เล่ม 5 ตอนที่ 5 : อิกดราซิลที่โรยรา (2) [อ่านฟรี]
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ
ARK ลงทุกวัน เวลา 10.50-11.00 น.
วันจันทร์-ศุกร์ : ลงวันละ 1 ตอน
วันเสาร์-อาทิตย์ : ลงวันละ 1 ตอนขึ้นไป
==========
เล่ม 5 ตอนที่ 5 : อิกดราซิลที่โรยรา (2)
การยกระดับศักยภาพกองกำลังและอุปกรณ์สวมใส่ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองชั่วโมงต่อหนึ่งหมู่บ้าน เขาจึงเลือกที่จะออกเคลื่อนไหวต่อไปยังหมู่บ้านถัดไปเพื่อประหยัดระยะเวลา
ด้วยอัตราผนึกที่จะถูกทำลายลง มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเวลา มันทำให้เขาเกิดความตึงเครียดมากขึ้นกว่าเก่า
‘โชคยังดี ที่กระทั่งพวกมอนสเตอร์ก็เกิดความสับสนขึ้น’
อาร์คมองออกไปยังโลกบาดาลที่กำลังสั่นไหวอยู่ในตอนนี้
แผ่นดินไหวยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องขณะที่พวกเขารุกคืบ
นี่เป็นสัญญาณว่านิดฮอกก์กำลังพยายามทำลายผนึกดังกล่าว ในตอนนี้ หากเมื่อใดเกิดเสียงดังขึ้น พื้นดินและหินจะร่วงหล่นเริ่มเกิดรอยแยก ด้วยเหตุนั้น พื้นดินภายในป่าที่เกิดการต่อสู้จึงเกิดการยุบตัวลง
“ช่วยด้วย!”
“รอยแยกขยายตัวแล้ว!”
โชคยังดี ที่กองทหารชาวแรคคูนไม่ได้รับความเสียหายอะไรจากเหตุการณ์ครั้งนี้
ทว่า หากเรื่องราวเหล่านี้เกิดขึ้นกับพวกมอนสเตอร์ มอนสเตอร์พวกนั้นจะร่วงหล่นลงไปในรอยแยก หรือไม่ก็หลบเลี่ยงจนโดนกองทหารชาวแรคคูนจัดการ และในตอนนี้เอง โปโป้ได้ตื่นรู้กับความสามารถหนึ่งที่ผิดแผก
“พี่ชาย นี่มันอันตรายเกินไป พวกเราต้องมุ่งไปทางขวา”
ยามใดที่โปโป้พูดกล่าวออกมา รอยแยกก็จะเกิดขึ้นเป็นเงาตามตัว นี่เขารู้ได้ยังไง ถึงกับสามารถรู้ล่วงหน้าได้ด้วยซ้ำ
แต่แล้ว สถานการณ์ตรงหน้านี้กลับเกิดขึ้นบ่อยครั้งจนอาร์คไว้ใจโปโป้ให้คอยบอกเส้นทางการเดินทัพ ตอนนี้พวกเขาเดินทัพมาได้กว่าสามชั่วโมงโดยไร้ซึ่งการสูญเสียใด
“อิกดราซิล!”
กองทหารที่นำออกหน้ากำลังร้องตะโกน
“นี่สินะ ตัวตนที่ปรากฏอยู่ในตำนานแห่งนอร์ส!”
อาร์คกำลังมองต้นไม้ขนาดมหึมาที่อยู่บนเนินเขาขณะผ่อนลมหายใจออก
ที่ใจกลางของป่า มันมีหอคอยแมกไม้ขนาดใหญ่ยักษ์ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขา มันเปรียบดั่งยักษาที่โอบอุ้มน้ำหนักของเพดานค้ำฟ้าเอาไว้ ด้วยรากที่หยั่งไปทั่วทุกหนแห่ง มันคือผู้ค้ำจุนชาวแรคคูน อิกดราซิล
และมันในตอนนี้ ก็มีทั้งคังกิลและโกเลมพฤกษาล้อมรอบอยู่เต็มทั่วบริเวณเนินเขาดังกล่าว
‘โอกาสมีครั้งเดียว ถ้าหากกองทหารแพ้พ่าย นั่นหมายถึงไม่มีทางถอยและไม่มีโอกาสอีกครั้ง’
ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมุ่งออกไปอย่างหน้ามืดตามัว
“เดดริค แจ้งกองทหารหนักของหน่วยที่ 1 ให้ใช้แผน A-4 ทำการล่อพวกศัตรูออกมา ให้หน่วยที่ 2 พลปืนใหญ่ทั้งหมดเตรียมรอใช้แผน A-1 โดยมุ่งเน้นการโจมตีเป็นหนัก หน่วยที่ 3 ให้เป็นแนวหลังคอยสนับสนุนหน่วยที่ 1 แล้วก็คอยสังเกตการเคลื่อนไหวของพวกมอนสเตอร์จากบนฟ้าด้วย ถ้าเกิดอะไรผิดปกติรีบแจ้งให้ทราบโดยทันที”
“เข้าใจแล้วขอรับ”
เป็นอีกครั้งที่ความยุ่งยากเริ่มเข้ามา
อาร์คในตอนนี้เป็นผู้บัญชากรของกองกำลังชาวแรคคูน เขาจำเป็นต้องมีความอดทน เขาได้เปรียบเพราะความสามารถของโปโป้ที่รับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของดินแดนล่วงหน้า ในตอนนี้เขาต้องเพ่งสมาธิไปยังการจัดการคังกิลและโกเลมพฤกษาโดยแยกพวกมันออกมาโจมตี
กองทหารชาวแรคคูนต่างก็พบเห็นเช่นกันว่าสถานการณ์กลับกลายเป็นเร่งด่วน พวกเขาในตอนนี้จึงยิ่งดุดันมากยิ่งขึ้น
พวกเขาใช้เวลาเพียงแค่สองชั่วโมงในการล่าโกเลมพฤกษาทั้งสิ้นยี่สิบตัวรวมทั้งคังกิลกว่าร้อย เครื่องหมายบวกที่แสดงถึงการเลื่อนระดับถึงกับปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของพวกเขาราวบ้าคลั่ง
อาร์คในตอนนี้เลเวล 108 เรียบร้อยแล้ว ทักษะกลยุทธ์ของเขาก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน
ขณะนั้นเอง เดดริคได้บินกลับมาหา
“เจ้านาย การกวาดล้างใกล้เสร็จสิ้นแล้ว ตอนนี้ไม่มีมอนสเตอร์อยู่ใกล้อิกดราซิลแล้วขอรับ”
‘ดีล่ะ ด้วยจำนวนเท่านี้ทำให้ทั้งเลเวลและทักษะของเราก้าวหน้าได้อย่างจำกัด การเตรียมการก็นับว่าพอแล้ว ทั้งหมดขึ้นอยู่กับตอนนี้แล้ว!’
โดยทันที อาร์คเรียกรวมพลชาวแรคคูนขณะจำหน่ายคุกกี้แห่งนักรบให้พวกเขา เหล่าทหารที่ได้กินคุกกี้ต่างก็ต้องไหล่สั่นเทิ้มเป็นการใหญ่
ขวัญกำลังใจของชาวแรคคูนตอนนี้พุ่งสูงถึง 100% พวกเขาไม่หวาดเกรงต่อความตายอีกต่อไปแล้ว
“ทางนี้!”
โปโป้ชี้นิ้วออกไปเบื้องหน้า
ห่างออกไปหลายกิโลเมตรบริเวณโคนต้นอิกดราซิล มันมีอะไรบางสิ่งที่ดูคล้ายถ้ำขนาดใหญ่ยักษ์
ขนาดของมันสามารถรองรับให้คนหนึ่งร้อยคนเรียงแถวหน้ากระดานเข้าไปได้เลยทีเดียว อาร์คสั่งการให้เหล่าทหารที่ได้รับบาดเจ็บคอยอยู่ตรงนี้ขณะเริ่มเดินทัพเข้าไปยังทางเข้าดังกล่าว
“ข้าไม่ชอบแบบนี้ ข้าอยากร่วมต่อสู้กับพี่ชายด้วย!”
“แนวหน้าจะอันตรายยิ่งกว่าครั้งไหนที่ผ่านมา ฉันไม่มีกำลังพอจะปกป้องนายได้”
“ข้าไม่ต้องการการปกป้อง! ข้าเองก็เป็นนักรบชาวแรคคูนที่พร้อมจะสู้จนตัวตาย! ข้าพร้อมจะเข้าไปด้วยเจตนาของตัวเอง!”
“…เข้าใจแล้ว งั้นอย่าอยู่ห่างจากตัวฉัน เข้าใจนะ?”
“ได้เลย ข้าจะปกป้องพี่ชายเอง!”
โปโป้เริ่มเหวี่ยงมีดสั้นของตนไปมาแสดงให้ดู
อาร์คถอนหายใจ
เขาไม่ต้องการพาอีกฝ่ายไปด้วยเลยหากเป็นไปได้ ทว่า โปโป้ก็เป็นกองกำลังคนหนึ่ง อีกทั้งเขาไม่มีเวลาให้เสียกับการโต้เถียงแล้วด้วย
=====
สถานภาพผนึกที่กำลังโดนทำลาย : 68%
=====
‘แทบไม่เหลือเวลาแล้ว’
อาร์คตรวจสอบหน้าต่างข้อมูลพร้อมออกคำสั่งให้พวกเขาเริ่มออกเดินทัพโดยทันที
“มุ่งเข้าไป ตรงเข้าไปเลย!”
อาร์คออกนำกองกำลังทหารมุ่งเข้าหาอิกดราซิล
แสงสว่างจากผลึกแร่ไม่อาจสาดส่องเข้ามาถึงภายใน มันเป็นเรื่องยากที่จะมองเห็นกระทั่งว่าเป็นระยะหนึ่งนิ้วเบื้องหน้า นอกจากนี้ ภายในความมืดยังคงมีหมอกหนาทำให้การหายใจเป็นไปอย่างไม่ค่อยสะดวก
และที่แย่ยิ่งกว่า ภายในของมันซับซ้อนราวกับเขาวงกต
ในบางตำแหน่ง รากไม้จะรวมกันหนาจนปิดกั้นเส้นทางเอาไว้ อาร์คทำได้เพียงหันไปมองเหล่าผู้อาวุโสขณะกล่าวถามออกไป
“ท่านผู้อาวุโส นี่...?”
“ข้าไม่ทราบ ครั้งที่ข้าเคยมา มันไม่มืดและไม่ซับซ้อนถึงเพียงนี้”
“เกิดความเปลี่ยนแปลง? อืม เดดริค ออกไปสำรวจให้หน่อย”
อาร์คออกคำสั่งการ เดดริคบินมุ่งไปออกค้นหารอบด้าน
ทว่า ไม่ช้าอีกฝ่ายก็บินกลับมาพร้อมส่ายศีรษะให้
“ไม่ได้ขอรับ นี่มันซับซ้อนเกินไป ข้าไม่อาจรู้ว่าตรงไหนเป็นตรงไหน”
“ถ้าอย่างนั้น หน่วยที่ 1 ออกเดินทัพมุ่งตรงไปเพื่อหาเส้นทาง”
“รับทราบ!”
หลังผ่านไปหลายนาทีเพื่อค้นหาในความมืด...
ครืน ตึง ตึง!
“อะไร? นั่นเสียงอะไรกัน?”
“พวกเราโดนโจมตี หลบเร็ว! มันกำลังเข้ามาแล้ว!”
ฟุ่บ!
ภายในความมืด วัตถุขนาดใหญ่พลันลอยออกขณะเข้าโจมตีใส่กองทหาร เมื่อเขาใช้เนตรแห่งแมว เขาพบเห็นว่ามันเป็นเถาวัลย์ที่หนาและใหญ่มหึมา อิกดราซิลถึงกับใช้เถาวัลย์ภายในมันโจมตีใส่ผู้บุกรุก
“อย่าแตกตื่น รักษารูปขบวนไว้ หน่วยที่ 1 ให้ตั้งวงล้อมเข้าปกป้องกองทหารที่เหลือ หน่วยปืนใหญ่ใช้แผน A-3 เพื่อจัดการเถาวัลย์! หน่วยสนับสนุน ประเมินสภาพการณ์แล้วรักษาบาดแผลตามสมควร”
การโจมตีในความมืดที่ไม่อาจมองอะไรเห็นได้นับว่าน่ากลัวยิ่ง!
แม้ว่าสถานการณ์จะทำให้เกิดความหวาดกลัวขึ้น แต่ด้วยขวัญกำลังใจของกองทหารชาวแรคคูนที่สูงถึง 100% นั้นกลับไม่มีหวั่น
ด้วยเหตุนั้นเอง ชาวแรคคูนที่ไร้ซึ่งความหวาดกลัวล้วนสงบขณะทำตามคำสั่งของอาร์ค
แสงสว่างวูบวาบออกจากการยิงปืนใหญ่ทะลวงผ่านความมืดไป เถาวัลย์กว่าสามหรือสี่เส้นโดนทำลายไปเพราะแรงระเบิดอย่างต่อเนื่อง
ทว่า เถาวัลย์เส้นอื่นก็เข้ามาแทนที่อย่างรวดเร็ว
“พี่ชาย! สู้กับเถาวัลย์พวกนี้ไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น”
โปโป้กระโดดถอยกลับมาตรงหน้าเขาขณะตะโกนออก
“เถาวัลย์พวกนี้คือตัวอิกดราซิลเอง ถึงทำลายเถาวัลย์พวกนี้ไป พวกมันก็จะมีใหม่มาแทนที่ไม่หยุดหย่อน! พวกเราต้องหาทางเข้าถึงแก่นของอิกดราซิลเพื่อจัดการต้นเหตุของสิ่งปนเปื้อนโดยเร็วที่สุด!”
“เข้าใจแล้ว!”
อาร์คตะโกนออกด้วยน้ำเสียงดังก้อง
แค่ดูสภาพการณ์เขาก็พอจะเดาได้แล้ว แต่มันจะง่ายเหมือนอย่างที่พูดได้ยังไงกัน? เขาจะเคลื่อนพลผ่านเถาวัลย์พวกนี้ไปตลอดรอดฝั่งได้โดยง่ายอย่างไร?
ขณะนั้นเอง ความคิดหนึ่งถึงกับวาบผ่านเข้ามาภายในสมอง
“ใช่แล้ว!”
โดยทันที อาร์คเก็บดาบของแลนเซลเข้ากระเป๋าขณะนำเอา ‘ดาบ’ ที่เป็นดีมอสแปลงกลายออกมา
ซอว์เบลด.... แม้ว่าพลังโจมตีจะดีกว่า แต่ดาบของแลนเซลหากรวมโบนัสแล้วยังคงสร้างความเสียหายได้มากกว่า ทว่า ครั้งนี้ย่อมแตกต่างออกไป ตอนนี้คือเวลาที่จะใช้ความสามารถพิเศษที่สำคัญยิ่งกว่าพลังโจมตีแล้ว
“เจ้างู! เอาไอเทมทั้งหมดกลับคืนใส่กระเป๋า! ถ้ามีพื้นที่ไม่พอก็ทิ้งอะไรที่ไร้ประโยชน์ไป!”
ซื่อ ซื่อ ซื่อ!
อย่างรวดเร็ว เจ้างูเลื้อยผ่านร่างของอาร์คเข้าไปในกระเป๋า จากนั้นมันจึงเริ่มทำการคายไอเทมออกมาภายในกระเป๋า
อย่างรวดเร็ว ไอเทมหลายชิ้นถูกโยนออกจากกระเป๋า เรื่องนี้ก็ทำเอาเขาต้องหลั่งน้ำตาแม้สถานการณ์จะเร่งด่วนก็ตาม อาร์คไม่เคยคิดอยากเสียแม้กระทั่ง 1 เหรียญทองแดงด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนี้แล้ว
“เจ้างู เอาพิษอัมพาตมา!”
เมื่อเจ้างูเลื้อยกลับเข้าที่ โดยทันที มันเริ่มกินพืชมีพิษเพื่อสร้างพิษให้กับอาร์คโดยทันที
เจ้างูผ่านกระบวนการสร้างพิษภายในร่างก่อนที่จะพ่นมันออกมาให้
“ไปเลย!”
เมื่อดาบถูกอาบด้วยพิษ เขาจึงเปลี่ยนมันให้กลายเป็นแส้ กระบวนการทั้งหมดก่อนที่จะถึงเขาตวัดแส้ออกนี้ผ่านไปเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น เมื่อเขาเหวี่ยงแส้ออก มันจึงพุ่งเข้าหาพวกเถาวัลย์อย่างรวดเร็ว
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ การโจมตีนี้เปรียบดั่งใบพัดที่หั่นเข้าใส่เถาวัลย์ทั้งหมดภายในรัศมีเจ็ดเมตร จำนวนครั้งการใช้พิษในตอนนี้คือสามารถใช้งานได้ห้าครั้ง ถ้าหากเขาใช้งานในรูปลักษณ์ดาบก็จะฟันศัตรูได้เพียงห้าเท่านั้น แต่ในรูปแบบแส้นี้กลับคุ้มค่ามากกว่าในกรณีที่ศัตรูมีจำนวนมาก เพียงแค่สามวินาทีผ่านพ้น เถาวัลย์ทั้งสิ้นหกเส้นถึงกับชะงักไปเพราะโดนพิษอัมพาตจนร่วงหล่นกับพื้น แม้ว่าเขาจะสามารถโจมตีพวกมันจำนวนมากได้ในครั้งเดียว แต่อัตราการติดพิษของศัตรูนับว่ายังต่ำ
ทว่า หากเขาใช้งานพืชมีพิษเพิ่มขึ้น นั่นหมายถึงอัตราการติดพิษที่มากขึ้นนั่นเอง
“ทำต่อไป เอาพิษออกมาอีก!”
อาร์คให้เจ้างูผลิตพิษออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง เขากระโดดโลดเต้นไปมาราวคนบ้าขณะเหวี่ยงดาบออกไปนับครั้งไม่ถ้วน เถาวัลย์ทั้งสิ้นกว่ายี่สิบโดนโจมตีโดยชาวแรคคูนขณะที่พวกมันโดนพิษอัมพาต อาร์คได้สั่งการชาวแรคคูนที่กำลังโจมตีเถาวัลย์อยู่ให้ถอยออกมาด้วยเสียงตะโกน
“โจมตีพวกมันไปไม่ได้อะไร แค่อย่าให้พวกมันขวางพวกเราได้ก็พอ!”
เขาออกคำสั่งการต่อชาวแรคคูนหลังจัดการเถาวัลย์เสร็จสิ้นก่อนที่จะเริ่มออกเดินทางต่อ ทว่า เมื่อพวกเขาเข้ามายังวงกต มันยิ่งซับซ้อนมากขึ้น ท้ายที่สุดแล้ว การจะแยกแยะว่าสภาพในตอนนี้กับก่อนหน้านี้ที่พวกเขาอยู่มันต่างกันยังไงก็ยิ่งยากขึ้น จนตอนนี้พวกเขาล้วนสับสนกันไปหมด
ขณะเดียวกัน ชาวแรคคูนบางคนก็ตายลงเพราะต้องต่อกรกับเถาวัลย์ ในช่วงแรกเขายังมีกองกำลังคนถึงสามร้อยนาย แต่หลังจากรุกคืบเข้ามาภายในต้นอิกดราซิล จำนวนของพวกเขาก็ถูกลดทอนลงไปจนเหลือเพียงแค่หนึ่งร้อยห้าสิบนายเท่านั้น
‘บ้าจริง เรากำลังเสียกองกำลังไป...’
การลบล้างสิ่งปนเปื้อนออกจากอิกดราซิลไม่ใช่เรื่องง่าย
บอสมันก็จะยิ่งยากขึ้นตามไปด้วย เพราะระดับความยากของภารกิจครั้งนี้คือ C+ การคงสภาพกองกำลังชาวแรคคูนเอาไว้ถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง แต่ด้วยสภาพตอนนี้ หากกล่าวตามตรงแล้ว เขาไม่อาจมั่นใจได้เลยว่าจะค้นหาแก่นของอิกดราซิลได้พบ