ตอนที่แล้วตอนที่ 38 ปะทะเชิงเซียวหยวน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 40 เฉินเฟิงเลี่ยก้มหัว

ตอนที่ 39 สังหาร


จักรพรรดิปรุงยาแห่งวิถีสวรรค์ ตอนที่ 39 สังหาร

 

หลิงฮันยกหมัดขึ้น กลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวถูกปลดปล่อยออกมา

 

เพลงหมัดเสือดำทะยานเมฆา ทักษะระดับเหลืองขั้นสูง!

 

หลายวันที่ผ่านมาเขาเอาแต่ฝึกทักษะดาบ จึงไม่มีความก้าวหน้าในด้านทักษะหมัดมากนัก ทักษะหมัดนี้เคยเป็นทักษะที่เขาเก็บเอาไว้เมื่อชีวิตที่แล้ว ถึงแม้เขาจะไม่ถึงขั้นใช้มันได้อย่างเชี่ยวชาญ แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่คนอื่นต้องใช้เวลานับสิบปีในการฝึกฝนถึงจะมาอยู่ระดับเดียวกับเขา

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อใช้มันออกมา เจตจำนงแห่งจอมยุทธระดับสวรรค์ของเขาเมื่อชีวิตที่แล้วก็ยังไม่หายไป

 

เมื่อเขาใช้ทักษะนี้ออกไป มันราวกับว่าเขากลายเป็นเสือดำที่ล่าเหยื่ออย่างเหี้ยมโหด กระหายเลือดและน่าหวาดกลัว

 

“ปัง ปัง ปัง” หลิงฮันได้ใช้พลังเข้าปะทะกับเชิงเซียวหยวนอย่ารุนแรง

 

“หือ ทักษะนั่นมันอะไรกัน?”

 

“ตระกูลหลิงมีสามสุดยอดทักษะยุทธ หนึ่งคือทักษะดาบ สองคือทักษะกระบอง และสุดท้ายคือทักษะฝ่ามือ พวกเขาไม่มีทักษะหมัดแต่อย่างใด”

 

“หรือว่านั่นจะเป็นทักษะยุทธระดับเหลืองขั้นต่ำ?”

 

“แต่ทักษะระดับเหลืองขั้นต่ำมีพลังขนาดนั้นเลยรึ?”

 

“ทุกคนล้วนแต่แปลกใจ และตกตะลึงในพลังที่หลิงฮันแสดงออกมา”

 

ในใจของเชิงเซียวหยวนเต็มไปด้วยความงุนงง มันได้ใช้ทักษะยุทธระดับเหลืองขั้นสูงออกไปแล้ว แต่ทำไมยังไม่สามารถทำให้หลิงฮันพ่ายแพ้ได้อีก? หรือว่าตัวตนอันกระจ้อยร่อยที่มาจากเมืองหมอกเมฆาเองก็มีทักษะยุทธระดับเหลืองขั้นสูงเหมือนกัน?

 

เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!

 

พวกเขาแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันไปไม่กี่กระบวนท่า แต่เชิงเซียวหยวนกลับถูกกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ จนที่หน้าผากของมันมีเหงื่อไหลออกมา

 

นั่นเพราะ พลังในทุกๆหมัดของหลิงฮันดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มันเหมือนกับหมอนี่เพิ่งจะเรียนรู้ทักษะนี้เป็นครั้งแรก และเมื่อใช้ไปเรื่อยๆถึงได้เริ่มคุ้นชิน พลังของแต่ละหมัดจึงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

 

ที่จริง สิ่งที่มันกำลังคิดอยู่ก็ถือว่าเป็นความจริง

 

เพลงหมัดเสือดำทะยานเมฆาเป็นทักษะยุทธที่หลิงฮันเคยใช้ก่อนที่จะบรรลุถึงระดับก่อเกิดธาตุ เขาไม่ได้ใช้มันมานานมากแล้วจึงเป็นธรรมดาที่เขาจะขาดการฝึกฝนมันมานาน อย่างไรก็ตาม อัจฉริยะก็ยังคงเป็นอัจฉริยะ พวกเขาเพิ่งจะสู้กันไปไม่นาน หลิงฮันก็เริ่มจะค่อยๆแสดงพลังของทักษะนี้ออกมาได้ทีละน้อย

 

ตามหลักแล้วทักษะยุทธระดับเหลืองขั้นสูงจะสามารถเพิ่มพลังให้ผู้ใช้ได้เจ็ดสิบถึงหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่จะแสดงพลังของมันออกมาได้เท่าใดก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้ทำความเข้าใจในทักษะได้แค่ไหน

 

หากไม่สามารถทำความเข้าใจได้ ทักษะระดับเหลืองขั้นสูงก็ไม่อาจเทียบได้แม้กระทั้งระดับเหลืองขั้นต่ำ

 

เชิงเซียวหยวนสามารถปลดปล่อยพลังของฝ่ามือสะเทือนโลกาได้ประมาณแปดสิบเปอร์เซ็นต์ แต่หลิงฮันสามารถปลดปล่อยพลังของทักษะของเขาได้ถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ แถมพลังที่ปลดปล่อย

ออกมายังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆไม่มีหยุด

 

ด้วยเหตุนี้ จึงเริ่มเห็นได้ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆว่าเชิงเซียวหยวนตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

 

นี่คือความสามารถของหลิงฮัน แถมนี่เขายังเพิ่งจะก้าวขึ้นมายังระดับรวมธาตุด้วยซ้ำ หากเขาบรรลุไปยังขั้นหนึ่งระดับสูงสุดแล้วล่ะก็ เขาจะสามารถต่อกรกับคู่ต่อสู้ในระดับรวมธาตุขั้นห้าได้อย่างสูสีเลยด้วยซ้ำ!

 

“อัจฉริยะ!”

 

“ใครจะไปคิดกันว่าขยะจากตระกูลหลิงที่จริงแล้วจะเป็นอัจฉริยะขนาดนี้!”

 

“เหลือเชื่อยิ่งนัก... ในเมื่อเขาเป็นอัจฉริยะขนาดนี้ ทำไมในอดีตถึงยอมตกอยู่ในสถานะแบบนั้นกัน?”

 

“ข้าจะบอกความลับให้เอง เมื่อตอนที่หลิงตงซิงกลับมายังตระกูลหลิงเมื่อหลายปีก่อน ตัวของเขาถูกปกคลุมไปด้วยเลือดและกำลังอุ้มทารกอยู่ในอ้อมแขน!”

 

“เจ้าหมายความว่า หลิงตงซิงถูกตามล่าโดยจอมยุทธที่แข็งแกร่งบางคน บุตรของเขาเลยต้องทำตัวไม่โดดเด่นงั้นรึ? แล้วทำไมหลิงฮันถึงเลือกที่จะเผยพรสวรรค์ออกมาตอนนี้กัน?”

 

“เจ้าถามข้า... แล้วข้าจะไปถามใครล่ะ?”

 

ก่อนหน้านี้ ถึงแม้ว่าหลิงฮันจะโค่นเชิงเซียงและน้องของมันได้ที่สำนักหมอกเมฆา แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังไม่เชื่อมากนักเพราะคนที่เห็นเหตุการณ์ก็มีเพียงศิษย์จำนวนไม่มากเท่านั้น

 

แต่สถานการณ์ในตอนนี้ต่างออกไป หลิงฮันไม่เพียงแค่ทะลวงผ่านระดับรวมธาตุได้ แต่ยังแสดงพลังต่อสู้อันแข็งแกร่งออกมาด้วย ทำให้ภาพลักษณ์ของเขาพุ่งขึ้นสูงไปอีกขั้น!

 

เพราะในเมืองหมอกเมฆาแห่งนี้ เหล่าคนที่สามารถบรรลุถึงระดับรวมธาตุได้จะถือว่าเป็นจอมยุทธที่แข็งแกร่งที่สุด

 

หลิงฮันปล่อยหมัดออกไปไม่หยุด และในไม่ช้า ดูเหมือนเขาจะเริ่มชำนาญทักษะหมัดมากขึ้นเรื่อยๆ ท่วงท่าของเขาเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งขึ้นอย่างไม่หยุดยั้งจนใกล้จะปลดปล่อยพลังได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว

 

ทักษะหมัดเองก็เหมือนทักษะดาบ มันสามารถสร้างปราณหมัดขึ้นมาได้ ซึ่งสามารถควบแน่นจนกลายเป็นรัศมีแห่งหมัด ตามตำนานที่เล่าขานกันมาตั้งแต่โบราณ เมื่อดวงดาวหล่นลงมาจากท้องฟ้า จอมยุทธที่ทรงพลังคนหนึ่งได้ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างห้าวหาญ และด้วยหนึ่งหมัดก็สามารถบดขยี้ดวงดาวให้แตกออกเป็นเสี่ยงๆได้!

 

จอมยุทธที่ทรงพลังคนนี้เป็นคนที่เชี่ยวชาญทักษะหมัดจนถึงระดับสูงสุด ยิ่งกว่านั้นเขาไม่ใช่เพียงแค่สร้างรัศมีแห่งหมัดขึ้นมาได้ แต่เขายังสามารถไปถึงจุดสูงสุดของทักษะหมัด แก่นแท้แห่งหมัด! โดยจุดสูงสุดของดาบก็คือแก่นแท้แห่งดาบ และจุดสูงสุดของกระบี่ก็คือแก่นแท้แห่งกระบี่

 

หลิงฮันไม่ได้มีพรสวรรค์ในด้านทักษะหมัดมากนัก เขาไม่เคยสร้างปราณหมัดขึ้นมาได้เลยด้วยซ้ำ แต่ด้วยระดับของทักษะหมัดในปัจจุบันของเขาก็เพียงพอแล้วที่จะจัดการเชิงเซียวหยวน

 

เขาใช้ย่างก้าวเมฆาสลายทำให้ดูราวกับกำลังลอยอยู่ เหล่าคนที่อยู่ในระดับหลอมกายารู้สึกเหมือนเห็นภาพด้านหน้าของพวกมันกำลังพร่ามัว ราวกับเห็นหลิงฮันมีหลายคนโดยที่ไม่สามารถบอกได้ว่าคนไหนคือตัวจริง

 

“ปัง! ปัง! ปัง!”

 

ในเมื่อเชิงเซียวหยวนมุ่งร้ายต่อเขา ทำไมเขาจะต้องปล่อยมันเอาไว้ด้วย?

 

หมัดที่ปล่อยออกไปมีความเร็วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มสร้างปราณหมัดขึ้นมาอย่างช้าๆ ทุกๆครั้งที่ปล่อยกำปั้นออกไป จะต้องมีเลือดไหลออกมาจากร่างกายของเชิงเซียวหยวน ปราณหมัดก็เหมือนปราณดาบ มันแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก หากเชี่ยวชาญจนถึงจุดสูงสุด ไม่มีอะไรในโลกที่ไม่สามารถทำลายได้ด้วยหมัดเดียว!

 

“นั่นมันอะไรกัน ช่างทรงพลังยิ่งนัก!”

 

“จริงด้วย ราวกับหมัดของเขากลายเป็นดาบที่ทรงพลังเลย”

 

“ข้ารู้จัก มันคือปราณหมัด!”

 

“ปราณหมัดคืออันใดกัน?”

 

“ดาบ กระบี่ หมัด ฝ่ามือ และอย่างอื่น คนที่มุ่งฝึกฝนหนทางใดหนทางหนึ่งอย่างเชี่ยวชาญจะสามารถสร้าง ’ปราณ’ ขึ้นมาได้ โดยมันจะเพิ่มพลังให้แก่ผู้ใช้เป็นอย่างมาก”

 

“ทำไมข้าถึงไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย?”

 

“นั่นเพราะว่ามีคนอยู่น้อยมากที่สามารถสร้างปราณขึ้นมาได้! พวกเขาถูกเรียกว่าเป็น... ราชาของเหล่าจอมยุทธ!”

 

ทุกๆคนล้วนตกตะลึงในพลังที่หลิงฮันแสดงออกมา และด้วยการอธิบายจากชายชราผู้รอบรู้ พวกมันจึงได้เข้าใจถึงพลังอันน่ากลัวของปราณหมัด ซึ่งทำให้พวกมันตกตะลึงมากขึ้นไปอีก หรือว่าจะมีอัจฉริยะที่โดดเด่นปรากฎตัวขึ้นที่เมืองหมอกเมฆาแห่งนี้จริงๆ?

 

ในขณะเดียวกัน ไม่มีใครแล้วที่จะตะลึงไปมากกว่าหลิวอู๋ตง นั่นเพราะนางรู้อยู่แล้วว่าหลิงฮันไม่ใช่เพียงแค่สามารถสร้างปราณหมัดได้ แต่ยังสามารถสร้างปราณดาบขึ้นมาได้แล้วก่อนหน้านี้ แถมยังมีปราณดาบที่สร้างขึ้นมาแล้วถึงสี่เล่ม!

 

หมอนี่เป็นสัตว์ประหลาดแบบไหนกันแน่!

 

แต่หลิงฮันก็ไม่ดีใจกับความสำเร็จนี้แม่แต่น้อย ในฐานะที่เคยเป็นจอมยุทธระดับสวรรค์ การสร้างปราณขึ้นมาได้ถือว่าเป็นสิ่งเขาคาดคิดเอาไว้อยู่แล้ว อาจจะลำบากเล็กน้อยเมื่อเขาจะสร้างรัศมีแห่งดาบ ส่วนแก่นแท้แห่งดาบนั้นคือการท้าทายที่แท้จริง

 

จิตสังหารได้ปรากฏขึ้นบนดวงตาของเขา และหมัดของเขาที่พุ่งออกไปอย่างรวดเร็วมีพลังเพิ่มขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว!

 

ในสถานการณ์ปกติที่มีเฉินเฟิงเลี่ยคอยมองอยู่ มันเป็นเรื่องยากมากที่จะสังหารเชิงเซียวหยวนเพราะเฉินเฟิงเลี่ยจะต้องมาหยุดยั้งเขาอย่างแน่นอน ดังนั้น เขาจะต้องสังหารเชิงเซียวหยวนในกระบวนท่าเดียว

 

หลังจากการปะกันอย่างยาวนาน เขาก็สามารถมองเห็นจุดอ่อนของศัตรูได้ ยิ่งกว่านั้นก่อนหน้านี้เขายังไม่ได้ใช้พลังเต็มที่ด้วยซ้ำ เขาเก็บพลังเอาไว้เพื่อใช้สังหารในกระบวนท่าสุดท้าย

 

“ไม่!” ใบหน้าของเชิงเซียวหยวนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว พลังของหมัดนี้มีมากเกินไป มันไม่สามารถที่จะป้องกันและอยู่รอดอย่างมีชีวิตแน่นอน

 

“ตูม!”

 

หมัดพุ่งออกไป และเชิงเซียวหยวนมองมายังหลิงฮันด้วยสายตาที่ว่างเปล่า “ปัง” ขาของมันอ่อนลงและคุกเข่าลงกับพื้น ร่างกายส่วนบนของมันแกว่งไปมาก่อนที่จะล้มเสียงดังลงบนพื้น

 

หัวใจของมันถูกบดละเอียดจนตาย

 

“เจ้าเด็กบ้า กล้าดียังไง!” เฉินเฟิงเลี่ยลุกขึ้นทันที และเพลิงแห่งความโกรธได้ปรากฎขึ้นที่ดวงตาของมัน

 

ถึงเชิงเซียวหยวนเป็นเพียงศิษย์ในนามของมัน แต่ไม่ว่าจะยังไงมันก็ยังเป็นศิษย์ของนิกายหมาป่าหินผาอันยิ่งใหญ่ มันไม่ใช่คนที่นายน้อยจากเมืองเล็กๆแบบนี้จะมาสังหารได้

 

จิตสังหารของมันลุกโชนขึ้นมา มันต้องการจะสังหารหลิงฮัน เกียรติของนิกายหมาป่าหินผาไม่สามารถถูกทำให้มัวหมองได้

 

“ตาแก่ ถ้ายังไม่อยากตายข้าแนะนำว่าอย่าได้มีความคิดอะไรบ้าๆดีกว่า” หลิงฮันพูดด้วยน้ำเสียงอำมหิตและหันไปมองเฉินเฟิงเลี่ย

 

ทุกๆคนในที่นี้คิดอย่างเดียวกันว่า ‘หลิงฮันบ้าไปแล้ว!’

 

**ติดตามข่าวสารได้ที่ เพจ**

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด