ตอนที่แล้วChapter 140: ทำข้อตกลงกับนายน้อยที่ร่ำรวย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 142: หมิงตู่ที่ถูกยั่วยุ

Chapter 141: ลอบโจมตี


Chapter 141: ลอบโจมตี

ภูเขาปฏิการะนั้นมีลักษณะดินที่เป็นเนินเขาสูงทั้งสองฝั่ง พูดอย่างซื่อสัตย์แล้ว มันเข้าใกล้กันกับหุบเขามากกว่าภูเขาปกติ ถ้าศัตรูนั้นโจมตีมาจากด้านบน รูปแบบของผู้เล่นพวกนี้ก็จะพังทลายลงอย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ที่พวกเขานั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญกันทั้งหมด นักธนูและนักเวทย์ก็ยืนอยู่ในจุดศูนย์กลางของกลุ่มและก็เล็งไปที่ด้านบนของหุบเขาในทันที

สัญชาตญาณการต่อสู้ของหวังหยู่นั้นสูงมากอยู่แล้ว ควบคู่ไปกับความจริงที่เขานั้นจะร่วมมือไปกับผู้เชี่ยวชาญคนอื่น เขาก็เริ่มที่จะเข้าใจถึงการจัดการรูปแบบการต่อสู้

ตั้งแต่ที่เอกรังสีรุ่งอรุณและอีกสามคนนั้นเป็นผู้เล่นธรรมดาทั่วไป พวกเขาก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ด้วยเหตุนี้นี่เอง การออกคำสั่งของพวกเขานั้นก็เริ่มที่จะน้อยลง

“อึ้ก…”

หลังจากถูกเตือนโดยหวังหยู่ เอกรังสีรุ่งอรุณก็รีบวิ่งมาอยู่ด้านข้างเขา

ถึงแม้ว่ามันจะเป็นความคิดของเขาเองก็ตาม แต่การที่มีตัวถ่วงติดตัวเขาอย่างเอกรังสีรุ่งอรุณนั้นก็เริ่มทำให้หวังหยู่หงุดหงิด

ถึงแม้ว่าทุกคนนั้นจะป้องกันในทันที พวกเขาก็ผ่านภูเขาปฏิการะโดยปราศจากการต่อสู้ได้

แผนที่สุดท้ายของภูเขาปฏิการะก็คือหุบเขา เมื่อพวกเขากำลังเข้าไปในหุบเขา เอกรังสีรุ่งอรุณก็บ่นพึมพำอย่างช่วยไม่ได้ “จริงจังดิ? พวกเราจะผ่านพื้นที่แรกแบบนี้นี่นะ…”

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาที่เขาพูดเสร็จนั้นเอง นักธนูก็ตะโกนขึ้นมาอย่างฉับพลัน “ศัตรูอยู่ด้านหน้า!’

เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของเขา ผู้เล่นคนอื่นก็รีบมองไปรอบๆและเพียงเวลาไม่นานก็พบทหารที่สวมเสื้อสีดำกำลังปิดกั้นทางเข้าหุบเขาอยู่

{นักล่าแห่งความมืด (ระดับ 25)(ชั้นยอด)}

พลังชีวิต : 20000

มานา : 5000

สกิล : [ความมืดมิดอันมองไม่เห็น] [การโจมตีอันร้ายกาจ]

พวกนี้นั้นเป็นมอนสเตอร์ชั้นยอดทั่วไปอย่างมาก พวกเขานั้นมีสกิลทำให้เกิดสถานะผิดปกติและสกิลโจมตีหนึ่งสกิล ในตอนนี้ พวกมันนั้นมีมากกว่าสองร้อยคนในด้านหน้า และทำให้หุบเขานั้นเต็มไปด้วยทะเลสีดำ เนื่องจากว่าเงานั้นถูกสร้างขึ้นมาจากเนินเขาทั้งสองฝั่ง ถ้ามันไม่ใช่เพราะว่าสกิล [ตาเหยี่ยว] ของนักธนูแล้วละก็ ก็คงไม่มีใครสังเกตเห็นพวกมัน

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ชั้นยอดกว่าสองร้อยตัว ไม่มีใครเลยที่ตื่นตระหนก พวกเขานั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงกันทั้งหมดอยู่ดี ดังนั้นพวกเขาจึงคุ้นเคยกับการจัดการกับมอนสเตอร์ประเภทนี้ โดยปราศจากการให้เอกรังสีรุ่งอรุณออกคำสั่ง ผู้เล่นพวกนี้ก็เริ่มโจมตีแล้ว

แท็งค์ที่อยู่ด้านหน้านั้นเริ่มที่จะใช้สกิลต่างๆอย่างเช่น [พุ่งเข้าชน] [โล่ฟาด] และบัฟมากมาย ในขณะที่แนวหลังนั้นร่ายสกิลรักษาและเวทย์โจมตีอันหลากหลาย

ตั้งแต่ที่นักล่าแห่งความมืดนั้นเป็นมอนสเตอร์โจมตีใกล้กันทั้งหมด พวกมันก็ไม่สามารถที่จะแสดงถึงความสามารถที่แท้จริงของพวกมันได้ ในขณะที่มันยืนเฝ้าทางเข้าหุบเขาอยู่

พร้อมกับความแตกต่างทางด้านจำนวนและการบุกจู่โจมก่อน ผู้เล่นก็กวาดนักล่าแห่งความมืดไปเกือบทั้งหมด ในเวลาไม่นาน

“อ๊ากกก!”

เมื่อนักล่าแห่งความมืดนั้นกำลังจะโดนกวาดล้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ใครบางคนจากแถวหลังก็ร้องออกมาอย่างฉับพลัน

“มันมีการลอบโจมตีเกิดขึ้น!”

เมื่อหันกลับไป ผู้เล่นก็สังเกตเห็นถึงรูปร่างที่ยืนอยู่ด้านข้างนักธนูนั้นปกคลุมไปด้วยผ้าคลุมสีดำ

{นักฆ่าแห่งความมืด (ระดับ 25) (ชั้นยอด)}

พลังชีวิต : 10000

มานา : 2000

สกิล : [ปกปิด] [ลอบสังหาร] [เฮสต์]

เมื่อนักฆ่าแห่งความมืดลอบโจมตีปรากฏตัวขึ้น พวกมันก็ไม่ได้เสียเวลาไปกับการเยาะเย้ยหรือยุแหย่ผู้เล่นคนนั้น พวกมันก็รีบพุ่งไปด้านหน้าและฟันเข้าใส่นักธนูและนักเวทย์ที่อยู่แถวหลัง

แม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญกันทั้งหมด เนื่องจากช่วงเวลาที่เขาประมาท ทั้งสองคนก็ตายลง

เพื่อการเอาชีวิตรอด นักธนูและนักเวทย์นั้นก็เริ่มร่ายสกิลช่วยชีวิตของพวกเขา

คนที่รอดการโจมตีระลอกแรกของนักฆ่าแห่งความมืดได้ก็จ้องไปที่มันอย่างระมัดระวังตัว

พวกเขานั้นรู้กันทั้งหมดว่าระบบและนักออกแบบเกมนั้นโหดเหี้ยม แต่พวกเขาก็ไม่เคยจินตนาการเลยว่าพวกเขานั้นจะพบกับการลอบโจมตีที่นี่

โชคดีที่ผู้เล่นทั้งหมดนี่นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ก็รีบใจเย็นลงอย่างรวดเร็ว

หนึ่งในนักเวทย์ร่ายเวทย์พันตัวของเขาเองในฟองน้ำสีทองและตะโกน “ผู้พิทักษ์ป้องกันการโจมตีจากนักล่าแห่งความมืดด้านหน้า! พวกนายที่เหลือไปป้องกันแถวหลัง!”

เมื่อได้รับคำสั่ง นักเวทย์และนักธฯก็รีบมายังศูนย์กลางของรูปแบบ ในขณะที่แท็งค์ส่วนใหญ่นั้นรีบพุ่งไปปกป้องพวกเขา

ทันใดนั้น นักฆ่าแห่งความมืดก็หยุดเคลื่อนที่และก็เริ่มหายไปกับหมอกสีดำที่ปกคลุมร่างกายของพวกเขา เมื่อเห็นแบบนี้ นักรบที่สวมชุดเกราะสีทองก็ตระหนักว่าพวกมันนั้นใช้ [ปิดกั้น] และตะโกนขึ้น “รีบใช้ [วายุสลาตัน] และขัดขวางพวกมันเร็วเข้า!”

หลังจากที่ตะโกนเสร็จ นักรบก็พุ่งไปหากลุ่มนักฆ่าแห่งความมืดและร่าย [วายุสลาตัน]

[วายุสลาตัน]นั้นเป็นสกิลระดับ 20 ของนักรบและมันเป็นหนึ่งในสกิลสำคัญด้วยเช่นกัน มันมีระยะการโจมตีที่ไกลและพลังโจมตีที่สูง หวังหยู่นั้นเคยเห็นวาร์ตันใช้มันมาก่อน ดังนั้นเขาจึงรู้ความแข็งแกร่งของมัน

“เขาเชื่อม [พุ่งเข้าชน] และ [วายุสลาตัน] เข้าด้วยกัน....ช่างน่าประทับใจจริงๆ...แต่เขาทำแบบนั้นได้ยังไงกัน?”เอกรังสีรุ่งอรุณอ้าปากค้าง

มันมีเงื่อนไขบางอย่างเมื่อร่ายสกิลในเกม นอกจากว่ามันจะเป็นสกิลรอง ผู้เล่นนั้นก็ไม่สามารถที่จะร่ายสกิลที่แตกต่างออกไปในเวลาเดียวกัน

ถ้าใครต้องการที่จะใช้ [วายุสลาตัน] พวกเขาก็ต้องยกเลิก [พุ่งเข้าชน] ก่อน และหลังจากนั้นก็ใช้มันตามมาในทันที คอมโบที่นักรบพึ่งทำมานั้นไม่ใช้เรื่องธรรมชาติและเป็นการควบคุมระดับสูง

“น่าประทับใจจริงๆนั่นแหละ!”หวังหยู่พยักหน้า

ถึงแม้ว่าเอกรังสีรุ่งอรุณนั้นจะไม่เข้าใจสิ่งที่นักรบได้ทำลงไป ผู้เชี่ยวชาญแบบหวังหยู่นั้นก็สามารถเห็นมันได้เพียงแค่การเหลือบตาไปมองเพียงครั้งเดียว

นักรบที่สวมชุดเกราะสีทองนั้นใช้โหมดอิสระอย่างแน่นอน!

ถ้าเขานั้นใช้โหมดช่วยเหลือ นักรบนั้นก็จะแข็งทื่อในทันทีที่เขายกเลิก [พุ่งเข้าชน] อย่างไรก็ตาม เนื่องจากว่าเขาใช้โหมดอิสระ เขาจึงสามารถวิ่งต่อไปด้านหน้าได้ แน่นอนว่าระยะของมันจะไม่ถึงระยะจริงของสกิลเดิม

ความหมายของโหมดอิสระ ไม่ว่าผู้เล่นจะถึงระยะสุดของสกิลหรือเขาจะยกเลิกมัน เขาก็ยังสามารถที่จะร่าย [วายุสลาตัน] ในขณะที่พุ่งเข้าใส่คู่ต่อสู้ของเขาได้!

ถึงแม้ว่ามันจะน่าประทับใจมาก มันก็มีข้อเสียด้วยเช่นกัน ถ้าผู้เล่นใช้สกิลนี้ตอนเจอกับบอส มันมีโอกาสที่บอสจะโจมตีผู้เล่นก่อนที่เขาจะมีโอกาสในการใช้สกิลที่สอง

นักรบในชุดเกราะนั้นคว้าโอกาสนี้ไว้และระยะคอมโบเป็นอย่างดี เมื่อใครบางคนรู้ว่าเขานั้นฝึกซ้อมคอมโบนี้มาอย่างหนักหน่วง มันก็มีผู้คนมากมายที่ประหลาดใจในเกม แม้กระทั่งคนธรรมดาทั่วไปก็สามารถที่จะทำสิ่งแบบนี้ได้...

ตั้งแต่ที่นักฆ่าแห่งความมืดนั้นมีพลังชีวิต 10000 ถึงแม้ว่า [วายุสลาตัน] นั้นจะขัดขวางพวกเขาได้ มันก็ไม่สามารถฆ่าพวกเขาได้ลง หลังจากที่สกิลของเขาสิ้นสุดลง นักรบก็ใช้ [ยั่วยุ] และดึงนักฆ่าแห่งความมืดให้มาสู้กับเขาสามคน

หลังจากที่มองไปยังเขา นักรบคนอื่นก็เริ่มที่จะใช้ [วายุสลาตัน] ของพวกเขาด้วยเช่นกัน

เมื่อมีระดับ 20 นักรบนั้นจะมีสกิลห้าสกิล นอกจาก [การฟาดฟันอันหนักหน่วง] และ [พุ่งเข้าชน] แล้วมันก็ยังคงมี [ยั่วยุ] [ฟัน] และ [วายุสลาตัน] เมื่อเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ระดับ 25 ชั้นยอดแล้ว สกิลพวกนี้ก็มากเกินพอ อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นเรื่องท้าทายในการยั่วยุสามคนด้วยตัวเพียงคนเดียว

อย่างไรก็ตาม หนึ่งในนักรบก็ใช้สกิลของพวกเขาหมดแล้ว นักธนูและนักเวทย์ก็กระหน่ำโจมตีด้วยเช่นกัน

นักฆ่าแห่งความมืดนั้นมีค่าสถานะป้องกันที่ต่ำต้อย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้แตกต่างไปจากขยะ เมื่อพวกเขาไม่สามารถลอบโจมตีได้

หลังจากผ่านไปกว่าสิบนาที ผู้เล่นก็ชนะการต่อสู้ นอกจากนักธนูและนักเวทย์ที่ตายในตอนเริ่มต้น มันก็ไม่มีผู้เล่นคนอื่นที่โดนฆ่าเลยในการต่อสู้!

ผู้เล่นสามร้อยคนนี้นั้นเป็นตัวแทนแห่งพลังใน {REBIRTH} ถ้าพวกเขาไม่ได้ลอบโจมตีอย่างชัดเจนแล้วละก็ มันก็ไม่ใช่เรื่องจำเป็นสำหรับคนอื่นที่จะต้องเล่นเกมนี้อีกต่อไป ผู้เล่นสองคนที่ตายนั้นโชคร้ายอย่างมาก ถ้าเขาไม่ได้ยืนอยู่หลังมากเกินไปแล้วละก็พวกเขาก็จะยังคงมีชีวิตรอดต่อไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด