ตอนที่ 159 หัวหน้าผู้คุมสอบ (FREE)

"เชิญท่านฮั่วพูด!" ราชาต้วนกล่าวด้วยความใจเย็น

"องค์ชายจะเป็นหัวหน้าผู้คุมได้ดวยการสนับสนุนจาก ฮัน ฉางเฟิง ซึ่งเขาเป็นหัวหน้าขุนนางของโรงเรียนหลวง  เขามีประสบการณ์มามากในฐานะหัวหน้าผู้คุมสอบ ถ้าเหล่าเซียนจอมเวทย์ รู้ว่าท่านได้คำแนะนำจาก ฮัน ฉางเฟิง พวกเขาต้องวางใจแน่  ทำไมท่านไม่ลองไปหาเขาดู! "

"ไปหาเขา? ข้าไม่คิดว่าจะเป็นไปได้หรอก ฮัน ฉางเฟิง เป็นอาจารย์ขององค์รัชทายาทตั้งแต่ยังเด็ก พวกเขาสนิทสนมกันมาก "

"มันจะเป็นเรื่องลำบากใจสำหรับพวกเขา แต่นั่นไม่ใช่เรื่องของท่านนี่! " ท่านฮั่วพูดต่อ

"เจ้าหมายความว่ายังไง...?"

"ข้าไปสืบมาแล้วว่าในตอนที่ ฮัน ฉางเฟิง เป็นผู้ดูแลการทดสอบที่เมืองแม่น้ำแห่งความสัตย์นั้น  เขาส่งจดหมายลับให้กับองค์ชาย แม้ว่าข้าจะไม่รู้ถึงเนื้อหาในจดหมายพพวกนั้น แต่มันก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างการทดสอบ ฮัน ฉางเฟิง อาจไม่ต้องการให้ ฟาง เจิ้งจือ เป็นอันดับหนึ่งของการทดสอบ!"

"ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?"ราชาต้วนสงสัย

"ฮัน ฉางเฟิง เป็นหัวหน้าขุนนางมาหลายปี เขาเป็นคนที่ฉลาด เห็นว่า ฟาง เจิ้งจือ อาจจะเป็นภัยคุกคามต่ออาณาจักร ในฐานะอาจารย์ขององค์ชาย เขาต้องการให้อาณาจักรยังคงเป็นปึกแผ่น หากไม่เป็นเช่นนั้น องค์ชายจะไม่สามารถขึ้นครองบัลลังก์ทิศตะวันออกได้"

"เจ้าหมายความว่า...?" ดวงตาของราชาต้วนเบิกกว้างขึ้น

"ฮัน ฉางเฟิง ไม่ต้องการให้มีความปั่นป่วนมากเกินไป  ถ้า ฟาง เจิ้งจือ เป็นคนที่ควบคุมได้ละก็ เขาก็คงจะให้ค่าและสนับสนุน ฟาง เจิ้งจือ ... "

"ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าต้องการให้ข้าร่วมมือกับ ฮัน ฉางเฟิง กันไม้ให้ ฟาง เจิ้งจือ ได้เข้าร่วมการทดสอบ?"

"นั่นเป็นเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น นายน้อย!" ท่านฮั่วส่ายหัว

"ท่านฮั่ว บอกข้ามาทั้งหมด!"

"การทดสอบระดับจักรพรรดินั้นเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย องค์ชาย ข้าอยากให้ท่านให้ความสำคัญกับอำนาจที่ท่านมีอยู่ในมือ ฮัน ฉางเฟิง เป็นพันธมิตรที่มีค่า หากท่านได้เข้ามาอยู่เคียงข้างท่านแล้วล่ะก็ เส้นทางสู่บัลลังก์ก็จะง่ายขึ้นมาก แม้ว่าท่านจะไม่สามารถอยู่เหนือเขาได้ แต่ท่านสามารถที่จะหาโอกาส ... " ท่านฮั่วเอามือวางลงบนลำคอแล้วลากไป

"ท่านฮั่ว เจ้าช่างหัวแหลมยิ่งนัก ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว! อย่างไรก็ตาม ฮัน ฉางเฟิง ก็ระวังตัวเป็นอย่างมาก แม้ว่าเขาจะไม่ต้องการให้ ฟาง เจิ้งจือ เข้าร่วมในการทดสอบระดับจักรพรรดิ แล้วทำไมเขาจึงต้องให้ความร่วมมือกับข้ากันล่ะ? "

"ไม่ใช่เรื่องยากเลย ข้าพึ่งได้รับข่าวที่สำคัญมาก ลูกชายคนที่ 2 ของ ฮัน ฉางเฟิง ถูกโยนเข้าไปใน เรือนจำสวรรค์ เพราะเหตุการณ์ที่ตลาดค้าม้า ... "

"เจ้ากำลังจะบอกข้าว่า ฮัน เทียนเจิง ถูกจับเข้า เรือนจำสวรรค์งั้นรึ? ใครกันช่างกล้าทำเช่นนั้น? "

"ปิง หยาง ... "

"ปิง หยาง?! ทำไมกัน ฮัน เทียนเจิง ถึงเป็นปรปักษ์กับนางงั้นรึ? "

ฮัน ฉางเฟิง ได้ใช้เวลาส่วนมากสอนองค์ชายอยู่ที่โรงเรียนหลวง แต่เขากลับละทิ้งลูกๆของเขา แม้ว่า ฮัน เทียนเจิงจะไม่มีพรสวรรค์อะไร แต่ตัวเขาเองก็ไม่ได้สนใจ เขาชอบการแข่งขัน  แน่นอนว่าเขามักจะแพ้มากกว่าชนะ ดังนั้นเขาจึงมักไปที่ตลาดค้าม้า เพื่อเสี่ยงโชคของเขา  ในที่สุดเขาก็ได้ม้าหยกหิมะมาครอบครอง เขาจ่ายไปเพียงแค่ 68,888 เหรียญเท่านั้น ... "

"ของ ปิง หยาง งั้นรึ?" ราชาต้วนตระหนักได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

"ฮืม บังเอิญว่าคนที่ขายม้าคือ ฟาง เจิ้งจือ ! นายน้อยนี่เป็นโอกาสแล้ว หากท่านช่วย ฮัน เทียนเจิง ออกมาได้ ฮัน ฉางเฟิงจะต้องรู้สึกขอบคุณท่านเป็นแน่ และจากนั้นท่านก็บอกกับ ฮัน ฉางเฟิง เรื่องที่ ฟาง เจิ้งจือ ขายม้านี้ให้กับลูกของเขา ... "

"มีเรื่องบังเอิญแบบนี้ด้วยรึนี่? แต่ ฟาง เจิ้งจือ พึ่งมาถึงที่นี่ เขาไปได้ม้าหยกหิมะของ ปิง หยาง มาได้ยังไงกัน ม้าหยกหิมะเป็นของมีค่าของนาง แม้ข้าจะไม่เคยขี่มันมาก่อนก็ตาม"

"ข้าเริ่มไม่แน่ใจกับเรื่องนั้น ข้าไม่รู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ เอาม้าหยกหิมะมาจาก ปิง หยาง ได้ยังไง และเขายังไปขายมันที่ตลาดม้าอีก นี่เป็นเรื่องที่ไม่สามารถอธิบายได้ "

"ช่างมันเถอะ ก่อนอื่นข้าจะไปเยี่ยมเรือนจำสวรรค์เสียหน่อย!" ราชาต้วนพูดออกมาและเดินออกไป

ผู้อาวุโสเหวิน มองดู ราชาต้วนและท่านฮั่ว เขาไม่ได้คิดจะห้ามปรามอะไร ฟาง เจิ้งจือ เป็นศตรูกับ ปิง หยาง? นี่เป็นเรื่งอบังเอิญจริงๆงั้นรึ?

...

ที่เมืองหลวงอันกว้างใหญ่นี้ อย่างไรก็ตามมีสถานที่ต้องห้ามของเหล่าพ่อค้าและผู้มาเยือนอยู่นั่นคือ บ้านของพวกตระกูลชั้นสูง

ทุกสิ่งทุกอย่างทำขึ้นจากทองคำและหยก พื้นเป็นหินอ่อนสีขาวแต่ละชิ้นถูกทำขึ้นมาอย่างประณีต ด้วยความงดงาม

ในขณะนี้ ชายวัยกลางคนสวมชุดคลุมสีม่วงและมีดวงตาราวกับนกฟินิกซ์ เขาเดินตรงไปที่ห้องที่มีคำว่า 'โรงเรียนชั้นสูง' ที่ถูกสลักด้วยทองคำ

ชายอาวุโสยืมอยู่ที่ประตู

"ซิง เฮา, ในที่สุดเจ้าเจ้าก็มาอยู่ที่นี่ องค์จักรพรรดิกำลังรอเจ้าอยู่ !"

"อืม ขอบคุณมากท่านฟ่าน!" ชายอาวุโสที่ถูกเรียกว่า ซิง เฮา ยิ้มและพยักหน้า จากนั้นประตูก็เปิดออก แล้วเขาก็เดินเข้าไป

ห้องโถงนี้ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี มันเต็มไปด้วยภาพแขวนผนังของทิวทัศน์อันงดงามที่หลากหลายในอาณาจักร

ที่ด้านหลังเป็นตู้หนังสือวางอยู่บนพรหมสีทอง

"ยินดีที่ได้พบท่าน จักรพรรดิ!" ชายวัยกลางคนคุกเข่าลงโดยไม่เหลือบมอง

"ท่านซิง ลุกขึ้นก่อนแล้วมานั่งข้างๆข้า" คำสั่งดังก้องทั่วห้อง กลิ่นอายของจักรพรรดิ ราวกับอยู่ภายใต้แสงของดวงอาทิตย์ที่เร่าร้อน

เมื่อชายวัยกลางคนได้ยินเช่นนั้นก็ลุกขึ้นอย่างช้าๆ จากนั้นเดินไปข้างหน้า อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ทำตามคำสั่งและไปนั่งอยู่ข้างตู้หนังสือ หรือจริงๆคือนั่งห่างออกไป 5 เมตร

หลังจากที่นั่งลงแล้วเขาก็ไม่ได้พูดอะไร

"หึ...เจ้าเคร่งเรื่องประเพณีมากไปหน่อยแล้ว บรรพบุรุษของ 13 กองตรวจการผู้กล้าหาญร่วมพิชิตไปกว่าครึ่งอณาจักร เจ้าในฐานะผู้นำของ 13 กองตรวจการนั้น ทำไมต้องทำตัวราวกับเป็นคนแปลกหน้ากับข้าด้วย? " เสียงดังก้องออกมาอีกครั้ง

"ข้าเป็นเพียงนายทหาร ข้าควรรักษาระยะห่างจากท่านอย่างน้อย 10 เมตร ตอนนี้ข้าห่างออกไปแค่ 5 เมตร ก็ถือว่าฝ่าฝืนกฎมากแล้ว! " ชายวัยกลางคนตอบอย่างสุภาพ

"ข้าได้ยินว่า ฉิง ซุย ต้องการจะเข้าร่วมการทดสอบระดับจักรพรรดิด้วย เขาเตรียมพร้อมรึยัง?" น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไปเป็นความห่วงใย

"เขาฝึกฝนหนักมาก อย่างไม่หยุดยั้ง แต่การพัฒนาของเขาก็ไม่ได้เร้วมากนัก อยู่เพียงขั้นกลางของระดับสะท้อนสวรรค์ เกรงว่าท่านคงผิดหวัง "

"การเข้าถึง ระดับสะท้อนสวรรค์ขั้นกลางภายในอายุ 22 ปีนั้นนับเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม เจ้าคาดหวังสูงเกินไป ในความคิดของข้า อันดับต้นๆคงจะเป็น ฉิง ซุย , ซู ตงหลิน จากสำนักซู ถ้าเป็ตามที่ข้าคาดการณ์ไว้ก็ค่อยส่งตัว ฉิง ซุย มาให้ข้างฝึกอีกที"

"ขอบคุณ ท่านจักรพรรดิ! อย่างไรก็ตาม ซู ตงหลิน เข้าถึงระดับสะท้อนสวรรค์ขั้นสูงแล้วเมื่อ 5 วันก่อน นอกจากนี้พระราชวังทิศใต้ก็เข้าร่วมด้วย ตัวแทนของพวกเขาคือน้องชายของ หนานกง เฮา โอกาสของ ฉิง ซุย ที่จะได้เป็นอันดับต้นๆนั้นช่างมืดมนนัก! " ชายวัยกลางคนลุกขึ้นและก้มหัวอีกครั้ง

"เงยหน้าขึ้นเถิด แม้ว่า ฉิง ซุย จะอยู่ในขั้นกลางก็ตาม แต่ทว่ากองตรวจการความมั่นคง มีวิชาลับมากมาย อย่างไรก็ตามพระราชวังทางใต้ ค่อนข้างเป็นปัญหาเล็กน้อย นอกจากนี้ข้าก็ไม่ได้พบกับ ฉือ กูเหยียน มานานแล้ว เมื่อเจ้ากลับมา พานางมาเยี่ยมข้าบ้าง! "

"ท่านยังตามใจ ฉือ กูเหยียน เหลือเกิน ข้าล่ะอิจฉายิ่งนัก ! แต่ในครั้ง ฉือ กูเหยียน ไม่ได้อยู่กับข้า นางเลือกอยู่กับ ปิง หยาง " ชายวัยกลางคนลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและนั่งลงบนเก้าอี้

"โอ้...? ฉือ กูเหยียน อยู่กับ ปิง หยาง รึ? ข้าประมาทไป วันเกิดของ ปิง หยาง ใกล้เข้ามาในอีก 2-3 วัน พวกนางเป็นเพื่อนที่สนิมสนมกันในวัยเด็ก เป็นเรื่องปกติที่พวกนางจะอยู่ด้วยกัน อืมอืม...ตามจริงแล้วที่ข้าเชิญเจ้ามาในครั้งนี้เพื่อถามความคิดเห็นเจ้าบางเรื่อง "

"โปรดบอกข้ามา" ชายวัยกลางคนลุกขึ้นเมื่อได้ยินคำกล่าวนั้น

"ด้วยเหตุบางอย่าง องค์ชายและราชาต้วน ต้องการที่จะเป็นหัวหน้าผู้คุมการทดสอบทั้งคู่ เพื่อที่อำาจจะไม่ได้อยู่ในมือใคร องค์ชายแนะนำให้ ฮัน ฉางเฟิง เป็นหัวหน้าผู้คุมการทดสอบ  นี่ก็เป็นไปตามกฎของการทดสอบระดับจักรพรรดิในครั้งก่อน ข้าเลยมั่นใจ อย่างไรก็ตาม หากราชาต้วนได้รับมอบหมายหน้าที่ เขาก็คงทำออกมาได้ดี เขาบอกว่าต้องการใช้ประสบการณ์ของเขาให้เป็นประโยชน์ ข้ากลัวว่าถ้าข้าไม่ยินยอม มันจะเป็นการทำลายไฟความมั่นใจในตัวเขาหรือไม่ เจ้าคิดยังไง?"

ชายวัยกลางคนเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น

คำถามนี้ไม่ใช่เรื่องยาก

มันเป็นเรื่องที่น่าลำบากใจมากระหว่าง องค์ชายและราชาต้วน

ในฐานะผู้นำของ 13 กองตรวจการ ซิง หยวนกู รู้ดีว่าคำตอบของเขานั้นจะส่งผลกระทบต่อกองตรวจการทั้ง 13 แห่งเป็นแน่

เช่นนั้น เขาจึงต้องครุ่นคิดอย่างระมัดระวังและจริงจัง..

เพจหลัก : Double gate TH