ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSGS บทที่ 2 – มาถึงขนาดนี้ก็ต้องสร้างฮาเร็มแล้วละ!

SGS บทที่ 1 - จุดเริ่มต้นของเรื่องราว


@ลำดับโลกที่ไป Hayate, index, date a live, SAO, Strike the Blood, date a live ss2, DXD, โลกสวนกล่อง

“เราอยู่ไหนวะเนี่ย!!!”

เสียงแหกปากดังสนั่นทำลายความเงียบในป่า เสียงเขาทำเอาเหล่านกน้อยโดยรอบที่กำลังนอนหลับพากันตื่นตกใจรีบกระพือปีกบินขึ้นฟ้ากันหมด แต่ตัวต้นเหตุก็อยู่ในอารมณ์ตกใจเกินไปกว่าจะไปสนใจ

เด็กหนุ่มคนนี้มีผมและดวงตาสีดำ อายุราว 20 ปี แม้ใบหน้าจะไม่ถึงกับน่าเกลียดแต่ก็ไม่ได้หล่อเหลาอะไร ตอนนี้เขากำลังนั่งยองๆ เอามือกุมหัวอยู่หลังต้นไม้ต้นหนึ่ง

เด็กหนุ่มเงยหน้ามองท้องฟ้า แต่แทนที่จะเห็นฟ้าสีครามกลับเห็นเพียงแค่ต้นไม้ที่สูงลิ่วเสียจนกลบวิสัยทัศน์หมด มุมปากเด็กหนุ่มบิดเบี้ยวในใจนึกอยากร้องไห้แต่มัน.....ไม่มีน้ำตาไหลออกมาเนี่ยสิ.....

ใครจะไปคิดล่ะว่าหลังตื่นนอนขึ้นมา ตัวเองจะมาโผล่อยู่ในที่...อะไรก็ไม่รู้ที่ไม่เห็นแม้แต่เงามนุษย์แบบนี้ แน่นอนว่านี้เป็นแค่ความคิดของเด็กหนุ่มคนเดียว ถ้าเป็นคนอื่นคงจะคิดแค่ว่าเป็นป่าที่ดูเงียบสงบดีจังนะ

ไม่ใช่ว่าเขาไม่คิดว่าตนยังอยู่ในฝัน แต่จากแผลถลอกสดๆบนแขนนี่เป็นหลักฐานชั้นดีที่กำลังตอกย้ำความจริงอันโหดร้ายนี้!

เขาไม่ได้ฝัน!!!

"อย่าบอกนะว่านี่คือการถูกส่งมาต่างโลกในตำนาน? แต่ทำไมไม่เห็นมีสูตรโกงบ้างเลยล่ะ? ปกติแล้วตูต้องโดนส่งไปเกิดใหม่ไม่ใช่เหรอ? ก็ไอนั่นไงแบบกลายเป็นเบบี้น้อยแล้วเอ็นจอยการโอ๋ของพ่อแม่เหมือนอนิเมะที่กำลังดังในช่วงนี้ ทั้งที่มันเป็นควรเป็นแบบนั้น....แล้วทำไม....แล้วทำไมตูถึงได้มาโผล่ในป่าที่มันไร้ผู้คนแบบนี้วะ! เชี่ยเอ้ย! แล้วจะให้ตูทำไงต่อวะหา!? ถนนหนทางก็ไม่รู้.......เอ่อ..แค่กๆท่านมหาเทพหรือจอมมารปีศาจตนใดที่ส่งลูกมาที่แห่งนี้ ท่านแน่ใจนะว่าไม่ได้ส่งมาผิดพิกัดน่ะ?" เด็กหนุ่มนั่งลงบนพื้นลงอย่างหมดแรงโดยไม่สนว่าก้นจะเปื้อนขี้ดินหรือไม่ เขาพูดพึมพำโอดครวญอะไรสักอย่างไม่หยุดเหมือนคนสติแตก

ควรพูดว่าสมแล้วที่เป็นโอตาคุใช่ไหม?

บางทีอาจะเป็นเพราะท่านเทพได้ยินคำพูดของเขาที่บ่นกะปอดกะแปดไม่หยุดก็เป็นได้ ด้วยความเหนื่อยใจจึงมีเสียงเย็นชาไร้อารมณ์ดุจเครื่องจักรดังขึ้นในหัวเขา

“กำลังเปิดระบบ ... เปิดระบบสำเร็จ! ยินดีที่ได้รู้จัก ยูสเซอร์ที่นับถือ.....”

พวกคุณลองคิดดูนะ เมื่อคนๆหนึ่งอยู่ในสถานที่ที่เปล่าเปลี่ยวและเงียบสนิทซึ่งมองไปทางไหนก็ไม่เห็นแม้แต่เงาคน แต่จู่ๆกลับมีเสียงที่เย็นชาชวนขนลุกดังขึ้น พวกคุณจะมีปฏิกิริยาแบบไหน? ตอนนี้ใบหน้าของเด็กหนุ่มคนนี้จะบอกคุณเอง

ร่างเขาสั่นสะท้าน พริบตาต่อมาเขาก็กรีดร้องแล้วกระโดดโหย่งขึ้นเหมือนติดสปริง

“คะ..ใครกัน..อย่าเล่นแบบนี้สิเฮ้ย เอ็งคิดว่าตูจะกลัวรึ? จะบอกไรให้ ถ้าให้เลือกระหว่างกินข้าวหรูๆกับดูอนิเมะ ตูเลือกอดข้าว7วัน7คืนดูอนิเมะจนหิวสุดๆแล้วค่อยกินดีกว่า เพราะงั้นฉันจะไม่มาตายในที่ที่ประหลาดแบบนี้แน่ แกเข้าใจที่ฉันพูดมั้ย!?” เด็กหนุ่มเอ่ยพูดรัวๆเพ้อเจ้อลิ้นพันกัน ขณะที่ขาก็สั่นพั่บๆไปด้วย

“……” สิ้นคำพูดเขาก็มีแต่ความเงียบตอบกลับมา เด็กหนุ่มกลืนน้ำลายเอือกก่อนจะหันซ้ายหันขวามองไปรอบตัว ขณะเดียวกันก็อดด่าตัวเองที่พูดอะไรไม่รู้เรื่องออกไปในใจ

บางทีอาจเป็นเพราะเริ่มคุมสติได้เล็กน้อย เขากลืนน้ำลายอีกรอบและพยายามหยุดสมองที่กำลังสั่งให้วิ่งหนีไป แล้วพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆว่า “ฮะ..เฮ้..นะ.นายน่ะ พูดอะไรบ้างสิ...”

อนึ่ง นี่จะโทษเขาก็ไม่ได้ ลองจินตนาการว่าตัวเองมาเจอสถานการณ์แบบเดียวกันดูสิ คิดว่าตัวเองจะสามารถใจเย็นอยู่ได้จริงงั้นเหรอ? แล้วนับประสาอะไรกับเด็กหนุ่มที่เป็นแค่ฮิคิโคโมริธรรมดา ที่แม้แต่ก้าวออกจากบ้านยังไม่ขี้เกียจแสนขี้เกียจเลย

แต่น่าเสียดายที่ยังคงไม่มีเสียงตอบกลับ ราวกับว่าเสียงเย็นชาเมื่อกี้เป็นแค่ภาพลวงตา

เด็กหนุ่มมองไปรอบๆด้วยแววตาตื่นกลัว ไม่นานนักเขาก็สูดลมหายใจเข้าไปเฮือกใหญ่ เพื่อสงบจิตใจตนเอง จากนั้นก็เปิดปากพูดอีกครั้งว่า “สวัสดี คุณคนที่พูดว่าระบบ.....”

พูดถึงตรงนี้เขาก็หยุดไป ก่อนที่จะเบิกตากว้างอย่างตื่นตะลึง

(ระบบ? เมื่อกี้เราพูดว่าระบบเหรอ?.....ไม่ผิดแน่! นี่มันต้องเป็นระบบโครตโกงที่คนที่โดนส่งมาต่างโลกต้องมีติดตัวกันทุกคนแน่นอน!!)

(เอาจริงดิ? แบบมันต้องเช็ค!)

คิดถึงตรงนี้ เขาก็ใจเย็นลงได้แล้ว ขณะที่เกาหัว เขาก็เอ่ยด้วยนำเสียงสงสัยว่า “ระบบครับ?”

พูดเสร็จปุป ก็มีเสียงเครื่องจักรดังตอบขึ้นมาทันที

“ยินดีที่ได้รับใช้ ยูสเซอร์!”

เด็กหนุ่มเผลอตัวสะดุ้งเล็กน้อย แต่เพราะเขาได้เตรียมใจรอไว้ก่อนแล้ว จึงไม่เหมือนเมื่อกี้ที่เล่นมาไม่ให้ตั้งตัวเป็นใครก็ต้องตกใจล่ะ!

“’เอ่อ ... ระบบ ที่นี่ที่ไหนอ่ะ? มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมฉันถึงมาโผล่ที่นี่?” เขายิงคำถามรัวๆจนน้ำลายกระเด็นเป็นปืนกล เขาอยากรู้ใจจะขาดอยู่แล้ว กับที่ที่ไม่มีแม้แต่รอยเท้าของมนุษย์ ทำให้เขาเห็นระบบดั่งฟางเส้นสุดท้าย

“ปี๊บ! ตำแหน่งปัจจุบันของยูสเซอร์ โลกซิลวาเรีย ป่าสัตว์อสูร!”

(....ห๊ะ? โลกซิลวาเรีย? ป่าสัตว์อสูร?)

จากข้อมูลพวกนี้ เด็กหนุ่มสามารถสรุปได้หลายข้อ อาทิเช่น 1.เขาถูกส่งมาจริง 2.จากชื่อของสถานที่นี้ เขาถูกส่งมายังโลกแบบตะวันตก 3.ถ้าที่นี่เป็นโลกปกติธรรมดาก็ถือว่าโชคดีไป แต่ถ้าเป็นโลกแฟนตาซีที่มีพวกเวทมนต์ล่ะก็....ดูจากชื่อ ป่าสัตว์อสูร บางทีตัวเขาอาจกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่วิกฤตสุดๆอยู่ก็เป็นได้ ถ้าแบบไม่เข้าข้างตัวเอง โอกาสที่จะรอดมันมากกว่าการที่เขาไปบอกรักผู้หญิงแล้วโดนหักอกกลับมาแค่เล็กน้อยเท่านั้น......

สะบัดหัวแรงๆ ราวกับจะโยนความคิดบัดซบดูถูกตัวเองพวกนี้ออกจากหัวให้หมด เขาเตือนตัวเองในใจไม่หยุด ว่านี่เป็นแค่การคาดเดามั่วๆ ใครจะไปรู้ล่ะอาจจะคิดผิดหมดเลยก็ได้ บางทีอาจจะเป็นแบบในนิยายแนวส่งมาต่างโลกตามมาตรฐานก็ได้ ที่อีกไม่นานเขาก็สามารถพิชิตโลก มีฮาเร็มเป็นของตัวเอง และทำให้โลกต้องจารึกชื่อ!

ตามในนิยายแล้วมันต้องเป็นแบบนั้นสิ!

อนิจจา นี่เป็นเพียงแค่ฝันกลางวันโง่ๆของโอตาคุคนหนึ่งเท่านั้น......

ไม่นานนัก เขาก็เลิกเพ้อหลังจากนึกถึงเจ้าระบบลึกลับนี้ได้ เด็กหนุ่มค่อยๆผ่อนคลายลง

สูดลมหายใจเข้าออกสองสามครั้ง แล้วหัวเราะแห้งๆออกมา ก่อนที่จะยืดอกตัวตรง หันมาพูดกับความว่างเปล่า “ฉันสามารถกลับไปได้ไหม?”

“ปี๊บ! คำถามเกินขอบเขตที่ระบบจะตอบได้ แนะนำให้ยูสเซอร์หาคำตอบด้วยตัวเอง!”

ริมฝีปากเขากระตุกสองสามที เด็กหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ "เกินขอบเขตที่ว่ามันหมายความว่าไง?"

ทันใดนั่นก็มีหน้าจอโผล่ออกมาตรงหน้า ถึงแม้มันจะมีสีสันอยู่ก็เถอะแต่ทว่ามันกลับให้ความรู้สึกราวกับเป็นภาพลวงตา เหมือนกับภาพที่ถูกฉายออกมาจากโปรเจคเตอร์ยังไงยังงั้น

เขามองมันด้วยสีหน้าเหรอหรา ดูหน้าจอที่กำลังลอยอยู่ตรงหน้า มีตัวอักษรอยู่ว่า สเตตัส อุปกรณ์ ไอเท็ม อบิลิตี้ และ อัญเชิญ มัน......ดูเหมือนหน้าจอเกมเลย

ตอนนี้ ถ้าเขายังไม่รู้ว่าพวกนี้คืออะไร เขาคงล้มเหลวที่เป็น ฮิคิโคโมริ....ไม่ว่าดูยังไงนี่ ... ก็คือระบบเทพที่ออกมาจากนิยายชัดๆ!

เด็กหนุ่มกระโดดตัวลอยดีใจ โดยที่ลืมเรื่องเมื่อกี้ที่ตัวเองยังกลัวจนฉี่แทบแตกไปเลย.....

(กะแล้วว่าตัวเราคือตัวเอก! เทพธิดาแห่งโชคต้องกำลังโบกมือให้เราอยู่แน่!) เขาหัวเราะฮ่าๆเหมือนคนสติไม่เต็มอยู่คนเดียว

เด็กหนุ่มมองไปที่หน้าจอสถานะด้วยสายตาหวานฉ่ำเหมือนกับกำลังมองคนรักของตัวเอง ต่อมาเขาก็ค่อยๆยื่นหน้าเข้าไปใกล้และ.....จูบมัน ด้วยความบ้าเต็มพิกัด

จากนั้นเขาก็กดไปที่หน้าจอสถานะ

หน้าจอทั้งห้าหายไป และสิ่งที่ปรากฏคือ คำอธิบายค่าสถานะของเขา

ชื่อ : มนุษย์

ความสามารถ : ไม่มี

อุปกรณ์ : ไม่มี

แต้มอุมกรณ์(Ep) : 0

แต้มไอเท็ม(Ip) : 0

แต้มควาสามารถ(Ap) : 0

แต้มอัญเชิญ(Sp) : 0

เลเวล : 0

“……….”

อึ้ง จากสีหน้าของเขาบอกได้เลยว่าโครตอึ้งกับไอค่าสถานะ ใบหน้าของเด็กหนุ่มบิดเบี้ยวเปลี่ยนสีไปมาหลายรอบ

(รู้อยู่หรอกว่าตอนนี้มันไม่ใช่เวลามาตบมุข แต่ตูก็อดไม่ได้จริงๆโว้ยยย!)

“ฉันขอพูดอะไรหน่อยนะ ปกติแล้ว ค่าสถานะเริ่มต้นจะน้อยแบบนี้ ฉันก็รับได้ แต่เชี่ยนี้มันอะไรกัน? ไอ้ มนุษย์ นี้มันอะไร!!?” คนที่เคยเล่นMMORPG หรือคนที่เคยอ่านโนเวลเกมออนไลน์คงรู้ ตรงบรรทัดแรกจริงๆมันควรเป็นชื่อผู้เล่น......

“ฟู่….” สายลมพัดใบไม้บนพื้นลอยขึ้น และพัดมาโดนหน้าเด็กหนุ่ม ราวกับว่ากำลังเยาะเย้ยเขาอยู่

เงียบไปพักหนึ่ง ก็มีเสียงลึกลับของระบบดังขึ้น

“กรุณาเลือกชื่อเล่น!”

(เมื่อกี้แกหยุดคิดไปสินะ!! ใช่แน่ๆ!! ไอเวรนี่!!!)

เขาขยี้ผมบนหัวจนมันยุ่งเหมือนรังนกด้วยความหัวร้อน ขยี้จนพอใจแล้วก็ค่อยๆเอามือลงมาอย่างอ่อนแรง

“กรุณาเลือกชื่อเล่น!”

มันเร่งเขายิกๆ ทำเขาอยากจะบีบคอฆ่าตัวตายจริงๆ ไม่นานนักเด็กหนุ่มก็ถอนหายใจยาวและพูดว่า “ชื่อของฉันคือ......”

หยุดคิดครู่หนึ่ง ที่นี่คือโลกใหม่ งั้นก็หมายความว่าเริ่มต้นใหม่หมด งั้นชื่อเก่าของเขาคงไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว

ในเมื่อนี้เป็นการพบกันในสถานที่ที่เงียบเชี่ยๆแบบนี้ ถ้างั้น.....เขาเงยหน้าขึ้น แล้วพูดว่า “วู่หยาน ต่อจากนี้ไป....ฉันชื่อ วู่หยาน!”

เด็กหนุ่ม ไม่สิ......วู่หยาน ถึงมันจะเป็นชื่อที่ดูไม่ดีเท่าไหร่ แต่นี้เป็นสิ่งที่ตัวเขาในตอนนี้คิดได้อ่ะนะ

“ปี๊บ! ยืนยัน ยูสเซอร์ วู่หยาน โปรดกดยืนยันสถานะจะถูกแก้ไขจาก มนุษย์ เป็น วู่หยาน”

เขาพยักหน้าหงึกหงึกด้วยความพึงพอใจกับหน้าจอแบบเดิมที่คุ้นเคย(?)

ต่อจากนั้นด้วยความหวัง วู่หยานก็จิ้มไปที่หน้าจอ อบิลิตี้ และมีหน้าจอย่อยขึ้นมา3อัน 'สกิล' 'พรสวรรค์' 'สายเลือด' เขาคลิกไปที่ 'สายเลือด' ก่อนอย่างไม่ลังเล

เนตรวงแหวน(ลูกน้ำ1อัน) : 1,000 Ap

เนตรวงแหวน(ลูกน้ำ2อัน) : 3,000 Ap

เนตรวงแหวน(ลูกน้ำ3อัน) : 10,000 Ap

เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา : 100,000 Ap

เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผานิรันดร์ : 500,000 Ap

เนตรสังสาระ : 1,000,000 Ap

แวมไพร์ต้นกำเนิด(True Ancestor) : 500,000 Ap

.

.

.

มองดูสายเลือดที่ยาวเป็นหางว่าวต่อไปอีกหลายหน้า เขาก็อึ้งและยิ่งอึ้งหนักไปอีกเมื่อเหลือบไปมองที่ตัวเลขซึ่งยาวไม่แพ้กัน วู่หยานรีบกด 'กลับ' ออกมาอย่างเร่งด่วน แม้ว่าจะกลับมาแล้ว แต่จิดใจเขาก็ยังไม่หายจากอาการช็อค

ตอนนี้ วู่หยานมั่นใจอย่างหนึ่งก็คือ ระบบของเขามันโครตเทพ! แบบนี้มันออกจะท้าทายสวรรค์ใปมั้ยเนี่ย!

(ด้วยระบบเทพเจ้านี้ เขาไม่เชื่อว่า ตนจะพิชิตโลกไม่ได้! แค่กๆพูดไปงั้นแหละ ก็แบบนั่นไงอารมณ์มันพาไป......)

ตอนนี้ วู่หยานรู้สึกดีมากดีสุดๆ ราวกับว่าตัวเองได้ไปยืนอยู่บนจูดสูงสุดของโลกแล้ว ก้าวเท้าไปในเส้นทางที่เต็มไปซากศพ กวาดล้างศัตรูด้วยดาบที่มีพลังอันไร้ขัดจำกัดดุจลาสบอส!

อนึ่ง นี้เป็นอาการที่พบได้บ่อยในโรค ฮิคิโคโมริ หรือเรียกอีกชื่อว่า ‘อาการมโน’

วู่หยานยิ้มอย่างมีความสุข และกดต่อไปยังหมวด พรสวรรค์

ควบคุมเวกเตอร์

Lv1 : 500 Ap

Lv2 : 1,000 Ap

Lv3 : 5,000 AP

Lv4 : 50,000 Ap

Lv5 : 500,000 Ap

พันธสัญญาแห่งเปลวเพลิง : 300,000 Ap (จากเรื่อง เนตรเพลิงชานะ)

ดวงตามรณะ : 1,000,000 Ap (จากเรื่อง tsukihime)

.

.

รายการพวกนี้ ทำวู่หยานเบิกตากว้างอยู่นาน เมื่อเขาได้สติมุมปากก็ยกขึ้นดูชั่วร้ายอย่างมากยิ่งบวกกับเสียงหัวเราะหึๆ อีก จากนั้นเขาก็กดไปดูต่อที่หมวด สกิล

ปราณน้ำแข็ง(Ice dou qi) : 10,000 Ap

ปรานความมืด(Dark dou qi): 10,000 Ap

เวทมนต์ศักดิ์สิทธิ์: 100,000 Ap

เวทมนต์เงา : 100,000 Ap

เวทมนต์อันเดด : 100,000 Ap

------------------------------------

ปัจจุบัน 7/4/2565 แปลไปแล้ว 1,125 ตอน

สามารถติดตามต่อได้ก่อนใครที่เพจ - ห้องสมุดคนรักนิยาย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด