ตอนที่แล้วChapter 156: ลูกศิษย์ที่ถูกขับไล่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 158: ปัญหาของชายหนุ่ม

Chapter 157: เปิดร้าน


Chapter 157: เปิดร้าน

แม้ว่าคำพูดของชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้านั้นจะไม่ได้ดังมาก พวกเขาก็ยังสามารถที่จะได้ยินมันอย่างชัดเจนในธนาคารที่เงียบเช่นนี้

ฝูงชนนั้นก็ตกอยู่ในสถานะโกลาหล หลังจากที่ได้ยินคำพูดของชายคนนั้น คนแต่ละคนนั้นพยายามที่จะหนีเพื่อเอาชีวิตรอด ชายคนนั้นก็ยกปืนขึ้นและเล็งเป้าและเตรียมที่จะยิง

“อ๊า!!!”ชายที่อยู่ใกล้กับโจรร้ายทั้งสี่นั้นกรีดร้องออกมาเสียงดัง หวังหยู่ที่อยู่ไม่ห่างไปจากโจรร้ายเท่าไหร่นั้นก็ผลักมู่จี่เซียนไปด้านข้างอย่างนุ่มนวล และซ่อนเธอไว้กับโต๊ะที่ด้านข้างเธอแล้วเขาก็หยิบปากกาขึ้นมาหลายแท่ง

โจรร้ายทั้งสี่จะสังเกตเห็นการเคลื่อนที่ของหวังหยู่ในสถานการณ์ที่วุ่นวายแบบนี้ได้ยังไงกัน? เมื่อชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้านั้นกำลังจะลั่นไกปืน เขาก็เห็นแท่งสีดำพุ่งลอยมาหาเขา

“อ๊า!”เสียงกรีดร้องอันน่าหวาดผวาก็ดังขึ้นในธนาคาร เมื่อโจรร้ายอีกสามคนล่วงหล่นลงบนพื้น และกุมตาของพวกเขาที่เจ็บปวด เมื่อมีน้ำสีแดงเลือดไหลลงมาจากนิ้วมือของพวกเขา หนึ่งในคนพวกนั้นก็จับไปที่สิ่งของที่อยู่ในมือของพวกเขา ซึ่งมันก็คือปากกาสีดำ

ขาของหวังหยู่ก็สว่างวาบและเตะไปที่ปืนของโจรร้ายและพุ่งเข้าไปในฝูงชน

“พี่ชาย! เกิดอะไรขึ้น?”ชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้าร้องออกมาอย่างสับสน เมื่อเขาวิ่งไปทางประตู และเห็นเพียงแค่หวังหยู่ปิดกั้นเส้นทางของเขาอยู่

“เหี้..! มันจะต้องเป็นมึงแน่ๆ!”

ชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้าตะโกนอย่างโกรธเคือง แล้วเขาก็ยกปืนเล็งไปที่หวังหยู่ มือขวาของหวังหยู่ก็ยื่นออกไปและจับปืนมัน ไม่ว่าชายที่มีแผลเป็นนั้นจะใส่แรงไปแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถที่จะขยับปืนได้เลยแม้แต่นิ้วเดียว

“มึง!”

หวังหยู่บิดแขนของเขาลงและผลักดันให้ชายที่มีแผลเป็นทิ้งปืนลง

หวังหยู่ก็ถือปืนนั้นไว้ในมือเล็งไปที่หัวของชายที่มีแผลเป็น

“อย่า…อย่าเล่นนะ…มันเป็นปืนจริง!”ชายที่มีแผลเป็นอ้อนวอนหวังหยู่อย่างโกรธแค้น

“เรียกตำรวจ!”หวังหยู่แนะนำและออกแรงกดดันไปที่แขนของชายคนนั้น

“แคร๊ก!!!”

มันมีก็เสียงกระดูกแตกดังขึ้นมาจากชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้าซึ่งกำลังนอนอย่างเจ็บปวดอยู่ใต้ฝ่าเท้าของหวังหยู่

“พวกคุณควรที่จะหนีไปก่อน!”หวังหยู่แนะนำแล้วเขานำมู่จี่เซียนจากที่ซ่อนออกมา และออกไปจากธนาคารพร้อมกับฝูงชน

“พวกเขา…พวกเขาฆ่าใครบางคนจริงๆด้วย…”มู่จี่เซียนอ้าปากค้าง

“ไม่ต้องกังวลไป ทุกสิ่งทุกอย่าง โอเคแล้ว! คนพวกนั้นจะไม่สามารถทำความชั่วได้อีกต่อไปแล้ว!”หวังหยู่ปลอบประโลมเธอ

มู่จี่เซียนกอดเอวของหวังหยู่แล้วเธอก็ร้องไห้ออกมา “ฉันจะไม่กลัวได้ยังไง? พวกเขานั้นมีปืน แต่คุณก็ยังพุ่งไปด้านหน้า! ฉันจะทำยังไงต่อ ถ้ามันมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับคุณ?”

สำหรับผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ หวังหยู่ก็รู้ดีว่า ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งมากแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถที่จะแข็งแกร่งไปกว่าปืนได้ มิฉะนั้น ศิลปะการต่อสู้คงไม่ทรุดโทรมจนถึงระดับนี้

หวังหยู่กุมมือของมู่จี่เซียน และพูดอย่างนุ่มนวลกับเธอ “ผมขอโทษที่ทำให้คุณกังวลนะครับ”

การจับปืนไปด้วยมือเปล่านั้นเป็นบางสิ่งที่จะต้องใช้การฝึกฝนอย่างหนักหน่วง หวังหยู่ไม่เคยคิดว่าเขาจะได้ใช้มันจริงๆขึ้นมาก่อน แต่ถ้าหวังหยู่ไม่ทำอะไรเลย ทุกคนที่อยู่ที่นั่นก็สามารถที่จะถูกฆ่าโดยโจรร้ายได้ ไม่ต้องคิดถึงคนอื่นเลย มีเพียงคนเดียวที่เขาต้องการปกป้องก็คือมู่จี่เซียน

“ไฮ้!”มู่จี่เซียนถอนหายใจแล้วเขาก็นวดคางของเขา “มันมีหลายสิ่งมากมายในศิลปะการต่อสู้ที่ไม่สามารถแก้ไขได้ในสังคม ที่รัก คุณสามารถสัญญากับฉันได้ไหมว่าคุณจะไม่ทำอะไรอันตรายแบบนี้อีกแล้ว?”

“ผมรู้แล้ว”หวังหยู่พยักหน้าแล้วเขาก็คิดกับตัวของเขาเอง “ผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้? พวกมันสามารถที่จะใช้ได้อย่างมีประโยชน์ในเกม…”

….

มันเป็นเรื่องที่เห็นได้ชัดว่ามู่จี่เซียนนั้นหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทุกครั้งที่เธอคิดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น เธอก็จะจับไปที่หวังหยู่อย่างไม่รู้ตัวและพึมพำกับเขา “มันอันตรายมากด้านนอกนั่น มันจะเป็นเรื่องดีที่สุดถ้าคุณอยู่แต่ในบ้าน!”

“แน่นอน!”หวังหยู่ตกลง “ถ้างั้นทำไมคุณถึงไม่ออกมา หลังจากวันหยุดปีใหม่!”

“ออกจากงานเหรอ? ทำไมกัน?”มู่จี่เซียนถาม

“ผมจะดูแลคุณเอง! ตั้งแต่ที่โลกภายนอกมันวุ่นวายมากเกินไป…นอกจากนี้ ผมรู้สึกไม่ค่อยดีที่ภรรยาของผมนั้นกลายเป็นลูกน้องของใครบางคน…หวังหยู่ตอบกลับอย่างไม่แยแส

เนื่องจากว่าเขาได้รับการสั่งสอนอย่างดั้งเดิมอย่างมากตั้งแต่ยังเด็ก หวังหยู่นั้นก็มีมุมมองโบราณแบบพ่อของเขา…แม้ว่าเขาจะถูกภรรยาดูแลมามากกว่าครึ่งปี มันก็ไม่มีความจำเป็นที่เธอต้องทำให้เธอลำบากในการทำงานอีกต่อไป เนื่องจากหวังหยู่สามารถที่จะดูแลเธอได้

แม้ว่าคำพูดห้าคำนี้จะดูเรียบง่ายอย่างมาก พวกมันก็ยังทำให้เธอมีความสุขอย่างมาก เมื่อเธอได้ยินพวกมัน

ผู้หญิงคนไหนกันที่จะไม่ต้องการให้สามีของเธอกลายเป็นคนที่โด่งดังและประสบความสำเร็จ? ตั้งแต่ที่เธอตระหนักได้ว่าหวังหยู่นั้นสำเร็จได้เนื่องจากเกมนี้ มันก็ทำให้เธอมีความสุขอย่างไม่รู้จบ

“พูดตรงๆแล้ว ฉันคิดเกี่ยวกับการเปิดร้าน มันอาจจะไม่ได้เงินมากสักเท่าไหร่ เพียงแค่พอสำหรับครอบครัวของพวกเรา!”มู่จี่เซียนตอบกลับอย่างตื่นเต้น

“แน่นอน! ผมจะจัดการมันให้เอง!’หวังหยู่ตอบกลับอย่างกล้าหาญ

“ฉันก็แค่ล้อเล่น การเปิดร้านนั้นแพงอย่างมาก…และฉันไม่รู้ว่าฉันจะขายอะไรดี…สุดท้ายแล้วพวกเราก็ไม่ได้มีเงินมากพอที่จะจ่ายค่าเช่า…”

“ไม่มีปัญหา! พวกเราก็แค่ขายของบางสิ่ง พวกเราก็จะได้เงินแล้ว!’หวังหยู่ยิ้ม

มู่จี่เซียนทำหน้ามุ่ย และด่าหวังหยู่ “ไม่ว่าครั้งไหนก็ตาม…ฉันไม่รู้ว่าคุณจะปากหวานมากขนาดนี้! ยังไงก็ตาม การหาเงินนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย!”

“คุณคิดอะไรอยู่?”หวังหยู่ถามแล้วเขาก็ชี้ไปที่ห้องที่มีหญิงสาวทั้งสี่คนอยู่

“เธอต้องการที่จะขายบริการพวกเธองั้นเหรอ? นั่นมันผิดกฏหมาย!’มู่จี่เซียนอุทาน

“เฮ้ เฮ้ เฮ้ คุณคิดอะไรอยู่กัน? คุณคิดจริงๆงั้นเหรอว่าผมจะเป็นคนแบบนั้น? ผมหมายถึงว่าพวกเราสามารถที่จะเปิดร้านในเกมได้!”หวังหยู่ตอบกลับอย่างไม่มีความสุข

“เปิดร้านในเกม? พวกเราสามารถที่จะทำแบบนั้นได้ด้วยงั้นเหรอ?”มู่จี่เซียนลังเลอยู่ชั่วครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบกลับไป

“แน่นอนว่าพวกเราสามารถที่จะทำได้”!”

พูดตามจริงแล้ว หวังหยู่นั้นคิดเรื่องการเปิดร้านมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว สุดท้ายแล้วอุปกรณ์ในเกมพวกนี้ก็ไม่ได้มีค่าต้นทุนเหมือนกับสิ่งของในโลกความเป็นจริง ตราบเท่าที่คุณลงทุนเงินและเวลาบางส่วน มันก็การันตีว่าคุณจะได้รับอุปกรณ์และไอเทม

สมาชิกกิลด์ที่ใกล้ชิดหวังหยู่มากที่สุดและเป็นคนที่เชิญชวนเขาเข้ามาร่วมกิลด์นั้นก็คือดาบน้ำแข็ง หวังหยู่นั้นใช้เวลาบ่อยครั้งคุยกับดาบน้ำแข็ง และพยายามที่จะเข้าใจถึงตลาดของเกม หวังหยู่ก็รู้อย่างหยาบๆว่าอุปกรณ์ระดับสูงในเกมนั้นถูกประมูลขายกัน ในขณะที่สิ่งของคุณภาพต่ำนั้นถูกขายในร้านค้า

แม้ว่าสิ่งของคุณภาพดีนั้นจะเป็นเรื่องยากที่จะได้มา พวกเขาก็สามารถที่จะได้รับเงินจำนวนหนึ่ง เมื่อพวกเขาขายมันไป มีเพียงสิ่งเดียวที่พวกเขาจะต้องจ่ายก็คือค่านายหน้าในบ้านประมูล ปัญหาอย่างอื่นของบ้านประมูลนั้นก็คือมันจำเป็นที่จะต้องมีต้นทุนในการเริ่มต้นที่จะซื้อไอเทม มีเพียงคนที่จ่ายเงินหนักๆแบบดาบน้ำแข็งที่สามารถหวังว่าจะได้เงินจากสถานที่แบบนั้นได้

อุปกรณ์คุณภาพต่ำนั้นถูกขายอยู่ทุกแห่งหนในแต่ละเมือง และมันก็ไม่มีค่านายหน้าที่จะต้องจ่าย ปัญหาของมันก็คือมีผู้เชี่ยวชาญมากมายที่พยายามที่จะหาเลี้ยงชีวิตโดยการขายอุปกรณ์ พร้อมกับการแข่งขันที่ดุเดือดที่เกิดขึ้นนี้ มันก็เป็นเรื่องที่ยาก

ตั้งแต่ที่หวังหยู่นั้นเป็นหนึ่งในผู้เล่นระดับสูงในเกม เขานั้นก็ไม่ได้ขาดแคลนอุปกรณ์ระดับสูงเลยแม้แต่นิดเดียว หลี่ซัวนั้นก็เป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวในเกมที่สามารถสร้างยารักษาระดับกลางและการเล่นแร่แปรธาตุด้วยเช่นกัน หวังหยู่นั้นก็ไม่ได้หวาดกลัวว่าพวกเขาจะขาดแคลนสิ่งของที่จะขายเลย

นี่คือแผนที่หวังหยู่วางไว้เพื่อที่จะได้รายรับอันมั่นคง

ผู้ที่ใช้จ่ายเงินหนักๆแบบดาบน้ำแข็งนั้นจะมีการคบหากับผู้คนมากมายและมีสายตาที่ดีกับราคาของมันด้วยประสบการณ์อันมากมายของเขา มันจึงเป็นเรื่องยากในเกมที่จะมีใครสามารถเทียบกับเขาได้ในเรื่องนี้

ตั้งแต่ที่เขาไม่มีประสบการณ์เช่นนี้ หวังหยู่ก็เก็บความคิดนี้ไว้ แต่หลังจากที่มู่จี่เซียนพูดถึงความคิดในการเปิดร้านในวันนี้ หวังหยู่ก็ตัดสินใจว่าจะสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับความคิดนี้ต่ออีกครั้ง

มันก็เหมือนกับเกมออนไลน์เกมอื่น {REBIRTH} นั้นอนุญาตให้ผู้เล่นที่มีเงินทองเพียงพอในการเปิดร้านของพวกเขา และขายสิ่งของของพวกเขาเอง สิ่งที่พวกเขาจำเป็นที่จะต้องจ่ายก็คือค่าเช่าในทุกๆเดือน มีเพียงแบบนี้ผู้เล่นจึงสามารถที่จะทำธุรกิจได้

ในช่วงเวลานี้ของเกม มันก็มีผู้เล่นมากมายหลายคนที่เปิดร้านของพวกเขาเองใน {REBIRTH} แต่ไม่ใช่ว่าผู้เล่นทุกคนนั้นจะได้รับกำไรจากร้านพวกนี้ ไม่เพียงแต่ผู้เล่นจำเป็นที่จะต้องมีคุณสมบัติในการตั้งราคา พวกเขาก็จำเป็นที่จะต้องนำสิ่งของใหม่ๆมาขายอีกด้วย

ส่วนที่สำคัญที่สุดที่จะต้องพิจารณาคืออัตราการดรอปของอุปกรณ์ในเกมที่มันต่ำมาก ด้วยเหตุนี้นี่เอง มันจึงมีผู้เล่นจำนวนมากที่ขายยารักษาที่มีระดับเดียวกันกับNPCขายอยู่

ตั้งแต่ที่ร้าน NPC นั้นเปิดตลอดเวลา ใครกันจะไปยังร้านที่ถูกตั้งโดยผู้เล่น? การได้รับเงินจากผู้เล่นนั้นก็ยากมากที่จะจ่ายค่าเช่าร้านของพวกเขา

ด้วยเหตุนี้นี่เอง หวังหยู่จึงตกลงทันทีเมื่อมู่จี่เซียนพูดถึงการเปิดร้าน

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง หลี่ซัวและหญิงสาวคนอื่นก็ออกมาจากเกมด้วยเช่นกัน หวังหยู่และมู่จี่เซียนก็รีบแบ่งปันความคิดของพวกเขากับหลี่ซัวที่เปิดกว้างอย่างมากกับความคิดนี้ ตั้งแต่ที่หลี่ซัวสามารถที่จะขายยารักษาของเธอได้เพียงแค่ผ่านการประมูล เธอนั้นก็จะต้องจ่ายเงินไปส่วนหนึ่งในการจ่ายค่านายหน้า หนึ่งหรือสองครั้งนั้นก็ยังสบายอยู่ แต่การทำซ้ำๆนั้นจะทำให้เธอเสียรายรับไปจำนวนมาก

“เงินไม่ใช่ปัญหา! ตราบเท่าที่พวกเราสามารถจ่ายค่าเช่าได้ในทุกๆเดือน!”หวังหยู่ประกาศ

“ตั้งแต่ที่พวกเรานั้นสามารถที่จะท้าทายดันเจี้ยนได้ในตอนนี้และตลาดนั้นก็เต็มไปด้วยอุปกรณ์สร้าง ฉันนั้นมีความมั่นใจอย่างมากที่ฉันจะสามารถสร้างความต้องการให้กับผู้คนต่อร้านนี้!”หลี่ซัวตอบกลับอย่างมั่นใจ

“โอเค ถ้างั้นแล้วละก็! ผมจะไปเปิดร้านพรุ่งนี้!”หวังหยู่มีความสุข

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด