ตอนที่แล้วChapter 3: พรสวรรค์ภายในของ เยล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 5: การยิงธนู

Chapter 4: การฝึกฝนของ เยล


Chapter 4: การฝึกฝนของ เยล

 

ในตอนที่ เยล อ่านมันแล้วเขาก็เข้าใจว่าเขามีเพียงแค่ทางเดียวเท่านั้นที่จะไปต่อได้ เขาจำเป็นต้องเพิ่มค่าความแม่นยำอย่างน้อย 1 หน่วย

“การเพิ่มค่าความแม่นยำไม่น่าจะใช่เรื่องยาก ข้าสามารถคิดหาทางได้หลายทางเพื่อจะทำแบบนั้นแต่ข้าต้องหาทางที่มันได้ผลที่สุด ถ้าข้าสามารถเพิ่มมันมาเป็น 10 หน่วยได้และเควสนั้นมีรูปแบบเหมือนที่ข้าคิดไว้ข้าจะได้พรสวรรค์ทางเวทย์ระดับสูงมา”

ระบบตอบกลับทันที

“วิธีที่ได้ผลที่สุดในการเพิ่มค่าความแม่นยำนั้นคือการฝึกธนูและในเวลาเดียวกันมันก็จะเพิ่มค่าแรงขึ้นด้วย”

อันที่จริงการฝึกธนูของคนเรานั้นดีอย่างมากในการฝึกความแข็งแรงและความแม่นยำและเขาสามารถเพิ่มค่าความแม่นยำขึ้นมาแล้วใช้ทำเควสต่อได้ มันถือเป็นตัวเลือกที่ดีอย่างมาก  อีกอย่างเขาต้องการเพิ่มค่าแรงตัวเอง เขารู้สึกละอายเมื่อเห็นว่ามันมีแค่เพียงหน่วยเดียวเท่านั้น

ระบบดูเหมือนจะรู้เพราะมันได้เสนอการฝึกธนูออกมาให้  ปกติแล้วมีเพียงแค่คนที่อยากเป็นนักธนูเท่านี่จะไปฝึกการยิงธนูตั้งแต่แรก

แต่มันก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยเกิดขึ้นที่มีเด็กบางอย่างอยากจะฝึกมันก่อนที่จะรู้พรสวรรค์ของตัวเอง มันถือเป็นการฝึกที่ดีต่อร่างกายและเจ็บน้อยการกว่าฝึกอย่างอื่นเช่นดาบรึหอก  แม้ว่ามันจะโดนดูถูกจากพวกคนที่เป็นนักรบจริงๆก็ตาม

“ดูเหมือนว่าข้านั้นต้องเริ่มฝึกธนู  พรุ่งนี้ข้าจะไปบอกให้คนรับใช้สมัครการเรียนรู้ธนูไว้ให้”

เมื่อเขาตัดสินใจแบบนั้น เขาก็ลุกขึ้นยืนและเลิกสนใจระบบที่มีไปและในเวลาเดียวกันระบบก็ได้ตอบโต้กลับมา

“การฝึกสอนเสร็จสิ้นแล้ว ผู้ใช้สามารถทำการทบทวนตอนไหนก็ได้”

อย่างที่ เยล คาดเอาไว้  การฝึกสอนนี้ได้อธิบายฟังก์ชันทุกอย่างของระบบแล้ว ดังนั้นการฝึกสอนก็น่าที่จะจบลง  เขาเองก็ยังสงสัยในตอนที่ระบบได้ปลดล็อคฟังก์ชันเพิ่มขึ้นมาและคิดว่าตอนนั้นคงมีคำอธิบายออกมาเพิ่มอีก

เยล ไม่ต้องการที่จะอยู่ในห้องสมุดอีกต่อไปและกลับไปที่ห้องตัวเอง แน่นอนเขาโดนเจอตัวในระหว่างที่กลับไปและโดนหนึ่งในคนรับใช้นั้นดุเอา  เยล ไม่ได้สนใจ เขายังคงสนใจแต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาและคิดแผนสำหรับอนาคต

***

เช้าวันต่อมา เยล ได้บอกคนรับใช้ว่าเขาต้องการที่จะฝึกธนู  คนรับใช้นั้นแปลกใจแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ นี่คือความสัมพันธ์ของคนรับใช้กับ เยล  ไม่มีเรื่องอื่นให้พูดคุยกันมากนัก  คนรับใช้นั้นสนใจเพียงแค่ทำงานให้กับ เยล เท่านั้นไม่ได้มีเรื่องใดมากกว่านี้

เยล ยังรู้ว่าถ้าเขาขอมันแล้ว เขาจะไม่สามารถเริ่มฝึกมันในตอนนี้ได้  ฐานะของเขาไม่ดีพอที่จะเข้าไปเรียนในโรงฝึกโดยที่ไม่ได้แจ้งเข้าไปก่อน มันต้องใช้เวลาราวๆหนึ่งอาทิตย์กว่าที่จะได้ไปฝึกที่โรงฝึกนั้น

แต่แม้ว่าเขาจะเข้าไปได้ทันทีแต่เขาก็ไม่สามารถยิงธนูด้วยแรงที่มีอันน้อยนิดได้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจใช้เวลานี้เพื่อออกกำลังกาย

เยล ได้พยายามวิดพื้นในห้องของเขาแต่เขาก็ทำมันไม่ได้เลยสักครั้ง

“ดูเหมือนว่าระบบนั้นไม่ได้โกหกเรื่องค่าแรงของข้า  ข้าอ่อนแอเกินไป ข้ามักคิดมาเสมอว่าการวิดพื้นนี่เป็นเรื่องง่ายๆในตอนที่ข้าอ่านเจอแต่ร่างกายของข้านั้นกลับทำในทันทีไม่ได้เลย...”

แน่นอนนั่นเพียงพอที่จะหยุด เยล ได้  เขาไม่ได้มีอุปกรณ์ใดๆเพื่อทำการฝึกฝน ดังนั้นแล้วเขาจึงสนใจแค่การออกกกำลังกายธรรมดา  แม้ว่ามันจะเหนื่อยมากสำหรับเขาก็ตาม

ในเช้าวันที่สอง เยล ได้ขอให้ระบบเตือนเขาถ้าค่าสเตตัสใดเปลี่ยนแปลงและระบบได้ตั้งค่าการแจ้งเตือนให้เมื่อค่าสเตตัสเปลี่ยนไปแต่สุดท้ายแล้วในวันนั้นค่าสเตตัสของเขาก็ยังคงเดิมอยู่

ในเวลาเดียวกันมันก็มีเรื่องพูดคุยกันในสมาคม  หนอนหนังสือของสมาคมนั้นเป็นบ้าไปแล้วถึงได้มาฝึกร่างกาย

ในวันที่ห้าการฝึกของ เยล นั้นยังคงต่อเนื่องไปเรื่อยๆโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง ค่าสเตตัสของเขาก็ยังคงเดิมอยู่

ดังนั้นในตอนที่คนรับใช้ได้บอกกับเขาว่าเขาได้รับจดหมายจากพี่สาวของเขา เขาก็หยุดออกกำลังกาย  พี่สาวของ เยล นั้นเป็นเพียงคนเดียวในสมาคมที่ห่วงใยเขาและเป็นเพียงคนเดียวที่ เยล ห่วงใยด้วย

ชื่อของเธอคือ แองโรนแมด บุคคลผู้สง่าแม้จะเทียบในระดับเมืองนาคิไซ นางแก่กว่าเขาเพียง 5 ปีแต่เธอนั้นเป็นนักปราชญ์ 4 ดาวแล้ว อีกอย่างเธอมีพรสวรรค์ทางเวทย์ระดับสูงและมีธาตุที่สอดคล้องกับการรักษาในระดับสมบูรณ์

เพราะพรสวรรค์ที่น่าตะลึงนี้ โรเงรียนนาคิไซได้เข้ามาชวนเธอให้เข้าเรียน ปกติแล้วการจะเข้าเรียนนั้นต้องจ่ายค่าธรรมเนียมที่สูงและผ่านการทดสอบเพื่อที่จะได้เข้าเรียนแต่ แอง นั้นถือว่าเป็นกรณีพิเศษ

ในรอบพันปีที่ผ่านมาเมืองนาคิไซนั้นไม่ได้มีใครที่มีความสอดคล้องกับการฮีลในระดับที่สมบูรณ์จนกระทั่ง แอง นั้นปรากฏตัวออกมา ความสอดคล้องในการฮีลของนางนั้นถือเป็นชนิดพิเศษของความสอดคล้องกับธาตุเพราะมันให้พรสวรรค์ในการฝึกฝนคาถาใดๆที่เกี่ยวข้องกับการฮีลโดยไม่สนว่าเป็นของธาตุใด

คาถาฮีลนั้นยากอย่างมากที่จะเชี่ยวชาญมันโดยเฉพาะด้วยความสามารถทางการฮีลคนอื่นและอีกทั้งธาตุที่สอดคล้องกับการรฮีลนั้นยากที่จะหาได้  ดังนั้นแล้วจึงไม่มีฮีลเลอร์มากมายนักและถือว่าพวกนี้น่ะมีค่าอย่างมาก

เพราะแบบนั้น แอง จึงใช้เวลาส่วนมากที่โรงเรียนนาคิไซ โรงเรียนนั้นได้ดูแลเธออย่างดี เธอได้ทุกอย่างตามที่ขอแต่เธอนั้นไม่ได้กลับบ้านตามต้องการ เยล เห็นเธอแค่เพียงไม่กี่ครั้งตั้งแต่ที่เธอไปโรงเรียนนั้นมา

เยล และ แอง นั้นส่วนมากจะติดต่อกันผ่านทางจดหมายและสำหรับ เยล แล้วการอ่านจดหมายของพี่สาวน่ะเป็นเรื่องสำคัญกว่าการฝึกฝนเพราะเธอน่ะคือคนที่คอยให้กำลังใจเขา

ครั้งนี้จดหมายไม่ได้พูดถึงเรื่องการใช้ชีวิตที่โรงเรียนเหมือนปกติแต่ส่วนมากนั้นเกี่ยวกับการเปลี่ยนนิสัยการใช้ชีวิตของ เยล เพราะเขาเริ่มที่จะฝึกฝนโดยไม่หยุดพักแทนที่การอ่านหนังสือทั้งวัน

อันที่จริงเรื่องที่ซุบซิบนินทาเกี่ยวกับเขานี้ได้ไปถึงหูของพี่สาวเขาด้วย  แอง นั้นมักจะรู้เรื่องของน้องชายเธอ เธอนั้นเป็นคนจิตใจดีอย่างมากและมักจะปกป้องเขาอยู่เสมอ

พวกเขานั้นมีแม่คนเดียวกัน ดังนั้นแล้วจึงต่างกับพี่น้องคนอื่นๆในสมาคม  ความสัมพันธ์นี้ลึกซึ้งและการตายของแม่นั้นก็ทำให้ แอง มักจะกังวลเรื่อง เยล อยู่เสมอเพราะ เยล นั้นไม่มีใครอื่นนอกจากเธอ

เพราะแบบนั้นแล้วทำให้ แอง นั้นเป็นผู้ใหญ่ได้เร็วกว่าเด็กผู้หญิงคนอื่นๆและพ่อนั้นไม่ได้เมินเฉยต่อเธอเหมือนที่ทำกับ เยล  ดังนั้นตั้งแต่ที่เธอจะมีพรสวรรค์ที่ทำให้ทั้งเมืองช็อค เธอก็ได้รับตำแหน่งที่ดีในสมาคมไปแล้ว

แน่นอนว่าเธอพยายามที่จะเปลี่ยนความคิดของพ่อเกี่ยวกับ เยล แต่นั่นเป็นเพียงหัวข้อที่พ่อของเธอนั้นไม่เคยพูดถึงเลยสักครั้ง

เพราะตำแหน่งของเธอในเมืองเริ่มสูงขึ้น เธอคิดว่ามันจะเป็นวิธีที่จะช่วยน้องชายของเธอได้

เพราะ เยล นั้นเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นหนอนหนังสือ เธอจึงเตรียมที่จะหาหนังสือดีๆเอาไว้ให้กับเขาตอนที่เธอขึ้นไปถึงระดับ 5 ดาวในระดับมนุษย์ได้แต่เพราะเธอได้ยินมากว่า เยล นั้นเปลี่ยนไป เธอจึงเปลี่ยนใจและได้ส่งยาให้เขาแทน

ยาพวกนี้เป็นยาระดับต่ำที่สุดทำได้แค่ฟื้นฟูแรงขึ้นมา คนที่เป็นเหมือนคนทั่วไปอย่าง เยล นั้นจะฟื้นฟูแรงทั้งหมดของเขาขึ้นมาแต่คนที่เริ่มฝึกฝนแล้วจะฟื้นฟูแรงขึ้นมาแค่เพียงบางส่วนเท่านั้น

ดังนั้นแล้วยาพวกนี้จึงไม่ได้มีค่ามากเท่าไหร่และ แอง นั้นก็หามันได้โดยไม่ยากนักแต่ยาพวกนี้แหละคือสิ่งที่ เยล ต้องการที่สุดในตอนนี้

อันที่จริง แอง คิดว่า เยล โหยหาความรักของพ่อแม่และเริ่มที่จะฝึกร่างกายเพื่อให้พ่อของทั้งคู่นั้นสนใจเพราะพ่อของเขานั้นสนใจเรื่องความแข็งแกร่งของร่างกายมากที่สุด  ดังนั้นแล้วเธอจึงรีบส่งยาให้กับ เยล เพื่อช่วยเขาในการฝึก

เยล รู้สึกดีกับพี่สาวตัวเองอย่างมากถึงแม้ว่าจะรู้ว่าเธอเข้าใจผิดสำหรับเหตุผลที่เขาทำการฝึกฝนก็ตาม

ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลอะไร ยาวพวกนี้ก็คือสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดและเขาไม่อยากให้มันเสียเปล่า  ด้วยยาพวกนี้แล้ว เยล เริ่มฝึกฝนโดยไม่หยุดพักเพราะใช้ยานี่ฟื้นฟูแรงขึ้นมาแทนการพักได้

ในที่สุดเช้าวันต่อมาก็ได้มีการแจ้งเตือนดังขึ้นมาในหัวของเขา

“แจ้งเตือนจากระบบ : ค่าแรงเพิ่มขึ้นจาก 1 เป็น 2 หน่วย”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด