ตอนที่แล้วตอนที่ 101 โลกแรงโน้มถ่วง (FREE)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 103 พัดเจ้าน่าเกลียดเกินไป? (FREE)

ตอนที่ 102 ความจริงใจของ เหยียน ซิว (FREE)


"ถูกหินทับ คงถูกตัดสิทธิ์ไปเสียแล้ว!" ภายในกลุ่มคน มีเสียงที่จองหองดังออกมา จากนั้นนักปราชญ์ในชุดเกราะสีขาวคนหนึ่งก็หยิบพัดหยกเขียวออกมาในมือ

"นายน้อยคังช่างเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์อย่างยิ่ง ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เขายังสามารถมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างทะลุปรุโปร่ง!"

"ใช่..ใช่ เขาคือคนที่มีชื่ออยู่ในทำเนียบมังกรซ่อนเชียวนะ!"

นักปราชญ์จำนวนหนึ่งเริ่มประจบประแจงเขาในทันที สำหรับคนทั่วไป การที่จะเข้าถึงทำเนียบมังกรซ่อนนั้นเป็นเรื่องที่สูงเกินกว่าจะเอื้อมถึงได้

เขาเป็น 1 ใน 100 คนที่เก่งกาจมีอายุน้อยกว่า 18 ปี แห่งอาณาจักรเซี่ยที่ยิ่งใหญ่นี้!

 

"แล้วเขาจะตายงั้นรึ?" ท่ามกลางผู้คน เด็กหนุ่มที่สวมชุดเกราะธรรมดาๆ ท่าทางดู่อ่อนแอกล่าวขึ้นมา

"ไม่หรอก ผู้ที่ควบคุมมิติพิเศษแห่งนี้ก็คือพวกผู้คุมสอบ จนกว่าผู้คุมสอบจะตัดสินว่าผู้ทดสอบผู้นั้นไม่มีความสามารถพอจะสู้ต่อไปได้ พวหเขาก็จะพาเขาตัวออกมาในทันที โดยไม่ต้องรอให้หักป้ายเหล็กทิ้งอย่างแน่นอน! " คัง ซิงปิง จ้องมองไปยังเด็กหนุ่มคนนั้น และอธิบายออกมาด้วยความอดทน

"หมายความว่าตราบใดที่พวกเรายังอยู่ในมิติพิเศษแห่งนี้ ไม่มีทางเกิดอันตรายถึงชีวิตเกิดขึ้นกับของพวกเราแน่นอน?" เขาถอนหายใจอย่างโล่งออก

"ก็ไม่แน่!" คัง ซิ่งปิง ส่ายหัว

"ไม่แน่?" เด็กน้อยเริ่มสับสน

"ใช่แล้ว สถานการณ์บางอย่าง ผู้คุมสอบก็ไม่สามารถควบคุมมันได้หรอก เพราะมันคือการต่อสู้ระหว่างผู้ทดสอบเอง ในระหว่างที่ต่อสู้กัน ถ้ามีคนไม่ยอมหักป้ายทิ้งละก็ คนนั้นต้องตายแน่นอน!"คัง ซิงปิง พูดด้วยรอยยิ้ม

 

"แล้วใครจะสู้กันละ?" เมื่อผู้ทดสอบคนอื่นๆได้ยินก็พ่นเสียงหัวเราะออกมา

"หึหึ ตัวอย่างเช่น...ข้าไงละ!" คัง ซิงปิง เหลือบมองไปที่เด็กหนุ่มที่ดูอ่อนแอ รอยยิ้มของเขากว้างขึ้นเรื่อย ๆ

เด็กหนุ่มคนนั้นเริ่มกระวนกระวาย เมื่อเห็น คัง ซิงปิง มองมาที่เขา ด้วยความกลัวเขาค่อยๆถอยหลังไปทันที

"น..นายน้อยคัง พ..พะ..พวกเราไม่ได้จะตั้งใจเป็นปฏิปักษ์ต่อท่าน ... "

"แน่นอนพวกเราไม่ได้เป็นศัตรูกัน เป็นแค่เพียงผู้เข้าร่วมทดสอบเท่านั้น" ในขณะที่ คัง ซิงปิง กำลังพูดเขาก็เดินถือพัดหยกเขียวขึ้นและเดินไปยังทางของผู้เข้าสอบเหล่านั้น

"ผู้เข้าสอบ?!" การแสดงของเด็กหนุ่มที่ดูอ่อนแอเริ่มเปลี่ยนไป แต่เขาก็ยังไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดี "ทำไมพวกเราถึงต้องมาต่อสู้กันด้วยละ เราร่วมมือกันไม่ดีกว่าหรือ?"

"ร่วมมือกันรึ? ฮ่าฮ่า ... " คัง ซิงปิง ยิ้มรับ เขามองไปทางกลุ่มคนที่ยืนอยู่ด้านหน้า ราวกับมองตัวโง่งมอยู่

เมื่อผู้ทดสอบคนอื่นๆ ได้ยินสิ่งที่เด็กคนนั้นพูดออกมาต่างหัวออกมาอย่างสนุกสนาน สายตาของพวกเขาจ้องมองไปทางเด็กน้อยคนนี้ด้วยความเยาะเย้ยเป็นที่สุด

"คนบางคนนี่ช่างไร้เดียงสาเสียจริง!"

"แต่ก็ไม่เป็นไร คนเราจะเติบโตขึ้นจากความผิดพลาดเสมอ!"

"เขาคงไม่ได้มาจากบ้านนอกหรอกนะ? ไม่มีทางที่เขาจะเข้าไปถึงใจกลางของมิติพิเศษได้ทั้งๆที่ไม่รู้ถึงกฎของการทดสอบการต่อสู้เลย! "

"อย่าบอกข้านะว่าเขาไม่รู้แม้กระทั่งเรื่องที่ต้องเอาชนะคนอื่นๆ เพื่อเข้าไปถึงศูนย์กลางมิติพิเศษให้ได้?"

"เอาชนะเพื่อที่จะไปต่อเข้ายังศูนย์กลาง?! อย่าบอกนะว่า ... " เมื่อเด็กหนุ่มที่ดูอ่อนแอได้ยินเรื่องต่างๆ ที่คนอื่นพูด ก็เริ่มกระวนกระวาย และเข้าใจทุกๆอย่างในที่สุด

นี่มันเป็นเหมือนกับการทดสอบระดับมณฆลในรอบแรก

ระบบแพ้คัดออก!

 

ในรอบแรก หากเอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้ก็จะได้เข้าไปยังระดับต่อไป การทดสอบการต่อสู้ระดับเมืองหลวงนั้นก็ไม่ต่างกัน ถึงแม้ว่าวิธีการ สถานที่ จะต่างกันออกไปแต่กฎนั้นยังคงเหมือนเดิม

ดังนั้นการที่จะเข้าไปถึงศูนย์กลางมิติได้มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 2 วิธี วิธีแรกคือผ่านด่านต่างๆเข้าไป และวิธีที่สองคือการเอาชนะคนอื่น ๆ เพื่อเข้าไป

 

ถ้างั้น ...

ไม่ว่าจะแข็งแกร่งขนาดไหน แต่การที่ต้องฝ่าหินอุกกาบาตที่ตกลงมาตลอดเวลา การเอาชนะคนอื่นเพื่อให้ได้เข้าไปดูง่ายกว่ามาก

ตามจริงแล้วก็ถือเป็นเรื่องปกติ  จำนวนคนที่จะผ่านการทดสอบได้นั้นถูกกำหนดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นมันคือเรื่องธรรมดา ผู้ที่แข็งแกร่งอยู่รอด ผู้ที่อ่อนแอก็แพ้ไป

"ช่างน่าสนใจเสียจริง ดูเหมือนจะมีวิธีนั้นด้วยสินะ!" ฟาง เจิ้งจือ ที่กำลังคิดหาทางผ่านอุกกาบาตที่ตกลงมาอย่างไม่หยุดหย่อนไปให้ได้ ฟังการสนทนารอบตัวอยู่เรื่อยๆ และในตอนนั้นเองดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้น

 

ในตอนนี้ คัง ซิงปิง เดินไปหาคนเด็กที่อ่อนแอคนนั้น  โบกพัดหยกเขียวในมือของเขาแล้วมองไปที่เด็กคนนั้นอย่างกับเห็นแกะตัวน้อยที่รอวันเชือด

ฟาง เจิ้งจือ เริ่มสับสน เดินไปข้างหน้า และยืนบังทาง เหยียน ซิว ที่กำลังจะเดินออกไป

"ข้าไม่ชอบพัดของเขา!" เหยียน ซิว พูดออกมาด้วยความใจเย็นเช่นเดิม

"เจ้าจะไปสู้งั้นรึ?" ฟาง เจิ้งจือ หันกลับไปมอง เหยียน ซิว

"ไม่ช้าก็เร็วพวกเราก็จะต้องสู้อยู่ดี ถ้ารอจนถึงรอบที่สาม พวกเราจะตกเป็นเป้าหมายได้" เหยียน ซิว หันไปมอง ฟาง เจิ้งจือ

"ตามจริงแลวพวกเขาน่าจะมุ่งเป้ามาที่ข้าเท่านั้น" เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ ได้ยินเช่นนั้นก็เข้าใจถึงเจตนาของ เหยียน ซิว ทันที

"ท่านปู่บอกว่าเราควรจะจริงใจกับมิตรสหาย" เหยียน ซิวก็ยังคงพูดด้วยน้ำเสียงเช่นเดิม

"เอาล่ะ ในเมื่อเจ้าไม่ชอบพัดหยกนั้นข้าก็จะยกเจ้านั้นให้เจ้าจัดการ ส่วนข้าจะไปตามหาคนที่แข็งแกร่งยิ่งกว่านั้น ฮ่าฮ่า.. " ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มอย่างสนุกสนาน

"เอาเถอะ" เหยียน ซิว ตอบรับ

ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะ เหยียน ซิว พร้อมสู้แล้ว

 

ในตอนเดียวกันกับที่ คัง ซิงปิง เตรียมที่จะจัดการกับเด็กที่อ่อนแอคนนั้น  เหยียน ซิว ก็ไปยืนขวางเอาไว้

"เหยียน ซิว?!" คัง ซิงปิง ชะงักไปเล็กน้อย

เมื่อเห็น เหยียน ซิว มาปรากฎตัวขึ้นตรงหน้า ท่าทาของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป มีเหตุผลอยู่สองประการที่ทำให้เขามาถึงเมืองหลวงแห่งนี้ ประการแรกคือเขามาเพื่อหาชื่อเสียงโดยการจัดการกับ ฟาง เจิ้งจือ ตามใบประกาศ ประการที่สองคือเพื่อผ่านการทดสอบแห่งเต๋า

ดังนั้นเขาจึงเริ่มวิตก การทดสอบด้านปัญญา เขานั้นผ่านมาได้และถูกจัดอยู่ในกลุ่มแรก ในรอบการต่อสู้แค่ให้ผ่านรอบสองไปให้ได้ ยังไงก็เขาก็จะผ่านการทดสอบแห่งเต๋าไปแน่นอน

แต่ถ้าต้องมาสู้กับ เหยียน ซิว ในรอบแรกนี้ ...

มันคงเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยฉลาดเท่าไรนัก

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่เสี่ยงไปท้าทาย ฟาง เจิ้งจือ ในตอนแรก

 

เขาต้องวางแผนให้ดี

ต้องผ่านการทดสอบรอบสองให้ได้ก่อน ค่อยไปจัดการ ฟาง เจิ้งจือ

นี่คือสิ่งที่ คัง ซิงปิง คิดเอาไว้ เหยียน ซิว รู้ถึงเรื่องนี้ดี ฟาง เจิ้งจือ ก็รู้เช่นกัน ดังนั้น ฟาง เจิ้งจือ จึงไม่คิดจะให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผนการคนอื่น

เขารู้ดีว่า ฉือ กูเหยียน ใช้อำนาจสั่งทำประกาศจับขึ้นมา

นอกจากนี้เขายังรู้ดีว่ามีคนจำนวนไม่น้อยมาอยู่ที่นี่เพราะประกาศจับ ต่อให้สองรอบแรกพวกเขาจะไม่มารุม ฟาง เจิ้งจือ แน่นอน แต่ถ้าเป็นรอบสามแล้วละก็....

เหยียน ซิว ที่อยู่ดีๆก็ตั้งใจจะต่อสู้ขึ้นมา ทำให้คนอื่นๆนั้นงงงวย

ดังนั้นเมื่อพวกนักปราชญ์ได้เห็นเหตุการณ์ พวกเขาต่างตกใจในทันที เพระถ้าพวกเขาเลือกอยู่ข้าง คัง ซิงปิง ศัตรูที่ต้องเจอในตอนนี้คือ เหยียน ซิว

ไม่ว่าจะมองยังไง ก็ไม่ใช่เรื่องฉลาดเลย

 

"พวกเขากำลังจะสู้กัน?"

"ท้าทายอันดับที่แปดแห่งทำเนียบมังกรซ่อน อย่าง คัง ซิ่งปิง ตั้งแต่รอบแรกเลยงั้นรึ?"

ผู้คนต่างเริ่มพูดคุยกัน เด็กหนุ่มจากตระกูลเหยียน ออกจากบ้านมาตั้งแต่อายุ 16 ปี ยังไงก็ตามก่อนหน้านั้นเขาพักอยู่แต่บ้านตระกูลเหยียนเท่านั้น

ไม่เคยมีใครเห็น เหยียน ซิว ต่อสู้มาก่อนและไม่มีใครล่วงรู้ถึงความสามารถที่แท้จริงของ เหยียน ซิว เลยแม้แต่คนเดียว

...

 

เพจหลัก : Double gate TH

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด