ตอนที่แล้วChapter 136: เมืองแห่งบาป
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 138: ไอ้อันธพาลที่น่ารังเกียจ

Chapter 137: พบเพื่อนเก่าในเมืองที่ต่างออกไป


Chapter 137: พบเพื่อนเก่าในเมืองที่ต่างออกไป

มันเป็นหมิงตู่จริงๆ!

เมื่อได้ยินประโยคและน้ำเสียงที่คุ้นเคย หวังหยู่ก็อดที่จะรื้อฟื้นครั้งแรกที่เขาพบกับหมิงตู่ไม่ได้

“เฒ่าหลี่ นายมาทำอะไรที่นี่?”หวังหยู่ทักทายเขาอย่างมีความสุข เมื่อเขาถอดผ้าคลุมของเขาออก

ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเกม หวังหยู่ก็ยังคงมีความสุขที่เห็นคนที่คุ้นเคยในเมืองอื่นแบบนี้

“อ๊า? เฒ่ากระทิง?”หมิงตู่ตัวแข็งทื่ออยู่ชั่วครู่หนึ่ง ก่อนที่จะถามขึ้น “ไม่ใช่ว่านายโดนฆ่าจนกลับไปยังเมืองเริ่มต้นแล้วเรอะ? นายมาทำอะไรอยู่ที่นี่กัน?”

“เหี้..!”หวังหยู่รู้สึกไม่พอใจอย่างมาก ไอ้บัดซบไร้ความกลัวนั้นบอกทุกคนกับสิ่งที่เขาได้ทำลงไปในเมืองวาติกันอย่างแน่นอน…

หมิงตู่นั้นก็ไม่สามารถที่จะโทษเขาได้ด้วยเช่นกัน มีหวังหยู่เพียงคนเดียวในเกมนี้ที่โดนล่าโดยผู้เล่นนับหมื่นคน ตั้งแต่ที่หวังหยู่ออกจากเกมแบบเร่งรีบเมื่อวานนี้ พวกเขาก็คิดกันไปหมดว่าเขานั้นถูกดักไว้ที่จุดเกิด พวกเขานั้นพบปะกันกเพื่อปรึกษาวิธีที่จะช่วยเขาด้วยซ้ำไป

“ไปหาที่นั่งก่อน ฉันจะเข้าร่วมกับนาย หลังจากที่ฉันทำเควสของฉันเสร็จ”หมิงตู่แนะนำหวังหยู่อย่างเนิบๆและหลังจากนั้นก็ชี้ไปที่โต๊ะใกล้ๆและตะโกน “โฮ้ย! กูกำลังพูดกับมึงอยู่นะไอ้สัส! มึงคิดเหรอว่ากูไม่เห็นมึงหน่ะ? ไอ้เหี้...ที่กำลังนั่งแดกเหล้าที่มีแต้มสังหารสิบห้าแต้มหน่ะ!”

นักฆ่าที่หมิงตู่ชี้ก็หันกลับมาพร้อมกับการแสดงออกที่สับสนและถามขึ้น “นายกำลังคุยกันฉันอยู่เรอะ?”

“ไม่ใช่มึงมั้งไอ้เหี้..! กูจะคุยกับใครอื่นกัน?”หมิงตู่หัวเราะออกมา เมื่อเขาโบกคทาของเขาและส่งระเบิดสายฟ้าใส่นักฆ่าที่น่าสงสาร และก็เปลี่ยนเขากลายเป็นเถ้าถ่านในทันที

“มึงกำลังต้องการที่จะตายใช่ไหมวะ??”สหายนักฆ่าระเบิดเสียงออกมา เพื่อนของพวกเขานั้นถูกฆ่าต่อหน้าต่อตาพวกเขาแบบนั้น!

ทั้งโต๊ะนั้นมีคนประมาณแปดคนและไม่สำคัญว่าพวกเขามองไปยังไง นักเวทย์ที่สวมผ้าคลุมสีดำก็พึ่งจะโจมตีพวกเขา โดยมีสหายเพียงแค่นักต่อสู้เพียงแค่คนเดียว! เขากล้าที่จะรับเควสล่าค่าหัวโดยระดับความแข็งแกร่งแค่นั้นนี่นะ? ไอ้เหี้...นี่แม่งโอหังมากเกินไปแล้ว!

