ตอนที่แล้วบทที่ 97: ความสุขุม [อ่านฟรีวันที่ 26 กรกฎาคม 2562]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 99: เทพธิดาพยากร [อ่านฟรีวันที่ 09 สิงหาคม 2562]

บทที่ 98: หงหยิงมาเยือน [อ่านฟรีวันที่ 02 สิงหาคม 2562]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

====================

บทที่ 98: หงหยิงมาเยือน

“เว้นเสียแต่ว่านางพุ่งเน้นไปที่จุดอ่อนเท่านั้น!”

เมื่อเสียงนี้ดังขึ้น พร้อมกับที่ใจของเจ้าอ้วนรู้คำตอบพอดี ก่อนอื่นที่ต้องรู้คือ เกราะพสุธาศักดิ์สิทธิ์ถือว่าเป็นอุปกรณ์ป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดในระดับเซียนเทียน แต่ในความเป็นจริงมันเป็นเพียงเวทมนตร์ระดับต่ำในสายตาของผู้ฝึกตนระดับสูงเท่านั้น แน่นอนว่าเวทมนตร์นี้ไม่มีความสมบูรณ์แบบ บางส่วนแข็งแรงแต่ยังมีบางส่วนที่เป็นจุดอ่อน

อย่างไรก็ตามชิ้นส่วนที่เปราะบางสามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ผู้ฝึกตนสามารถปรับใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์การรบ อย่างไรแล้วสิ่งเหล่านี้เป็นความลับของผู้ใช้มันเท่านั้น

พูดกันตามตรงคือนอกจากผู้ใช้แล้วจะไม่มีใครรู้ว่าจุดอ่อนของมันอยู่ตรงไหน เมื่อผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินเผชิญหน้ากับเกราะพสุธาศักดิ์สิทธิ์ เขาจะใช้จิตวิญญาณเพื่อตรวจสอบจุดอ่อนของมัน และไม่มีทางเป็นไปได้ที่แม่นางฉุ่ยจิ้งจะใช้วิธีเช่นนี้

แม้ว่าบางสิ่งบางอย่างจะดูไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้น ความแข็งแกร่งของแม่นางฉุ่ยจิ้งเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่ออย่างมาก เจ้าอ้วนเข้าใจบางสิ่งอย่างน้อยนิดพร้อมกับสรุปสั้น ๆ ด้วยความประหลาดใจ ‘แม่นางฉุ่ยจิ้งอาจจะทำนายอนาคตได้’

เมื่อหันหน้าไปมองคู่ต่อสู้ของนางที่กำลังตกตะลึง บุคคลผู้นั้นน่ะหรือจะสามารถเอาชนะนางได้? ขณะที่เจ้าอ้วนคิดเรื่องนี้ได้สักครู่ เขาถูกดูดให้จมลงไปในห้วงความคิดพร้อมกับไม่เหลือสมาธิจะชมการแข่งขันที่กำลังจะเกิดขึ้นรอบต่อไป เขากลับมายังลานม่านหมอกของเขาและนั่งคิดเรื่องนี้อยู่ในสนามหญ้าด้านหน้าอย่างโง่งม

เจ้าอ้วนครอบครองการโจมตีที่รุนแรงอยู่สามอย่าง นั่นคือสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามของเขา อย่างไรก็ตามแม้ว่าสายฟ้าของเขาจะแข็งแกร่งมาก มันคงไม่มีประโยชน์ถ้าหากไม่สามารถใช้งานได้ เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรู เขาพยายามใช้วิธีการลอบโจมตีหรือหาวิธีโยนมันออกไปแบบเงียบ ๆ ถ้าหากเขาต้องเผชิญหน้ากับแม่นางฉุ่ยจิ้งและถือสายฟ้าไว้ในมือ นางจะต้องรู้ทิศทางที่เขาจะใช้โจมตี ซึ่งแน่นอนว่านางจะหลบการโจมตีเหล่านี้อย่างง่ายดาย แม้ว่าเขาจะใช้สายฟ้าทั้งหมดที่เขามี แต่มันก็คงไม่อาจจะทำอันตรายนางได้เลย แล้วมันจะมีหนทางใดอีกที่จะจัดการกับนางได้?

‘อย่าบอกนะว่าข้าจะต้องใช้ระฆังยักษ์เพื่อต่อสู้กับนางเท่านั้น? ผู้ที่เป็นอาจารย์ของนางก็อยู่ในระดับหยวนหยิน อีกทั้งผู้ที่สามารถต่อกรกับนางได้ก็คงมีแค่ระดับหยวนหยิน แล้วผู้ใดกันจะรู้จุดอ่อนของนาง? อีกทั้งถ้าหากนางทำลายเปลือกนอกของระฆังยักษ์ได้จะทำให้มองเห็นสมบัติที่ซ่อนอยู่ด้านใน สิ่งนั้นจะสร้างปัญหาไม่รู้จบให้กับข้า’ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ต้องการเปิดเผยสมบัติชิ้นนี้ เพราะกลัวปัญหาที่จะตามมา

ในขณะที่เจ้าอ้วนกำลังพิจารณาอยู่ ที่ขอบฟ้าปรากฏแสงสีม่วงกำลังพุ่งตรงมาหาเขา จากนั้นพยัคฆ์ปีกแหลมพุ่งลงมาอย่างรวดเร็ว หงหยิงกระโดดลงจากหลังของพยัคฆ์อย่างร่าเริงและวิ่งไปหาเจ้าอ้วนอย่างตื่นเต้นพร้อมกล่าวว่า “พี่ชายอ้วน! ข้าก้าวไปอีกขั้นแล้ว เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ฮี่ฮี่ แน่นอน ข้าก็เช่นกัน!” เจ้าอ้วนกล่าวพร้อมเผยยิ้มแบบสบายๆ

“จริงหรือ? แล้วพี่ชายอ้วนสู้กับผู้ใด?” หงหยิงรีบถาม

“ข้าไม่รู้!” เจ้าอ้วนยักไหล่พร้อมตอบกลับ

“เชอะ พี่ชายอ้วนขี้โม้! ถ้าหากไม่รู้ว่าต่อสู้กับผู้ใด แล้วจะก้าวหน้าได้อย่างไร!” หงหยิงกล่าวอย่างไม่เชื่อถือ

“มันเป็นเรื่องจริง!” เจ้าอ้วนหัวเราะอย่างขมขื่นพร้อมกล่าวต่อ “ฝ่ายตรงข้ามของข้าถอนตัวตั้งแต่ยังไม่ลงแข่งขัน ข้าไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร!”

“ว้าว โชคดีเหลือเกิน! ช่างโชคดีอะไรเช่นนี้ที่เจ้าพบกับผู้คนที่ถอนตัวจากการแข่งขันครั้งสำคัญจนหมดสนาม!” หงหยิงกล่าวออกมาอย่างแปลกใจ

“โชคดีงั้นหรือ?” เมื่อเจ้าอ้วนได้ยินดังนั้น เขาไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ทำได้เพียงกล่าวออกมาอย่างขมขื่น “สวรรค์ ข้าไม่อยากพบโชคลาภเช่นนี้!”

“เกิดอะไรขึ้น?” หงหยิงถามออกมาอย่างงุนงง “เจ้าไม่พอใจที่ฝ่ายตรงข้ามถอนตัวงั้นหรือ?”

“ในกลุ่มข้ามีทั้งหมดแปดคน อีกหกคนถอนตัวออกจากการแข่งทั้งหมด เจ้าไม่คิดว่านี่มันแปลกงั้นหรือ?” เจ้าอ้วนกล่าวออกมาอย่างขมขื่น

“หือ? ทำไมผู้คนเหล่านั้นจึงถอนตัว?” หงหยิงรีบถามด้วยความตื่นตกใจ

“เนื่องจากมีคนบ้าผู้หนึ่ง ที่ถือดาบเพียงเล่มเดียว นางเฉือนคู่ต่อสู้ของตนเองให้เต็มไปด้วยบาดแผลและนอนอยู่บนกองเลือด จากนั้นนางข่มขู่ทุกคนว่าผู้ใดที่ต่อสู้กับนางจะต้องเผชิญสถานการณ์เช่นนี้!” เจ้าอ้วนยักไหล่อย่างอับจนหนทางพร้อมกล่าวต่อ “พวกเขาทั้งหมดอยู่ที่นี่เพื่อจะขึ้นเป็นหนึ่งในสิบอันดับแรก อย่างไรก็ตามเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย พวกเขาจะต้องต่อสู้กับเหล่าคนบ้าแต่จะต้องแบกรับสภาพร่างกายที่น่าสงสารหลังจากการแข่งขัน! ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่มั่นใจในการแข่งขันนี้ พวกเขาทั้งหมดตัดสินใจที่จะถอนตัว! ข้าจึงได้รับชัยชนะจากสถานการณ์เช่นนี้!”

“เฉพาะเหล่าศิษย์ชั้นในเท่านั้นที่จะทำตัวเช่นนี้ได้ พี่ชายอ้วนอยู่ในกลุ่มที่สาม ถ้าอย่างนั้น… คนบ้าผู้นั้นจะต้องเป็นมู่ซื่อหรง?” หงหยิงสรุปอย่างรวดเร็ว

“เป็นเช่นนั้น! นางนั่นแหละ!” จากนั้นเขายักไหล่พร้อมกล่าวต่อ “แล้วเจ้ายังคิดว่ามันเป็นโชคดีของข้าอยู่หรือไม่?”

“อา เจ้าไม่ได้โชคดี แต่กลับโชคร้ายอย่างถึงที่สุด!” หงหยิงกล่าวออกมาอย่างกังวลใจ “การพบกับมู่ซื่อหรงไม่มีสิ่งใดที่บ่งบอกว่าเป็นโชคดีอยู่เลย มันเป็นเพราะดาบเทวะครามศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่ง ครั้งสุดท้ายที่ข้าสู้กับนาง ข้าถูกนางกดดันจนไม่สามารถหายใจได้ แต่อย่างน้อยข้าก็สามารถผ่านมันมาได้และป้องกันไม่ให้นางตักตวงผลประโยชน์จากตัวข้าได้!”

“อะไรนะ?” เจ้าอ้วนกล่าวออกมาด้วยความตกใจทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น “ระดับของเจ้าน้อยกว่านางหนึ่งขั้น แต่เจ้าสามารถต่อสู้กับนางได้อย่างสูสีงั้นหรือ?”

“แน่นอน เรื่องนี้มันแปลกอย่างไร?” หงหยิงกล่าวต่ออย่างไม่ใส่ใจ “ในความจริง นางไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าเลย ดาบของนางนั้นดีกว่าของข้า ถ้าหากข้ามีดาบบินระดับเดียวกับดาบเทวะครามศักดิ์สิทธิ์ของนาง แน่นอนว่าผลการต่อสู้จะต้องเสมอกัน!

“อะไรกัน เจ้าบอกว่าเจ้าใช้อุปกรณ์วิเศษเพื่อต่อสู้กับมู่ซื่อหรงงั้นหรือ ถ้าหากใช้ระดับเดียวกับดาบเทวะครามศักดิ์สิทธิ์ ผลจะเสมอกัน?” เจ้าอ้วนทวนอีกครั้งด้วยความตกใจ

“แน่นอน!” หงหยิงกล่าวออกมาอย่างภูมิใจ “แท้จริงในบรรดาผู้ที่ได้รับประกาศว่าเป็นอัจฉริยะทั้งสี่แห่งสำนักเสวียนเทียน พวกเขาทั้งสามนั้นเป็นเพียงตัวเลขเท่านั้น เหตุที่พวกเขาแกร่งกว่าผู้อื่นในรุ่นเดียวกันเพราะว่าอุปกรณ์เป็นเลิศมากกว่า อย่างไรก็ตามเรื่องนี้พวกเขาทั้งหมดกลับภูมิใจกับตำแหน่งพวกนี้มาก โดยเฉพาะมู่ซื่อหรงที่งี่เง่าอย่างยิ่ง ซึ่งนั่นทำให้ข้ารู้สึกอยากจะอาเจียนทุกครั้งที่ได้ยิน!”

“แล้วพวกเขาอีกสองคนล่ะ เป็นใครกัน?” เจ้าอ้วนรีบถาม

“คนแรกมีชื่อว่าเสี่ยวไป่หลง ทุกคนรู้จักกันในนามของดาบเทวะไร้ผู้ต้าน!” หงหยิงกล่าวอย่างรังเกียจ “สวรรค์ เห็นได้ชัดเจนว่าเขาไม่ได้มีอะไรดีเลยแต่กลับมีฉายาของตนเอง สิ่งเหล่านี้มันน่าขยะแขยงเกินไปแล้ว!”

เจ้าอ้วนลูบหัวของตนเองพร้อมกล่าวว่า “แต่ข้ารู้มาว่าพวกเขาได้รับการสนับสนุนโดยอาวุโส พรสวรรค์ของพวกเขาไม่ได้เลวร้ายอีกทั้งยังเป็นเหล่าอัจฉริยะที่พบเห็นได้ยากมิใช่หรือ?”

“เชอะ แน่นอนว่าความสามารถของพวกเขาดีมาก แต่พวกเขาทั้งขี้เกียจ กระทำตนโอ้อวดไปวัน ๆ! เช่นนั้นพวกเขาจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร?” หงหยิงกล่าวอย่างรังเกียจ “เจ้ารู้หรือไม่ ในตอนที่ข้าเพิ่งออกมา ผู้ใดจะรู้ว่าสองคนนี้คิดสิ่งใดอยู่ พวกเขาทั้งคู่ยืนยันที่จะซ้อมกับข้าเพราะเห็นว่าข้าไม่มีดาบบินดี ๆ ใช้ พวกเขาจึงต่อรองด้วยการไม่ใช้อุปกรณ์วิเศษ จะใช้เพียงดาบบินเท่านั้น แล้วผลลัพธ์เป็นเช่นไรล่ะ?”

“โว้…” เมื่อได้เห็นใบหน้าของหงหยิงที่บิดเบี้ยว เจ้าอ้วนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสารทั้งสองคนที่ถูกกล่าวถึง จากนั้นเขากล่าวออกมาอย่างระมัดระวัง “อย่าบอกข้านะว่า… พวกมันแสดงความโง่เขลาของตัวเองออกมา?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด