Chapter 1 Why are you here?
Chapter 1 Why are you here?
ในค่ำคืนยามราตรีที่มีเพียงพระจันทร์ที่สาดส่องสว่างอยู่บนฟากฟ้า จนมองเห็นหมู่ดาวมากมายเต็มไปหมด
โรงแรม Westin Grand แห่งนี้จึงถูกปลกคลุมด้วยแสงจันทร์ที่อาบจนดูเหมือนปราสาทยามค่ำคืน ด้วยความที่เป็นโรงแรมติดระดับห้าดาวของที่แห่งนี้ ไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้ว่าโรงแรมแห่งนี้มีความอัศจรรย์มากมายให้ผู้ที่เข้าพักได้ลิ้มรสบรรยากาศแห่งโลกแห่งความงามและความฝันยามหลับใหล…
เมื่อมองจากปลายยอดแหลมของสัญลักษณ์ของโรงแรมลงมา สิ่งแรกที่จะเห็นคือสวนดอกไม้ของโรงแรมที่มีทางเดินทอดยาวและประดับประดาไปด้วยไฟสีทองมากมาย ที่ทำให้บรรยากาศในสวนแห่งนี้กลับดูลึกลับและหรูหราในคราวเดียวกัน
ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าของหญิงสาวที่เดินอย่างเร่งรีบด้วยรองเท้าส้นสูงหนังสีแดงของเธอ ทำให้เธอเดินไม่สะดวกและเดินได้ไม่เร็วเท่าไหร่นัก จึงทำให้เธอตัดสินใจถอดรองเท้าทั้งๆที่กำลังเดินอยู่กลางสวนดอกไม้ที่สวยงาม แต่เธอไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น แค่หยุดเดินและถอดมันออกเท่านั้น
หญิงสาวใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ในที่สุดเธอก็เดินมาหยุดอยู่หน้าประตูโรงแรมแห่งนี้แล้ว
ไฟข้างในส่องสว่างและยังคงมีแขกที่ร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีมากมายที่เดินเข้าออกทางประตูสารพัด ด้วยความที่แห่งนี้ตั้งอยู่บนยอดเขาและค่อนข้างสงบ จึงทำให้โรงแรมแห่งนี้ค่อนข้างเป็นส่วนตัวและมหาเศรษฐีมากมายจึงเลือกให้ที่นี้เป็นที่พักผ่อนที่ดีที่สุด แม้ต้องใช้เวลาในการเดินทางมาพักพอสมควร แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการนอนหลับดั่งคืนที่นอนอยู่บนสรวงสวรรค์
หญิงสาวที่เดินมาพร้อมกับกระเป๋าคลัชใบสีแดงเข้ากับชุด ทำให้เธอตัดสินใจกระชับมันแน่น ก่อนจะใส่รองเท้ากลับตามเดิมและเดินด้วยร่างหลังตรงเข้าไปด้านใน โดยที่มีผู้คนมากมายจับจ้องมาทางเธอ
เมื่อหญิงสาวเดินมาถึงลิฟต์แก้วของที่นี้ เธอก็ไม่ลังเลที่จะเข้าไปด้านในและกดชั้นที่เธอต้องการ
แม้โรงแรมนี้จะใหญ่มากและมีความซับซ้อนราวกับปราสาท แต่กลับมีห้องพักห้องหนึ่งที่ไม่มีใครเข้าไปย่างกรายได้ ถ้าไม่ใช่แขกวีไอพีหรือพิเศษจริงๆ โดยห้องพักนั้นจะอยู่ชั้นบนสุดและอยู่ในโซนส่วนตัวด้วยความที่มีขนาดกว้างและยาวกว่าห้องพักทั่วไป หญิงสาวพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เมื่อเธอรู้ว่ากำลังจะทำอะไรต่อไป
กิ๊ง!
เสียงลิฟต์มาหยุดยังชั้นที่เธอต้องการ ทางเดินประดับด้วยดวงไฟสีส้มอ่อนที่ทำให้คนมองรู้สึกเรียบหรู หญิงสาวค่อยๆกอดกระเป๋าแน่น ก่อนจะค่อยๆเดินออกจากลิฟต์ไปด้วยเรียวขาที่กำลังสั่นและออกอาการตื่นเต้นเสียเต็มประดา
และเมื่อเธอเดินมาถึงหน้าห้องพักที่เป็นเป้าหมายของเธอ หญิงสาวก็สูดลมหายใจเข้าออกอีกรอบเพื่อตั้งสติในการทำภารกิจต่อไป
‘หมอนี้คงไม่ล็อกประตูหรอกมั้ง…’
หญิงสาวคิดดังนั้นก่อนจะตัดสินใจหมุนลูกบิดประตูและเปิดเข้าไปด้วยความเงียบที่สุด เท่าที่เธอจะทำได้
เมื่อเธอยัดร่างอันเพรียวบางของเธอเข้ามาในห้อง ก็เกือบจะร้องว้าวออกมาด้วยความตื่นเต้น ห้องนี้คือห้อง presidential suite ที่หรูหราที่สุดในโรงแรม Westin Grand แห่งนี้
ขณะนั้นเองหญิงสาวก็ค่อยๆเดินย่องไปเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ที่ห้องนอนที่มีห้องน้ำเรือนกระจก เธอได้ยินเสียงน้ำไหลเป็นระยะ บ่งบอกว่าเจ้าของห้องคงกำลังอาบน้ำอย่างสบายใจ โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ามีแมวยั่วสวาทเข้ามายังห้องนี้เรียบร้อยแล้ว
หญิงสาวมองไปที่หน้าต่างตรงระเบียงที่เปิดอยู่ เธอแอบมองออกไปก่อนจะเห็นว่าจุดชมวิวของห้องนี้สวยแค่ไหน ท้องฟ้าสีครามที่มืดสนิทแต่กลับมีแสงจันทร์สาดส่องคู่กันนั้น มันช่างสวยงามจริงๆ
ภายในห้องนี้เงียบสนิทจนได้ยินเพียงเสียงน้ำไหลกับลมที่โบกสะบัดเท่านั้น อากาศภายในห้องค่อนข้างหนาวทีเดียว จนหญิงสาวเองรู้สึกว่าผิวกายของเธอเย็นขึ้นเล็กน้อย แต่เธอก็ไม่ได้ท้อถอยที่จะเดินเข้าไปด้านในห้องที่มีเตียงนอน
และทันทีที่เธอเดินย่างกรายเข้าไปโดยหมุนลูกบิดดัง กริ๊ก!
"วางเอกสารไว้บนโต๊ะให้ฉันด้วย" น้ำเสียงเย็นยะเยือกของชายหนุ่มที่อยู่ในห้องน้ำดังขึ้นท่ามกลางความเงียบสนิทภายในห้อง
‘ตายแล้ว …เขาอาบน้ำเสร็จแล้วหรอ?!’
หญิงสาวที่ยืนอยู่ในห้องเธอถึงขึ้นกัดเล็บด้วยความเครียดเมื่อได้ยินเสียงของชายหนุ่ม หญิงสาวที่ว่านี้ เธอคือจวงไหน่ไหน่ หรือเรียกสั้นๆว่าจวงไหน่ เธอรู้ตัวดีว่าเมื่อขึ้นมาถึงนี้ เธอต้องทำอะไร แต่คิดแล้วคิดอีก เธอก็รู้สึกกลัวอยู่ดี
เหงื่อมากมายผุดขึ้นบนใบหน้าและแผ่นหลังของเธอ เดรสซีทรูสีแดงที่เธออุสส่าถอยมันมาจากร้านเสื้อผ้าชื่อดังในห้าง ทำให้เธอเกือบเลือดตากระเด็นออกมาเมื่อตอนรูดบัตรจ่ายมัน แต่จวงไหน่คิดว่า นี่คือการลงทุนที่ดี ในการเริ่มต้นแผนกู้โลกของเธอ และนั้นทำให้เธอต้องทำมัน
จวงไหน่เดินย่องไปจนถึงเตียงและเห็นโต๊ะลิ้นชัก เธอจึงเดินเข้าไปทันที เพราะการที่เธอตระหนักได้ว่าคนที่อยู่ในห้องน้ำไม่ได้ออกมาเธอก็โล่งใจไปได้เปราะหนึ่ง
โคมไฟระยาอันใหญ่ไม่ได้ถูกเปิดไว้ มีเพียงแค่โคมไฟบนโต๊ะหัวเตียงเท่านั้นที่เปิดอยู่ แสงไฟที่สลัวนี้ค่อนข้างจะตัดกับเส้นขอบฟ้าภายนอกหน้าต่างได้อย่างสวยงาม และมันเหมือนแผนที่ของดวงดาวบนเพดานที่ยาวลงมาจรดพื้น
แต่จวงไหน่ไม่ได้สนใจวิวทิวทัศน์อีกต่อไป เธอรีบจะเริ่มภารกิจของเธอสักที นั้นคือการหยิบลิปสติกสีแดงสดของเธออกมาจากกระเป๋าคลัชและเติมมันบนริมฝีปากอันอวบอิ่มให้แดงราวกับกลีบกุหลาบ ก่อนจะหันไปมองเตียงคิงไซต์ที่มองแล้วไม่ต่างอะไรจากเตียงของพระราชวังที่อยู่ด้านหลังด้วยแววตาท้อใจ
นี่เธอต้องทำมันจริงๆใช่ไหม…
จวงไหน่ถอนหายใจอีกครั้ง เธอคงต้องยอมเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นสักครั้ง ก่อนจะตัดสินใจเปิดผ้านวมและยัดตัวเองเข้าไปอยู่ด้านในอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าแมลงสาบ
ไม่นานนักหลังจากนั้นเสียงของน้ำในห้องน้ำก็หยุดลง ประตูก็ถูกเปิดออกและทันใดนั้นเอง ร่างชายหนุ่มสูงโปร่งก็เดินออกมาพร้อมกับชุดคลุมอาบน้ำโชว์เนินอกและหน้าท้องที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามที่เรียงตัวสวยได้รูป จนคิดว่ามันถูกปั้นมามากกว่าจะเป็นของจริง
ชายหนุ่มเดินออกมาพร้อมไอระเหยที่กำลังล่องลอยอยู่รอบตัวเขา ในขณะที่ชายหนุ่มเดินออกมานั้น แน่นอนว่าเขาต้องสวมเพียงชุดคลุมอาบน้ำไว้อย่างลวกๆและเอามือเช็ดผมสีดำสนิทของตัวเองที่เพิ่งสระมันใหม่ๆไปด้วยความรีบร้อน เพราะเขาคิดว่าการไดร์ผมที่ดี ควรจะทำผมให้หมาดสะก่อนเพื่อที่จะได้ไม่เสียเวลาไดร์มันนานนัก
จวงไหน่ที่มองภาพเหล่านั้นอยู่ใต้ผ้าห่มทำให้เธอต้องพยายามควบคุมลมหายใจให้เต้นช้าลง รวมถึงปิดริมฝีปากตัวเองเพื่อไม่ให้เสียงเล็ดลอดออกไปได้ เมื่อชายหนุ่มเดินไปยังโต๊ะทำงานของเขาแล้วไม่พบเอกสารอะไร เขาก็หยุดชะงัก ก่อนจะหันไปมองที่เตียงทันที
พรึบ!
ชายหนุ่มกระชากผ้านวมออกในคราวเดียว จนเห็นร่างหญิงสาวที่อยู่ในชุดราตรีสีแดงสดกำลังนอนคดตัวอยู่พร้อมใบหน้าที่บู้บี้ราวกับเธอคิดว่าเขาคงจะกินเธอลง
ดวงตาของชายหนุ่มฉายแววแข็งกร้าวราวกับเขาต้องการจะระเบิดเตียงนี้ให้ไฟสุมเลยทีเดียว
ภาพตรงหน้าคือหญิงสาวที่พยายามแต่งหน้าด้วยเครื่องสำอางมากมาย จนทำให้ดวงตากลมโตของเธอนั้นเด่นชัดขึ้นมา พร้อมกับขนตาที่งอนยาวอย่างเป็นธรรมชาติ
แสงสลัวตกลงมาบนผิวหิมะสีขาวของเธอ ผมที่ตกลงมาปรกหน้าเล็กน้อยทำให้ใบหน้าที่มีแก้มและรีมวีปากที่แดงเหมือนเชอร์รี่นั้นน่ามองมากขึ้นไปอีก สัดส่วนภายใต้ขุดราตรีคือความสมบูรณ์แบบสำหรับผู้หญิงร่างเล็กคนนี้
ชุดราตรีสีแดงสดที่ถูกสวมมาต้องคดงอเพราะหญิงสาวกำลังหลับตาสนิทด้วยความกลัว และแอบเปิดตามองผู้ชายที่ยืนจ้องมองเธอราวกับจะฉีกร่างเธอให้ตายเสียตรงนี้ นั้นทำให้เธอทำใจไว้แล้วว่าเขาอาจจะฆ่าเธอทันทีที่เจอก็เป็นได้
ใบหน้าของชายหนุ่มไม่มีแววขี้เล่นหรือรอยยิ้มแม้แต่น้อย ถึงแม้ใบหน้าหล่อเหลาราวกับนายแบบหรือรูปปั้นที่ถูกสร้างโดยจิตรกรดังนั้น จะน่ามองขนาดไหน แต่หารู้ไหมว่า ดวงตาที่คมกริบนั้นฉายแววฆ่าฟันตลอดเวลา เพราะความเย็นชาเป็นส่วนหนึ่งในร่างกายของเขา
ไอเย็นยะเยือกพิศวงบางอย่างคอยกระจายอยู่รอบตัวเขาจนคนรอบข้างต้องหวาดกลัวในบางครั้ง ภารกิจของจวงไหน่ในครั้งนี้ จึงดูเหมือนการเสี่ยงตายอยู่ในที แต่เธอก็ต้องทำ! ไม่งั้นก็อดตาย ไม่ต่างกัน
"เธอมาที่นี้ทำไม"ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงเรียบ โดยตั้งใจทำให้หญิงสาวที่นอนขดตัวอยู่รู้สึกกลัวเขาขึ้นมาบ้าง
จวงไหน่ที่รับรู้ว่าเขากำลังถามเธอด้วยสีหน้าแบบไหน ทำให้เธอต้องลืมตาก่อนจะหันหน้ามายิ้มด้วยใบหน้าขี้เล่นของเธอ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักว่า "คะ…คือว่า วันนี้ฉันมา มะ…มา เอ่อ เอาเป็นว่า ฉันมาอุ่นเตียงให้นายก็แล้วกัน " จวงไหน่พยายามพูดด้วยสีหน้าที่มีรอยยิ้มกว้างที่สุด แต่ทั้งที่จริงหัวใจของเธอกำลังเต้นจนเหมือนจะระเบิดออกมาด้วยความกลัว แต่เธอก็ต้องทำใจกล้าสู้เขา!
"อุ่นเตียงให้ฉันงั้นหรอ" ชายหนุ่มเอ่ยย้อนถามเสียวเรียบนิ่ง และแกล้งขมวดคิ้วจนดวงตาคมๆนั้นเลิ่กขึ้น จวงไหน่ฟังดูก็รู้ว่าน้ำเสียงนั้นกำลังฉายแววฆาตรกรรมแน่ๆ ผู้ชายคนนี้มันไม่ต่างอะไรจากหนังสยองขวัญหรอก จวงไหน่คิดในใจ
จวงไหน่พยายามไม่หลบสายตาและหันกลับไปมองใบหน้าของชายหนุ่มอีกครั้ง ก่อนจะรีบพูดขึ้นด้วยเสียงอันดัง เพราะคิดว่ามันอาจจะฟังดูมีความกล้ามากขึ้นก็ได้ว่า "ชะ…ใช่สิ ฉันเป็นคู่หมั้นนายนิ แค่นอนด้วยกัน ปกติจะตาย ใครเขาก็ทำกัน มะ…ไม่ ไม่เชื่อก็มานอนตรงนี้สิ" จวงไหน่แกล้งเขยิบไปอยู่ด้านข้างของเตียงก่อนจะตบหมอนที่อยู่ข้างๆเธอ เพื่อเรียกชายหนุ่มมานอนด้วยกัน
ไวกว่าความคิด …!!ชายหนุ่มพุ่งตัวไปคล่อมร่างเธอไว้ด้วยความเร็วเหมือนเหยี่ยวที่จ้องจะตะคลุบเหยื่อ แน่นอนว่าจวงไหน่ต้องหลับตาปี๋ด้วยความตกใจอีกครั้ง เธอต้องสะดุ้งอีกรอบเพราะหัวใจจะวาย
จวงไหน่พยายามนอนให้นิ่งที่สุด เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายเคลื่อนใบหน้าของเขามาใกล้เธอขนาดไหน พวกเขาใกล้กันมากจนลมหายใจของชายหนุ่มรดลงบนข้างแก้มของเธอ รวมถึงค่อยๆไล้ไปยังซอกคอและใบหู
แต่แล้ว…!!
จวงไหน่ที่มัวแต่หลับตาไม่รุ้อะไร เธอก็ถูกผ้านวมห่อร่างของเธอไว้อย่างรวดเร็วจากชายหนุ่มที่ม้วนตัวเธอจนเป็นขนมปังแยมโรลจนเธอแน่นยิ่งกว่าไส้ในขนมสะอีก
เพราะความอบอุ่นจากผ้าห่มทำให้จวงไหน่ไม่หนาวอีกต่อไป แต่เป็นความตายที่จะเข้ามาแทน เพราะเธอใกล้จะหายใจไม่ออกแล้วในตอนนี้
หญิงสาวกรีดร้องอยู่ในผ้าห่มอย่างบ้าคลั่งราวกับต้องการอากาศหายใจ แต่สิ่งที่ชายหนุ่มทำคือ…!!
ปัก!
ชายหนุ่มม้วนตัวเธอและผลักร่างของเธอลงจากเตียงด้วยความแรงเท่ากับการเข็ญล้อรถบนถนนเลยทีเดียว นั้นทำให้แผ่นหลังของจวงไหน่กระแทกกับพื้นจนสะโพกเธออาจจะเบี้ยวไปเลยก็ได้ ถ้าไม่มีผ้าห่มมารองรับ
ฉันจะได้แต่งงานกับเขาเพราะยอมมาโดนทรมานแบบนี้ใช่ไหมนะ…
จวงไหนคิดในใจแต่แล้ว ชายหนุ่มก็คลายผ้าห่มออกก่อนจะเลื่อนใบหน้าเข้าใกล้เธออีกครั้งอย่างรวดเร็ว…!!!
จวงไหน่ไม่ปิดตาอีกต่อไป เธอลืมตาขึ้นมาและจ้องกลับอย่างไม่เกรงกลัวความตาย
ถ้ากล้า ก็จูบเลยเส่!!
จวงไหน่คิดในใจและมองใบหน้าของชายหนุ่มแทบไม่กะพริบตา…!!!
เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไปนั้น ต้องติดตาม!!
To be continue…