สิ่งที่เลวร้ายที่สุดก็คือนักเวทย์นั้นไม่ได้พยายามที่จะหนีหลังจากที่ฆ่านักฆ่า เขาเพียงแค่เดินไปที่อีกโต๊ะหนึ่งและเริ่มที่จะดื่มเหล้าเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“ไอ้เหี้... ที่นี่แม่งวุ่นวายชิบหาย...เควสล่าค่าหัวนี่แม่งไม่มีสิ้นสุดเสียที! ยังไงก็ตาม ทำไมนายมาที่นี่กัน? นายหลบซ่อนอยู่เพราะว่านายกำลังโดนไล่ล่าอยู่เรอะ?”หมิงตู่ถามแล้วเขาก็ดื่มเหล้าไปอีกหนึ่งอึก

เมื่อเขาวางแก้วลง หวังหยู่ก็ตอบกลับ“ผมมาที่นี่เพื่อทำเควส! แล้วนายละ? เมืองรัตติกาลนั้นขาดเควสล่าค่าหัวในตอนนี้อยู่เหรอ?”

“โอ้ มันเป็นเควสจากผู้แนะนำอาชีพของฉันหน่ะ…”

“เหี้...!! พวกมันสองตัวคุยกันเสร็จยัง?”หนึ่งในนักรบของโต๊ะนักฆ่าตะโกนแล้วเขาก็พลิกโต๊ะพวกเขาคว่ำลง เมื่อเห็นว่าพวกเขาสองคนยังคงทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทำให้ผู้เล่นพวกนี้กราดเกรี้ยวมากยิ่งกว่าที่เพื่อนของเขาถูกฆ่าเสียอีก

“…”หวังหยู่มองขึ้นไปอย่างเงียบงันกับนักรบและหลังจากนั้นก็มองลงไปแก้วเหล้าที่หก

โดยปราศจากยามที่ป้องกันเขาในโรงเตี๊ยมหรือแม้กระทั่งในเมือง ราคาของเหล้านั้นแพงขึ้นอย่างมาก ถึงแม้ว่าหวังหยู่นั้นจะไม่ใช่คนที่จ่ายค่าเหล้า การที่เห็นใครบางคนพลิกโต๊ะและเครื่องดื่มโดยปราศจากเหตุผลนั้นทำให้เขาหงุดหงิดขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ

“ไอเหี้...มึงจ้องอะไรอยู่กัน? อะไรวะ? มันทำมึงฉี่ราดเหรอไงวะ?”นักรบขู่คำรามเมื่อเขาชักดาบออกมาและชี้ไปที่หวังหยู่

เมื่อโดนข่มขู่เช่นนี้ ทำให้การแสดงออกของหวังหยู่มืดมนลงในทันที การชี้อาวุธใส่คนที่ไม่ได้ยั่วยุคนอื่นก่อนนั้นเป็นข้อต้องห้ามของสังคมผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ ถึงแม้ว่าหวังหยู่นั้นจะเป็นคนที่อารมณ์ดี การที่โดนใครบางคนชี้ดาบใส่เขา แม้ว่ามันจะเป็นในเกมก็ทำให้เขารู้สึกกราดเกรี้ยว

มันก็เป็นหมิงตู่ที่เป็นคนที่เริ่มต้นการต่อสู้นี้! ทำไมหมิงตู่ต้องลากเขามาร่วมด้วยกัน?

“เอาดาบออกไปจากผมซะ! คนที่นายกำลังถามหาอยู่ทีนั่น!”หวังหยู่ชี้ไปที่หมิงตู่ที่นั่งอยู่

“ถูกแล้ว! ทำไมพวกเราไม่ไปหาพื้นที่โล่งๆในการจัดการเรื่องนี้กันละ!”หมิงตู่หัวเราะ

“พวกนายสองคนจะไม่ได้ไปที่ไหนทั้งนั้น!”นักรบทนไม่ได้อีกต่อไปและก็ฟันใส่หัวของหวังหยู่ นักรบไม่ได้เป็นคนโง่ เขาเห็นหมิงตู่ฆ่าสหายของเขาเพียงแค่เวทย์เพียงบทเดียวก่อนหน้านี้ ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าหมิงตู่นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างแน่นอน ตั้งแต่ที่เขาไม่มีความกล้าในการจัดการกับผู้เชี่ยวชาญแบบนั้นเพียงคนเดีย นักรบจึงตัดสินใจที่จะสังหาร ‘นักต่อสู้ตัวเล็กที่เป็นเพื่อน’ กับหมิงตู่

อย่างไรก็ตาม มันก็แตกต่างจากที่เขาคาด หวังหยู่ก็หยิบมานั่งขึ้นมาและฟาดเข้าใส่หัวของนักรบและเปลี่ยนเขากลายเป็นแสงสีขาว..

แม้กระทั่งนักต่อสู้ที่เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นอาชีพขยะ มันก็ยังมีพวกเขาหลายล้านคนในเกม อย่างไรก็ตาม มีนักต่อสู้เพียงคนเดียวที่สามารถทำแบบนี้ได้…

“ไอ้เหี้..มึงจ้องอะไรอยู่? มึงต้องการที่จะล้างแค้นเพื่อนมึงเหรอ? ไอสัตว์ประหลาดนี่สามารถหาทางออกมาจากการโดนรุมล้อมของผู้เล่นนับหมื่นคนนะ มึงรู้ไหม...”หมิงตู่ชี้ไปที่หวังหยู่และอวด

“นายกำลังชื่นชมผมมากเกินไป…”หวังหยู่หน้าแดง

“มันไม่ได้มากเกินไปจริงๆ ศาสตร์แห่งม้านั่งนั่นยอดเยี่ยมมาก! สอนฉันด้วยเมื่อนายมีเวลาว่าง…’

แม้กระทั่งโดนเยาะเย้ยโดยหมิงตู่แบบนั้น ผู้เล่นที่เหลือก็ไม่กล้าที่จะตอบโต้และก็ก้มหัวลงและวิ่งหนีไป หลังจากที่นักรบตายลง เขาก็ส่งชื่อกระทิงเหล็กให้กับคนที่เหลือ ในเมืองแห่งบาป มันไม่มีอะไรผิดกับการตาย แต่ผู้เล่นพวกนี้ก็ไม่ต้องการที่จะตายฟรีๆ

“ฮ่าๆ! กระทิงเหล็กไม่เลวเลยนี่! นายทำให้พวกนั้นหวาดกลัวโดยปราศจากากรสู้กับมัน!”หมิงตู่ชื่นชมเขาต่อ

เมื่อเขาจัดการโต๊ะเสร็จ หวังหยู่ก็ขัดหมิงตู่และพามขึ้น “เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว! นายกำลังทำเควสอะไรที่ผู้แนะนำอาชีพให้มากันอยู่?”

“มันเป็นเควสระดับ 20 ของฉัน? นายคิดเหรอว่านายเป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับมันกัน?”

“หื้ม?? นายระดับ 20แล้วงั้นเหรอ?”หวังหยู่อ้าปากอย่างตกตะลึง

“ใช่! หลังจากเคลียร์ดันเจี้ยน เมื่อเช้านี้ ในที่สุดฉันก็มีระดับ 20แล้ว!”หมิงตู่โอ้อวด

เมื่อเปิดรายชื่อกิลด์ขึ้นมาดู หวังหยู่ก็ตระหนักได้ว่านอกจากหญิงสาวทั้งสี่คนแล้ว ทุกคนในนิกายซวนเฉินนั้นมีระดับ 20 กันทั้งหมดแล้ว..

หวังหยู่นั้นใช้เวลาส่วนมากในตอนเช้ากับการวิ่ง ในขณะที่คนอื่นนั้นเคลียร์ดันเจี้ยนและเก็บระดับด้วยตัวเองกันอยู่ ต้องขอบคุณการคูณค่าประสบการณ์สามเท่าจากอีเวนต์ ทุกคนนั้นก็ตามหวังหยู่มาได้ทัน!

“แล้วคนที่เหลืออยู่ที่ไหนกัน?”

“พวกเขาอยู่ในเมืองโดดเดี่ยวกันในตอนนี้”หมิงตู่ตอบกลับ เควสระดับ 20 ที่ผู้เล่นได้รับนั้นจำเป็นต้องให้พวกเขาไปยังเมืองแถวหน้าอย่างกับเมืองแห่งบาปหรือเมืองโดดเดี่ยว

“ดังนั้นเควสของนายคืออะไร?”หวังหยู่ถาม

“ฉันไม่รู้! ฉันนั้นทำเควสล่าค่าหัวรัวๆ ตั้งแต่ที่ฉันมาที่นี่ ดังนั้นฉันยังหาNPCที่ฉันจะต้องเจอยังไม่พบเลย!”หมิงตู่ยักไหล่อย่างไม่แยแส

“ถ้างั้นไปกันเถอะ!”

“เพื่ออะไร? ฉันไม่ได้รีบซะหน่อย”หมิงตู่เลียริมฝีปาก

“แต่ผมรีบ! เควสของผมนั้นไม่มีเบาะแสหรือทิศทาง แต่มันมีโอกาสที่มันจะข้องเกี่ยวกับเควสของนาย!”หวังหยู่ตอบกลับอย่างไม่เร่งรีบ

เมื่อหวังหยู่ในเมืองวาติกัน หยางนัวได้บอกเขาว่าเควสระดับ 20 นั้นถูกออกแบบมาให้เป็นสิ่งที่ยากอย่างไม่น่าเชื่อเพื่อที่ป้องกันไม่ให้ผู้เล่นบางคนมีระดับสูงมากเกินไป นั่นหมายความว่ามีโอกาสที่สูงมากสำหรับเควสหวังหยู่ที่จะชนกับเควสของคนอื่น

“เหี้.. อย่าบอกฉันนะว่ามันเป็นเควสสองฝั่ง! นายกำลังใช้ฉันเป็นอาหารงั้นเหรอ?”หมิงตู่บ่น

“อาหารอะไร? พวกเราไม่ได้เป็นคนแปลกหน้ากัน เพียงแค่คิดว่านายช่วยเพื่อนก็พอ!”หวังหยู่ตอบกลับ

“แต่การสู้กันเองนั้นทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวด....พวกเราไม่เล่นเป่ายิ้งฉุบหรืออย่างอื่นกันแทนละ?”หมิงตู่เกาหัวอย่างอึดอัดและถามขึ้น

เควสระดับ 20 นั้นจำเป็นที่จะต้องให้ผู้เล่นไปหานักเวทย์กฏหมาย ฮูเบิร์ตที่เป็นผู้บังคับบัญชาแถวหน้า ในตอนนี้ ฐานของค่ายฮูเบิร์ตนั้นตั้งอยู่ด้านนอกเมืองแห่งบาป

เมื่อพวกเขาทั้งคู่มาถึงค่าย พวกเขาก็พบว่ามันเต็มไปด้วยผู้เล่นคนอื่น ถึงแม้ว่ามันจะมีผู้เล่นระดับ 20 ไม่มาก มันก็ยังมีอย่างน้อยสามร้อยคนในค่ายด้านนอกนี้สี่เมืองแนวรบด้านหน้า สุดท้ายแล้ว พวกนี้ก็คือผู้เล่นระดับสูงจากเมืองทั้งสามร้อยเมืองในเกม ดังนั้นมันจึงมีพวกเขาค่อนข้างหลายคน

“โอ้เชี่ย! คิวแม่งยาวเท่าไหร่กันเนี่ย?”หวังหยู่ถาม เมื่อเขาเห็นแถวผู้เล่นที่ยืนต่อกัน

“คิวอะไร?”หมิงตู่หัวเราะออกมาอย่างชั่วร้ายแล้วเขาก็เดินไปด้านหน้าและสะกิดนักธนู “พี่ชาย ขอทางให้พวกเราผ่านไปได้ไหม?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด