ตอนที่แล้วบทที่ 89: หงหยิงขี่พยัคฆ์ [อ่านฟรีวันที่ 31 พฤษภาคม 2562]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 91: ความลับของการแข่งขัน [อ่านฟรีวันที่ 14 มิถุนายน 2562]

บทที่ 90: การแข่งขันในสำนัก [อ่านฟรีวันที่ 07 มิถุนายน 2562]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

====================

บทที่ 90: การแข่งขันในสำนัก

“เหอะ ๆ ข้าไม่ใส่ใจพวกท่านหรอก ข้าจะออกไปเล่น!” ขณะที่นางกล่าวจบ นางกระโดดขึ้นหลังพยัคฆ์ปีกแหลมพร้อมทะยานออกไปทันที ในเวลาเดียวกัน นางไม่ลืมที่จะตะโกนกลับมา “พี่ชายอ้วน พี่ชายอ้วน จับข้าให้ได้สิ! มาเร็ว! มานี่เร็วเข้า!”

หงหยิงไม่สนใจสถานการณ์และสามารถพุ่งออกไปจากวงสนทนาได้ทุกเมื่อ แต่เจ้าอ้วนไม่อาจทำเช่นนั้นได้ เขาหัวเราะอย่างขมขื่นพร้อมมองไปที่จ้าวสำนักและภรรยาอย่างขอความเห็น

จ้าวสำนักผ่อนคลายและไร้พิธีการ เขาหัวเราะพร้อมกล่าวว่า “เด็กโง่ รีบตามนางไปซะ!”

“เหอะ ๆ งั้นข้าขอตัวขอรับ!” เจ้าอ้วนหัวเราะอย่างเคอะเขินพร้อมกับกระโดดขึ้นหลังพยัคฆ์ปีกแหลมทันที

เมื่อพวกเขาหายตัวไป จ้าวสำนักลูบเคราตนเองพร้อมกับหัวเราะอย่างขมขื่น “เจ้าอ้วนน้อยนั้นดื้อดึงคล้ายกับบิดาของเขายิ่งนัก เขาไม่ต้องการจะติดหนี้บุญคุณของเรา ที่เจ้าสอนสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์แห่งอัคคีให้กับเขา หลังจากนั้นเขาได้มอบพยัคฆ์ปีกแหลมให้กับหงหยิง!”

“สิ่งนี้เรียกว่าเขามีความมั่นคงในจิตใจ! ผู้อื่นยอมตายได้เพียงแค่อยากจะมีสัมพันธ์กับเรา แต่เด็กผู้นี้กลับไม่สนใจและไม่คิดจะเอาสิ่งใดจากเราไปโดยเปล่า นี่คือบุคคลที่ข้าต้องการ!” ภรรยาจ้าวสำนักพยักหน้าในขณะที่กล่าวออกมา

“อืม ข้าชอบนิสัยเขา!” จ้าวสำนักเผยยิ้มพร้อมกล่าวต่อ “แต่ข้ายังคาดหวังว่าเขาจะเดินบนถนนเส้นนี้ได้ไกลยิ่งกว่าบิดาของเขา!”

หลังจากพูดคุยกันเสร็จสิ้น เขายิ้มให้กันพร้อมจับมือกันเดินกลับเข้าไปในห้อง

การที่หญิงสาวขี่พยัคฆ์ปีกแหลมบนน่านฟ้านับได้ว่าเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์ สำหรับเจ้าอ้วนเขาใช้เวลาไปกับการเล่นตรงนี้หลายชั่วโมง และแม้กระทั่งดวงจันทร์ได้ปรากฏบนท้องฟ้า เขายังคงไม่เต็มใจจะส่งให้หงหยิงกลับไปหาจ้าวสำนัก

เมื่อทั้งคู่แยกย้ายกัน พวกเขาทั้งสองเงียบงัน แต่ราวกับว่าหัวใจของพวกเขาได้เชื่อมกันแล้ว พวกเขารู้สึกได้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างอยู่ภายในใจ ซึ่งนั่นเป็นความรู้สึกที่ต่างออกไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ถึงแม้ว่าเจ้าอ้วนจะอายุมากกว่ายี่สิบปีแล้ว อีกทั้งเขายังร่วมกิจกรรมกับหญิงสาวมานับครั้งไม่ถ้วน อีกทั้งยังผ่านการต่อสู้ที่รุนแรงและสังหารผู้คนไปมากมาย แต่ทว่าจิตใจของเขาติดอยู่กับความรู้สึกเช่นนี้อย่างไม่อาจควบคุม

เพียงแค่เขามองเห็นหงหยิงค่อย ๆ ลับหายไป เขารู้สึกถึงความสูญเสียอย่างรุนแรง ในเวลาเดียวกันเหมือนกับว่าในหัวใจบีบแน่นรุนแรงจนหายใจติดขัด อารมณ์ของเขาซับซ้อนเกินกว่าจะเข้าใจ จากนั้นเขาจึงกลับไปยังลานม่านหมอก

ลานม่านหมอกนั้นครอบครองพื้นที่กว่าสิบไร่จีน มีต้นไม้พันปี ทั้งภูเขาน้อยใหญ่ภายในพร้อมกับปลาสวยงามในบ่อ พร้อมกับมีตึกตระหง่านสามชั้นตั้งอยู่

เมื่อมองสถานที่แห่งนี้ เจ้าอ้วนรู้สึกอบอุ่นที่หลังมือของเขาโดยธรรมชาติ ก่อนที่เขาจะอายุหกขวบ ที่แห่งนี้คือบ้านของเขา ที่ที่เขาอาศัยอยู่กับพ่อและแม่ มันเป็นสถานที่ที่งดงามเต็มไปด้วยความทรงจำในวัยเยาว์

เมื่อเขากลับมา เขารู้สึกถึงความโศกเศร้าในหัวใจเมื่อหวนนึกถึงตอนที่ต้องร่ำลากับหงหยิง ความรู้สึกเช่นนี้ช่างซับซ้อน จากนั้นเขาขีดข้อจำกัดให้กับอารมณ์ของตัวเองพร้อมกับหยิบหยกออกมาเพื่อไขประตูเข้าสู่ห้องใต้ดิน

สถานที่นี้สร้างมาเพื่อใช้งานจริง มันเอาไว้เก็บทรัพย์สมบัติของครอบครัวเขา แต่ตอนนี้มันเต็มไปด้วยสมบัติของจางฉิงอวี้ แน่นอนว่าด้วยคำตัดสินของจ้าวสำนัก ทุกสิ่งทุกอย่างในที่แห่งนี้เป็นของเจ้าอ้วน

โดยปกติแล้วจางฉิงอวี้จะร่ายมนตร์สะกดไว้มากมายในสถานที่แห่งนี้ แต่ว่ามันถูกจ้าวสำนักและภรรยาปลดออกจึงไม่มีอันตรายใดอีกต่อไป เจ้าอ้วนเดินเข้ามาตรวจสอบรายการสิ่งของต่าง ๆ ได้อย่างผ่อนคลาย

จางฉิงอวี้เป็นคนที่มั่งคั่งอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นศิษย์ระดับจินตันอยู่ในสำนักชั้นใน พร้อมช่วงหลายปีมานี้เขาได้สร้างผลงานและเอื้อประโยชน์ให้กับตนเองมากมาย ภายในห้องใต้ดินนี้ เจ้าอ้วนพบเจอหลายสิ่ง มันคือยาอายุวัฒนะนับร้อยขวดและหินจิตวิญญาณมากกว่าหนึ่งหมื่นก้อน อีกทั้งหินจิตวิญญาณระดับกลางสี่ถึงห้าพันก้อน นอกจากนี้ยังมีวัสดุที่ไว้ใช้สร้างอุปกรณ์วิเศษมากมาย แต่อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ไม่ได้สร้างความตื่นตกใจให้กับเจ้าอ้วนแต่อย่างใด

หลังจากนับทุกสิ่งที่จางฉิงอวี้มีอยู่ เจ้าอ้วนพึมพำอย่างผิดหวัง “ทุกสิ่งทุกอย่างในนี้มีมูลค่าเพียงแค่หินจิตวิญญาณหนึ่งล้านก้อนเท่านั้น ซึ่งมันเทียบไม่ได้เลยกับการที่เขาเปลี่ยนแปลงชีวิตของข้า เหม็นสาบคนจน!”

แต่ชัดเจนแม้เขาจะกล่าวเช่นนั้น แต่ภายในหัวใจของเขาก็ยังรู้สึกยินดีอยู่ไม่น้อย เพราะสิ่งที่ได้รับมาเขาไม่ต้องใช้ความพยายามแม้แต่น้อย จำนวนเงินนี้คุ้มค่ากับการเฉลิมฉลอง!

หลังจากที่เจ้าอ้วนอาบน้ำเสร็จ เขาได้ยินเสียงคนเคาะประตูอยู่ที่ด้านนอก เหมือนว่าตอนนี้จะมีแขกมาเยือน เจ้าอ้วนไม่ล่าช้าพร้อมกับหยุดสิ่งที่ทำอยู่ทันที ในตอนที่เขาก้าวออกมา เขามองเห็นหญิงสาวชุดขาวกำลังยิ้มให้กับเขาพร้อมกับเส้นผมพลิ้วตามแรงลม มันเป็นใบหน้าที่คุ้นเคยอีกทั้งยังงดงามมาก จะเป็นใครได้อีกนอกจากหานหลิงเฟิง?

ช่วงเวลาที่เขาเห็นหญิงสาวผู้นี้มาพบเขาในยามค่ำคืน ดวงตาของเขามองต่ำลงพร้อมกับตัณหาภายในช่องท้องของเขาเพิ่มสูงขึ้น

“หึ!” เจ้าอ้วนขึ้นเสียงพร้อมกับพุ่งเข้าหาหานหลิงเฟิง เขาอุ้มนางไว้แนบอกพร้อมกับวิ่งตรงเข้าไปยังลานม่านหมอก

จากลานที่เคยเงียบสงบพลันเต็มไปด้วยเสียงครางกระเส่าเร้าอารมณ์

หลังจากที่พายุแห่งกามอารมณ์ผ่านพ้นไป เจ้าอ้วนตวัดเอาหานหลิงเฟิงขึ้นมากอดอย่างสบายใจอยู่ในลานม่านหมอก เขาเผยยิ้มพร้อมถามว่า “ศิษย์พี่ อาการตีบตันของท่านเป็นเช่นไรบ้าง มันคืบหน้าหรือไม่?”

“ไม่เลย!” เมื่อกล่าวเปิดประเด็นเช่นนี้ นางรู้สึกหดหู่ใจอย่างช่วยไม่ได้ทันที พร้อมกับกล่าวว่า “นี่เป็นเพียงอุปสรรคของระดับเซียนเทียนขั้นสิบ มันยังยากถึงเพียงนี้ ต่อไปเมื่อข้าเข้าสู่ระดับปฐมภูมิ หรือจะไปสู่ระดับจินตัน มันจะยากขนาดไหน?”

“ไม่ต้องรีบร้อน ใช้เวลาให้มีค่าเถอะ ข้าเชื่อว่าท่านต้องประสบความสำเร็จ!” เจ้าอ้วนกล่าวให้กำลังใจ

“แต่มันผ่านมานานนับครึ่งปีแล้ว ข้ายังไม่สามารถทำสิ่งใดได้เลย!” หานหลิงเฟิงกล่าวอย่างขุ่นเคือง

“อือ!” หลังจากที่เจ้าอ้วนได้ยินเช่นนั้น เขารำพึงรำพันออกมา “ถ้าหากเป็นเช่นนั้น เหตุใดจึงไม่หยุดพักก่อน อีกสักครึ่งปีค่อยมาพยายามใหม่อีกครั้ง!”

“อะไรกัน? เจ้ากำลังพ่นวาจาไร้สาระอะไร? ไม่เพียงแต่ไม่ให้ความช่วยเหลือ แต่เจ้ายังบอกให้ข้าหยุดพักอีกครึ่งปีงั้นหรือ?!” หานหลิงเฟิงตะโกนออกมาอย่างอดกลั้น “เจ้าคนใจร้าย เจ้ามีแผนจะทำสิ่งใดอีก!?”

“ฟังข้าก่อน!” เจ้าอ้วนกล่าวอย่างใจเย็น “เหตุผลที่ข้าอยากให้หยุดการฝึกฝนก่อนเพราะการจัดแข่งขันภายในสำนักอีกในครึ่งปีหลัง! เจ้าต้องรู้อยู่แล้วว่าการแข่งขันแบ่งออกเป็นสามประเภท ถ้าหากก้าวเข้าสู่ระดับเซียนเทียนขั้นสิบ เจ้าจะต้องเผชิญกับผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนขั้นสิบเอ็ด สิบสองหรือมากกว่าสิบสาม! แต่หากยังไม่ก้าวหน้า เจ้าจะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในระดับเซียนเทียนขั้นเก้า และมีโอกาสมากที่จะชนะการแข่ง!”

“เรื่องนั้น…” หานหลิงเฟิงขุ่นเคืองพร้อมกล่าวออกมาว่า “แม้ว่าข้าจะชนะการแข่งขันในสำนัก รางวัลช่างน้อยนิดไม่อาจเทียบเท่ากับเวลาที่สูญเสียไป นับตั้งแต่เราได้รับอุปกรณ์วิเศษทั้งห้าชั้น และรางวัลในครั้งนั้น เจ้าคิดว่าข้ายังต้องการสิ่งใดอีก?”

“นี่ไม่ใช่เรื่องของหินจิตวิญญาณ แต่คือวิธีจัดการความเสี่ยง!” เจ้าอ้วนกล่าวอย่างจริงจัง “ข้าเกรงว่าเมื่อเจ้าก้าวต่อไปข้างหน้า เจ้าจะได้รับบาดเจ็บโดยผู้มีเจตนากระทำจากการแข่งขัน!”

“เจ้าคิดมากไปหรือไม่? เหตุใดจะต้องได้รับบาดเจ็บโดยเจตนาภายในการแข่งขันของสำนัก?” หานหลิงเฟิงถามกลับอย่างงุนงง

“โดยปกติแล้ว มันไม่สามารถเป็นไปได้ แต่ในตอนนี้สถานการณ์มันแตกต่างจากเดิม!” เจ้าอ้วนกล่าวอย่างเคร่งขรึม “สิบอันดับแรกในระดับเซียนเทียนขั้นสิบขึ้นไป กลุ่มนี้จะได้รับรางวัลพิเศษ ซึ่งรางวัลนั้นสำคัญอย่างมาก มันเป็นสิ่งสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่าจ้าวสำนักและภรรยาของเขาที่เพิ่งออกจากการฝึกฝนแบบปิดประตูเพียงเพื่อให้บุตรสาวของพวกเขาเข้าสู่สิบอันดับแรกของสำนัก!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด