ตอนที่แล้วบทที่ 76: อันตราย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 78: หวนคืนสู่สำนัก

บทที่ 77: การช่วยเหลือของอาจารย์ลุง


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

====================

บทที่ 77: การช่วยเหลือของอาจารย์ลุง

เพียงแค่ฉิงเฟิงซีคิดเบา ๆ ภายในใจ จากนั้นเขารีบตื่นตัวขึ้นมาทันที ในขณะที่เขาต้องการจะถามผู้คนเหล่านั้นว่าเกิดสิ่งใดขึ้น เจ้าอ้วนโผล่ออกมาจากด้านในระฆังทันที ในขณะที่เขาปรากฏตัวออกมา เขาวิ่งไปหาฉิงเฟิงซีอย่างรวดเร็วพร้อมกับร้องไห้ออกมา “อาจารย์ลุง ช่วยข้าด้วย! พวกมันเหล่านี้สังหารนักบวชในวัดชิงเฟิงหลายสิบคน! พวกมันต้องการจะปิดปากข้า!”

ช่วงเวลาที่เหล่าผู้ฝึกตนทั้งสี่เห็นเจ้าอ้วนปรากฏตัวขึ้น พวกเขาทั้งหมดตกตะลึงอย่างโง่งมหลังจากที่ได้ยินที่เจ้าอ้วนพูดออกไป ความโกรธถาโถมจนหายใจไม่ออกพร้อมคิดในใจว่า ‘มีนักบวชอยู่ในวัดไม่ถึงสิบคนด้วยซ้ำ แล้วหลายสิบคนคืออะไร?’

เมื่อฉิงเฟิงซีได้ยินเช่นนั้น เขาพบว่ามีบางสิ่งบางอย่างผิดแปลก แต่เขาเข้าใจสถานการณ์ทันทีว่าสิ่งใดกำลังจะเกิดขึ้น พี่น้องเหล่านี้คงหวังจะก่ออาชญากรรมเพื่อแก้แค้นเท่านั้น

ฉิงเฟิงซีถูกล่อลวงให้สับสนในความคิดเพียงเพราะการปรากฏตัวที่น่าสงสารของเจ้าอ้วน เขามีหลานเพียงคนเดียวเท่านั้น และเขาต้องการให้เจ้าอ้วนใช้ประโยชน์จากวัดชิงเฟิงซีอย่างเต็มที่ แต่ตอนนี้เขากลับถูกผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิไล่ล่าจนอยู่ในสภาพที่น่าสังเวช ฉิงเฟิงซีโกรธจัดจนใบหน้าแปรเปลี่ยนเป็นสีเขียว

ไม่ต้องกล่าวสิ่งใดอีกต่อไป ฉิงเฟิงซียกมือขึ้นพร้อมปรากฏแสงสีเขียวโผล่ออกมาจากทุกหนแห่ง มันคล้ายกับอสรพิษ มันพุ่งเฉือนผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิทั้งสี่อย่างรุนแรง

พร้อมกันนั้น เขาใช้มือที่เหลืออยู่อีกข้างดึงเจ้าอ้วนให้อยู่ด้านหลังของเขาเพื่อแสดงท่าทีปกป้อง จากนั้นเขาใช้เวทมนตร์ประเภทไม้ชนิดหนึ่ง เพื่อช่วยอาการบาดเจ็บของเจ้าอ้วนให้รู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น นับตั้งแต่บิดามารดาของเขาเสียชีวิต นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับการปกป้องจากอาวุโส การกระทำเช่นนี้ทำให้เจ้าอ้วนสัมผัสได้จริง ๆ เขารู้สึกมีความสุขจนดวงตากลายเป็นสีแดงระเรื่อพร้อมกับมีน้ำเอ่อล้นออกมา

ในขณะที่เจ้าอ้วนกำลังได้รับความดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ผู้ฝึกตนทั้งสี่ติดกับอย่างสมบูรณ์แบบ พวกเขาผ่านการต่อสู้มายาวนานเกินไปจนไม่เหลือปราณจิตวิญญาณในร่างกายแล้ว อีกทั้งในตอนนี้เขาต้องเผชิญหน้ากับผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า

หลังจากที่ผู้ฝึกตนผู้ถือพัดเห็นว่าพวกเขาไม่สามารถสู้ต่อได้อีกแล้ว เขาตะโกนออกมาหนึ่งครั้ง “ไป!” หลังจากที่เขากล่าว ร่างกายของเขาก็เลือนรางเหลือเป็นควันสีฟ้าพวยพุ่งออกมาแล้วจากนั้นก็หายตัวไป ผู้ฝึกตนทั้งสามเห็นดังนั้นไม่รอช้า รีบเรียกดาบบินเพื่อออกไปจากตรงนี้ทันที

ฉิงเฟิงซีไม่ต้องการปล่อยให้พวกเขาไป เขาจะทำการไล่ล่าแต่ทว่าถูกหยุดไว้โดยเจ้าอ้วน

“ท่านอาจารย์ลุง อย่าไล่ตามพวกมันเลย!” เจ้าอ้วนเกรงว่าเขาจะสูญเสียอาจารย์ลุงของเขาไป หากท่านลุงต้องไปเผชิญหน้ากับผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิถึงสี่คน แม้ว่าฝีมือของพวกเขาจะไม่สามารถเทียบเคียงกับฉิงเฟิงซีได้ แต่หากพวกเขาต่อสู้ด้วยกัน พวกเขาจะแข็งแกร่งกว่าฉิงเฟิงซีแน่นอน หากไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าเจ้าอ้วนมีปราณจิตวิญญาณที่มากกว่าพวกเขา ในตอนจบอาจจะไม่เป็นเช่นนี้! โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเขาถือครองปืนใหญ่เศียรมังกรนภา ถือเป็นเครื่องจักรสังหาร! ถ้าฉิงเฟิงซีประมาท เขาอาจจะตายตกได้ เจ้าอ้วนสร้างปัญหาให้กับอาวุโสของเขาอย่างล้นหลาม และในตอนนี้เขาไม่ต้องการจะให้ท่านลุงเข้าไปเสี่ยง

อย่างไรก็ตาม ฉิงเฟิงซีกล่าวอย่างผิดหวัง “อย่าได้ห้าม ข้าจะต้องสั่งสอนให้พวกบัดซบนั้นรู้ว่าการที่มารังแกหลานของข้านั้นจะต้องพบเจอกับสิ่งใด!”

“ท่านอาจารย์ลุง ท่านลุง!” เจ้าอ้วนรีบดึงเขากลับมาพร้อมกล่าวว่า “หลานสบายดีขอรับ พวกเขาเพียงเผาทำลายอาภรณ์ของข้า ข้าคิดว่าพวกเขาต้องเป็นศิษย์ของสำนักจักรกล แม้ว่าพวกเขาจะหลบหนีไป แต่สำนักของเขาไม่สามารถหลบหนีได้ การแจ้งเรื่องกับสำนักให้จัดการน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดขอรับ!”

“ฮึ่ม!” หลังจากที่ได้ยินเจ้าอ้วนกล่าว ฉิงเฟิงซีก็ใจเย็นลง เขาตรวจสอบเจ้าอ้วนทันทีพร้อมกับรับรู้ว่าเขาสบายดี อีกทั้งปากเขายังมีคราบมันเล็กน้อยเพราะว่าเขาเพิ่งกินมัจฉาไร้เนตรย่างไฟมา!

เมื่อเห็นเช่นนั้นฉิงเฟิงซีไม่ได้ต่อว่าสิ่งใด เพียงกล่าวออกมาอย่างขบขัน “เจ้าเป็นคนที่น่าทึ่งจริง ๆ เด็กน้อย! เจ้าถูกไล่ล่าโดยผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิถึงสี่คน เจ้ากลับมีเวลาย่างปลากินงั้นหรือ?”

“ข้าไม่ได้กินปลาย่าง” เจ้าอ้วนปฏิเสธอย่างไร้เดียงสา

“งั้นเจ้าจงทำความสะอาดปากของเจ้าเสียก่อน” ฉิงเฟิงซีกล่าวออกมาพร้อมกับหัวเราะ

“เอ๊ะ?” เจ้าอ้วนรีบเช็ดปากของเขาทันทีพร้อมกับเห็นเกล็ดปลา ใบหน้าของเขาแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงทันทีพร้อมกับกล่าวออกมาอย่างปกป้องตัวเองว่า “ข้าถูกรบกวนโดยพวกเขาในขณะที่ข้ากำลังกินปลาอยู่ ข้าต่อสู้มาตลอดทางจนลืมทำความสะอาดปากของข้า!”

เมื่อได้ยินเจ้าอ้วนพูดเช่นนั้น ใบหน้าของฉิงเฟิงซีเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมพร้อมถามออกมาว่า “เกิดอะไรขึ้นที่วัดชิงเฟิง? ทำไมพวกเขาจึงต้องการสังหารเจ้า?”

“เรื่องเป็นเช่นนี้!” เจ้าอ้วนอธิบาย “เมื่อไม่กี่วันก่อน มีชายหนุ่มเข้ามาที่วัดพร้อมหยิบยื่นหินจิตวิญญาณหนึ่งหมื่นก้อนเพื่อซื้อมัจฉาไร้เนตรและเห็ดวิญญาณห้าสิบจิน! ด้วยราคาที่แสนถูกเช่นนี้ รวมกับนี่คือทรัพย์สินของสำนัก ข้าจะขายให้ได้อย่างไร? เพียงแค่ได้ยินว่าข้าไม่ขาย ชายหนุ่มผู้นั้นไม่พอใจทันทีและเริ่มดูถูกข้าด้วยความโกรธจัด ข้าไม่สามารถทำสิ่งใดได้ นอกจากโต้แย้งกับเขา!”

“เกิดเรื่องอันใดขึ้นหลังจากนั้น?” ฉิงเฟิงซีถามต่อ

“เราต่อสู้กัน!” เจ้าอ้วนยักไหล่ของเขาในขณะที่กล่าว

“เกิดสิ่งใดขึ้นหลังจากเจ้าสู้กันจบ?” ฉิงเฟิงซีหมวดคิ้วแน่นพร้อมกับถามต่อ

“หลังจากที่เราต่อสู้ เรื่องนั้น เรื่องนั้นมันไม่ง่ายเลยที่จะอธิบาย!” เจ้าอ้วนทราบดีว่าการฆ่าคนเพียงเพราะทะเลาะวิวาทนั้นมันเล็กน้อยอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงติดอ่างพร้อมกับกล่าวต่อไปว่า “อย่างไรก็ตาม เจ้าบัดซบพวกนั้นก็พยายามจะสังหารข้า ข้าจึงไม่แสดงความเมตตาเพราะเกิดโศกนาฏกรรมนี้ขึ้นมา!”

“โศกนาฏกรรมแบบไหน?” ฉิงเฟิงซีถามออกไปอย่างงุนงง

“เขาตาย!” เจ้าอ้วนยักไหล่ของเขาในขณะที่กล่าว “เขาถูกข้าทุบจนแหลกเป็นชิ้น ๆ!”

“เรื่องนั้น…” ฉิงเฟิงซีเงียบงันไปทันทีพร้อมกับหัวเราะอย่างขมขื่น “เจ้าช่างเยี่ยมยอด! ในคราที่เจ้าอยู่กับข้า เจ้าสังหารราชครู ฉงตู และบิดาแห่งจักรพรรดิ และตอนนี้ข้าส่งเจ้าออกไป เจ้าสังหารผู้ฝึกตนคนอื่นในเวลาเพียงไม่กี่วัน! จิตสังหารของเจ้ามันมาจากไหนกัน?”

“มันไม่ใช่แบบนั้น ข้าถูกมันบังคับให้ทำเช่นนั้น!” ในขณะที่เขาพูด เขาหยิบคันธนูยักษ์ออกมาพร้อมกล่าวต่อ “ท่านมองดูสิ่งนี้ เจ้าบัดซบนั่นยิงข้าด้วยสิ่งนี้! ถ้าหากไม่ใช่ว่าข้าตอบสนองอย่างรวดเร็ว ข้าคงไม่ได้กลับมาพบท่านอีกต่อไป!

“ฮึ่ม!” ฉิงเฟิงซีเป็นคนฉลาด ในตอนที่เขามองเห็นคันธนูยักษ์ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนทันทีพร้อมกับกล่าวออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “เจ้าเด็กป่าเถื่อนที่ไร้มารยาทเช่นนี้มันมาจากที่แห่งใด? เขากล้ามากที่มาสร้างปัญหาในอาณาเขตของสำนักเสวียนเทียน!”

“มันอาจจะมาจากสำนักจักรกล ข้าไม่ได้สอบถามอย่างชัดเจน แต่แน่นอนว่าสถานะของเขาสูงส่ง จากที่ข้าได้ยินมา เขาอาจจะเป็นบุตรชายของเจ้าสำนัก!” เจ้าอ้วนกล่าวเสริม “ถ้าไม่เช่นนั้น เขาคงมิอาจเอาคันธนูยักษ์เช่นนี้ร่อนไปมาได้!”

“บุตรชายของเจ้าสำนักจักรกลงั้นหรือ?” เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของฉิงเฟิงซีแปรเปลี่ยนทันที “ถ้าหากเขาเป็นบุตรของเจ้าสำนัก ระดับของการฝึกตนไม่น่าจะต่ำเช่นนั้น?”

“ระดับของมันสูงกว่าข้า มันอยู่ในระดับเซียนเทียนขั้นที่เจ็ด!” เจ้าอ้วนกล่าว

“อีกทั้งเขามีอุปกรณ์วิเศษที่ยอดเยี่ยมอยู่หลายชิ้น ใช่หรือไม่?” ฉิงเฟิงซีถามอีกครั้ง

“ใช่ขอรับ มันมีอุปกรณ์วิเศษสำหรับป้องกันระดับเจ็ดอยู่สามชิ้น อีกทั้งยังมีสมบัติอยู่มากมาย!” เจ้าอ้วนรีบตอบกลับ

“ถ้าเช่นนั้นก็แปลก เจ้าอยู่เพียงระดับเซียนเทียนขั้นสี่ หือ ไม่สิ เจ้าอยู่ในระดับเซียนเทียนขั้นห้าแล้วงั้นหรือ?” เมื่อฉิงเฟิงซีสังเกตุเห็นระดับการฝึกฝนของเจ้าอ้วน เขาตกใจทันที จากนั้นจึงกล่าวต่อ “แม้ว่าเจ้าจะอยู่ในระดับเซียนเทียนขั้นห้า แต่ก็มิอาจเอาชนะเขาได้มิใช่หรือ? เขามีคันธนูยักษ์อีกทั้งอุปกรณ์วิเศษมากมาย เจ้าสังหารเด็กสารเลวเช่นนั้นได้อย่างไร?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด