก้มหัว การทดสอบระดับจักรพรรดิใกล้เข้ามาถึงแล้ว พวกเขาเองก็ทำอะไรไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว

แต่สถานการณ์ตอนนี้ชักไม่ชอบมาพากล ...

มันทำให้ท่านฮั่วต้องกุมขมับ ถ้าหาก ปิง หยาง ส่งงินให้ ฟาง เจิ้งจือ และเชิญเขามาร่วมงานฉลองวันเกิด แต่เหตุผลละคืออะไร...

...

"บัดซบ ...โอ้ย! " ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่หล่นทับใส่ขาเขา ที่อยู่ตรงหน้าเขาคือชายวัยกลางคนที่กำลังจะออกไป "งานเลี้ยงวันเกิดจะจัดขึ้นในอีกกี่วันรึ?"

"อีก 3 วัน ขอรับนายน้อย !" เมื่อชายวัยกลางคนได้ยินคำถามของเขา หัวใจก็เริ่มเต้นแรง ตามคำสั่งของนายหญิง เขาต้องทำจนกว่านายน้อยฟางจะพอใจ เป็นไปได้ไหมที่มันจะถึงเวลานั้นแล้ว?

"เข้าใจแล้ว เอาเงินมาเพิ่มอีก 3 เท่า ภายในวันพรุ่งนี้ แล้วข้าจะไปร่วมงาน แล้วไม่ต้องมากวนข้าอีก " ฟาง เจิ้งจือ โบกมือไล่ให้เขาไปได้แล้ว

"..." ชายวัยกลางคนทรุดตัวลง "3 เท่า ภายในพรุ่งนี้ ?!"

คนที่อยู่ตรงหน้าเขาจะไร้ยางอายเกินไปแล้ว

...

3 วันต่อมา ดวงอาทิตย์อันสว่างไสว ให้ความรู้สึกอบอุ่นไปทั่วเมืองเหยียน

บ้านพัก ปิง หยาง อยู่ใกล้กับพระราชวังเป็นอย่างมาก  มันเป็นที่พำนักภายในพระราชวัง ที่แม้แต่คนภายนอกก็มองเข้ามาไม่เห็น

สิ่งก่อสร้างสีทองอร่ามงดงาม และทางเดินที่สร้างจากหินอ่อน  ทุกสิ่งทุกอย่างดูฟุ่มเฟือย

เป็นที่พักที่ดูเรียบหรู สร้างขึ้นตามมาตรฐานของพระราชวัง เช่นนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ปิง หยาง มีความสำคัญยิ่งต่อท่านจักรพรรดิ

ที่ด้านหน้าประตู รถม้าคันหนึ่งหยุดลงและส่งของบางยอย่างเข้าไปด้านใน ก่อนจะเคลื่อนออกไปอีกครั้ง

ที่ด้านข้างของประตู มีทหารยามสวมเกราะ 2-3 นาย  จากรูปทรงของชุดเกราะแล้วแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นทหารของจักรพรรดิ

ฟาง เจิ้งจือ มองไปยังป้ายขนาดใหญ่ที่แขวนไว้ที่ประตู "ปิง หยาง" ความอยากรู้อยากเห็นเพิ่มขึ้นในใจของเขาทันที เขาไม่เคยเข้าไปในวังจริงๆมาก่อน ตอนนี้เขาจึงเดินดูลาดเลาอยู่รอบประตู

ราวกับเป็นนักท่องเที่ยวที่อยากจะชื่นชมวังโบราณ

เขาสังเกตุเห็นความพิเศษของทหารที่ยืนรักษาการอยู่ที่ประตู

"คนที่เชิญข้ามาดูเหมือนจะเป็นคนใหญ่คนโตมาก!" ฟาง เจิ้งจือ สับสนเล็กน้อย คนแบบนี้ไม่น่ารู้จักกับเขาได้

เขาพลาดอะไรไปหรือเปล่า?

ตามปกติเขาจะถาม เหยียน ซิว แต่2-3 วันมานี้เขาเอาแต่ศึกษาอยู่ในห้องตัวเอง ดูเหมือนตอนนี้เขาจะอยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญ จึงไม่ก้าวเท้าออกมาจากห้องเลยแม้แต่น้อย มีเพียงพนักงานที่คอยนำอาหารไปวางไว้หน้าห้องของเขาเท่านั้น

ฟาง เจิ้งจือ อยากรู้

"หรือจะเป็นอุบายไว้จับข้ากัน?" ในขณะที่ ฟาง เจิ้งจือ กำลังคิด

ชายวัยกลางคนก็เดินออกมาจากที่พัก เมื่อเขาเห็น ฟาง เจิ้งจือ เขาเต็มไปด้วยความดีใจราวกับเห็นพ่อตัวเอง

"ในที่สุดนายน้อยฟาง ก็ถึงแล้ว คุณหนูรอท่านอยู่?"

"เจ้าแน่ใจนะว่าคุณหนูของเจ้าอาศัยอยู่ที่นี่?" ไม่กี่วันมานี้ ฟาง เจิ้งจือ เห็นหน้าชายคนนี้จนชิน ไม่มีทางที่เขาจะแกล้งทำเป็นไม่รู้จักได้

"ใช่" ชายวัยกลางคนยืนยันด้วยความมั่นใจ

"เอาเถอะ" ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า เพราะเขาออกมาต้อนรับ ฟาง เจิ้งจือ ถึงที่ การที่ ฟาง เจิ้งจือ จะเดินหนีไปก็เป็เนรื่องเสียมารยาท เพราะเขาเองก็รับเงินมาเป็นจำนวนมากแล้ว

ชายวัยกลางคนเห็น ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า จึงเดินนำ ฟาง เจิ้งจือ เข้าไปด้านใน

ฟาง เจิ้งจือ โบกมือเพื่อบอกให้ชายคนนั้นไม่ต้องรีบ จากนั้นเขาก็หยิบจดหมายออกมา

"นี่เป็นรายการของขวัญ"

"นายน้อยฟาง นำของขวัญมา?" ชายวัยกลางคนอ่านรายละเอียดในจดหมาย เขาผงะไปเล็กน้อย เขาจำได้อย่างชัดเจนว่า ฟาง เจิ้งจือ ตอบรับคำเชิญโดยมีเงื่อนไขคือไม่เอาของขวัญมาด้วย แต่ตอนนี้เขากลับเอาของขวัญมา ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ชายวัยกลางคนจะตกใจ

หรือพวกเขาจะมอง ฟาง เจิ้งจือ ผิดไป?

หรือว่าที่เขาไม่อยากมาเพราะหาของขวัญดีๆไม่ได้?

ถ้าเป็นในกรณีนี้ ฟาง เจิ้งจือ คงใช้เงินที่ได้ไปซื้อของขวัญมา

แต่เมื่อเขาอ่านรายการของขวัญทั้งหมด...

เขาก็ตระหนักว่าตัวเขานั้นไร้เดียงสาเกินไป

รายการนั้นถูกเขียนเต็มหน้ากระดาษ

พวกนี้คืออะไรกัน?

"เบคอนทำมือ 1 ชิ้น"

"ขากระต่าย 1 ขา"

"..."

ม้วนขนกระต่ายดำ?

เขาจะเอามันมาทำไมกัน ไม่มีใครสักคนในเมืองเหยียนตอนนี้ ที่ใช้ขนกระต่ายดำแล้ว?

"ของเล็กน้อยจากแถวบ้านข้า ไม่ต้องเกรงใจ" ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่ชายวัยกลางคนอย่างใจกว้าง

"..." ชายวัยกลางคนรู้สึกว่าถ้าของขวัญนี้มาจากคนอื่น เขาคงขว้างมันทิ้งลงพื้นทันที อย่างไรก็ตาม เขาไม่กล้าทำอย่างนั้นกับ ฟาง เจิ้งจือ  เขายังคงต้อนรับ ฟาง เจิ้งจือ ด้วยรอยยิ้มแสดงความยินดี

จากนั้นเขาก้รับของขวัญด้วยความเคารพ "ข้าขอขอบคุณแทนคุณหนูเป็นอย่างมากสำหรับของขวัญชั้นดีที่นายน้อยมอบให้!"

เสียงของเขาไม่ได้ดังมาก แต่ก็เพียงพอให้คนรอบๆได้ยิน

"ของขวัญชั้นดี?"

"เขาดูคุ้นๆนะ? เขาคือใคร? เป็นเศรษฐีมาจากที่ไหนกัน? "

"เสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน...ถ้าจำไม่ผิด ฟาง เจิ้งจือ!"

"ฟาง เจิ้งจือ? ไม่ใช่ว่าเขามาจากภูเขาอันห่างไกลงั้นหรือ? เขาเอาเงินมาจากไหนซื้อของขวัญให้ เจ้าหญิง ปิง หยาง? "

มีข่าวลือว่าในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเจ้าหญิงส่งเงินให้ ฟาง เจิ้งจือ ตลอด มันอาจจะเป็น…"

ใบหน้าของคนรอบๆเปลี่ยนไปทันที เจ้าหญิงส่งเงินให้ ฟาง เจิ้งจือ แต่ ฟาง เจิ้งจือ กลับเอาเงินนั่นมาซื้อของขวัญ

หรือระหว่างพวกเขาจะมีความลับซ่อนอยู่?!

...

ฟาง เจิ้งจือ ไม่คิดจะแก้ไขความเข้าใจผิดเหล่านี้ ชายวัยกลางคนก็ได้ยินเสียงซุบซิบรอบๆ

เขาต้องการจะอธิบาย แต่ไม่กล้าเปิดปากพูดออกมา

เพราะมันอาจจะทำให้แขก VIP ของเขาไม่พอใจ

เขาไม่กล้าพูดมาก เพราะถ้าใครรู้ความจริงขึ้นมา แค่คิดเขาก็เสียวสันหลัง "นายน้อยฟางเชิญ!" เขาไม่กล้าพูดอะไรไปมากกว่านี้ งานของเขาแค่พยายามให้ ฟาง เจิ้งจือ เข้างานไปให้ได้

ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้าและเดินตามหลังเข้าไป เพราะเขาได้ให้ของขวัญไปแล้ว ถ้าไม่ได้กินอาหารสักมื้อเขาคงขาดทุนย่อยยับ

เมื่อเห็น ฟาง เจิ้งจือ เข้าไปแล้ว ชายวัยกลางคนถอนหายใจด้วยความโล่งอกออกมาทันที

ดวงตาของเขาเปล่งประกายออกมาทันที เมื่อเห็น ฟาง เจิ้งจือ เดินเข้าไปทางด้านขวาของงาน

...

ทันใดนั้น ภาพอันงดงามได้ปรากฎขึ้นในงาน

ไม่ไกลจากประตูทางเข้า หญิงสาวที่ดูราวกับเทพธิดากำลังยืนอยู่ นางคือ ปิง หยาง เจ้าหญิงที่องค์จักรพรรดิทรงรักและเอ็นดูมากที่สุด

วันนี้นางสวมชุดกระโปรงยาวสีแดง บนหัวของนางประดับไปด้วยที่หนีบผมสีแดงใสเข้ากับผมที่ยาวจนถึงเอวของนาง

ฉากดังกล่าวทำให้คนทั่วงานต่างเต็มไปด้วยความประทับใจ แต่ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้นาง

เพราะ…

ทุกคนรู้ว่าที่ซ่อนอยู่ภายใต้ภาพลักษณ์ที่สูงส่ง นั้นเป็นสัตว์ประหลาดที่แท้จริง

วางเพลิง โจรกรรม ไม่มีอะไรที่นางไม่กล้าทำ

อย่างไรก็ตามไม่มีใครกล้าที่จะบ่น นางดำรงตำแหน่งเป็นถึงที่ปรึกษาระดับสูงของอณาจักร จึงไม่ใช่เรื่องแปลก

วันนี้ ปิง หยาง ดวงตาเป็นประกายพร้อมทั้งมีรอยยิ้มประดับอยู่บนหน้าตลอดเวลา

ผู้คนต่างเพ้อฝันว่าใครจะได้รอยยิ้มนี้ไปครอบครอง...

ปิง หยาง รู้ดีว่าแผนทุกอย่างของนางนั้นสมบูรณ์แบบ ไม่มีใครเคยเห็นแผนนี้มาก่อน ไม่มีโอกาสล้มเหลว

เพื่อให้แน่ใจว่าแผนการจะสำเร็จ นางได้ทดลองทำตามแผนที่วางไว้นับครั้งไม่ถ้วน

ผลลัพธ์นั้นชัดเจน...

แผนการนี้ ปิง หยาง ได้ตั้งชื่อว่า " โป้งเดียวจอด!"

สิ่งที่ทำงั้นก็ง่ายๆ

ความเร็ว เร็วจนมองไม่ทัน ให้เร็วจนเขาไม่ทันตั้งตัว เมื่อถังน้ำที่เต็มไปด้วยน้ำล้างเท้าถูกเทลงบนหัวเขา

นางนึกถึงฉากที่กำลังจะเกิดขึ้น ฟาง เจิ้งจือ เดินเข้ามาผ่านซุ้มงานเลี้ยง

ทันใดนั้น น้ำล้างเท้าก็ถูกราดใส่หัวเขา

จากนั้นในฐานะผู้จัดงานนางก็แสร้งทำเป็นขออภัยเขาจานั้นก็ให้คนรับใช้ลากตัวเขาไปแสดงต่อหน้าแขกในงาน

หลังจาก ฟาง เจิ้งจือ ขายหน้าแล้ว นางก็จะพา ฟาง เจิ้งจือ ไปห้องอาบน้ำ ในอ่างอาบน้ำที่นางเตรียมไว้ล่วงหน้า

แน่นอนมันต้องมีสิ่งมีชีวิตอยู่ในนั้น

และมันกัดได้!

เพจหลัก : Double gate TH

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด