ตอนที่แล้วตอนที่ 134 หนามยอก ต้องเอาหนามบ่ง (FREE)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 136 แต่งงาน (FREE)

ตอนที่ 135 รำดาบ (FREE)


ฟาง เจิ้งจือ นั้นกำลังกัดฟันอยู่ ทำให้รอยยิ้มที่ปรากฎบนหน้าของเขาดูแปลกๆ แต่มันคือรอยยิ้มจริงๆ รอยยิ้มด้วยความยินดี

ภายใต้สายตาจากทุกคนทั่วงาน ฉือ กูเหยียน นั้นเชิญ ฟาง เจิ้งจือ อย่างสุภาพให้ไปนั่งที่ ที่นั่งหลัก

แต่...

ฉากที่เกิดขึ้น

เจ้าหน้าที่จากทั้ง 5 เมืองหลวงบนดินแดนทะเลทรายทางเหนือต่างเห็นมันทุกคน

และต่อหน้านักปราชญ์และหนุ่มสาวทั้งหลาย

ฟาง เจิ้งจือ จับมือ ฉือ กูเหยียน อย่างกะทันหัน

มันเป็นเหมือนการล่วงละเมิดความบริสุทธิ์ของดอกบัวสีขาว!

 

“ข...เขาจับมือ ฉือ กูเหยียน!”

ความคิดนี้ปรากฎขึ้นในใจของทุกคน ทุกคนต่างเบิกตากว้าง ตอนนี้บรรยากาศของงานนั้นตกอยู่ในความเย็นยะเยือกทันที บางคนนั้นแทบจะลืมหายใจ

ตาของ ฉือ เฮา เองก็เบิกค้างเช่นกัน ในฐานะผู้ปกป้อง 5 เมืองหลวงบนดินแดนทะเลทรายทางเหนือ ผู้ที่มีชื่อเสียงจากการปราบคนเถื่อนตอนเหนือ ราชันเลือดสีเหล็ก ฉือ เฮา แสดงความตกตะลึงยิ่งกว่าตอนไปออกรบ

ท่านหญิงฉือ เองก็เช่นกัน นางถึงกับผงะไป

ในฐานะผู้หญิงที่เต็มไปด้วยความสง่างามและศักดิ์ศรี นี่เป็นครั้งแรกที่นางรู้สึกว่าหัวใจของนางตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม

 

ลูกสาวของนางถูกล่วงละเมิด? นอกจากนี้ยังเป็นฝีมือของเด็กบ้านนอกคนหนึ่ง นอกจากนี้เขายังลงมือต่อหน้าเจ้าหน้าที่และคนรุ่นเยาว์จากทั้ง 5 เมืองหลวง?!

ในฐานะแม่แล้ว เขาไม่สามารถยอมรับมันได้ ต่อให้ไม่ได้เป็นแม่ นางก็รับไม่ได้อยู่ดี

เจ้าหน้าที่ ที่กำลังพูดคุยกันเกี่ยวกับ ฉือ กูเหยียน ตอนนี้พวกเขาต่างคิดว่าต่อให้กัดลิ้นตอนนี้ พวกเขาก็อาจจะไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยก็ได้

เพราะว่า...

ฉากที่เกิดขึ้นตอนนี้ ได้ทำลายจิตใจของพวกเขาไปแล้ว

นักปราชญ์เองก็เช่นกัน พวกเขารู้สึกท้อแท้ในหัวใจขึ้นมาทันที

 

ถูกจับมือจากเด็กจนๆและเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา?!

ไม่มีใครอยากจะยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้น

มันทำให้หัวใจของพวกเขาแทบแตกสลาย

 

แม้แต่ เหยียน ซิว เอง ก็ตกใจเพราะ การกระทำของ ฟาง เจิ้งจือ เขาอ้าปากค้าง ถ้าก่อนหน้านี้ที่ ฟาง เจิ้งจือ เปิดผ้าปิดหน้า หยุน ชิงวู ทำให้เขาสับสนเล็กน้อย

แต่ฉากที่เกิดตอนนี้ เขารู้สึกสับสนยิ่งกว่า

เพราะว่าครั้งนี้เทียบกับตอน หยุน ชิงวู ไม่ได้แม้แต่น้อย เพราะนางคือธิดาจากกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์ ฉือ กูเหยียน!

 

“เขากล้า!”

“โสโครก! โอ้ สวรรค์ ได้โปรดลงโทษเจ้าโรคจิตนี้ด้วยเถิด!”

“เป็นการกระทำที่ห้าวหาญเกินไปแล้ว! มีคนแบบนี้อยู่บนโลกด้วยหรือ?!”

หลังจากความเงียบสงบ เหมือนความหวาดกลัวได้ระเบิดออกมา เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างยืนตัวแข็ง ไม่สามารถทนรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้

โดยเฉพาะทุกคนเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตาตัวเอง!

 

ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงเริ่มเคลื่อนไหว ลู่ ยู่เฉิน เองก็เช่นกัน

แม้แต่ ฉือ เฮา เองก็กัดฟันแน่น ท่าทีของเขาดำทมึนขึ้นทันที เขาจะต้องมั่นใจว่าใครก็ตามที่กล้าล่วงเกินลูกสาวเขาจะต้องถูกสับเป็นชิ้นๆ และเอาไปเผาเป็นขี้เถ้า!

เจ้าหน้าที่เองก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ และตัดสินใจที่จะจัดการคนที่กล้าล่วงเกิน ฉือ กูเหยียน

 

อย่างไรก็ตาม คนที่เป็นต้นเหตุนั้นกลับไม่รู้สึกรู้สาและไม่คิดจะสนใจคนรอบๆที่กำลังโกรธอยู่ เขากำลังยิ้มและจับมือของ ฉือ กูเหยียน อยู่...

นิ่มมาก เนียนมาก ราวกับนุ่น...

ในความเป็นจริง เขารู้อยู่แล้วว่าการทำเช่นนี้จะมีผลตามมาแน่นอน แต่แล้วมันยังไงละ? ในเมื่อถ้าเขาต้องยืนบนภูเขาสูงแล้ว ทำไมไม่ไปยืนบนยอดเลยละ?

นี่เป็นสิ่งที่เขาคิด เขาคิดอย่างใจเย็นและไม่เคร่งเครียด

ต่อให้ จะต้องเจอกับภูเขาไฟที่พร้อมระเบิดตลอดเวลา อย่างเช่น ฉือ กูเหยียน ที่กำลังจะดึงมือของนางออกไป..

แต่ ฟาง เจิ้งจือ ไม่ยอมปล่อย

ตราบใดที่เขามีชีวิตอยู่ เขาจะไม่ปล่อยแน่นอน

 

“เจ้าจับเสร็จรึยัง?” ฉือ กูเหยียน มีท่าทีจริงจัง เสียงของนางนั้นเยือกเย็นมาก

“ไม่!” ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหัวเบาๆ

“จ...เจ้าไม่กลัวตาย? หรือเจ้าไม่สนใจว่าพ่อแม่ของเจ้าที่หมู่บ้านภูเขาทางเหนือจะเป็นตายร้ายดียังไง?” ฉือ กูเหยียน นั้นไม่ได้ขัดขืนอะไร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านางอนุญาติให้ ฟาง เจิ้งจือ จับมือนางได้ แต่นางต้องการจะรู้ว่าเจ้าสารเลวไร้ยางอายข้างหน้านางตอนนี้ กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่?

“ข้ากลัว!” ฟาง เจิ้งจือ พูดออกมาด้วยความมั่นใจ

“แต่เจ้าก็ยังกล้าทำแบบนี้?!” ทันใดนั้นรอบๆตัว ฉือ กูเหยียน ก็มีพลังหลั่งไหลออกมา นางรู้ดีว่า ฟาง เจิ้งจือ พูดความจริง แต่นางก็ยังไม่เข้าใจเหตุผลอยู่ดี

“เพราะข้ากลัวตาย ข้าจึงทำอย่างนี้!”

“เหตุผล?”

“มองเห็นความตายในดวงตา จากนั้นก็ถือกำเนิดขึ้นใหม่” ฟาง เจิ้งจือ หุบยิ้มทันที มอง ฉือ กูเหยียน ด้วยท่าทีจริงจัง

ดวงตาของ ฉือ กูเหยียน เผยความแปลกใจออกมา นางไม่ต้องการคำอธิบายจาก ฟาง เจิ้งจือ อีกแล้ว เพราะนางเข้าใจความหมายเบื้องหลังคำพูดของ ฟาง เจิ้งจือ เป็นอย่างดี

 

“เจ้าคิดว่าข้าจะไม่ข้าเจ้างั้นรึ?”

“ถ้าเจ้าจะฆ่าข้า ข้าคงตายไปตั้งแต่ 8 ปีที่แล้ว!”

ฉือ กูเหยียน ยังคงเงียบ ราวกับคิดบางอย่างอยู่ นางไม่อยากจะยอมรับว่านางแพ้ให้กับเจ้าสารเลวไร้ยางอายข้างหน้านาง แต่นางได้แพ้อีกครั้งแล้ว

“ข้าช่วยเจ้าได้แค่แล็กน้อยเท่านั้น!”

“เพียงพอแล้ว!”

“แต่การที่จะทำอย่างนั้นได้ ต่อให้ข้ายอมรับมัน ใช่ว่า ท่านแม่และท่านพ่อของข้า และเจ้าหน้าที่ รวมถึงเหล่านักปราชญ์จะยอมรับได้ ถ้าไม่มีเหตุผลที่ดีพอ”

“เจ้ายังไม่ได้คิดหรือ?”

“จริงๆแล้วข้าได้คิดไว้แล้ว แต่โชคร้าย...เจ้าไม่สามารถทำได้!”

“เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้าทำไม่ได้?”

“เจ้าจะลองจริงๆงั้นรึ?”

“แน่นอน ข้าอยากจะลอง!” ฟาง เจิ้งจือ คิดว่าคำถามของ ฉือ กูเหยียน นั้นดูค่อนข้างไร้สาระ เขายังมีทางเลือกอีกหรอตอนนี้? ถ้ามีโอกาสรอดเขาก็จะทำมัน

ฉือ กูเหยียน พยักหน้า และไม่ได้ถามอะไรอีกต่อไป นางค่อยๆหันตัวไปยืนเคียงข้าง ฟาง เจิ้งจือ

 

“ไปเถอะ!” ครั้งนี้ เสียงของ ฉือ กูเหยียน ดังก้อง จนทุกคนที่อยู่ในงานได้ยิน

“แน่นอน!” เสียงของ ฟาง เจิ้งจือ เองก็ดังเช่นกัน เขาไม่ลังเลจับมือของ ฉือ กูเหยียน เดินตรงไปยังที่นั่งหลักด้วยรอยยิ้ม

ทันใดนั้น

ทุกอย่างที่ตกอยู่ในความวุ่นวาย กลับเงียบลงในทันที

เจ้าหน้าที่ ที่วิ่งมาทาง ฟาง เจิ้งจือ หยุดในทันที ตัวแข็งค้างราวกับรูปปั้น

เกิดอะไรขึ้นกัน?

ฉือ กูเหยียน...

ไม่ว่าอะไรที่ ฟาง เจิ้งจือ จับมือนาง?

นางไม่ได้ต่อต้าน?

 

“ตูม!”

ทุกคนรู้สึกราวกับโดนสายฟ้าฟาดใส่ ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น

ในตอนนั้นเอง ดวงตาของ ฉือ เฮา เองก็เบิกกว้างยิ่งกว่าเดิม

เขารู้ถึงนิสัยของลูกสาวตัวเองเป็นอย่างดี ถ้านางไม่ยินยอม ต่อให้มี ฟาง เจิ้งจือ อีก 10 คนก็ไม่สามารถบังคับนางได้

เรื่องนี้มันอะไรกันแน่?

ฉือ เฮา มองไปที่ภรรยาของเขา ที่ดวงตาเบิกกว้างยิ่งกว่าตัวเขาเสียอีก

ตอนนี้ เหยียน ซิว เองก็รู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก เขาไม่อยากจะเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อ เพราะคนที่จับมือ ฉือ กูเหยียน อยู่คือเพื่อนของเขาเอง

 

เพราะความเร็วที่เขาวิ่งมานั้นมากเกินไป ทำให้ตอนนี้ ลู่ ยู่เฉิน อยู่ห่างจาก ฟาง เจิ้งจือ ไม่ถึง 2 เมตร

หน้าของเขากลายเป็นสีแดง ปากอ้าค้าง

ในมือถือดาบอยู่

ตัวดาบมีจิตสังหารแผ่ออกมา แต่เขานั้นถือมันค้างกลางอากาศ ไม่ได้ฟันลงมาแต่อย่างใด

 

“หือ? นายน้อยลู่...ท่านจะแสดงรำดาบงั้นหรือ?” ฟาง เจิ้งจือ มองไปยังดาบที่ ลู่ ยู่เฉิน ถืออยู่ ความสงสัยปรากฎขึ้นมาในดวงตา

“รำดาบ?!” ลู่ ยู่เฉิน กลืนน้ำลาย

ใครจะแสดงรำดาบ? มันจะไม่เป็นเรื่องตลกงั้นหรือ ที่บุตรคนที่ 9 จากกองตรวจการสงครามจะมาแสดงรำดาบที่งานเฉลิมฉลอง?

ลู่ ยู่เฉิน คิดว่าเขาไม่สามารถทนรับเรื่องนี้ได้

แต่เมื่อมองไปทาง ฉือ กูเหยียน เขาเห็นความเยือกเย็นปรากฎอยู่ในดวงตานาง

 

“ข้าคิดว่าท่านพี่ควรจะแสดงรำดาบเรื่อง หญิงงามมอมเมา’” ฉือ กูเหยียน มองไปที่ ลู่ ยู่เฉิน และพูดออกมา

“หญิงงามมอมเมา?!” ลู่ ยู่เฉิน ไม่ว่าจะคิดยังไง ก็คิดว่าเขาไม่เหมาะที่จะทำเรื่องนี้

“ถ้าท่านพี่ไม่ได้มารำดาบ อย่าบอกนะว่าท่านจะมาใช้ดาบทำร้ายคนอื่นกัน?” เสียงของ ฉือ กูเหยียน พลันเปลี่ยนไปทันที บรรยากาศอันทรงพลังถูกปล่อยออกมาจากตัวนาง

ลู่ ยู่เฉิน ตัวสั่นในทันที ดาบในมือเกือบจะร่วงหล่น

เขามองไปที่ ฉือ กูเหยียน สลับกับ ฟาง เจิ้งจือ หน้าของเขาเดี๋ยวดำเดี๋ยวขาวซีด ก่อนที่เงยหน้าไปบนท้องฟ้า และถอนหายใจออกมา

 

“นายน้อยฟาง ช่างชาญฉลาด ข้ารีบวิ่งมาเพื่อแสดงรำดาบให้ท่านดู!” ลุ่ ยู่เฉิน ฝืนกล้ำกลืนพูดออกมา

“งั้นข้าคงต้องรบกวนท่านแล้ว!” ฟาง เจิ้งจือ โค้งให้ และจูงมือ ฉือ กูเหยียน เดินไปที่ที่นั่งหลัก

ทุกคนต่างมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ราวกับมองสัตว์ประหลาดที่มีชีวิต!

 

 

เพจหลัก : Double gate TH

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด