ตอนที่แล้วEG บทที่ 146 เครื่องเพิ่งลงก็หายตัวไปซะแล้ว (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEG บทที่ 148 ประเด็นหลักคือศิลปะ (อ่านฟรี)

EG บทที่ 147 ชื่อเสียงโด่งดัง (อ่านฟรี)


พอเฝิงหยู่คุยกับผู้อำนวยการโรงงานเสร็จ ก็เป็นเวลาบ่ายพอดี ทันใดนั้นเฝิงหยู่ก็จำได้ว่าวันนี้เป็นวันแรกของการเริ่มค่ายฤดูร้อน และเขายังไม่ได้ไปรายงานตัวและยังไม่ได้โทรแจ้งรองอาจารย์ใหญ่ซุนเลย

เฝิงหยู่รีบหาโทรศัพท์เพื่อโทรกลับไปที่หอพักของมหาวิทยาลัยมอสโก มีคนที่หอพักรับโทรศัพท์และบอกเฝิงหยู่ว่าตอนนี้ทุกคนอยู่ข้างนอกกันหมดและไม่มีใครอยู่ที่หอพักเลย ต้องขอโทษด้วยที่ไม่สามารถติดต่อใครให้ได้เลย

เฝิงหยู่อึ้งไปสักพัก เขารู้แต่เบอร์โทรศัพท์ที่หอพักเท่านั้น และไม่รู้แผนที่เส้นทางของค่ายหรือเบอร์ติดต่ออื่นๆ เลย

ให้ตายสิ ทำไมถึงไม่มีโทรศัพท์มือถือกันนะ?

“เฝิง เป็นอะไรไป? ทำไมทำหน้าไม่พอใจแบบนั้น? ผู้อำนวยการโรงงานมอซโกฟตกลงที่จะขายเครื่องจักรการผลิตชุดนั้นเพื่อผลิตตู้เย็นแล้วนิ คุณคิดว่ามันแพงไปงั้นหรอ?” คิริเลนโกรู้สึกงุนงง ราคาก็ต่อรองแล้ว และเฝิงหยู่ก็เป็นนักเจรจาต่อรองที่ดี ดีว่าตัวเขาเสียอีก ถ้าเป็นเขาทำการเจรจาต่อรอง ราคาคงไม่ต่ำได้ถึงขนาดนี้แน่

“เปล่าๆๆ ผมพอใจกับข้อตกลงนะ ผมจะไม่ลืมค่านายหน้า 30% ที่บอกคุณไว้แน่นอน แต่ที่ผมมามอสโกก็เพื่อที่จะมาร่วมเข้าค่ายฤดูร้อน เมื่อวานผมดื่มมากไปหน่อยและไม่ได้กลับไปที่หอพักของมหาลัย ผมยังไม่ได้โทรไปแจ้งรองอาจารย์ใหญ่เลย ผมต้องเดือดร้อนแน่ๆ

การเดินทางมาครั้งนี้เฝิงหยู่ต้องการที่จะมาเจรจาต่อรองด้วยตัวเอง แต่เขาก็ยังจะต้องจ่ายค่านายหน้า 30% ให้คิริเลนโก เฝิงหยู่คำนวณดูแล้ว อุปกรณ์ที่คิริเลนโกขายให้เขานั้นราคาอยู่ที่ระหว่าง 40% ถึง 50% การให้ค่านายหน้าเพียงแค่ 30% ยังถือว่าน้อยมาก

แต่ว่าปริมาณที่เฝิงหยู่ต้องการสั่งซื้อครั้งนี้ค่อนข้างมาก และเฝิงหยู่ก็ได้บอกคิริเลนโกว่าเขาจะสั่งซื้อเพิ่มอีกจำนวนมากหลังจากจบทริปการเดินทางนี้ ด้วยเหตุนี้ คิริเลนโกจึงพอใจกับค่านายหน้า 30% ครั้งนี้

คิริเลนโกยังอยากพาเฝิงหยู่ไปอีกโรงงานหนึ่ง เขาอยากพาเฝิงหยู่ไปทุกๆ โรงงานที่ตั้งอยู่ใกล้กรุงมอสโกภายในช่วงสองสามวันนี้ แต่เขาก็ลืมไปว่าเฝิงหยู่เดินทางมาที่มอสโกเพื่อที่จะมาเข้าค่ายฤดูร้อนของมหาวิทยาลัยมอสโก ซึ่งถือว่าเป็นค่ายนานาชาติ

“เฝิง ไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวผมจัดการหาให้เองว่าค่ายจัดที่ไหนและส่งคุณไปที่นั่นทันที จากนั้นเราค่อยเจอกันอีกทีตอนกลางคืนใช่ไหม?”

“ได้ครับ ผมโอเคที่จะคุยเจรจากับโรงงานตอนกลางคืน แต่ผมจะไม่ดื่มอีกแล้วนะ!” เฝิงหยู่กล่าวอย่างกังวล เลิกพูดสักทีว่าการดื่มเป็นธรรมเนียมของสหภาพโซเวียต ผมมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องจักรของคุณ แล้วคุณต้องมาบังคับให้ผมดื่มวอดก้าหมดแก้วตั้งสองแก้ว มันใช่หรอ?

คิริเลนโกเป็นคนที่มีอิทธิพลสูงมาก เพียงแค่ยกหูโทรศัพท์ไม่กี่ครั้ง เขาก็รู้ตำแหน่งที่ตั้งของค่ายฤดูร้อนแล้ว วันแรกของค่ายเป็นช่วงการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างนักเรียน ดังนั้นพวกเขาจึงไปปีนเขากันในชนบท

พอเฝิงหยู่รีบไปถึงที่ค่าย พวกเขาก็ตั้งเต็นท์กันเสร็จแล้ว มีควันออกมาจากกองไฟ และนักเรียนกำลังทำอาหารกลางวันกันอยู่

รองอาจารย์ใหญ่ซุมองเห็นรถยนต์ที่คุ้นเคยแล่นเข้ามาจากระยะไกล เขาก็รีบวิ่งออกไปต้อนรับ และเห็นเฝิงหยู่กำลังลงมาจากรถ

โอ้พระเจ้า ในที่สุดคุณก็กลับมาแล้ว แต่คณะกรรมการที่จัดงานได้รายงานแจ้งความกับตำรวจไปแล้ว โรงเรียนของเขากำลังจะ “มีชื่อเสียงโด่งดัง” ไปทั่วโลก

“เฝิงหยู่ คุณไปนายมา? ผมบอกให้คุณโทรมาหาผมไง ทำไมคุณไม่โทรมา?”

พอพวกเขาเจอหน้ากัน เฝิงหยู่ก็ถูกตั้งคำถามมากมายจากรองอาจารย์ใหญ่ซุน เฝิงหยู่หัวเราะแหะๆ แล้วบอกว่า “อาจารย์ใหญ่ครับ เมื่อคืนผมดื่มมากไปหน่อย เลยลืมครับ”

“คุณยังจะออกไปดื่มอีกหรอ? คุณลืมกฎระเบียบที่ผมบอกคุณก่อนทริปการเดินทางไปแล้วหรือไง? ห้ามนักเรียนทุกคนดื่มเหล้า! คณะกรรมการที่จัดงานได้แจ้งความกับตำรวจไปแล้วว่าคุณหายตัวไป แล้วเรื่องนี้คุณจะทำยังไง?”

หืม? หายตัวไปงั้นหรอ? เฝิงหยู่รู้สึกว่าเรื่องนี้เลยเถิดไปกันใหญ่แล้ว ถ้าเรื่องนี้แพร่กระจายทางอินเตอร์เยตไปถึงประเทศจีน เขาคงถูกขึ้นรายชื่อบัญชีดำจากมหาวิทยาลัย และถูกบันทึกลงในรายงานของโรงเรียนของเขาด้วย ไม่มีระเบียบวินัย ไม่มีการทำงานร่วมกันเป็นทีม ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง และยังนำความอับอายไปสู่ประเทศอีก

เฝิงหยู่รีบดึงคิริเลนโกมา ทั้งหมดนี้เป้นความผิดของเขาที่บังคับให้เขาดื่มเมื่อคืนนี้ เขาต้องแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้เฝิงหยู่ คิริเลนโกมองหน้าเฝิงหยู่และคิดว่านี่คือการทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ เฝิงหยู่ก็แค่มาสายครึ่งวันเอง มันจะเป็นปัญหาใหญ่อะไรหนักหนา? รอสักครู่ เขาสามารถจัดการปัญหานี้ได้อย่างรวดเร็วเอง

คิริเลนโกไปหาคนจากคณะกรรมการที่จัดงานและพูดคุยกับพวกนั้นประมาณห้านาที และบอกเฝิงหยู่ว่าแก้ปัญหาเรียบร้อยแล้ว เขาจะกลับมาที่ค่ายเพื่อรับเฝิงหยู่ตอนกลางคืน

ทีมงานจากประเทศอื่นๆ ต่างมองอย่างสงสัยไปที่โรงเรียนมัธยมปลายของเมืองปิง ทำไมถึงมีคนจำนวนมากมุงอยู่บริเวณนั้น? แถมยังมีคนจากคณะกรรมการที่จัดงานด้วย และดูเหมือนว่ากำลังโต้เถียงอะไรกันอยู่สักอย่าง เป็นไปได้หรือเปล่าว่าโรงเรียนมัธยมปลายของเมืองปิงกำลังมีปัญหาบางอย่าง?

อันที่จริงแล้ว ทีมอื่นๆ ก็สังเกตเห็นความผิดปกติจากทีมโรงเรียนมัธยมปลายของเมืองปิง ทุกทีมที่เข้าร่วมค่ายครั้งนี้จะประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 15 คน คือนักเรียน 10 คนและครูอีก 5 คน

ครูของแต่ละทีมก็มีหน้าที่รับผิดชอบต่างกันไป เช่น เป็นผู้ติดต่อ ผู้ประสานงาน ผู้นำ นักแปล เป็นต้น  แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่เหมือนกันก็คือครูค่อนข้างวัยรุ่น อายุโดยเฉลี่ยน่าจะยังไม่ถึง 30 ปี มีเพียงโรงเรียนมัธยมปลายของเมืองปิงเท่านั้นที่ต่างจากทีมอื่นๆ นอกจากครูผู้หญิงที่อายุน้อย ที่เหลือก็เป็นครูที่มีอายุมากกว่า 40 ปีทั้งนั้น ไม่มีคนบอกพวกเขาหรอว่าค่ายฤดูร้อนครั้งนี้เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นสำหรับวัยรุ่น?

นอกจากนี้ โรงเรียนมัธยมปลายของเมืองปิงยังมีนักเรียนหายไปหนึ่งคน และพวกเขายังเห็นคณะกรรมการที่จัดงานยืนโต้เถียงกับหัวหน้าในตอนเช้าด้วย เหมือนได้ยินว่ามีเรื่องที่ต้องแจ้งความกับตำรวจอะไรสักอย่าง

ว้าว นั่นไงตำรวจ เขาเดินไปที่ทีมของโรงเรียนมัธยมปลายของเมืองปิง มีสมาชิกในทีมทำผิดกฎหมายงั้นหรอ? แบบนี้ไม่ดีแน่ ต้องติดต่อสถานทูตของพวกเขาหรือเปล่า?

ประเทศจีนเป็นประเทศล้าหลังจริงๆ พวกเขาไม่เชื่อฟังกฎหมายของประเทศอื่นๆ

ตำรวจคนนั้นเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่กำลังสอบสวนเรื่องการหายตัวไปของเฝิงหยู่ เขาคอยเฝ้าอยู่ที่ค่ายเผื่อว่าเฝิงหยู่จะกลับมาที่ค่าย

“นายคือเฝิงหยู่หรือ? ไหนบอกมาสิว่าหายไปไหนมาและไปทำอะไรหลังจากที่เครื่องบินลงจอดที่สนามบินเมื่อวานนี้?” เจ้าหน้าที่ตำรวจถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง

เฝิงหยู่มองหน้าคิริเลนโก รีบมาจัดการเลย!

คิริเลนโกหยิบบัตรประจำตัวออกมาจากกระเป๋าและส่งให้เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่มองไปที่บัตรและส่งคืนให้คิริเลนโกอย่างระมัดระวัง

สรุปแล้วเป็นเจ้าหน้าที่จากกองทัพทหารนี่เอง ทำไมเขาถึงมายู่ที่นี่ละ?

“เราสั่งซื้อสินค้าทางทหารชุดหนึ่งจากประเทศจีน และเฝิงหยู่เป็นผู้ติดต่อของเรา นี่คือเหตุผลที่เราไปรับเขาที่สนามบินเมื่อวานนี้ ผมได้อธิบายเรื่องนี้กับทางมหาวิทยาลัยมอสโกแล้ว เฝิงหยู่ไม่ได้หายตัวไปไหน คุณปิดคดีนี้ได้เลย” คิริเลนโกกล่าวอย่างมีอำนาจ

ตอนนี้ทีมอื่นๆ ก็เริ่มมองด้วยความอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น ทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจรีบกลับไปอย่างรวดเร็ว? ทีมจากประเทศจีนไม่ได้ทำความผิดอะไรใช่มั้ย? ถ้ามีคนเคยบอกว่าประเทศจีนมีอำนาจมากพอที่จะไม่ปฏิบัติตามกฎหมายของสหภาพโซเวียต พวกเขาไม่เคยเชื่อเลย!

พวกเขาสงสัยเกี่ยวกับเด็กคนที่มาที่ค่ายด้วยยานพาหานะของทหารโซเวียต หืม? เด็กคนนี้มีติดป้ายด้วย? เด็กคนนั้นอยู่ในทีมโรงเรียนมัธยมปลายของเมืองปิงจากประเทศจีนนี่เอง !

ทำไมเด็กนักเรียนจีนคนนี้ถึงมาที่ค่ายด้วยยานพาหานะของทหารโซเวียตละ? พวกเขาคิดยังไงก็คิดไม่ออกเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ที่แน่ๆ พวกเขาคงไม่ได้คำตอบหากไปถามทีมจากประเทศจีนโดยตรง พวกเขาได้แต่พูดคุยกันเองในกลุ่ม มีคนถึงขนาดเดาว่านักเรียนคนนี้คงเป็นลูกชายของผู้นำที่ยิ่งใหญ่ในประเทศจีนและมาที่นี่เพื่อทำภารกิจลับบางอย่าง

ประเทศจีนเน้นเรื่องผู้สืบทอดมาโดยตลอด ต้องเป็นแบบนี้แน่ๆ ! ทีมจากประเทศจีนต้องมีภารกิจด้านการเมืองบางอย่างแน่ๆ พวกครูที่อายุมาก อาจจะเป็นบอดี้การ์ดที่ปลอมตัวมาก็ได้?

พวกเขาสังเกตเห็นว่าคณะกรรมการที่จัดงานปฏิบัติต่อทีมจากประเทศจีนต่างไปจากเดิม มีการจองพื้นที่บริเวณตั้งเต็นท์ที่ดีที่สุดให้กับทีมประเทศจีน และพวกเขาก็ได้รับประทานอาหารที่ดีที่สุดด้วย ทีมจากประเทศจีนนี่ไม่ธรรมดาแน่นอน และเด็กนักเรียนคนนั้นต้องพิเศษยิ่งกว่าอีก !

ตอนนี้รองอาจารย์ใหญ่ซุนรู้สึกไม่ค่อยดี มีผู้นำจากทีมต่างๆ 6 ประเทศมาหาเขาและพยายามผูกมิตรด้วย แต่พวกเขาไม่ละสายตาจากเฝิงหยู่เลย ตอนนี้ทีมจากประเทศจีนมีชื่อเสียงโด่งดังมาก แต่รองอาจารย์ใหญ่ซุนก็ไม่แน่ใจว่าแบบนี้เป็นเรื่องที่ดีหรือเรื่องที่แย่กันแน่

ติดตามตอนล่าสุดได้ที่ เพจ Kingdom นิยายแปล

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด