ตอนที่แล้วChapter 3 The Joke Got Too Big
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 5 Boss Who is Cold on the Outside but Warm on the Inside

Chapter 4 Miss Zhuang is exception to Mr.Si


Chapter 4 Miss Zhuang is exception to Mr.Si

 

 

 

 

เมื่อเดินมาถึงตรงลานกว้างของหน้าโรงแรม Wisten Grand ผู้คุ้มกันและผู้ช่วย รวมถึงพนักงานทั้งหบายต่างยืนเรียงกันเป็นแถวอย่างเป็นระเบียบ เพื่อหลีกทางใหุ้ณชายซือเจิ้งถิงเดินขึ้นรถได้สะดวก

 

 

 

 

เพียงไม่นานนัก รถ Mercedes Benz รุ่น Maybach สีเงินเทาที่เด่นสะดุดตา มันคือรถที่จัดทำมาเพื่อผู้บริหารระดับสูงของทั่วโลก นอกจากมีดีไซนที่หรูหรา ภายในยังมีความสะดวกสบายต่างๆที่ทำให้มันสามารถช่วยและให้เป็นเครื่องยนต์อัจฉริยะได้อย่างดีทีเดียว

 

 

 

ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที รถดังกล่าวก็เคลื่อนตัวมายอดหน้าทางเข้าอย่างช้าๆ และเมื่อมาถึงจุดที่คุณชายยืนอยู่ คนขับก็ลงมาเปิดประตูให้เขาทันที

 

 

 

 

ซือเจิ้งถิงไม่รอช้า เมื่อมีคนประตูให้ เขาจึงรีบเดินขึ้นรถไปยังรวดเร็วด้านเบาหลัง ในขณะที่รถกำลังจะเคลื่อนตัวออก จวงไหน่ไหน่ก็รีบกางแขนกางขา ขวางหน้ารถไว้ให้เบรกทันที

 

 

 

"ฉันจะไปกับคุณด้วย เพราะเราไปทางเดียวกัน ตกลงนะ!"ไม่รอให้คนอย่างคุณชายเจิ้งถิงตอบ เธอรีบเดินไปทางประตูรถด้านข้างและพยายามเปิดประตูเอง แต่ประตูกลับเปิดไม่ออกสะงั้น

 

 

 

"ออกรถเลย" เจิ้งถิงสั่งคนขับรถให้ออกรถเลยทันที เขาไม่มีทางให้หญิงสาวคนนี้มานั่งร่วมรถกับเขาแน่ ไม่งั้นเขาอาจจะฆ่าเธอก่อนจะถึงที่หมายก็เป็นได้

 

 

 

 

เมื่อหลังจากที่รถกำลังจะเคลื่อนตัวออก ผู้คุ้มกันสองคนก็ล็อกตัวจวงไหน่ไว้อย่างแน่นหนาเพื่อไม่ให้เธอวิ่งตามไป นั้นทำให้เธอมองพวกเขาซ้ายขวาอย่างไม่เข้าใจ

 

 

จ้วงไหน่รู้สึกโกรธนิดหน่อยที่เขาทำกับเธออย่างไม่แยแสขนาดนี้ แต่จวงไหน่ก็ไม่ถอดใจ เธอเอียงศีรษะหันไปมองยังรถของบอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลัง ก่อนจะรีบกระโดดเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว บอดี้การ์บางส่วรที่ยืนอยู่ต่างก็ตกใจและมองการกระทำของเธอด้วยความไม่พอใจ แต่ผู้ช่วยกลับยืนนิ่งและส่ายหัวเท่านั้น

 

 

 

หนึ่งในบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่มองการกระทำของจวงไหน่อย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะเดินมาหาผู้ช่วยคนสนิทอีกคนของเจิ้งถิงว่า "ทำไมเราไม่จับเธอให้ออกไปเลยละครับ ทำไมยัง่อยให้ผู้หญิงคนนี้ตามรังควานนายอยู่อีก? " บอดี้การ์ดถามด้วยความสงสัย เพราะไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนกล้าเดินตามคุณชายของพวกเขาเลยสักคนเดียว

 

 

 

รอยยิ้มที่มีความหมายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผู้ช่วย ก่อนจะตอบว่า "มิสจวง เป็นข้อยกเว้นของนาย" ผู้ช่วยตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ…

 

 

 

ผู้คุ้มกันที่ถามเมื่อครู่เขาถึงกลับสับสน คนที่ไบ่ตามนายคือมิสกู ไม่ใช่หรอ? เหตุใดถึงเรียกเธอว่ามิสจวงสะอย่างนั้น

 

 

 

ไม่มีคำตอบให้สำหรับเขา ผู้ช่วยเดินไปเปิดประตูขึ้นรถไปนั่งคันเดียวกับจวงไหน่อย่างใจเย็น ทิ้งให้ผู้คุ้มกันยืนเกาหัว ก่อนจะค่อยๆเดินออกไปออกรถ

 

 

_________________________________

 

 

 

และแล้ว ภายในระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมง

 

 

 

รถสี่ห้าคันได้มาจอดเทียบเรียงกันอยู่หน้าด้านสำนักงานใหญ่ของกลุ่ม Di Hao Group อย่างเป็นระเบียบ ส่วนพนักงานที่อยู่ด้านในก็เตรียมตัวออกมาต้อนรับนายเจิ้งถิงของผู้ชายตอนเช้า

 

 

 

 

จวงไหน่วิ่งออกจากรถตามนายเจิ้งถิงไปทันที ด้วยความเร็วที่คิดว่าชีวิตนี้จะทำได้ ก่อนจะใกล้กับตัวเขาแล้ว เมื่อจะถึงตัวของเจิ้งถิง เธอกับสางผมและเดินตามอยู่ข้างหลังเขาก่อนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เอาน่า วันนี้เธอต้องได้พูดธุระของเธอสักที แต่เมื่อเธอจะเปิดปากพูด ทันใดนั้นเอง เจิ้งถิงก็หันหลังกลับมาด้วยความเร็วเช่นกัน ก่อนที่จวงไหน่จะได้เปิดปากพูด นั้นทำให้เธอต้องเก็บคำพูดไว้ ไม่งั้นเขาคงจะฆ่าเธอตรงนี้แน่ๆ

 

 

 

เมื่อเดินขึ้นลิฟต์จนใกล้จะถึงห้องประชุม จวงไหน่จึงรวบรวมความกล้าก่อนจะไม่สนอะไรทั้งนั้น ก่อนจะพูดขึ้น "คุณชายค่ะ คุณช่วยฟังฉันก่อนสักครู่หนึ่งได้ไหมค่ะ แล้วฉันจะยอมกลับไปตอนนี้เลย" จวงไหน่พูดออกไปด้วยความกล้าหาญ เพราะเธอคิดว่า ถ้าไา่ทำแบบนี้ เขาคงจะไม่ยอมฟังเธอเป็นแน่

 

 

 

 

ซือเจิ้งถิงยังคงเดินต่อไป โดยไม่หันกลับมามองพวกเขาเบยสักนิดเดียว รายกับคำพูดของจวงไหน่เป็นเพียงลมที่พัดผ่านไปเท่านั้น

 

 

 

จวงไหน่ที่เห็นเจิ้งถิงยังคงเดินต่อไปไม่หยุดนั้นทำให้เธอตัดสินใจวิ่งไปดักหน้าเขาพร้อมกับกางแขนออก เพื่อไม่ให้เขาเดินต่อไป และในขณะนั้นเองพวกเขากำลังมาถึงห้องประชุมแล้ว "สิ่งที่ฉันจะพูดคือ เมื่อไหร่คุณจะแต่งงานกับฉันสะที…!" จวงไหน่ถามพลางหลับตาปี๋ด้วยความกลัว

 

 

 

ก่อนที่เธอจะพูดจบเธอก็ตระหนักได้ว่าซือเจิ้งถิงกำลังเดินอยู่โดยไม่ได้คาดหวังที่จะหยุดเลยแม้แต่น้อยืและเมื่อนั้นเองร่างของพวกเขาก็กระแทกกันอีกครั้ง ก่อนที่เจิ้งถิงจะเผลอยื่นมือไปคว้าร่างของจวงไหน่โดยอัตโนมัติ และเมื่อพวกเขาสบตากัน พวกเขาก็รู้สึกได้ถึงดวงตาหลายสิบคู่ที่กำลังมองมาจากด้านในห้องประชุม ด้วยความที่เป็นกระจกใสอย่างดี จึงทำให้พวกเขาเห็นเหตุการณ์ด้านนอกทั้งหมด!

 

 

 

ไม่จริงใช่ไหม! เธอไม่ได้กำลังโอบเขาอยู่ใช่ไหม!

 

 

 

ในขณะนั้นเองจวงไหน่รีบยิ้มยิงฟันใส่เจิ้งถิงเหมือนว่าเธอไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เขาต้องมารับนชร่างของเธอแบบนี้ ซึ่งเจิ้งถิงเพียงแค่ปล่อยร่างของเธอทันทีเท่านั้น เหมือนเพิ่งจับสิ่งที่น่ารังเกียจมาหมาดๆ

 

 

 

เมื่อความกระตือรือร้นถูกกลืนกินดด้วยความเยือกเย็น ... ..

 

 

เหตุการณ์นี้ต้องสิ้นสุดลง ก่อนจะจบลงด้วยการที่เจิ้งถิงเลิกสนใจเธอและเดินผ่านร่างเธอเข้าไปห้องประชุมอย่างรวดเร็ว

 

 

 

จวงไหน่ตัดสินใจสูดลมหายใจลึก ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเอง ก่อนที่จะฉีกยิ้มอันอบอุ่นให้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธออีกครั้ง เผื่อคุณชายเจิ้งถืงจะให้อภัยกับการกระทำของเธอเมื่อครู่

 

 

 

แต่เขาก็ไม่สนใจเธออยู่ดี จวงไหน่ทำได้แค่ยืนอยู่นอกห้องประชุมเพื่อตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นภายนอกผ่านประตูกระจก เธอยังมีหวังอยู่ใช่ไหมนะ…

 

 

บรรยากาศจะเคร่งขรึมในระหว่างการประชุมทุกครั้งที่มีผู้บริหารอย่างคุณชายเจิ้งถิงนั่งอยู่ด้วย กรรมการและเจ้าหน้าที่อาวุโสทุกคนต่างให้ความสนใจอย่างรอบคอบและเคารพต่อการตัดสินใจของเจิ้งถิง

 

 

เขานั่งอยู่บนที่นั่งหลักเปรียบเสมือานจักรพรรดิโบราณอันเก่าแก่ที่อยู่จุดสูงสุดของทุกคน

 

 

 

จวงไหน่ยังคงไม่ไปไหน เธอยังคงยืนมองเจอ้งถิงจากกระจกอีกฟากหนึ่ง เธออยากจะเห็นว่าเขาทำอะไรบ้างในแต่ละวัน การมองเขาอาจจะไม่น่าเบื่อแบบที่ทุกคนเคยพูดไว้ก็ได้

 

 

เมื่อจวงไหน่มองใบหน้าและทุกอริยาบถของเจิ้งถิงไปเรื่อยๆ เธอก็ตระหนักได้ว่าเธอและเขาไม่สมควรที่จะมาบรรจบกันเลยแม้แต่นิด เหมือนดวงจันทร์กับดวงอาทิตย์ เหมือนฟ้ากับทะเล เหมือนจักรพรรดิกับเฉลยศึกอะไรเทือกนั้นที่ไม่ควรมาอยู่คู่กัน มันไม่ใช่แค่ความไม่เหมาะสม แต่มันคือความจริงต่างหาก ชีวิตจริง คือเขาและเธอช่างห่างไกลกันโดยสิ้นเชิง

 

 

 

ขณะที่เธอถอนหายใจออกมาอยู่นั้น เมื่อเธอเงยหน้าและมองเข้าไป สิ่งที่เธอเห็นโดยไม่ได้ตั้งใจก็คือ เจิ้งถิงกำลังเอามือลูบท้อวตัวเองสองครั้งในขณะที่พูดอยู่ และจวงไหน่คิดว่าภาพนี้ไม่มีใครสังเกตุเห็นมันนอกจากเธอ ที่ยืนจ้องเขาตลอดเวลา มันไม่ใช่ภาพที่เร็วมากจนคนอย่างจวงไหน่จับภาพไม่ได้ ให้ตายสิ คำเตือนของเธอเห็นผลแล้วไหมล่ะ!

 

 

 

และในขณะที่จวงไหน่กำลังยืนอย่างรุกรี้รุกรนอยู่นั้น เลขานุการของเจิ้งถิงก็เดินมาพร้อมกับรถเข็นที่เต็มไปด้วยถ้วยกาแฟร้อน นั้นทำให้เธอมองมันด้วยดวงตาเบิกโพร่ง

 

 

 

ยังไม่ทันที่เลขาจะเปิดประตูและเดินเข้าไป ทันใดนั้นจวงไหน่รีบวิ่งเข้าไปหาเธอ ก่อนจะยื่นใบหน้าเข้าไปกระซิบบางอย่างที่ทำให้เธอต้องส่ายหน้าอย่างรุนแรง ก่อนจะพยายามอธิบาย แต่ก็ถูกจวงไหน่มองเธออย่างอ้อนวอนและรีบแย่งรถไปจากเธอทันที

 

_________________________________

 

อีกไม่กี่นาทีต่อมา…

 

เมื่อเลขานุการเดินเข็นรถส่งกาแฟมายังห้องประชุมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เธอจึงเริ่มเดินเสริฟ์กาแฟให้ผู้ที่เข้าประชุมแต่ละคนอย่างสุภาพ โดยการวางให้ทีละคน เธอเดินเสริฟ์ไปเรื่อยๆจนเธอถึงคนสุดท้าย ที่ทำให้หัวใจเธอเต้นรัว ราวกับมันจะระเบิดออกมา การเสี่ยงดวงครั้งนี้ มันจะคุ้มไหมนะ ที่เธอจะเสี่ยง…

 

 

 

 

ที่หายไปเพราะเธอไปทำกาแฟที่ทำมาพิเศษเพื่อให้คุณชายเจิ้งถิงโดยเฉพาะ โดยมันเป็นคำสั่งจากจวงไหน่ที่คะยั้นคะยอให้เธอลองทำมัน เพราะคิดว่า เขาอาจจะประทับใจเธอก็เป็นได้

 

 

ซือเจิ้งถิงมองท่าทางแปลกๆของเลขาด้วยความสงสัย แต่เขาก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไร และยังคงพูดต่อเพราะไม่อยากให้การประชุมขาดช่วงไปนาน เมื่อเธอวางถ้วยกาแฟลง เขาจึงหยิบมันขึ้นมาหวังจะดื่ม แต่ทว่าเมื่อเจิ้งถิงเห็นว่าในถ้วยกาแฟของเขา มีสีเหมือนนมอ่อนๆ นั้นทำให้เขาหยุดชะงักการพูดลงอย่างฉับพลัน จนเลขาแทบหยุดหายใจ…!!

 

 

 

บรรยากาศ ณ ตอนนี้ เหมือนมีลมกระโชกแรงพัดผ่านมายังห้องประชุม จนทำให้เหมือนพวกเขาอยู่ในพายุใต้ฝุ่น

 

เลขานุการยืนตัวสั่นด้วยความัวมเธอก้มหน้าลงและแอบร้องไห้ในใจ เธอคิดว่าจวงไหน่คงจะเกลียดขี้หน้าเธอรึเปล่า ถึงได้อยากให้เธอออกจากที่นี้เร็วขนาดนี้

 

เสียงสะอื้นดังขึ้นในใจเธอไม่หยุด บางทีเธออาจจะต้องกระเด็นออกจากประเทศนี้ด้วยเลยก็เป็นได้

 

 

 

แค่คิดว่าคุณชายเจิ้งถิงโมโห เธอก็หนาวสะท้านไปทั้งตัว…

 

 

เหตุการณ์จะเป็นยังไงต่อไป…!!

 

 

To Be Continue…

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด