ตอนที่แล้วตอนที่ 113 สุดท้าย (FREE)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 115 กุหลาบคลั่ง (FREE)

ตอนที่ 114 คมดาบดอกท้อเบ่งบาน (FREE)


ฟาง เจิ้งจือ ยังคงมีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้า เขาได้คิดร้อยแปดวิธีเพื่อจะโน้มน้าว เหยียน ซิว เพื่อจะได้ไม่ต้องสู้กัน เช่นขอให้เห็นแก่สายเลือดเดียวกัน เห็นแก่ความเป็นพี่น้อง

แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้นามสกุล เหยียน

นอกจากนี้เขายังคิดวิธีจับฉลาก หรือจะขอเป็นผู้ชนะร่วมทั้งสองคน

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เขาคิด เขารู้สึกถึงบางสิ่ง

มันเป็นการดูถูก!

 

ไม่ว่าเขาจะเป็นคนยอมแพ้ หรือเหยียน ซิว จะยอมแพ้เองก็ตาม มันมีแต่แสดงความดูถูกความสามารถอีกฝ่ายออกมาเท่านั้น นอกจากนี้ ด้วยท่าทีของ เหยียน ซิว แสดงให้เห็นว่า เขาต้องการที่จะต่อสู้อย่างยุติธรรมเท่านั้น

"มาสู้กันเถอะ!" ฟาง เจิ้งจือ ชี้ไปยังประตูหินที่ปรากฎขึ้นมา

"ได้!" เหยียน ซิว พยักหน้า

ทั้งคู่เดินไปด้วยความให้เกียรติซึ่งกันและกัน ทั้งสองคนแยกกันไปเข้าประตูหินคนละบาน

ฉากทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ปรากฎตรงด้านหน้าทั้งคู่คือสนามประลองขนาดใหญ่ทั้งหมดถูกสร้างมาจากหินหยกสีขาว ฟาง เจิ้งจือ ปรากฎตัวที่ทางด้านซ้าย ส่วน เหยียน ซิว ปรากฎตัวที่ทางด้านขวาของสนามประลอง

รอบๆเต็มไปด้วยผู้เข้าสอบที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หิน

พวกเขาคือทุกคนที่ได้ผ่านการทดสอบกฎแห่งเต๋าระดับเมืองหลวงไปแล้ว ฮั่ว คังกัง, จาง เจ๋อตง ก็นั่งอยู่ด้วยเช่นกัน

บนสุดของสนามประลอง เป็นที่นั่งของผู้ตัดสิน ฮัน ฉางเฟิง ผู้ใส่ชุดสีขาวนั่งอยู่ตรงกลาง ข้างๆเป็นขุนนางฉินและผู้คุมสอบคนอื่นๆ

เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ และ เหยียน ซิว ปรากฎตัวออกมา เหล่าผู้เข้าสอบต่างส่งเสียงตะโกนให้กำลังใจ

เพราะว่านี้คือการต่อสู้สุดท้าย และเป็นการต่อสู้ที่จะตัดสินว่าใครจะเป็นผู้ชนะการทดสอบด้านการต่อสู้

 

"พวกเจ้าจะพักสักหน่อยไหม?" ฮัน ฉางเฟิง ลุกขึ้นและพูดออกมา

"ได้ๆ งั้นเริ่มกันเลย!" เมื่อ ฮัน ฉางเฟิง พูดจบ เขานั่งลง

สายลมอ่อนๆพัดไปทั่วสนามประลอง ผู้เข้าสอบทุกคนต่างกลั้นใจรอเฝ้าดูการต่อสู้ครั้งสุดท้ายอันยิ่งใหญ่

เหยียน ซิว ผู้ซึ่งออกจากบ้านมาตอนอายุ 16 ปี หรือ ฟาง เจิ้งจือ ที่เต็มไปด้วยความลึกลับ ใครกันจะได้เป็นผู้ชนะ

มันเป็นคำถามที่ไม่ใช่แม้แต่ผู้เข้าสอบเท่านั้นที่สงสัย แม้แต่ผู้คุมสอบก็สงสัยเช่นเดียวกัน เพราะไม่มีใครรู้สักคนว่าจริงๆแล้ว ทั้งสองคนข้างหน้ามีพลังอยู่ที่ระดับไหนกันแน่

 

เหยียน ซิว สวมชุดเกราะในมือโบกพัดสีทองเบาๆ

อีกด้าน ฟาง เจิ้งจือ ที่สวมชุดเกราะทะเลหยก และมีดาบขาวอยู่ที่เอว ถึงแม้ทั้งสองจะขโมยมาจาก ฮั่ว คังกัง แต่ยังไงก็ตามตอนนี้มันถือเป็นของ ฟาง เจิ้งจือ

เหยียน ซิว และ ฟาง เจิ้งจือ ปกติแล้วไม่ค่อยแสดงความเคารพ ระหว่างการต่อสู้เท้าไรนัก แต่ตอนนี้ทั้งสองกลับแสดงความเคารพให้แก่กัน

จากนั้น เหยียน ซิว เริ่มขยับ เขาสะบัดพัดสีทอง ทันใดนั้นเกล็ดน้ำแข็งได้ปรากฎขึ้นมาบนพัด

 

"ผู้อาวุโสฮัน พูดถูก เหยียน ซิว นั้นอยู่ระดับผนวกดารา! เขาสมารถสรรค์สร้างเกล็ดน้ำแข็งขึ้นมาได้!" ผู้คุมสอบกล่าวด้วยความชื่นชม เมื่อเห็นฉากที่เกิดขึ้น

เหยียน ซิว ตอนนี้อายุเพียง 16 ปีเข้าถึงระดับผนวกดาราตอนอายุ 16 ปี ในอณาจักรเซี่ยมีเพียง 20-30คนเท่านั้นที่ทำได้

ผู้เข้าสอบที่นั่งอยู่รอบๆต่างตื่นเต้นเช่นเดียวกัน ถึงแม้พวกเขาจะคาดเดาเอาไว้ว่า เหยียน ซิว นั้นจะอยู่ระดับผนวกดาราอยู่แล้ว แต่การที่ได้เห็นกับตาตัวเองนั้นแตกต่างจากที่คิดไว้

 

"วิชาดาบของข้าถูกเรียกว่า'คมดาบดอกท้อเบ่งบาน' มันประกอบไปด้วยน้ำ น้ำแข็งและดอกไม้ เป็นสามรูปแบบของเต๋าแห่งการสรรค์สร้าง!" เหยียน ซิว มองไปยังหยดน้ำที่อยู่บนพัด และอธิบายให้ ฟาง เจิ้งจือ ฟัง

คมดาบดอกท้อเบ่งบาน? ฟาง เจิ้งจือ  สับสนเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่า วิชาคมดาบดอกท้อเบ่งบาน ของเหยียน ซิว นั้นคืออะไร แต่เขาเดาว่ามันเป็นวิชาที่เกิดจากการนำเต๋าแห่งการสรรค์สร้างหลายรูปแบบมารวมกัน

อีกอย่างหนึ่งที่เขางง...ทำไมมันเป็นวิชาดาบทั้งๆที่เหยียน ซิว ใช้พัด?

ถึงแม้เขาไม่เข้าใจเป้าหมายของ เหยียน ซิว ก็ตาม แต่อย่างน้อยเขาก็รู้ว่า เหยียน ซิว นั้นเชี่ยวชาญด้าน น้ำ น้ำแข็ง และดอกไม้

เขารู้สึกว่าตัวเองก็ควรบอกวิชาที่ตัวเองใช้เช่นเดียวกัน

แต่โชคร้าย....

เขาไม่รู้อะไรเลย

 

"งั้นเริ่มเลย!" ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า

ใบหน้าของ เหยียน ซิว ปรากฎประกายแห่งความตกใจออกมา เขาคิดว่า ฟาง เจิ้งจือ ไม่ควรปิดบังวิชาดาบของตัวเอง

ถึงแม้เขาจะรู้สึกตกใจ แต่เขาก็เข้าใจได้อย่างรวดเร็ว

เพราะเขาคิดว่ามีหลายสำนักทั่วโลกที่ปิดบังตัวเองออกจากโลกภายนอก ดังนั้นการปิดบังวิชาไม่ถือเป็นเป็นเรื่องแปลกอะไร

หรือ ฟาง เจิ้งจือ จะเป็นหนึ่งในพวกนั้น? เขาไม่รู้เลยจริงๆ แต่ถ้ามันเป็นอย่างนั้นก็ช่างมัน

 

ดังนั้น เหยียน ซิว เริ่มเคลื่อนไหว เขาโบกพัดขึ้น เกล็ดน้ำแข็งปลิวไปทั่วท้องฟ้า ราวกับมังกรที่พุ่งออกมาจากท้องทะเล ทันใดนั้นก็เกิดหิมะสีขาวเป็นรูปแบบของดอกท้อที่กำลังเบ่งบาน

ดอกไม้แต่ละดอกเกิดมาจากน้ำแข็งและหิมะ แต่นอกจากมันจะแสดงถึงความงดงามแล้ว มันยังแฝผงอันตรายเอาไว้

 

ในที่สุด ฟาง เจิ้งจือ ก็เข้าใจ ไม่มากก็น้อยว่า ทำไม เหยียน ซิว ถึงเรียกมันว่า คมดาบดอกท้อเบ่งบาน

เพราะว่า...

มันแหลมคมมาก!

"ตูม ตูม ตูม..."

ดอกท้อบนท้องฟ้าเริ่มระเบิดออกจากกัน กลีบดอกไม้นับร้อยตกลงใส่ ฟาง เจิ้งจือ เหมือนดาบที่ตกลงมา

ฟาง เจิ้งจือ ต้องการจะหาที่หลบซ่อนทันที แต่พื้นที่ ที่กลีบดอกไม้ปกคลุมนั้นกว้างเกินไป ไม่มี่ใดเลยที่สามารถหลบได้

"ทำไมแค่การโจมตีแรกของเจ้าจึงร้ายกาจเช่นนี้?!" ฟาง เจิ้งจือ สัมผัสได้ถึงความเย็นและความคมจากกลับดอกไม้ เขาไม่คิดจะลองโดนมันแน่นอน

ถ้าพูดถึงการต่อสู้ระหว่างระดับผนวกดาราด้วยกันแล้วละก็ ก่อนหน้าที่เขาสู้กับ ฮั่ว คังกัง โดยอาศัยความเร็วเท่านั้น ดังนั้นนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นการโจมตีที่กินพื้นที่กว้างขนาดนี้

 

ทำยังไงดี?

ทันใดนั้นเขาคิดได้ ที่ที่อันตรายที่สุด คือที่ที่ปลอดภัยที่สุด

ตัวอย่างเช่น กลีบดอกไม้นี้คงไม่ร่วงใส่ เหยียน ซิว?

มันเป็นสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ คิด ดังนั้นเขาจึงรีบเคลื่อนไหว ก่อนที่กลีบดอกไม้จะตกลงสู่พื้น พุ่งเข้าหา เหยียน ซิว ด้วยความเร็วอันน่าหวาดหวั่น

 

หนึ่งหมัด...

หนึ่งหมัดเล็งไปที่หน้าอกของ เหยียน ซิว

เหยียน ซิว นั้นดูเหมือนจะคาดหวังกับวิธีการต่อสู้ของ ฟาง เจิ้งจือ ไว้มาก เขาจึงผิดหวังเล็กน้อย เขาถอยหลังไปในทันที ก่อนที่ ฟาง เจิ้งจือ จะถึงตัว ทุกก้าวของเขาราวกับเดินอยู่บนแผ่นน้ำแข็ง

ถึงแม้ว่าความเร็วของเขาจะช้ากว่า ฟาง เจิ้งจือ มาก แต่ความแตกต่างกลับไม่มากนัก

ยิ่งไปกว่านั้น ทุกครั้งที่ เหยียน ซิว เคลื่อนไหว จะเกิดสายลมออกมาเสมอ ทำให้การโจมตีใดๆเข้าถึงตัวเขาได้ยาก

ฟาง เจิ้งจือ พลาด

 

"ความเร็วไม่ได้ทำให้ข้าได้เปรียบ?!"  นี่เป็นครั้งแรกที่ ฟาง เจิ้งจือ เผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ เขาต่อยไม่โดน?

ในขณะที่เขากำลังตกใจอยู่นั้น ได้เกิดเรื่องอันเหลือเชื่อขึ้น เพราะว่าทันทีที่ เหยียน ซิว เคลื่อนไหว่ กลีบดอกไม้บนท้องฟ้าก็เปลี่ยนพื้นที่โจมตีทันที

ตอนนี้ มันอยู่ตรงกับ ฟาง เจิ้งจือ จนเขาสัมผัสได้ถึงความเย็นที่กดทับลงมา

 

เพจหลัก : Double gate TH

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด