ตอนที่แล้วEG บทที่ 160 การขายส่งอุปกรณ์ของอุตสาหกรรมเบา (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEG บทที่ 162 เงินสั่งได้ทุกอย่าง (อ่านฟรี)

EG บทที่ 161 การงอกของเมล็ดที่ฝังอยู่ในใจ (อ่านฟรี)


“เฮียหวัง ผมได้ยินมาว่าซ่งเหล่าซื่ออยากหาเรื่องกับเจ้าเด็กเฝิงอีกแล้ว”

หวังขาเป๋กำลังแช่น้ำอยู่ในอ่างอาบน้ำ พร้อมกับคลุมใบหน้าด้วยผ้าขนหนู เขาชอบแช่น้ำในอ่างมากเพราะทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายและไม่รู้สึกว่าขาตัวเองพิการ

ผู้ติดตามพูดต่อเพราะไม่เห็นว่าหวังขาเป๋แสดงปฏิกิริยาอะไร “กิจการของบริษัทการค้าของเด็กนั่นที่ขายพัดลมเฟิงหยูเมื่อปีที่แล้วและเครื่องทำความชื้นในปีนี้กำลังไปได้ดีมาก แถมยังมีโฆษณาทาง CCTV ด้วย ผมได้ยินมาว่ากำไรประจำปีมากกว่า 20-30 ล้านเชียวนะ!”

“ไม่นานมานี้ มีโครงการรื้อถอนน้อยลง และซ่งเหล่าซื่ออยากจะทำธุรกิจอื่น ผมได้ยินมาว่าเขามุ่งเป้าหมายไปยังบริษัทการค้าของเฝิงหยู่ ลูกน้องของเราบอกว่าที่ปรึกษาของซ่งเหล่าซื่อไปที่บริษัทการค้า ดูเหมือนว่าเขาอยากจะซื้อหุ้นในบริษัทนั้น”

หวังขาเป๋ดึงผ้าขนหนูบนหน้าเขาออกและมองไปที่ผู้ติดตามของเขา แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไรสักคำ แต่ผู้ติดตามคนนั้นก็รู้สึกขนลุกไปทั่วทั้งตัว

“แล้วเขาประสบความสำเร็จหรือเปล่า?”

“เอิ่ม...ผมคิดว่าไม่นะครับ ได้ยินมาว่าเฝิงหยู่ปฏิเสธเขา ผมก็ไม่แน่ใจว่าเจ้าเฝิงหยู่นั่นคิดอะไรอยู่? หน้าบริษัทของเขามีป้ายยี่ห้อแขวนอยู่เยอะมาก ทั้งจากโรงงานมอเตอร์ โรงงานการบิน โรงงานเครื่องจักร และบางส่วนยังเป็นของหน่วยงานของรัฐบาลและแม้แต่ของรัฐบาลเมืองก็มี”

“ที่พูดมาทั้งหมดนี่ต้องการจะบอกอะไร?”

“เฮียหวังครับ แม้ว่ารายได้ของเราในช่วงปีที่ผ่านมาจะไม่ได้เลวร้าย แต่เราก็มีลูกน้องเยอะ คุณดีกับพวกเรามากแถมยังแบ่งรายได้ให้พวกเราด้วย คุณลองดูซ่งเหล่าซื่อสิ คฤหาสน์ของเขาใหญ่ใหญ่กว่าของผู้พันเสียอีก ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทของเฝิงหยู่ก็ตั้งอยู่ในเขตของเรา แล้วถ้าจะมีคนได้เข้าถือหุ้นในบริษัทนั้น แล้วก็น่าจะต้องเป็นพวกเราสิ”

หวังขาเป๋มองหน้าผู้ติดตาม “คุณกำลังจะบอกให้ฉันเลิกสนใจกฎระเบียบ แล้วไปยึดกิจการของนายหน้าที่ดินของตัวฉันเองนะหรอ?”

“ไม่ใช่ยึดครับ ก็แค่เป็นผู้ถือหุ้นคนหนึ่งหรือไม่ก็เป็นหุ้นส่วนของบริษัท เราก็จะต้องลงเงินทุนและได้รับผลกำไรบางส่วนด้วย เมื่อถึงเวลาที่ต้องแบ่งกำไร เราก็จะได้เห็นว่าเจ้าเด็กเฝิงหยู่จะทำยังไง”

หวังขาเป๋ลังเล เขาเป็นหัวหน้าแก๊งก็จริง แต่เขาก็ไม่ได้มีราศีเหมือนซ่งเหล่าซื่อ ทุกคนก็เป็นหัวหน้าแก๊งแต่ทำไมซ่งเหล่าซื่อถึงสบายสุด? นี่ก็เป็นเพราะว่าซ่งเหล่าซื่อหาเงินได้มากที่สุดนั่นเอง

ตอนนี้ผู้ติดตามของเขาเข้าใจแล้ว ซ่งเหล่าซื่อใช้ที่ดินของตัวเองเพื่อซื้อหุ้นในบริษัทที่ตั้งอยู่ที่นี่ นี่ถือเป็นการก้าวล้ำเขตแดนอย่างเห็นได้ชัด ถ้าเป็นเพราะโครงการรื้อถอน ก็ยังโอเคอยู่ แต่นี่เป็นบริษัทการค้าและทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้า ถ้าซ่งเหล่าซื่อได้ในสิ่งที่เขาต้องการ หวังขาเป๋ก็จะเสียหน้ามาก

ในช่วงนี้ เนื่องจากทั้งซ่งเหล่าซื่อและหวังขาเป๋ได้รับคำเตือนจากรัฐบาลเมือง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ค่อยอยากหาเรื่องเท่าไรนัก แต่ก็ช่วงเวลาเดียวกันนี่แหละที่ซ่งเหล่าซื่อแต่งตั้งตัวเองให้เป็นหัวหน้าใหญ่ของจังหวัดหลงเจียง หลายเมืองรับทราบเรื่องนี้แล้ว และไม่มีใครในเมืองปิงที่คัดค้านเลย

“แล้วถ้าเขาไม่ยอมให้เราซือ้หุ้นในบริษัทละ? คุณบอกว่าเขามีคอนเนคชั่นกับเจ้าหน้าที่รัฐหลายคน และถ้าเป็นเรื่องจริง คุณคิดว่าเขาจะยอมให้เราได้ในสิ่งที่เราต้องการหรอ?” หวังขาเป๋ถาม

“เฮียหวัง ยังมีอีกเรื่องที่ผมเพิ่งได้ยินมา จำได้มั้ยครับว่าเฝิงหยู่ซื้อกระถางธูปจากเราไป?”

“กระถางธูปหรือ?” หวังขาเป๋พยายามนึก เขาขายกระถางธูปไปด้วยหรอ?

“กระถางธูปที่วางอยู่ในโถงห้องประชุมของเราไงครับ ที่เจ้าเด็กนั่นซื้อจากเราไปในราคา 300,000 หยวน”

“นั่นมันข้อแก้ตัวในการชดเชยค่าบาดเจ็บของลูกน้องเราไม่ใช่หรอ?” หวังขาเป๋จำเหตุการณ์นั้นได้

“นั่นไง” ผู้ติดตามตบขาตัวเองด้วยท่าทีเกินจริง “ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่ลูกพี่ลูกน้องผมที่ทำงานอยู่ในธนาคารเพิ่งได้ยินมาว่ามีคนเอาโบราณวัตถุชิ้นหนึ่งมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันสำหรับเงินกู้ คุณลองทายดูสอว่าธนาคารให้เงินกู้เขาเท่าไร? หกล้านหยวน!”

หวังขาเป๋ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ “หกล้าน? โบราณวัตถุอะไรกัน? อย่าบอกนะว่าโบราณวัตถุนั้นคือกระถางธูป?”

“ใช่แล้วครับ ผมได้ยินมาว่าเป็นกระถางธูปซวนเต๋อ และเป็นสมบัติอันมีค่าจากราชวงศ์หมิง เจ้าเด็กนั่นใช้เงิน 300,000 หยวนโกงเราไป มีข่าวลือว่านักธุรกิจชาวฮ่องกงเสนอเงินให้ 10 ล้านสำหรับกระถางธูปใบนั้น!” ผู้ติดตามพูดต่อ

หวังขาเป๋ใช้กำปั้นทุบลงบนพื้นผิวน้ำอย่างแรงจนน้ำกระจายไปโดนหน้าของผู้ติดตาม เมื่อหวังขาเป๋โกรธ ไม่มีใครกล้าทำอะไรขัดใจเขาทั้งนั้น ไม่งั้น พวกเขาจะได้ลิ้มรสไม้เท้าเหล็กของเขาแน่ๆ

อันที่จริง หวังขาเป๋ชอบเฝิงหยู่เพราะยังเป็นเด็กหนุ่มและสามารถเริ่มทำธุรกิจเองได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากนี้ เฝิงหยู่ยังรู้วิธีการจัดการกับสถานการณ์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี เขารู้ว่าจะต้องตอบแทนคนอื่นที่มาให้ความช่วยเหลืออย่างไร แต่ตอนนี้หวังขาเป๋รู้แล้วว่าเขาถูกเฝิงหยู่โกง!

เพราะกระถางธูปซวนเต๋อใบนี้ ทำให้ความรู้สึกดีๆ ต่อเฝิงหยู่นั้นหายไปหมด ตอนนี้เขารู้สึกโกรธเฝิงหยู่มาก!

หกล้าน ไม่สิ น่าจะต้องถึงสิบล้านหยวนด้วยซ้ำ! เขามีลูกน้องหลายคน และไม่มีทางที่แก๊งของเขาจะสามารถหาเงินสิบล้านได้ภายในหนึ่งเดือน

“พรุ่งนี้ แกไปบอกเขาว่าเราอยากจะซื้อหุ้นในบริษัทนั้น”

“เฮียหวัง เราต้องจ่ายให้เขาเท่าไร?”

“เท่าไรนะหรือ? เราได้เขาไปแล้วไง กระถางธูปนั่นมีมูลค่าตั้ง 10 ล้าน” หวังขาเป๋เหลือบมองผู้ติดตาม

ผู้ติดตามเข้าใจในทันทีว่าเขาหมายความว่าอย่างไร “เข้าใจละครับ ถ้างั้นผมขอถามเรื่องโบนัสปีที่แล้วได้มั้ยครับ?”

“เรื่องเล็กแค่นี้ยังจะต้องมาถามฉันอีกหรอ?”

.........

ตอนนี้เปิดเทอมสำหรับชั้นมัธยมปีที่ 5 แล้ว นักเรียนถูกแยกห้องเรียนตามสายวิทย์และสายศิลป์ ครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่เฝิงหยู่และลีน่าได้เรียนอยู่ห้องเดียวกัน และเฝิงหยู่ก็นั่งอยู่ด้านหลังลีน่า แม้แต่ครูประจำชั้นคนก่อนที่คอยดูแลเขาก็ถูกบังคับให้มาเป็นครูประจำชั้นของเขาในปีนี้อีกครั้ง แต่เฝิงหยู่ก็ยังรู้สึกอารมณ์ไม่ดี

ที่เขาอารมณ์ไม่ดีไม่ใช่เพราะเรื่องที่โรงเรียน แต่เป็นเพราะบริษัทการค้าไท่หัว

บริษัทการค้าไท่หัวยุ่งมากในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน อย่างไรก็ตาม เฝิงหยู่ก็พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ นอกเหนือจากเครื่องจักรจากสหภาพโซเวียต เขายังได้หุ้นด้วย และการขายเครื่องทำความชื้นก็ยังไปได้ด้วยดีเหนือความคาดหมายของเขา

เมื่อวานซืน เขาได้รับโทรศัพท์จากอู่จื้อกางเพื่อขอให้เขากลับไปที่บริษัท หลังจากที่เข้าเดินทางไปที่บริษัท เฝิงหยู่ก็ไม่ได้ยิ้มอีกเลย

เฝิงหยู่คิดว่าซ่งเหล่าซื่อจะไม่หาเรื่องเขาอีกแล้ว เขาไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งนี้ เขาอยากให้ประวัติศาสตร์ดำเนินไปตามทางของมัน อีกแค่ปีเดียวเท่านั้น แต่เมื่อวานนี้ คนของซ่งเหล่าซื่อมาที่บริษัทเพื่อขอซื้อหุ้น 50% ในบริษัท และเขาเสนอราคาที่สูงมาก ซึ่งก็คือ 5 ล้านหยวน

5 ล้าน? ถึงจะให้ 500 ล้าน เฝิงหยู่ก็ไม่ขาย!

ตอนนี้ บริษัทของเขามีหุ้นมูลค่ามากกว่า 200 ล้าน แม้ว่าเขาจะเป็นหนี้จากการกู้ยืมเงินธนาคาร แต่ในอีกสองปีเขาจะได้กำไรอย่างน้อย 5 เท่าจากจำนวนดังกล่าว ถ้าเขาโชคดี เขาอาจจะได้มากกว่า 10 เท่าเลยทีเดียว!

ลูกน้องของซ่งเหล่าซื่อคนนั้นเห็นว่าบริษัทการค้าไท่หัวมีกิจการที่ดำเนินไปได้ด้วยดีและอยากจะได้ส่วนแบ่งกำไรบ้าง

เฝิงหยู่ส่งลูกน้องของซ่งเหล่าซื่อกลับไปพร้อมกับข้อแก้ตัวว่าเขาต้องขอพิจารณาเรื่องนี้ก่อนสักสองสามวัน ยังไม่ทันที่เขาจะคิดหาทางออกได้ ลูกน้องของหวังขาเป๋ก็มาหาเขาที่บริษัท โดยมาบอกว่าอยากจะลงทุนเงิน 10 ล้านหยวน ซึ่งเป็นค่ากระถางธูปเมื่อปีที่แล้ว เขายังสั่งให้เฝิงหยู่แบ่งผลกำไรของปีที่แล้วให้ด้วย

การทำให้สองแก๊งนี้ตีกันเองคงไม่ได้ผลในทุกครั้ง โดยเฉพาะตอนนี้มีเรื่องกระถางธูปเข้ามาเกี่ยวด้วย ความสัมพันธ์ของเขากับหวังขาเป๋จบลงแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไปยุให้หวังขาเป๋ทะเลาะกับซ่งเหล่าซื่อ

การมาของลูกน้องของซ่งเหล่าซื่อและหวังขาเป๋เป็นการกระตุ้นความคิดที่จะกำจัดทุกแก๊งที่ฝังรากอยู่ภายในจิตใจของเฝิงหยู่

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด