ตอนที่แล้วChapter 139: เควสที่ขัดแย้ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 141: ลอบโจมตี

Chapter 140: ทำข้อตกลงกับนายน้อยที่ร่ำรวย


Chapter 140: ทำข้อตกลงกับนายน้อยที่ร่ำรวย

“นายน้อยที่ร่ำรวยสี่คน…”หวังหยู่หันกลับไปมองและมองไปทั้งสี่คนอีกครั้งและหลังจากนั้นก็ตอบกลับ “แต่ทำไมพวกเขาจะต้องช่วยผมด้วยกัน?”

เมื่อส่งรูปอีโมจิถอนหายใจไป ไร้ความกลัวก็พูด “ไอ้เหี้..แล้วฉันจะรู้เรอะ? ไปคิดเอาเองและเลิกยุ่งกับฉันได้แล้ว! พวกเรานั้นอยู่กำลังขนส่งเสบียงไปยังกองทัพหน้าในตอนนี้!”เพียงแค่นั้น ไร้ความกลัวก็ปิดเสียงช่องแชทและปิดมันลงไป

“พวกนายคิดยังไงกับเรื่องนี้?”หวังหยู่หันกลับไปถามเอกรังสีรุ่งอรุณและคนอื่น เมื่อเขาและหมิงตู่พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องแผนการนี้ พวกเขาก็ได้ยินทุกสิ่งทุกอย่างไปเรียบร้อยแล้ว

ถึงแม้ว่าพวกเขาทุกคนจะรู้สึกว่าหวังหยู่นั้นไร้เหตุผล มีเพียงเอกรังสีรุ่งอรุณคนเดียวที่มีความกล้าพอที่จะตอบ “มันเป็นแผนที่มุทะลุมาก ซึ่งมีเทพเจ้ากระทิงเหล็กที่ยอดเยี่ยมคนเดียวที่มีความสามารถเพียงพอ พวกเราคงไม่กล้าที่จะคิดอะไรแบบนั้นแน่ๆ…”

“เหอะ! พูดอย่างซื่อสัตย์กับพวกนายแล้ว ผมไร้พลัง ดังนั้นผมจำเป็นที่จะต้องให้พวกนายสี่คนช่วยผม!”หวังหยู่หัวเราะสบายๆ

“คุณต้องการความช่วยเหลือของพวกเรางั้นเหรอ? คุณเชิดชูพวกเรามากเกินไปแล้วพี่กระทิง…”เอกรังสีรุ่งอรุณถอนหายใจอย่างผิดหวัง พวกเขาทั้งสี่คนไม่ได้โง่ พวกเขานั้นมีระดับเพียงแค่ 18 ในตอนนี้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะปกคลุมไปด้วยอุปกรณ์ระดับสูงตั้งแต่หัวจรดตีนก็ตามที ค่ายอัศวินนั้นจะต้องมีอุปกรณ์ระดับเดียวกับพวกเขาเป็นอย่างน้อย

“ผมเพียงแค่ต้องการให้นายช่วยผมตั้งเควสขึ้นมา…”หวังหยู่ก็อธิบายแผนการของไร้ความกลัวและหมิงตู่ให้กับคนทั้งสี่ฟัง

“นี่มัน..ไม่ใช่ผิดกฏงั้นเหรอ? คุณไม่มีเงินเหรอพี่กระทิง? ผมมีเงินอยู่ ดังนั้นผมสามารใถห้พี่ยืนได้หลายแสน ถ้าพี่ต้องการ..”เอกรังสีรุ่งอรุณพูดออกมาเสียงดัง

มันมีผู้เชี่ยวชาญสามร้อยคนที่ออกไปทำเควสกับพวกเขา ถ้าเขากล้าที่จะยื่นข้อเสนอให้คนละ 1 เหรียญทอง มันก็ไม่ได้แตกต่างไปจากการยั่วยุใส่พวกเขา ถ้าเขาต้องการที่จะยื่นข้อเสนอให้จริงๆต้องอย่างต่ำคนละสิบเหรียญทอง อย่างไรก็ตาม นั้นหมายความว่าจะต้องจ่ายไป 3000ทองซึ่งมันมีค่ามากกว่า2ล้านดอลลาร์…”

เงินจำนวนหลายหมื่นของเด็กที่ร่ำรวยพวกนี้นั้นไม่ใช่เงินจำนวนมากเท่าไหร่ ในอีกทางหนึ่ง 2ล้านเหรียญทอง....พวกเขาจะไม่ขว้างเงินให้กับเขาแน่นอน!

“อึ้ก…”หวังหยู่เกาหัวอย่างอึดอัดใจและเขาก็พูด “ผมหมายถึงว่าผมก็มีเงินด้วยเช่นกัน ผมแค่ไม่ได้เอามันติดตัวมา…”

“มันมีธนาคารอยู่ในเมืองแห่งบาป!”นายน้อยปักกิ่งเสนอขึ้น

“ไม่....ผมไม่สามารถอนมันจากที่นั่นได้…”หวังหยู่ตอบกลับอย่างอึดอัดมากกว่าเดิม เงินส่วนมากของเขานั้นถูกขายไปในร้านมือสองในเมืองรัตติกาลแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้มีอิสระที่จะถอนมันตอนไหนก็ตามที่เขาต้องการ นอกจกานี้ เขาไม่ต้องการที่จะเสี่ยงเงินจำนวนหนึ่ง ถ้าสุดท้ายเขานั้นตายลง

“แต่…”เอกรังสีรุ่งอรุณนั้นก็พูดตรงจุดด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่าหวังหยู่นั้นจะเป็นผู้เชี่ยวชาญอันดับหนึ่ง มันก็ยังคง 2ล้าน...

“โอเค แล้วถ้านี่ละ!”หวังหยู่ก็หยิบบางอย่างจากช่องเก็บของและดึงตราออกมาและพูด “นี่เป็นไอเทมเควสที่ผมได้มาเมื่อผมฆ่าผู้ตัดสินนอกรีตวิลลี่ เมื่อวานนี้ ถึงแม้ว่าผมจะไม่รู้ว่ามันจะมีประโยชน์อะไรกับพวกนายไหม ผมรู้ว่ามันมีค่าอย่างมากแน่นอน ถ้าผมทิ้งเจ้าสิ่งนี้ไว้ในมือของพวกนายเป็นตัวค้ำประกันและหลังจากนั้นผมค่อยมาจ่ายคืนละ?”

ในตอนนี้ ไอเทมเพียงชิ้นเดียวสำหรับหวังหยู่ที่มีค่ากว่าทุกสิ่งก็คือตราชิ้นเล็กนี่

“นี่..นี่มันตาศักดิ์สิทธิ์!”ทั้งสี่ร้องออกมาด้วยความตกตะลึงเมื่อพวกเขาเห็นตราที่หวังหยู่ยื่นมาให้พวกเขา

“ใช่ ถูกแล้ว!”หวังหยู่พยักหน้าเบาๆ

หลังจากที่จับไปที่ตราศักดิ์สิทธิ์ นายน้อยปักกิ่งก็ประกาศอย่างตื่นเต้น “มันแค่สามพันเหรียญทองใช่ไหม? เก็บที่ผมเลย! เฮะ เฮะ เฮะ... โอ้ตราศักดิ์สิทธิ์.....ฉันตามหานายมานานมากแล้ว…”

“มันคืออะไรกัน? มันมีค่าขนาดนั้นจริงๆเหรอ?”หมิงตู่หรี่ตาและถาม

“มันเป็นไอเทมเควสสำหรับการเลื่อนระดับอาชีพลับ มันไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิงกับพวกเราที่เหลือ…”เอกรังสีรุ่งอรุณตอบกลับ

“โอ้ โอเค ถ้างั้น ไม่สงสัยเลยที่เขาตื่นเต้น”หมิงตู่พยักหน้าเข้าใจ

เกมนี้นั้นเต็มไปด้วยนักเติมเกมทุกประเภท บางคนในพวกเขานั้นจ่ายเงินนับล้านเพื่ออุปกรณ์เพียงชิ้นเดียว ดังนั้นการใช้เงินไปสองล้านกับไอเทมเควสของไอเทมเควสอาชีพลับนั้นก็ยังถูกพิจารณาว่ามันถูกมาก...สุดท้ายแล้ว นายน้อยปปักกิ่งก็ใช้เงินไปมากกว่าสองล้านในการบริจาค จนกระทั่งเขานั้นมีแต้มคุณธรรมพอที่จะรับเควสนี้ ถ้าหมิงตู่รู้เรื่องนี้แล้วละก็ เขาก็จะรู้สึกว่าราคาของหวังหยู่นั้นต่ำเกินไปอย่างแน่นอน

“โอเคถ้างั้น ดีล! เมื่อเวลามาถึงทำให้มั่นใจว่านายส่งเควสให้พวกเขามาช่วยผมแล้ว”หวังหยู่มีความสุข

หลังจากผ่านไปมากกว่าชั่วโมงหนึ่ง จำนวนผู้เล่นสามร้อยคนที่ว่างอยู่ในการทำเควสคุ้มกันก็เต็มลง

ใน {REBIRTH} จำนวนสูงสุดของผู้เล่นในหนึ่งปาร์ตี้นั้นก็คือยี่สิบห้าคน สำหรับผู้เล่นสามร้อยคนนั้นถูกเรียกว่าคณะกองกำลังสำรวจ พร้อมกับกองกำลังขนาดใหญ่เช่นนี้แล้ว ความยากของเควสนั้นจะไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

ไอเทมที่พวกเขาขนส่งนั้นกลับกลายเป็นแค่ขวดแก้วเล็กๆหนึ่งขวด…

มันเป็นแค่เกมตะวันตก ปีศาจนั้นจะถูกขังอยู่ในหีบหรือขวดหรือไม่ก็แจกัน สำหรับเกมตะวันออกแล้ว ปีศาจจะติดกับอยู่ภายใต้หุบเขาหรือไม่ก็ก้นของทะเลสาปซะเป็นส่วนใหญ่

เพื่อทำให้มั่นใจว่าขวดจะปลอดภัย เอกรังสีรุ่งอรุณก็เก็บมันไว้กับตัวเองตลอดเวลาและจ้องไปที่หวังหยู่

อย่างไรก็ตามมันก็ทำให้ผู้เล่นคนอื่นรู้สึกไม่พอใจ

พวกเขานั้นกำลังทำเควสเดียวกันอยู่และในตอนนี้สิ่งที่เอกรังสีรุ่งอรุณต้องทำก็คือการได้รับการปกป้องจากคนอื่น...เขานั้นไม่ได้ทำอะไรเลย แต่เขาก็ยังคงได้รางวัลเช่นเดียวกับพวกเขาด้วย!

ผู้เล่นพวกนี้นั้นเป็นผู้เล่นระดับสูงในเกม ถึงแม้ว่าพวกเขาไม่ต้องการที่จะยั่วยุนิกายซวนเฉิน มันก็ไม่เหมือนกับว่าพวกเขาหวาดกลัวนิกายซวนเฉินด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม เอกรังสีรุ่งอรุณนั้นก็ไม่ได้มีตัวเลือกด้วยเช่นกัน เควสของหวังหยู่คือการขโมยไอเทมนี้ไปจากเขา ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะตัวติดกับหวังหยู่ไปตลอดเวลา

ตามเครื่องหมายบนแผนที่ของพวกเขา ค่ายอัศวินนั้นอยู่สุดแนวหน้าและพวกเขาจะต้องผ่านค่ายที่แตกต่างกันไปอีกสองค่ายที่ขึ้นตรงกับกองกำลังแห่งความมืดไปตลอดทั้งทาง ในอีกความหมายหนึ่ง พื้นที่สองพื้นที้นั้นมีโอกาสสูงมากในการปะทะ

หลังจากที่พวกเขาออกเดินทาง ในตอนเริ่มต้นของการเดินทางนั้นก็สงบ ตั้งแต่ที่พื้นที่นี้ถูกปกคลุมไปด้วยการปกป้องของฮูเบิร์ต หลังจากที่ผ่านทุ่งหญ้าแห่งบาปไป คณะสำรวจก็มาถึงหุบเขา

{แจ้งเตือนระบบ : คุณได้ค้นพบหุบเขาปฏิการะ ได้รับค่า ประสบการณ์ 1000 หน่วย}

{แจ้งเตือนระบบ : คุณได้ออกจากพื้นที่ปลอดภัย เตรียมตัวป้องกันไอเทมที่คุณกำลังคุ้มกันอยู่!}

หลังจากที่ได้รับการแจ้งเตือนจากระบบ เอกรังสีรุ่งอรุณก็ออกคำสั่ง “ทุกคนตั้งรูปแบบต่อสู้! ปกป้องพวกที่พลังชีวิตต่ำ!”

เมื่อเป็นผู้เชี่ยวชาญ ผู้เล่นพวกนี้ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องให้เอกรังสีรุ่งอรุณบอกพวกเขาว่าให้ทำอะไร แท็งค์นั้นก็เคลื่อนที่ไปด้านหน้า ในขณะที่ผู้เล่นโจมตีไกลนั้นตั้งค่ายอยู่ด้านหลังก่อนที่เขาจะออกคำสั่งเสร็จเสียอีก

นี่เป็นครั้งแรกที่เอกรังสีรุ่งอรุณมีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากอยู่ภายใต้เขา ดังนั้นเขาจึงเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ว่าแข็งแกร่งอย่างสมบูรณ์แบบ เขาก็ยิ้มแล้วก็หันไปหาหวังหยู่และแสยะยิ้ม “ผมพนันเลยว่าพี่จะไม่สามารถหลบหนีจากผู้เล่นพวกนี้ได้!”

“อย่ามีความสุขมากเกินไป รูปแบบนี้ก็ไม่สมบูรณ์แบบด้วยเช่นกัน ถ้านายอยู่ห่างจากผมมากเกินไปละก็ผมก็จะไม่สามารถป้องกันนายได้…”

หวังหยู่รู้สึกอยู่เสมอๆว่าเขานั้นเป็นคนพูดเก่ง เด็กที่ร่ำรวยนี้นั้นหยิ่งยโสจนถึงจุดที่หวังหยู่ต้องการที่จะสั่งสอนเขา มันเป็นเพียงแค่เควส ผู้เล่นพวกนี้มันไม่ใช่ลูกน้องของเขาซักหน่อย..

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด