EG บทที่ 156 เงินกู้ (อ่านฟรี)
ในที่สุด ผู้จัดการจูของธนาคารไอซีบีซีก็ได้พบกับเฝิงหยู่ในวันนี้ เมื่อพวกเขาพบกัน เขาก็ถามเฝิงหยู่ทันทีว่าเฝิงหยู่กำลังจะเปลี่ยนบัญชีของบริษัทไปธนาคารอื่นหรือ?
เฝิงหยู่อธิบายว่าบริษัทกำลังลงทุนบางอย่าง นั่นคือเหตุผลที่เขาต้องโอนเวินทุนบางส่วนไปยังธนาคารอื่น บริษัทของเขาจะยังคงใช้บริการของธนาคารไอซีบีซี ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้น
เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว ผู้จัดการจูก็วางใจ เขากำลังอยู่ในช่วงเวลาสำคัญ เพราะมีเงินจำนวนมากที่เป็นธุรกรรมเงินตราต่างประเทศกับบริษัทการค้าไท่หัว และนี่คือผลงานความสำเร็จสำหรับเขา
แต่การยึดติดกับความสำเร็จนี้เพียงอย่างเดียวก็ไม่เพียงพอ ตอนนี้รัฐบาลได้ลดอัตราการกู้ยืมเพื่อเพิ่มการใช้จ่ายให้มากขึ้น ดังนั้นธนาคารต้องเปลี่ยนจากการเน้นออมทรัพย์มาเป็นการให้กู้ยืม
ผู้จัดการจูเป็นหัวหน้าในเรื่องการออมทรัพย์สำหรับธนาคาร และสาขาของเขาก็เป็นอันดับหนึ่งในจังหวัด แต่สำหรับเรื่องการกู้ยืม ผู้จัดการจูไม่ค่อยสันทัดสักเท่าไร สาขาของเขาอยู่ในอันดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในภูมิภาค ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการเลื่อนตำแหน่งของเขาไปเป็นรองผู้จัดการธนาคารระดับจังหวัด
ผู้จัดการจูอยากคุยกับเฝิงหยู่เกี่ยวกับเรื่องเงินกู้ แต่เฝิงหยู่กลับพูดถึงเรื่องนี้ก่อนหลังจากที่เขาอธิบายเสร็จ เขาถามเกี่ยวกับขั้นตอนในการกู้ยืมเงิน
เฝิงหยู่จำไม่ได้แล้วว่ามีขั้นตอนอะไรบ้างในการกู้ยืมเงิน เขารู้แต่ว่ามันมีปัญหาค่อนข้างเยอะ
ผู้จัดการจูดวงตาเป็นประกายขึ้นมาทันที บริษัทการค้าไท่หัวต้องกรเงินกู้หรือ? ดีเลย ฉันจะอนุมัติหมดเลยไม่ว่าจะจำนวนเท่าไหนก็ตามตราบใดที่อยู่ภายในขอบเขตอำนาจของเขา
ผู้จัดการจูหวังว่าเฝิงหยู่จะกู้ยืมเงินจำนวนมาก ด้วยศักยภาพของบริษัทการค้าไท่หัวแล้ว เขาไม่กลัวว่าเฝิงหยู่จะไม่สามารถคืนเงินกู้
เฝิงหยู่เห็นความตื่นเต้นจากสายตาของผู้จัดการจูในระหว่างที่คุยกันเรื่องเงินกู้และเข้าใจทันทีว่าทำไม รัฐบาลกำลังกระตุ้นให้เกิดการกู้ยืมและใช้จ่าย ดังนั้นก็น่าจะเป็นเป้าหมายของธนาคารไอซีบีซีที่จะต้องทำให้บรรลุผลสำเร็จ
เฝิงหยู่อยากกู้ยืมเงินจำนวนมากและลงทุนในตลาดหุ้น วิธีนี้จะช่วยให้เขาไม่เจอปัญหามากมายหลังจากสองปีผ่านไป
“ผู้จัดการจูครับ จากสถานการณ์การเงินของบริษัทผม จริงๆ ไม่จำเป็นต้องกู้ยืมเงินก็ได้ แต่เมื่อไม่นานมานี้ บริษัทผมกำลังมีโครงการใหญ่ ดังนั้นเราอาจจะต้องใช้เงินกู้ระยะสั้น อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาการชำระหนี้ และรูปแบบการชำระหนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ?
ผู้จัดการจูรีบอธิบายให้เฝิงหยู่ฟังอย่างกระตือรือร้น ดอกเบี้ยจะอยู่ในอัตราต่ำสุด และเขารับประกันว่าอัตราดอกเบี้ยนี้ต่ำที่สุดในจังหวัด ระยะเวลาการชำระหนี้อยู่ที่ 3 ปี และในปีแรกและปีที่สองจะเป็นการชำระคืนดอกเบี้ยเท่านั้น จำนวนเงินกู้รวมกับดอกเบี้ยจะต้องชำระพร้อมกันภายในปีที่สาม แบบนี้เฝิงหยู่จะได้ไม่ต้องกดดันมาก
เฝิงหยู่แอบดีใจมากอยู่ในใจ นี่คือสิ่งที่เขาต้องการ แม้ว่าเขาจะยังได้กำไรจากเครื่องทำความชื้นและผลตอบแทนประจำปีจากโรงงานเครื่องจักรก็ตาม แต่เขาก็ไม่อยากชำระหนี้เงินกู้คืนเร็วเกินไป 3 ปีเป็นระยะเวลาที่เหมาะสม ถึงตอนนั้นหุ้นของเขาคงขายออกหมดแล้ว และเขาก็จะได้เงินลงทุนคืนมา
“ผู้จัดการจูครับ ธนาคารของคุณสามารถให้ผมกู้ได้เท่าไหร่ครับ?”
“ถ้าคุณใช้หุ้นของคุณในบริษัทเครื่องจักรเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ผมสามารถให้เงินกู้คุณได้ 1.2 ล้านหยวน หากใช้สินทรัพย์และรายได้ของบริษัทการค้าไท่หัว ผมสามารถให้เงินกู้คุณได้ 10 ล้านหยวน ถ้าเป็นบริษัทโลจิสติกส์เฟิงหยู่ ก็จะได้ 2 ล้านหยวน และฟาร์มหมู ก็จะได้แค่ 500,000 หยวน” ผู้จัดการจูหวังว่าเฝิงหยู่จะใช้ทุกบริษัทที่กล่าวมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันสำหรับเงินกู้!
“ผู้จัดการจูครับ แบบนี้ก็ไม่ถูกสิ ตอนนี้มูลค่าตลาดของหุ้นในบริษัทเครื่องจักรเกือบ 1.2 ล้านหยวน และจำนวนเงินกู้ที่คุณเพิ่งแจ้งให้ผมทราบมันไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไร ยิ่งไปกว่านั้น ทำไมบริษัทการค้าไท่หัวถึงมีมูลค่าเพียงแค่ 10 ล้านหยวนเอง? บริษัทการค้าไท่หัวเป็นเจ้าของแบรนด์เฟิงหยู่ และมีเงินสองสามล้านรูเบิ้ลจากการค้าขายกับสหภาพโซเวียตทุกเดือน ทำไมจำนนวเงินกู้มันถึงน้อยจังละครับ?
ผู้จัดการจูมองหน้าเฝิงหยู่ด้วยดวงตาเบิกโพลง เฝิงหยู่อยากกู้ยืมเงินมากกว่านี้หรอ? เยี่ยมไปเลย! ถ้าเขาคิดว่าจำนวนเงินกู้ที่เสนอไปมันน้อยมาก แล้วเขาต้องการเท่าไรกันละ?
“ผู้จัดการเฝิง งั้นจำนวนเท่าไรครับที่คุณคิดว่าสมเหตุสมผล?”
“ถ้าใช้หุ้นของบริษัทเครื่องจักรและสินทรัพย์และรายได้ของบริษัทการค้าไท่หัวเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ผมว่าน่าจะได้เงินกู้สัก 40 ล้านหยวน สำหรับบริษัทโลจิสติกส์เฟิงหยู่ ผมว่าน่าจะมีมูลค่า 4 ล้านหยวน เรามีรถ Gaz จำนวน 80 คัน อย่าบอกผมนะว่ารถบรรทุกพวกนั้นมีมูลค่าไม่ถึง 50,000 หยวน?”
หืมมมม... แม้ว่าเฝิงหยู่จะซื้อรถบรรทุกพวกนั้นมาในราคาไม่ถึงคันละ 50,000 หยวน แต่ตอนนี้ราคาของรถบรรทุกดังกล่าวก็มีมูลค่าเท่านี้แล้ว
ผู้จัดการจูยังไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่หลี่ซื่อเฉียงกลับจ้องมองเฝิงหยู่ด้วยความตกใจ นี่มันอะไรกันเนี่ย? คุณอยากให้ฉันกู้ยืมเงิน 4 ล้านหยวนหรอ? นี่มัน.....มันไม่เสี่ยงเกินไปหน่อยหรอ? ดอกเบี้ยต่อปีก็ไม่ใช้เงินจำนวนน้อยๆ!
หลี่ซื่อเฉียงรู้สึกว่าการใช้เงินทุนที่มีอยู่ทั้งหมดของเขามาลงทุนในหุ้นก็เป็นความเสี่ยงมากพอแล้วและตอนนี้เฝิงหยู่ยังจะอยากกู้ยืมเงินอีกหรอ? เฝิงหยู่สามารถขอเงินกู้ได้เอง ทำไมต้องพาเขามาด้วย? ก็จริงอยู่ที่หลี่ซื่อเฉียงเห็นด้วยที่จะให้กู้ยืมเงิน แต่เฝิงหยู่ไม่ได้บอกเขาว่าจะกู้ยืมเงินเยอะขนาดนี้ ถ้าเขาไม่มีปัญญาใช้หนี้ละ บริษัทโลจิสติกส์ก็ต้องตกเป็นของธนาคาร
เฝิงหยู่แอบตีที่ขาของพี่เขยเบาๆ เพื่อให้เขาวางใจ เฝิงหยู่อยากจะสร้างโรงพยาบาลพี่สาวของเขาเอง แต่พี่เขยคนนี้กลับเป็นคนอาสาว่าจะทำสิ่งนี้ให้พี่สาวของเขาเอง เฝิงหยู่ขอให้เขาขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง แต่เขาก็กลัวการล้มเหลว ด้วยระดับความเร็วในการพัฒนาของบริษัทโลจิสติกส์ กว่าความฝันของพี่สาวเขาจะสัมฤทธิ์ผลคงอีก 35 ปีแน่ๆ
การลงทุนในหุ้นเป็นเรื่องที่แตกต่าง ผลตอบแทนอาจจะมากขึ้นสองสามเท่าภายในระยะเวลา 2 ปี และมูลค่าของหลี่ซื่อเฉียงก็คงเพิ่มขึ้นเป็นหลายสิบล้านหยวน ถึงเวลานั้น ก็คงไม่มีปัญหาสำหรับเขาในการส้รางโรงพยาบาลสักสองสามแห่ง
ผู้จัดการจูถามด้วยน้ำเสียงสั่น “คุณอยากกู้เงินเท่าไหร่นะครับ? 40 ล้าน?”
“44 ล้านหยวนครับ”
ผู้จัดการจูหายใจถี่ ฮ่าๆๆๆ สำเร็จแล้ว ในที่สุดก็สำเร็จ ถึงเวลาแล้วที่เขาจะได้เลื่อนตำแหน่ง เขายังขาดเงิน 15 ล้านเพื่อที่จะทำผลงานให้ได้ถึงเป้าหมายในปีนี้ ด้วยเงินกู้จำนวน 44 ล้าน รับรองว่าเกินเป้าอย่างแน่นอน สาขาของเขาจะต้องอยู่ในอันดับที่หนึ่งของจังหวัด ถ้าเขาไม่ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง แล้วใครละที่จะมีสิทธิ์ได้?
“ขอผมลองหาวิธีดูก่อนนะครับ 44 ล้านหยวนใช่มั้ยครับ? ไม่มีปัญหาครับ!” แม้ว่าจำนวนเงินนี้จะไม่เป็นไปตามกฎข้อบังคับ แต่ผู้จัดการจูตัดสินใจที่จะไปคุยกับหัวหน้าเขาเอง เงินกู้จำนวน 44 ล้านจะช่วยรับผิดชอบเป้าหมายของทั้งจังหวัดได้เลย เขาเชื่อว่าหัวหน้าของเขาต้องยอมอนุมัติเงินกู้นี้แน่นอน!
เฝิงหยู่เห็นผู้จัดการจูให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และเขาพูดต่อว่า “ผมยังมีโบราณวัตถุอยู่ ซึ่งเป็นเตาเผาซวนเต๋อในราชวงศ์หมิง เป็นของที่มีมูลค่ามากจริงๆ และมีเพียงไม่กี่ชิ้นในโลก เคยมีนักธุรกิจชาวฮ่องกงมาเสนอซื้อจากผมในราคา 8 ล้าน ผมจะไม่ขอมากนะครับ ผมจะใช้โบราณวัตถุชิ้นนี้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันสำหรับเงินกู้จำนวน 6 ล้านหยวน เท่ากับว่าจำนวนเงินกู้รวมทั้งหมดเท่ากับ 50 ล้านหยวนพอดี!”
ผู้จัดการจูขมวดคิ้วและหายใจออกอย่างดัง ยังไม่เคยมีใครในจังหวัดนี้ใช้โบราณวัตถุมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันสำหรับเงินกู้มาก่อน
จริงอยู่ที่ว่าอะไรก็ตามที่มีค่าสามารถนำมาใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันสำหรับเงินกู้ได้ แต่ราคาของโบราณวัตถุนั้นยากต่อการประเมิน เฝิงหยู่อ้างว่าเคยมีคนมาขอซื้อในราคา 8 ล้าน แต่ก็เป็นไปได้ที่โบราณวัตถุชิ้นนั้นอาจจะขายได้ไม่ถึง 80,000 หยวนด้วยซ้ำ
“ผู้จัดการเฝิงครับ การใช้โบราณวัตถุอาจจะเป็นเรื่องยากหน่อย เพราะยังไม่มีมาตรฐานในการวัดและประเมินราคา ทำให้ยากต่อการได้รับอนุมัติเงินกู้นะครับ” ผู้จัดการจูกล่าวด้วยสีหน้าเป็นกังวล
เฝิงหยู่เหลือบมองผู้จัดการจู “ยากมากเลยหรอครับ? งั้นไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวเราไปขอเงินกู้จากธนาคารซีซีบีแทนก็ได้ พ่อผมรู้จักกับผู้จัดการหลิวจากฝ่ายเงินกู้ของธนาคารซีซีบีด้วย ผมว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องยากอะไรถ้าผมใช้สินทรัพย์มากมายขนาดนี้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันสำหรับเงินกู้ 50 ล้านหยวน”
ผู้จัดการจูเห็นเฝิงหยู่ลุกขึ้นยืน เขาก็รีบคว้ามือของเฝิงหยู่เอาไว้ทันที “ผู้จัดการเฝิงครับ ใจเย็นๆ นะครับ เราก็ทำงานร่วมกันมาตั้งนานแล้ว คุณยังไม่ไว้ใจผมหรอครับ? ขอผมโทรศัพท์สักครู่นะครับ แค่โทรศัพท์ครั้งเดียว”
ทั้งหมดนี้ก็เพราะเขาอยากได้รับการเลื่อนตำแหน่ง!
ผู้จัดการจูเดินออกไปจากห้อง และหลี่ซื่อเฉียงก็ถามขึ้นมาทันที “เสี่ยวหยู่ ทำไมต้องกู้ยืมเงินมากมายขนาดนี้ด้วยละ? แล้วถ้านายหาเงินมาจ่ายคืนไม่ได้ละ?”
เฝิงหยู่มองหน้าหลี่ซื่อเฉียงอย่างมั่นใจ “พี่เขยครับ ไม่ต้องห่วงเลยครับ ผมหาเงินมาจ่ายคืนได้แน่นอน พี่รู้หรือเปล่าว่าบริษัทการค้าไท่หัวได้กำไรจากเครื่องทำความชื้นในตลาดต่างประเทศเป็นเงินจำนวนเท่าไร? 10 ล้าน 10 ล้านดอลล์สหรัฐ! ปีหน้ากำไรก็จะเพิ่มขึ้นอีก ดังนั้นพี่ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องการชำระหนี้เลยครับ สิ่งที่เรากำลังทำตอนนี้ก็คือการคว้าโอกาสในการซื้อหุ้นทั้งหมดที่มีอยู่ในตลาด เดี๋ยวพี่ก็จะได้เห็นผลตอบแทนตอนสิ้นปีนี้เอง บางทีอาจจะเร็วกว่านั้นก็ได้ อาจจะแค่เดือนตุลาคมพี่ก็ได้เห็นผลกำไรแล้ว!”
จากการกวาดซื้อหุ้นที่มีอยู่ทั้งหมดใน 2 เมือง เฝิงหยู่ก็ได้สร้างผลกระทบต่อตลาดหุ้นและผลักดันราคาให้เพิ่มสูงขึ้นแล้ว!
หลี่ซื่อเฉียงอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่ผู้จัดการจูก็เดินกลับเข้ามาซะก่อน และบอกเฝิงหยู่อย่างตื่นเต้นว่า “50 ล้านหยวน ธนาคารไอซีบีซีของเมืองเราและธนาคารไอซีบีซีระดับจังหวัดจะร่วมมือกันให้เงินกู้ก้อนนี้กับคุณครับ!”
