ตอนที่แล้วตอนที่ 25 ตอบโต้ตระกูลเชิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 27 ปราณดาบ

ตอนที่ 26 ข่าวของหญ้ามังกรปฐพี


เมื่อหม่าตาจวินพูดออกไปว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับตัวมันทั้งนั้น มันก็รีบเดินทางกลับทันที เพราะมันยังจำเป็นต้องรีบกลับไปทำหน้าที่ตามที่หลิงฮันได้สั่งเอาไว้  

 

“ท่านปู่ พวกเราจะต้องทำอย่างที่นักปรุงยาหม่าบอก โดยที่ต้องเชื่อฟังหลิงตงซิงกับบุตรของมันจริงๆรึ?” หลิงมู่เหยินถามออกไปพร้อมกับกัดฟันแน่น มันจะยอมลดตัวของมันลงไปทำแบบนั้นได้อย่างไร? หลิงฮันเป็นที่รู้จักกันดีในนามเศษขยะและการที่จะให้มันไปฟังคำสั่งของเศษขยะนั้น... แค่คิดก็แทบจะทำให้มันกลายเป็นบ้าแล้ว

 

“แน่นอนว่าไม่มีทาง!” หลิงจงควั่นสะบัดของมันอย่างรุนแรง

“ข้าได้พยายามมาอย่างหนักในช่วงหลายปีมานี้ ข้าจะยอมให้เจ้าเศษขยะนั่นมาทำลายความพยายามทั้งหมดของข้าได้อย่างไร? ไม่ว่าเจ้านั่นจะเป็นเศษขยะของจริงหรือเพียงแค่แกล้งทำก็ตาม ไม่มีทางที่มันจะมาขัดขวางการยึดครองตระกูลหลิงของข้าได้!”

 

“ถ้าเช่นนั้น แผนการต่อไปของเราคืออะไรรึท่านปู่?” หลิงมู่เหยินเกิดความสงสัยเป็นอย่างมาก

 

หลิงจงควั่นพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลเชิงกับพวกเราในตอนนี้ตึงเครียดเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าหลิงตงซิงจะสามารถตอบโต้กลับไปได้ด้วยความช่วยเหลือของหม่าตาจวิน แต่ตระกูลเชิงเองก็ไม่ใช่สิ่งที่จะจัดการทิ้งได้ง่ายๆ หากพวกมันถูกบังคับจนหมดหนทางแล้วพวกมันจะต้องใช้ทุกอย่างที่มีในการโจมตีตระกูลหลิงแน่”

 

“เมื่อถึงตอนนั้น พวกเราก็จะแทงข้างหลังหลิงตงซิงและผลักมันให้ล่วงออกไปจากตำแหน่งผู้นำตระกูล!”

 

ใบหน้าของหลิงมู่เหยินสดใสขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ แต่ดวงตาของมันยังเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด “ท่านปู่ เจ้าบ้าหลิงฮันนั่นจะต้องส่งมาให้ข้าจัดการ ข้าอยากจะสังหารมันด้วยมือข้าเอง!”

 

“เจ้าจะได้ทำอย่างที่เจ้าหวังแน่นอน!” หลิงจงควั่นพูดด้วยรอยยิ้มอันเย็นชา

 

***

 

เช้าวันรุ่งขึ้นจูเฮอซินได้ไปเยี่ยมตระกูลหลิงอีกครั้ง ตอนนี้หลิงตงซิงได้เข้าใจแล้วว่าทำไมหม่าตาจวินถึงเกรงกลัวบุตรของมันขนาดนั้น เพราะแม้แต่นักปรุงยาระดับดำอย่างจูเฮอซินยังต้องยืนกุมมือทั้งสองอยู่ข้างๆบุตรของมัน ราวกับเป็นลูกศิษย์ที่ว่านอนสอนง่าย

 

การที่ได้รู้สาเหตุยิ่งทำให้หลิงตงซิงตกตะลึงมากขึ้นไปอีก นั่นเพราะในคราวที่แล้ว หม่าตาจวินยังเป็นเพียงนักปรุงยาระดับเหลือง แต่ตอนนี้แม้แต่นักปรุงยาระดับดำยังต้องแสดงความเคารพต่อบุตรของมัน นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

 

ส่วนเหตุผลที่จูเฮอซินมาหานั่นก็เพื่อมาบอกข่าวบางอย่างให้หลิงฮัน

 

ข่าวที่ว่าคือต้นหญ้ามังกรปฐพีอาจจะปรากฎขึ้นที่หุบเขาเจ็ดวายุ

 

เมื่อตอนที่หลิวอู๋ตงไปซื้อวัตถุดิบมาเพื่อให้หลิงฮันหลอมเม็ดยาหยาดฝนผสานเมฆาเมื่อไม่กี่วันที่แล้ว นางได้ถามจูเฮอซินเกี่ยวกับวัตถุดิบสำหรับสูตรเม็ดยาอีกชนิดหนึ่ง โดยสูตรเม็ดยานี้ประกอบไปด้วยวัตถุดิบทั้งหมดสี่อย่างซึ่งเป็นประเภทที่ ‘หายากมาก’ ต่อให้เป็นตำหนักโอสถสวรรค์ก็ยังไม่มีสมุนไพรเหล่านี้เก็บเอาไว้

 

หรืออาจจะเป็นเพราะที่นี่คือตำหนักโอสถสวรรค์สาขาในแคว้นพิรุณจึงไม่มีสมุนไพรเก็บไว้ แต่อย่างไรก็ตามด้วยระดับของมันในตอนนี้ จูเฮอซินไม่มีทางที่จะไปตรวจสอบคลังสินค้าในสาขาที่ใหญ่กว่าได้ ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่จะให้ส่งสมุนไพรมาที่แคว้นพิรุณเลย

 

สูตรเม็ดยาที่ว่าคือสูตรที่เอาไว้สำหรับหลอมเม็ดยาเพื่อรักษารากฐานวิญญาณของหลิงตงซิง ชื่อของเม็ดยานั่นคือ “โอสถฟื้นคืนวิญญาณ” เป็นเม็ดยาระดับปฐพีขั้นกลาง!

 

หญ้ามังกรปฐพีคือหนึ่งในสี่วัตถุดิบที่จำเป็นสำหรับสูตรยานี้ ดังนั้นเมื่อมันได้รู้ข่าวนี้ จูเฮอซินจึงรีบมายังที่พักอาศัยของตระกูลหลิงด้วยตนเอง แต่นอนว่าเหตุผลแรกคือแจ้งข่าวสำคัญให้กับหลิงฮัน ส่วนอีกเหตุผลคือมันอยากจะมาขอแนะนำจากหลิงฮัน หากเป็นเวลาอื่นมันไม่กล้าที่จะมารบกวนหลิงฮันอย่างเด็ดขาด

 

แน่นอนว่าหลิงฮันดีใจมากเมื่อรู้ข่าว แต่หลังจากสอบถามเหตุการณ์รอบๆหุบเขาเจ็ดวายุอย่างละเอียด เขาก็ทำได้เพียงตัดสินใจเลื่อนการเดินทางออกไปก่อน

 

นั่นเพราะคนที่นำข่าวนี้มาบอก คือจอมยุทธ์สุดแกร่งในระดับรวมธาตุขั้นเก้า ในตอนนั้นเมื่อกลุ่มนักรวบรวมสมุนได้พบตัวมัน มันก็ใกล้จะตายเต็มทีแล้ว มันทำได้เพียงเค้นเสียงพูดออกมาว่า “ถ้ำ” “งูสีแดงตัวใหญ่” และ “หญ้ามังกรปฐพี” ก่อนที่จะสิ้นชีพลงไป

 

ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าในหุบเขาเจ็ดวายุได้มีหญ้ามังกรปฐพีอยู่ และที่นั่นคงจะมีงูสีแดงตัวใหญ่คอยปกป้องหญ้าเอาไว้ด้วย มันถึงกับสามารถสร้างความบาดเจ็บสาหัสให้กับจอมยุทธระดับรวมธาตุขั้นเก้าได้

 

หลิงฮันรู้ดีว่าที่ไหนที่มีหญ้ามังกรปฐพีอยู่ ที่นั่นมักจะมีมังกรอสรพิษเกล็ดสีชาดเฝ้าอยู่ ซึ่งอสรพิษนั่นจะคอยดูดซับปราณมังกรอ่อนๆที่ปลดปล่อยออกมาจากหญ้ามังกรปฐพีเพื่อพัฒนาร่างอย่างช้าๆ และสุดท้ายมันจะเปลี่ยนจากอสรพิษกลายเป็นมังกร

 

มังกรอสรพิษเกล็ดสีชาดที่โตเต็มวัยจะมีพลังบ่มเพาะเทียบได้กับระดับรวมธาตุขั้นเก้า และเพราะมันมีสายเลือดมังกรอยู่เล็กน้อย ทำให้พลังของมันเหนือกว่าจอมยุทธระดับรวมธาตุขั้นเก้าทั่วไป สามารถเรียกได้ว่ามังกรอสรพิษเกล็ดสีชาดนั้นได้ก้าวเท้าเข้าไปยังระดับก่อเกิดธาตุข้างหนึ่งแล้ว มันเป็นราชาไร้พ่ายในระดับรวมธาตุ

 

จะให้หลิงฮันเข้าไปยังหุบเขาเจ็ดวายุในตอนนี้น่ะรึ... ถึงต่อให้เขาสามารถหาถ้ำที่ว่าพบ ก็ไม่มีทางที่เขาจะสามารถเป็นคู่ต่อสู้ให้กับมังกรอสรพิษเกล็ดสีชาดได้ ถึงจะมีการช่วยเหลือจากหลิวอู๋ตงก็ไร้ประโยชน์ นอกเสียจากนางจะก้าวเท้าข้างหนึ่งไปยังระดับก่อเกิดธาตุเสียก่อน

 

เขาจะต้องไปยังหุบเขาเจ็ดวายุอย่างแน่นอน แต่เขาจะต้องเตรียมพร้อมให้ดีเสียก่อน

 

ยิ่งกว่านั้น แกนอสูรของมังกรอสรพิษเกล็ดสีชาดสามารถหลอมเป็นเม็ดยาทะลวงกำเนิดได้ โดยการกินเม็ดยานี้เข้าไปจะทำให้จอมยุทธในระดับรวมธาตุเพิ่มระดับขึ้นหนึ่งขั้นในทันที โดยจำกัดอยู่เพียงไม่เกินรวมธาตุขั้นสามระดับสูงสุดเท่านั้น และเพราะว่ามังกรอสรพิษเกล็ดสีชาดครอบครองสายเลือดมังกรอยู่เล็กน้อย เลือดและเนื้อของมันจึงมีค่ามากและสามารถทำให้หลิงฮันบรรลุส่วนแรกของคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ ‘ขั้นต้นไม้มรณะ’ ได้รวดเร็วขึ้นอีกด้วย

 

เขาตัดสินใจที่จะบ่มเพาะอย่างหนักต่อไปและจะไปยังหุบเขาเจ็ดวายุก็เมื่อตอนที่ทะลวงไปยังระดับรวมธาตุแล้ว หากทำแบบนั้นเขาจะสามารถใช้โยชน์จากแกนอสูรมังกรอสรพิษเกล็ดสีชาดเพื่อเพิ่มระดับพลังบ่มเพาะของเขาไปยังรวมธาตุขั้นสามได้อย่างรวดเร็ว และหลังจากนั้นเขาจะสามารถทะลวงไปยังขั้นสี่ได้อย่างง่ายดาย

 

นอกจากนี้เขายังจำเป็นต้องเพิ่มพลังของตัวเองผ่านการต่อสู้จริงเพื่อทำให้รากฐานมั่นคงด้วย ในชีวิตที่แล้วเขามีพลังบ่มเพาะที่สามารถยืนอยู่บนจุดสูงสุดได้ก็จริง แต่เขาไม่ได้ถือว่าเป็นคนที่มีพลังต่อสู้แข็งแกร่งที่สุด

 

ในชีวิตที่แล้ว หลิงฮันมีไหวพริบและความเข้าใจที่สูงมาก ไม่เช่นนั้นเขาจะกลายเป็นจักรพรรดิปรุงยาคนแรกซึ่งไม่มีใครเคยเป็นมาก่อนและจากนี้คงจะไม่มีใครสามารถเป็นได้ได้อย่างไร? ไม่ว่ายังไงคนเราก็มีเวลาและพลังที่จำกัด เขาได้ใช้เวลาไปกับการวิจัยและหลอมเม็ดยาทั้งหมดแล้ว เมื่อใดที่เขาว่างเขาก็จะเพิ่มระดับพลังบ่มเพาะ แล้วเขาจะเหลือเวลาที่ไหนไปฝึกทักษะต่อสู้กัน?

 

แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา ด้วยพลังบ่มเพาะที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของเขาจากการใช้เม็ดยา แล้วศัตรูเขาเขาจะมาเทียบได้อย่างไร? เขาเพียงแค่ใช้พลังบ่มเพาะที่มากกว่าในการจัดการศัตรูของเขาก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้กลยุทธ์อะไรทั้งนั้น

 

แต่เมื่อเขาก้าวไปถึงจุดสูงสุด จุดอ่อนนี้ก็ได้ปรากฏออกมา

 

ในชีวิตที่แล้วของหลิงฮัน มีจอมยุทธสุดแข็งแกร่งในระดับสวรรค์ทั้งหมดเจ็ดคน หากวัดจากพลังในการต่อสู้อย่างเดียวแล้วเขาอยู่ต่ำสุดอย่างไม่ต้องสงสัย เหตุผลก็เพราะเขาพึ่งพาเม็ดยาในการเพิ่มพลังบ่มเพาะและไม่มีประสบการณ์ในการต่อสู้จริงมากนัก

 

สามารถพูดได้เลยว่าพลังบ่มเพาะระดับสวรรค์ของเขามีช่องโหว่ไม่น้อยเลยทีเดียว!

 

แน่นอนว่าหากเขาใช้เวลาอีกสักร้อยปีในการฝึกฝนทักษะวรุยุทธ เขาจะสามารถทดแทนส่วนที่ขาดหายไปได้อย่างแน่นอน เพราะว่าอย่างไรในตอนนั้นเขาก็ถือว่ายังอายุน้อยมาก

จอมยุทธระดับสวรรค์ที่อายุสามร้อยปีถือได้ว่าเป็นตัวตนที่หาได้ยากมากในประวัติศาสตร์ คนแบบนี้สามารถนับได้ด้วยมือเพียงข้างเดียว

 

ในชีวิตนี้หลิงฮันไม่อยากจะเป็นจอมยุทธที่มีดีแต่พลังบ่มเพาะแบบนั้นอีกแล้ว ดังนั้นการก้าวเดินแต่ละก้าวของเขาต้องเต็มไปด้วยความมั่นคง

 

นอกจากฝึกฝนทักษะห้าธาตุสวรรค์ทุกๆวันแล้ว เขายังต้องเริ่มขัดเกลาทักษะวรยุทธด้วย

ในชีวิตที่แล้วหลิงฮันได้ทิ้งทักษะวรยุทธระดับเหลืองและดำทิ้งไปเกือบหมดแล้ว ทุกครั้งเขาจะใช้ทักษะวรยุทธระดับสวรรค์ อาจจะมีบ้างบางครั้งที่ยอมลดตัวลงมาใช้ทักษะระดับปฐพี

 

ในมือของเขามีทักษะวรยุทธระดับสูงจำนวนมาก แต่ระดับต่ำนั้นแทบจะไม่มีเลย

 

ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว อดีตจอมยุทธระดับสวรรค์แบบเขา ถึงแม้จะค้นพบทักษะยุทธระดับดำหรือเหลืองในโบราณสถาน จะเป็นไปได้รึไงที่เขาจะยอมฝึกฝนพวกมัน? เขาเพียงแค่อ่านพวกมันผ่านๆบางทักษะเท่านั้น

 

โชคดีที่ในชีวิตที่แล้วเขาเป็นจอมยุทธที่ค่อยๆพัฒนาตนเองอย่างช้าๆในช่วงแรก ดังนั้นเขาจึงพอมีทักษะวรยุทธระดับต่ำอยู่บ้าง

 

‘เพลงดาบอสนีบาตฟาดฟัน’ ‘ฝ่ามือเพลิงสะท้านเวหา’ ‘เพลงหมัดเสือดำทะยานเมฆา’ และ ‘ย่างก้าวเมฆาสลาย’ ทั้งสี่ทักษะนี้เป็นทักษะวรยุทธระดับเหลืองขั้นสูง

 

อย่างไรก็ตามสิ่งที่หลิงฮันละอายใจเล็กน้อยก็คือความจริงที่ว่าเขาไม่ได้ฝึกฝนทักษะทั้งสี่นี้จนถึงระดับสูงสุดเลยแม้แต่ทักษะเดียวในชีวิตที่แล้ว เพราะตัวเขายุ่งอยู่กับหลอมเม็ดยาอยู่ตลอดเวลา

 

แต่เขาก็แค่เริ่มฝึกทุกอย่างใหม่ก็พอ เพราะอย่างตอนนี้เขาก็ยังอยู่ในช่วงเยาว์วัย

 

หลิงฮันเริ่มฝึกจากเพลงดาบอสนีบาตฟาดฟัน ส่วนเหตุผลนั้นง่ายมาก

เพราะพลังบ่มเพาะของเขาในปัจจุบันยังต่ำอยู่มาก เขาจึงจำเป็นต้องใช้การสนับสนุนจากอาวุธเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง และอาวุธที่เป็นที่นิยมที่สุดของเหล่าจอมยุทธคือดาบและกระบี่

 

**ติดตามข่าวสารได้ที่ เพจ**

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด