ตอนที่แล้วตอนที่ 41 รั่วไหลมันต้องรั่วไหลแน่นอน!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 43 มีพลังมาก!

ตอนที่ 42 ฝ่าเท้าไร้เงา


ตอนที่ 42 ฝ่าเท้าไร้เงา

 

 

 

"เธอกำลังดูอะไร? เธอดูมีความสุขกับมันนะ?"

 

 

ต้มตุ๋นเทียนมองไปที่หลินฟ่านที่กำลังนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนโต๊ะ

 

 

"ไม่มีอะไร ฉันแค่อ่านข่าว" หลินฟ่านตอบ

 

 

บนอินเตอร์เน็ตในตอนนี้มันน่าขบขันมาก โดยเฉพาะ Autumn Sword Fish Killer's ที่โจมตีเขาไม่หยุดยั้ง เขานำกองทัพเกรียนมาสาปแช่งหลินฟ่านแต่สิ่งนี้ช่วยเพิ่มชื่อเสียงให้เขาบน Weibo

 

 

หลินฟ่านไม่ได้คาดหวังว่า Weibo ของเขาจะร้อนแรงและมีผู้คนจำนวนมากทะลักเข้ามา

 

 

เหตุการณ์โจวลี่หยุนทำให้มีผู้ติดตามบน Weibo เพิ่มขึ้นมาถึงหมื่นคน อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของเฉินยู่ทำให้มีผู้ติดตามเพิ่มมากขึ้นกว่าสองแสนคน

 

 

ชีวิตของเขามีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจนตัวเขาแทบไม่สามารถจัดการกับความก้าวหน้าเหล่านี้ได้

 

 

ขณะที่หลินฟ่านกำลังยุ่งอยู่กับ Weibo ของเขา จู่ๆก็มีเสียงผู้หญิงที่ฟังดูโหดร้ายดังมาจากหน้าร้าน

 

 

"นักทำนาย ลองบอกโชคชะตาของฉันให้ฟังหน่อย"

 

 

หลินฟ่านกำลังเล่นโทรศัพท์ของเขา ขณะเงยหน้าขึ้นมาดูเขาตกใจ

 

 

"โอ้พระเจ้า...โลกมันแคบจริงๆ"

 

 

ต้มตุ๋นเทียนกำลังอ่านหนังสือและหันไปดูผู้หญิงคนนั้นใบหน้าของเขาเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

 

 

"พวกแกอยู่ที่นี่ มันเป็นเรื่องยากจริงๆที่จะหาพวกแก"

 

 

เป็นหญิงสาวที่มีเครื่องสำอางหนาเต๊อะบนใบหน้าของเธอ เมื่อไม่นานมานี้เธอได้รับความทุกข์ทรมาณจากความโชคร้าย เธอจึงต้องการนักทำนายสักคนมาช่วยเธอ แต่ตอนนี้เธอเห็นทั้งสองคนอยู่ในร้านใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป เธอตะโกนออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว

 

 

เจิ้งหว่านฉิงกำลังมองหาสองคนนี้ แต่เนื่องจากขนาดที่ใหญ่โตของเซี่ยงไฮ้มันเป็นเรื่องยากในการตามหาใครสักคน แต่ตอนนี้ในที่สุดก็หาตัวเจอแล้ว เธอจะไม่ยอมเสียโอกาสนี้ไปเด็ดขาด

 

 

เจิ้งหว่านฉิงหยิบโทรศัพท์ออกมาและพูด "ลูกพี่จิงรีบมา ฉันเจอไอ้สารเลวสองตัวที่เตะฉันแล้ว"

 

 

หลังจากเธอวางโทรศัพท์ เจิ้งหว่านฉิงชี้มาที่ทั้งสองคนด้วยความโกรธและพูด "ไอ้ลูกสุนัข ฉันบอกแกให้วันนี้แกตายแน่ๆ"

 

 

"คนสวยมันต้องมีเรื่องเข้าใจผิดแน่ๆ ฉันไม่เคยพบคุณมาก่อน" หลินฟ่านพูดอย่างช้าๆแต่ใจของเขาเต้นระรัว

 

 

หลินฟ่านและต้มตุ๋นเทียนเป็นคนอ่อนแอ หากเกิดการต่อสู้ขึ้นมาจริงๆพวกเขาต้องแพ้แน่นอน

 

 

"ใช่แล้วคนสวย พวกเราเป็นคนดี ฉันเห็นออร่าแดงๆจากตัวคุณ เร็วๆนี้คุณต้องโชคดีแน่ๆทำไมไม่ให้เราทำนายให้คุณ?" ต้มตุ๋นเทียนรู้สึกตื่นตระหนก

 

 

"ย้ายไปข้างๆ" เจิ้งหว่านฉิงเตะต้มตุ๋นเทียนและด่า "ไอ้แก่ครั้งก่อนฉันปล่อยให้แกหนีไปได้ ตอนนี้ฉันจะให้แกเห็นผลลัพธ์ของการเตะตูดฉัน"

 

 

"รอลูกพี่จิงมาเมื่อไหร่ ฉันจะให้พวกแกมาคุกเข่าและเลียรองเท้าให้ฉัน"

 

 

เจิ้งหว่านฉิงสบถคำหยาบออกมา

 

 

ต้มตุ๋นเทียนรีบลุกขึ้นและมองไปที่หลินฟ่าน

 

 

"เราเสร็จแน่ๆ" หลินฟ่านกล่าว

 

 

"เราจะทำยังไงต่อ?" ต้มตุ๋นเทียนถาม

 

 

"ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าต้องทำไร? แต่ให้ฉันบอกคุณก่อน คุณปกป้องฉันด้วย" หลินฟ่านรู้สึกหมดคำพูด เขารู้ว่าวันนี้เรื่องมันต้องไม่จบลงโดยดีแน่ๆ

 

 

ทำไมเราถึงไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับภัยพิบัติในวันนี้?

 

 

ตั้งแต่เขาได้รับสารานุกรม เขาต้องวิ่งเข้าไปในปัญหาและมีการนองเลือดทุกครั้งและจากที่ดูสถานการณ์ในวันนี้ เขากลัวว่าเขาต้องมีการหลั่งเลือดออกมาแน่ๆ

 

 

เจิ้งหว่านฉิงยิ้มขณะเธอเห็นคนของเธอมาถึง จากนั้นเธอก็นำชายคนหนึ่งเข้ามาในห้องแล้วชี้มาที่หลินฟ่านและต้มตุ๋นเทียน เธอกล่าว "ลูกพี่จิงเป็นพวกมัน พวกมันเตะตูดฉันในวันนั้น"

 

 

อู๋เป่าจิงเขาสูง 189 เซนติเมตร เขามีกล้ามเนื้อที่ใหญ่โตและดูน่ากลัว เมื่อมองไปที่เขาจะรู้ได้ทันทีว่าเขาไม่ใช่คนดี

 

 

นอกจากนี้อู๋เป่าจิงเป็นหัวหน้าแก๊ง การต่อสู้เป็นเรื่องปกติสำหรับพวกเขาและตอนนี้เขาต้องการมาทวงหนี้แค้น เขามีประสบการณ์มากมายในเรื่องเช่นนี้ คนในพื้นที่ยังรู้ว่าไม่ควรจะกระตุ้นคนแบบนี้

 

 

"พวกแกสองตัว ใครเป็นคนรังแกแฟนของข้า?" อู๋เป่าจิงตะโกน ลูกน้องคนนึงของเขาเปิดไปขวางประตูเขาไม่สูง แต่เขายืนอยู่ที่นั่นอย่างภูมิใจศีรษะของเขายกสูงราวกับเขาเป็นคนที่ยิ่งใหญ่มาก

 

 

"ลูกพี่จิงพูดกับพวกแกอยู่ แกหูหนวกหรือ?" วัยรุ่นผอมแห้งตะโกนลั่น ทำท่าทางราวกับว่าหากพวกเขาไม่ตอบเขาใช้หมัดเป็นตัวถามเขาแทน

 

 

หลินฟ่านไม่ได้ตอบ เขารู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย หากมีการสู้รบเกิดขึ้นมามันจะเป็นหายนะสำหรับเขา แต่เนื่องจากพวกมันมาร้านของเขาเพื่อมาหาเรื่อง พวกมันคงไม่สามารถทนต่อไปได้อีก

 

 

แม้ว่าหลินฟ่านจะไม่สามารถเอาชนะการต่อสู้ได้ แต่เขาต้องไม่แสดงความหวาดกลัวออกมา

 

 

"เฮ้น้องชาย อย่าโกรธเลยเรามีเรื่องดีๆจะพูดทั้งหมดมันต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิด" ต้มตุ๋นเทียนยิ้มและเขาหยิบบุหรี่ราคาสามสิบเหรียญออกมา

 

 

"ออกไป! แกกล้าเอาบุหรี่โง่ๆของแกออกมาหรือ? แกคิดว่าพวกเรามาที่นี่เล่นๆ?" วัยรุ่นหยิ่งกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยวและมองมาอย่างดูถูก ทันใดนั้นเขาก็ตบต้มตุ๋นเทียนอย่างหนักจนล้มลงกับพื้น เขาเหยียบบุหรี่และบดไปมา

 

 

"ไอ้แก่ แกกล้าพูดเรื่องไร้สาระอีก ฉันจะเลาะฟันของแกออกมา" วัยรุ่นพูดจาอย่างหยิ่งผยองและชี้ไปที่จมูกของต้มตุ๋นเทียน

 

 

ต้มตุ๋นเทียนยืนขึ้นตัวเขาสั่นเล็กน้อย เขาหัวเราะเล็กน้อยและกล่าว "ใช่ๆ ฉันจะไม่พูดอะไรอีก"

 

 

หลินฟ่านเห็นว่าวัยรุ่นคนนี้สร้างความอัปยศให้แก่ต้มตุ๋นเทียน เขาไม่สามารถทนต่อไปได้อีก พวกมันกล้าข่มเหงคนของเขาได้อย่างไร? แม้ว่าเขาจะสู้พวกมันไม่ได้แต่เขาจะขอแลกชีวิตกับพวกมัน

 

 

"บัดซบ แกกล้าข่มเหงเพื่อนของฉัน? ฉันจะสู้กับแกจนตายกันไปข้าง" ปกติหลินฟ่านจะเป็นคนใจเย็นและอารมณ์ดี แต่เมื่อมันมาถึงขั้นนี้เขาต้องทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับมัน

 

 

หลินฟ่านจับที่เขี่ยบุหรี่ขึ้นมา เขาตั้งใจจะทุบมันลงบนศีรษะของวัยรุ่น อย่างไรก็ตามหลินฟ่านยังไม่เร็วพอ วัยรุ่นคนนี้เคยผ่านศึกน้อยใหญ่มามาก เขาตอบสนองได้ทันท่วงทีและตะโกนว่า "แม่แกสิ" และเข้ามาเตะที่ท้องของหลินฟ่าน

 

 

"เชี่ย มันรู้ตัวเร็วมาก" หลินฟ่านยังคงยืนอยู่ที่เดิมและถือที่เขี่ยบุหรี่ไว้บนมือ เขาไม่ได้คาดหวังว่ามันจะปฏิกิริยาตอบสนองที่รวดเร็ว

 

 

"มันจบแล้ว..." หลินฟ่านคร่ำครวญบางทีวันนี้อาจมีการหลั่งเลือดจริงๆ

 

 

ในขณะนั้นเอง ขาของวัยรุ่นที่กำลังเตะมาก็ถูกหยุดลง

 

 

"ต้มตุ๋นเทียน คุณ..." หลินฟ่านตกใจเขามองไปที่ต้มตุ๋นเทียนและตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับต้มตุ๋นเทียน

 

 

การแสดงออกที่ไร้สาระของต้มตุ๋นเทียนหายไปและถูกแทนที่ด้วยสีหน้าที่ครอบงำดวงตาของเขาเจิดจ้า

 

 

"ฝ่ามือแปดทิศ! ฉันคือเทียนที่สิบสาม ยินดีที่รู้จัก"

 

 

*แกร๊ก*

 

 

มีเสียงแตกหักดังมาจากขาของวัยรุ่น หลังจากนั้นเขาก็กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่ออู๋เป่าจิงเห็นฉากนี้เขาตะลึง"เชี่ย!"

 

 

อู๋เป่าจิงและสมาชิกพุ่งเข้ามา

 

 

แต่สิ่งที่ทำให้หลินฟ่านรู้สึกทึ่งมากที่สุดคือต้มตุ๋นเทียน ท่าทางของเขาเสมือนมังกร ราวกับมีตางอกเงยขึ้นบนมือและเท้าของต้มตุ๋นเทียน พวกมันล้มลงบนพื้นทีละคน

 

 

"ต้มตุ๋นเทียนแม่งคลั่งไปแล้ว นั่นแหละ ต่อยมัน!"

 

 

หลินฟ่านพบว่าพลังต่อสู้ของต้มตุ๋นเทียนปะทุขึ้นรุนแรงเกินไป

 

 

คนพวกนั้นถูกทุบตีราวกับเป็นเยื่อกระดาษ

 

 

*แคล็ก*

 

 

*แคล็ก*

 

 

แม้แต่หลินฟ่านก็กลัวเมื่อได้ยินเสียงแตกหัก จากนั้นหลินฟ่านจ้องไปที่วัยรุ่นอวดดี มันสบตาเข้ากับหลินฟ่านหน้าผากของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ มันตะโกนออกมาด้วยความโกรธ "บัดซบ ปู่แก..."

 

 

"ฝ่าเท้าไร้เงา..." หลินฟ่านไม่ยอมปล่อยให้วัยรุ่นพ่นวาจาขยะออกมา เขากระโดดและตะโกนเสียงดังก่อนจะเตะเข้าไปที่ใบหน้าของเขา

(ฝ่าเท้าไร้เงา เป็นกระบวนท่าของหวงเฟยหง)

 

 

"อั่ก!"

 

 

"อย่าต่อสู้อีกต่อไป..."

 

========================================

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด